รอเมื่อนางรู้สึกตัวตื่นอีกครั้ง เฟิ่งเฉี่ยนไม่รู้สึกปวดศีรษะมากเช่นเดิมแล้ว
ขนตาเป็แพดกหนานั้นกระพือถี่ๆ นางค่อยๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตนเองกลับมาตำหนักเว่ยยางแล้ว
ถูกต้อง เซวียนหยวนเช่อเล่า
นางจำได้ว่าเมื่อคืนเขากอดนางนอนหลับตลอดทั้งคืน
หันหน้าไปมองข้างๆ หมอนว่างเปล่าไม่มีใครสักคน นางอดหัวเราะไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็เพียงความฝัน แต่นางเกือบคิดว่าเป็เื่จริง นางช่างไม่เอาไหนเลย!
มือทั้งคู่ค้ำเตียงนอน นางลุกขึ้นลงจากเตียง เท้าทั้งคู่ยังไม่ทันแตะพื้นก็ได้ยินเสียงชิงเหอกูกูวิ่งเข้ามาอย่างรีบเร่ง “เหนียงเหนียง เหตุใดพระองค์จึงลงจากเตียงเพคะ หมอหลวงกำชับไว้ สองวันนี้พระองค์ต้องนอนพักอยู่บนเตียง ห้ามลงมาเหยียบพื้นเพคะ”
“ข้าไม่เป็ไร ข้ายังมีเื่สำคัญต้องไปทำอีก!” แม้จะได้แมวเทพมาแล้ว แต่ยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่นางยังไม่ได้ทำให้สำเร็จลุล่วง นางต้องทำให้สำเร็จ
ชิงเหอกูกูก้าวเข้ามาขวางนางเอาไว้ “แต่ฝ่าาทรงกำชับไว้เพคะว่าไม่ให้พระองค์ลงจากเตียง! ฝ่าาตรัสว่าประชุมเสร็จแล้วจะมาเยี่ยม พระองค์ มีเื่อันใดรอให้ฝ่าาเสด็จมาแล้วค่อยพูดกันนะเพคะ”
“งานของเขายุ่งตลอดทั้งวัน ไหนเลยจะมีอะไรแน่นอน ไม่แน่ว่าลืมข้าไปตั้งนานแล้วก็เป็ได้ รอให้เขามา เื่ของข้าก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลานั้นเ้าก็บอกกับเขาว่า ข้าไม่เคยลงจากเตียงเลย”
เฟิ่งเฉี่ยนยืนกรานที่จะลงจากเตียง ชิงเหอกูกูจนปัญญา “เหนียงเหนียง...”
เสียงทุ้มต่ำเข้มงวดเสียงหนึ่งดังขึ้นนอกตำหนักบรรทมในตอนนี้เอง “ฮองเฮา เ้าสอนให้คนของเ้าต่อหน้าทำอย่าง ลับหลังทำอย่างเช่นนี้หรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนเงยหน้ามองไป เห็นเงาร่างในชุดสีเหลืองสว่างปรากฏขึ้นที่ประตูห้องบรรทม เขายังคงองอาจห้าวหาญเช่นเดิม ทว่ากลับทำให้หัวใจของนางเต้นโครมครามไม่เป็จังหวะ
ในสมองปรากฏภาพเหตุการณ์เมื่อคืนนี้...
ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ เขาถือร่มกระดาษน้ำมัน ยืนอยู่ที่นั่นเพียงลำพังและช่วยนางรับธนูปลิดชีพดอกนั้นแทนนาง
วินาทีที่นางกำลังจะล้มลง เขาทิ้งร่มกระดาษน้ำมัน โผนเข้ามาหานางราวกับเสือดาว
นางยังจำสีหน้าและท่าทางของเขาในตอนนั้นได้ นั่นคือสีหน้าลนลานของเขาที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน เป็สีหน้ามั่นคงสุขุมประดุจไท่ซานที่ไม่ไหวติง ทั้งๆ ที่เขาเป็เช่นนี้ จึงทำให้นางยิ่งร้อนใจและเป็ห่วง!
