“อืม เป็เด็กดีจริงๆ ลุกขึ้นเถิด”
น้ำเสียงอ่อนโยน แม้จะไม่ทรงพลังมาก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำเสียงไร้ซึ่งความจริงใจประหนึ่งคำสุภาษิตที่ว่าหน้าเนื้อใจเสือของฮองเฮาแล้วกลับดูจริงใจกว่ามาก
หลินเมิ้งหยาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงซึ่งกำลังนั่งอยู่ทางด้านหน้าทว่านางกลับตะลึงงันไปเล็กน้อย
รูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นของหลงเทียนอวี้จะต้องได้รับมาจากหมู่เฟยไม่ผิดแน่
เมื่อใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบประดับอยู่บนร่างกายของหลงเทียนอวี้ทำให้เขาดูหล่อเหลาราวกับเทพบุตรแต่เมื่อมาอยู่บนตัวของพระสนมเต๋อเฟยแล้วกลับยิ่งงดงามจนน่าตื่นตะลึง
ปกเสื้อสีขาวสนิททอลายก้อนเมฆสีฟ้าอ่อนเส้นผมดำเงาถูกเกล้าขึ้นเป็ทรงก้อนเมฆอย่างมิได้ตั้งใจเท่าไรนัก้าปักไว้ด้วยปิ่นปักผมลายดอกฝูหรงเท่านั้น
แม้จะก้าวเข้าสู่วัยกลางคนแล้วทว่าใบหน้าของพระสนมเต๋อเฟยกลับยังดูอ่อนเยาว์ แต่ถึงกระนั้นก็ยังอบอวลไปด้วยเสน่ห์ของหญิงวัยกลางคน
ทว่าขนคิ้วซึ่งกำลังขมวดเข้าหากันเล็กน้อยนั้นกลับทำให้ผู้อื่นรู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก
พระสนมเต๋อเฟยคงเป็ห่วงองค์ชายของพระองค์มาก
มิเช่นนั้นดวงตาเปล่งประกายราวหยดน้ำคู่นั้นคงไม่จับจ้องมองไปทางหลงเทียนอวี้ตลอดเวลาอีกทั้งั์ตายังแฝงไว้ซึ่งความเศร้าโศก
“ฮองเฮาเหนียงเหนียงเพคะดูท่าแล้วพระสนมเต๋อเฟยคงมิรู้สึกพึงใจต่อลูกสะใภ้คนนี้เสียเท่าไรนะเพคะ”
เสียงยั่วยุดังขึ้นที่ด้านหลังของหลินเมิ้งหยา หลงเทียนอวี้เลิกคิ้วขึ้นพลางชำเลืองตามองไปทางเงาที่ดูงดงามสะโอดสะอง
ที่แท้ก็คือลี่จาวเหยี่ยน หนึ่งในคนของฮองเฮานั่นเองเพราะเหตุนี้จึงกล้าเอ่ยวาจาไร้ซึ่งความกลัวเกรงเช่นนี้ออกมา
“โอ้?ดูท่าจะจริง พระสนมเต๋อเฟยเองก็แสดงท่าทีไม่พอใจก่อนการคัดเลือกพระชายานี่นาเมิ้งหยา เหตุใดจึงไม่รีบกราบขออภัยพระสนมเต๋อเฟยอีก”
เมื่อหัวข้อในการสนทนาเปลี่ยนแปลงกะทันหันหลินเมิ้งหยาจึงตกเป็เป้านิ่งของทุกคนทันที
หากดูผิวเผินจะเห็นแต่เพียงความเอาใจใส่ของฮองเฮาต่อพระสนมเต๋อเฟยทว่าแท้จริงแล้วพระนางกำลังปลุกปั่นความสัมพันธ์ระหว่างแม่ผัวลูกสะใภ้ต่างหาก
สีหน้าของพระสนมเต๋อเฟยเริ่มเปลี่ยนไปทว่านางกลับไม่กล้าเอ่ยอันใดออกมา