เขาใส่ใจนางมากจริงๆ ใช่หรือไม่
เขาไปรับนางโดยเฉพาะใช่หรือไม่
เพียงแค่คิด หัวใจของนางก็เต้นระรัวขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
ระหว่างที่นางกำลังใจลอย เซวียนหยวนเช่อเดินมาหยุดเบื้องหน้านาง ฝ่ามือใหญ่นั้นพลันยื่นออกมาััหน้าผากนาง ััเย็นสบายๆ นั้นทำให้หัวใจของนางเต้นไม่เป็จังหวะ
“อืม ตัวไม่ร้อนแล้ว!” เขานั่งลงริมเตียงอย่างเป็ธรรมชาติ ั์ตาดำขลับนั้นมองนางตรงๆ น้ำเสียงก้องกังวานนั้นเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน “ยังไม่สบายตรงไหนอีกหรือไม่”
เฟิ่งเฉี่ยนไม่คุ้นเคยกับเซวียนหยวนเช่อที่เป็เช่นนี้ ความอ่อนโยนนั้นแทบจะทำให้นางจมปลักอยู่ในดวงตาของเขา นางผละถอยหลังอย่างไม่เป็ตัวของตัวเองก่อนจะส่ายหน้า
นางที่กำลังลนลานตกอยู่ในสายตาของเซวียนหยวนเช่อ เขาไม่พูดอะไรทว่าสายตากลับมองใบหน้าที่แดงระเรื่อของนาง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ริมฝีปากบางของเขาเอ่ยขึ้น “โอสถเล่า”
“โอสถของเหนียงเหนียงได้เตรียมเสร็จแล้วเพคะ” ชิงเหอกูกูตอบอย่างรวดเร็ว และรีบไปยกถ้วยยาเข้ามา
เซวียนหยวนเช่อยื่นมือออกไปรับ “ให้เจิ้นเถิด!”
เฟิ่งเฉี่ยนเห็นเซวียนหยวนเช่อกำลังจะป้อนนางดื่มยาด้วยตนเอง นางรู้สึกไม่เป็ตัวของตัวเองจึงยื่นมือออกไปรับ “ให้ข้าดื่มเองเถิด”
เซวียนหยวนเช่อไม่ให้โอกาสนั้นแก่นาง เขาตักโอสถขึ้นมาทีละช้อน เป่าจนเย็นตัวลงแล้วส่งมาที่ริมฝีปากของนาง
เมื่อเฟิ่งเฉี่ยนเงยหน้าก็ประสานเข้ากับสายตาไม่ยอมให้ปฏิเสธของเขา นางได้แต่ยอมแพ้และดื่มยาทีละคำ
ยาสีดำไหลเข้าปากผ่านปลายลิ้น ทั้งขมทั้งฝาด เฟิ่งเฉี่ยนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง นางแลบลิ้น “ขมมาก!”
ถูกท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของนางทำให้ตลก แววตาของเซวียนหยวนเช่อเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ทว่าสีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนก่อนเอ่ยว่า “ยาดีต้องขม มา ดื่มอีกคำหนึ่ง!”
เฟิ่งเฉี่ยนรีบยกมือขึ้นผลักเพื่อปฏิเสธ และจงใจพูดเบาๆ “ยานี้ช่างวิเศษนัก! ข้าเพิ่งจะดื่มไปคำหนึ่งก็ดีขึ้นแล้ว!”
เซวียนหยวนเช่อไม่เปิดโปงนางเช่นกัน เขาส่งถ้วยยาไปทั้งถ้วย “เช่นนั้นก็ดื่มให้หมดถ้วย!”
“ไม่ต้องกระมัง ข้าหายดีแล้ว ไม่เชื่อท่านดูสิ!” เฟิ่งเฉี่ยนสะดุ้งโหยง นางคิดจะลงจากเตียงเพื่อพิสูจน์ ปรากฏว่าเวียนศีรษะทันทีและล้มลงกลับมานอนอีกครั้ง
ชิงเหอกูกูปิดปากลอบหัวเราะ
เฟิ่งเฉี่ยนถลึงตาใส่นางอย่างไม่สบอารมณ์!
เซวียนหยวนเช่อกระจ่างแจ้งแก่ใจทว่าเขาไม่พูดออกมา เขาโน้มตัวมาข้างหน้าแก้มแนบแก้มของนาง น้ำเสียงก้องกังวานนั้นปนเปไปด้วยความเ้าเล่ห์ “เ้าอยากให้เจิ้นป้อนเ้าด้วยช้อน หรือ...ใช้ปากป้อนเ้า หืม”
ลมหายใจอุ่นร้อนนั้นรินรดปลายจมูกของนางเบาๆ เฟิ่งเฉี่ยนใจลอยไปไกลจึงพูดจาสับสน นางหลุดปากพูดไปว่า “ใช้ปาก! ไม่ๆๆ ใช้ช้อน!”
“ก็ได้ ตามที่เ้า้า!” ริมฝีปากบางของเซวียนหยวนเช่อโค้งขึ้น ขณะที่เฟิ่งเฉี่ยนยังคงตกตะลึงอยู่นั้น เขายกถ้วยยาขึ้นดื่มคำเล็กๆ คำหนึ่ง จากนั้นจุมพิตลงมา เฟิ่งเฉี่ยนตกตะลึงปากจึงอ้าออกน้อยๆ ทำให้เขาป้อนยาเข้าปากนางได้อย่างง่ายดาย!
ทั้งๆ ที่เป็ยาที่แสนจะขม นาทีนี้กลับหวานจนเลี่ยน
เมื่อได้สติกลับมา แก้มทั้งสองข้างของเฟิ่งเฉี่ยนร้อนซู่ นางพูดไม่ออก “ท่าน...ท่าน...ทั้งๆ ที่พูดกันแล้วว่าใช้ปาก ไม่ๆ ใช้ช้อน...”
เซวียนหยวนเช่อยิ้มแปลกๆ “ล้วนกล่าวว่าสตรีนั้นปากอย่างใจอย่าง เจิ้นทำตามความในใจของเ้า หรือไม่ถูกต้อง”
เฟิ่งเฉี่ยนโมโห ทั้งๆ ที่เขาเป็ฝ่ายได้เปรียบกลับทำตัวเป็คนดี ถึงกับกล่าวโทษนาง ไม่เคยเห็นคนหน้าหนาเช่นนี้มาก่อน!
วินาทีถนัดมา เขาแนบกายเข้ามาแก้มแนบแก้มนางอีกครั้ง ใกล้เสียจนนางมองเห็นขนตาของเขาชัดเจน
“ครั้งนี้ เ้าจะใช้ช้อนหรือใช้ปาก”
อีกแล้วหรือ
เฟิ่งเฉี่ยนสติหลุด
“ใช้ช้อน! ไม่ ใช้ปาก! ไม่ๆๆ ใช้ช้อน!” ความคิดของเฟิ่งเฉี่ยนสับสนวุ่นวายไปหมด นางจึงแย่งถ้วยยามาจากมือของเขา “ข้าไม่เอาทั้งสิ้น ข้าจะดื่มเอง!”
เฟิ่งเฉี่ยนยกถ้วยยาขึ้นดื่มด้วยสีหน้าท่าทางของคนกำลังจะตายจนหมดถ้วย
ในปากเต็มไปด้วยรสขมฝาดของยา ทำให้เฟิ่งเฉี่ยนขมจนคิ้วย่นยู่ขึ้นมา คนอื่นดื่มยาเพื่อรักษาอาการป่วย แต่นางดื่มยาแทบจะเอาชีวิต!
ความขมฝาดยังไม่จางหาย เซวียนหยวนเช่อกลับบีบคางของนางแล้วจุมพิตลงมาอีกครั้ง
เวลาหยุดชะงักลงราวๆ สามวินาที--
เขาจึงถอนจุมพิต
เฟิ่งเฉี่ยนรู้สึกถึงเืลมพลุ่งพล่านที่ไหลบ่าจากหัวใจเข้าสู่สมอง วินาทีที่นางงงงวยอยู่นั้น ความพลุ่งพล่านได้ลดน้อยถอยลง ทว่าๆ ทั้งที่เป็จุมพิตบางเบาแต่กลับทำให้คนจินตนาการไปไกลโยชน์ หัวใจของนางเต้นผิดจังหวะ
ระหว่างที่ใจลอยอยู่นั้น เขาลูบเส้นผมของนางอย่างอ่อนโยน เสียงเซ็กซี่ขึ้นนาสิกเล็กน้อยนั้นกล่าวว่า “นี่ก็คือรางวัลที่มอบให้เ้า!”
เฟิ่งเฉี่ยนมองเขาด้วยสายตาเหม่อลอย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและระยิบระยับ ริมฝีปากของเขาราวกับบัวหิมะอันเยียบเย็นที่ค่อยๆ บานสะพรั่ง เขาที่เป็เช่นนี้ช่างน่าลุ่มหลง ทำให้คนสูญเสียความควบคุมตัวเอง!
“เซวียนหยวนเช่อ ท่านไม่สบายใช่หรือไม่ ท่านดูแล้ว...ไม่ค่อยเป็ปกติ! ท่านที่เป็เช่นนี้...ทำให้ข้าไม่ชิน!”
“ไม่ชิน เช่นนั้นก็รีบปรับตัวให้เคยชินเสีย” เซวียนหยวนเช่อยิ้มบางๆ มือของเขาลูบไล้ใบหน้าของนางเบาๆ สายตาอ่อนโยนนั้นเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู “ก่อนหน้าที่จะประลองหมากล้อม เ้ามิใช่เคยขอรางวัลจากเจิ้นหรอกหรือ ตอนนี้เ้าชนะแล้ว เจิ้นตัดสินใจให้รางวัลเ้า!”
ดวงตาของเฟิ่งเฉี่ยนทอประกาย “จริงหรือ รางวัลอะไร”
คำพูดเพิ่งจะหลุดจากปาก นาทีถัดมานางก็เสียใจแล้ว
มุมปากของเซวียนหยวนเช่อยกขึ้นเป็รอยยิ้มเย้ายวน มือทั้งคู่ประคองใบหน้าของนางเอาไว้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้