ฮองเฮาคิดจะกำจัดนางตั้งนานแล้วดังนั้นนางจึงพยายามระมัดระวังทุกฝีก้าวราวกับว่าไม่กล้าที่จะปล่อยให้ตนเองก้าวพลาดแม้เพียงก้าวเดียว
แต่ถึงอย่างนั้นก็อดสงสารแม่หนูสกุลหลินผู้นี้ไม่ได้นอกจากจะถูกทำลายชื่อเสียงแล้ว ตอนนี้ยังกลายมาเป็หมากตัวหนึ่งของฮองเฮาอีก
ทั้งพระตำหนักล้วนรอดูเื่ตลกของหลินเมิ้งหยาทว่าพระชายาพระองค์ใหม่กลับผุดยิ้มขึ้นเล็กน้อยแล้วถวายคำนับ
ชั่วขณะที่คิดจะเอื้อนเอ่ย หลงเทียนอวี้กลับชิงตอบโต้
“หมู่โฮ้ว1 เป็ผู้พระราชทานการอภิเษกสมรสในครานี้ขึ้นเอ๋อร์เฉินพึงพอใจเป็อย่างมาก แม้ว่าเมิ้งหยาจะปฏิบัติตัวไม่เหมาะสมไปบ้างแต่ความอ่อนโยนและคุณงามความดีที่นางมีทั้งหมดล้วนเหมาะสมที่จะเป็พระชายาพ่ะย่ะค่ะ”
ฮองเฮา้าเพียงทำลายชื่อเสียงและกำจัดหลินเมิ้งหยาทิ้งเสีย
ในเมื่อหมากตัวนี้ใช้การไม่ได้แล้วถ้าเช่นนั้นการกำจัดนางจึงเป็เื่ที่ควรทำเมื่อสบโอกาส
หากดูจากอุปนิสัยของอ๋องอวี้แล้วแม้ผู้หญิงคนหนึ่งจะถูกฆ่าตายต่อหน้า เขากลับไม่เคยคิดจะสนใจ
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าอ๋องอวี้จะออกปากแก้ตัวแทนหลินเมิ้งหยาต่อหน้าผู้อื่นเช่นนี้
“ดี ดี ในเมื่ออวี้เอ๋อร์พึงใจในเมิ้งหยา เปิ่นกงเองก็สบายใจเต๋อเฟย อวี้เอ๋อร์ช่างกตัญญูรู้คุณ ลูกสะใภ้เองก็ฉลาดเฉลียวถ้าเช่นนั้นเ้าย้ายไปอยู่ที่พระตำหนักอวี้เพื่อความสุขสำราญใจเถิด”
ฮองเฮารับสั่งเื่เดิมอีกครั้งทว่าน้ำเสียงในครานี้มิใช่การปรึกษาแต่อย่างใด
สายตาคมกริบดั่งเหยี่ยวแฝงไว้ซึ่งการข่มขู่ฮองเฮายกแก้วชาของตนเองขึ้นแล้วจิบลงไปหนึ่งอึก
พระสนมเต๋อเฟยชะงักงัน ทว่านางรู้ดีว่าหากยังดึงดันปฏิเสธอีกละก็เกรงว่าเด็กบริสุทธิ์ทั้งสองคนตรงหน้าคงมิวายถูกจองล้างจองผลาญอย่างแน่นอนนางจึงลอบถอนหายใจแล้วลุกขึ้นถวายคำนับ
“เพคะ หม่อมฉันขอน้อมรับพระบัญชา”
ในที่สุดก็ได้ในสิ่งที่ตนเอง้าอีกทั้งยังไล่หนามยอกอกออกไปได้ อารมณ์ของฮองเฮาในเวลานี้จึงดีขึ้นมาก
“เอาล่ะพวกเ้าไปรับพระสนมเต๋อเฟยที่ตำหนักจิ่นซิ่วแล้วออกจากวังเถิด ฮ่องเต้ยังทรงประชวรพวกเ้าไม่ต้องเข้าไปถวายคำนับหรอก แยกย้ายกันไปเถิด”
“เพคะ ขอน้อมรับพระบัญชาฮองเฮา”
หลินเมิ้งหยาถวายความเคารพอีกครั้ง จากนั้นลุกขึ้นยืนเคียงข้างหลงเทียนอวี้
แต่ถึงกระนั้นสมองของนางกลับหมุนติ้วไม่หยุด