ั้แ่ที่มีคนถามเขาฉินเฟิงจึงเดินไปตรงกลางของแผนกการขายและยิ้มให้กับทุกคนพร้อมกับพูดว่า“สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อฉินเฟิง และวันนี้เป็วันแรกที่ผมมาทำงานที่นี่ั้แ่วันนี้ไปผมจะเป็เพื่อนร่วมงานของทุกคน ดังนั้นกรุณาฝากตัวด้วย!”
เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงเป็หน้าใหม่ของแผนกการขายสายตาเพลิดเพลินก็ฉายแววขึ้นในดวงตาของหวังเชาเขาเป็ที่ฉาวโฉ่ในเื่ของการกดขี่พนักงานใหม่ในแผนกการขายมันเป็วิธีการสั่งสอนของเขา
แผนกการขายในหวงเจียกรุ๊ปไม่ได้มีพนักงานใหม่มาสักพักแล้วแม้ว่าสวี่รั่วโหรวจะเพิ่งเข้ามาไม่กี่วันก่อน แต่หวังเชาจะข่มเหงเธอได้อย่างไร? เขาพยายามจะทำเท่ต่อหน้าเธอในหลายวันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามในเมื่อฉินเฟิงมันมาใหม่ เขาจึงพูดอย่างวางมาด “เฮ้ย ไอ้หน้าใหม่ไปหยิบน้ำสักแก้วให้ฉันหน่อย”
ฉินเฟิงแคะหูเหมือนกับว่าได้ยินผิดไปั้แ่ที่เขาเกิดมา เขามีชีวิตอยู่แบบนายน้อยเ้าสำราญ เขาไม่เคยรินน้ำให้คนอื่นและแม้ว่าเขาจะถูกพ่อให้มาอยู่ที่แผนกการขาย นิสัยของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนง่ายๆ
เขามองหวังเชาอย่างบันเทิงใจและถาม“เฮ้ นายมีสิทธิ์อะไรมาให้ฉันรินน้ำให้นาย?”
หวังเชายังคงวางมาดและอยากจะดูเท่ต่อหน้าสวี่รั่วโหรวแต่หลังจากได้ยินสิ่งที่ฉินเฟิงพูด เขาเกือบจะสะดุดล้มทันที
เขามองฉินเฟิงอย่างประหลาดใจแต่ก่อนพนักงานใหม่ทุกคนล้วนเชื่อฟังและไม่ตอบโต้อะไรใครจะคิดว่าพนักงานใหม่คนนี้จะเหิมเกริมได้ขนาดนี้? ใบหน้าของหวังเชาดิ่งลงทันที
“ฉินเฟิง ใช่ไหม? พอเห็นว่านายดูเด็กขนาดไหนก็รู้แล้วว่านี่อาจจะเป็งานแรกของนายไม่งั้นนายจะทำตัวงี่เง่าแบบนี้ทำไม? นายยังคิดว่านายจะทำตัวยังไงก็ได้เหมือนกับตอนอยู่มหา’ลัยหรือไง? ฉันจะบอกอะไรให้มันจะมี่เวลาลำบากสำหรับนายในแผนกการขายแน่”
ฉินเฟิงไม่ค่อยสบอารมณ์ขณะที่หวังเชาพล่ามเขาจึงตอบอย่างเยือกเย็น “หวังเชา ใช่ไหม? เอาล่ะั้แ่นี้ไปนายโดนไล่ออกจากหวงเจียกรุ๊ป นายไปได้แล้ว”
เงียบ...
เมื่อฉินเฟิงพูดออกมาทั้งห้องก็เงียบเป็เป่าสาก และทุกคนก็จ้องมองเขาแปลกๆ
ตอนนี้ฉินเฟิงยืนเชิดตัวตรง ให้ความรู้สึกเหมือนาา ออร่าที่กดขี่แผ่ออกมาจากตัวซึ่งเข้ากันกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูด
ถ้าคนอื่นไม่ได้ยินการแนะนำตัวของเขาพวกเขาอาจจะคิดว่าเขาเป็ผู้จัดการระดับสูงคนที่มีคุณภาพพอที่จะไล่หวังเชาออกได้จริงๆ
หวังเชาก็จ้องด้วยความใก่อนที่จะเริ่มกุมท้องและหัวเราะเสียงดัง เหมือนกับว่าลำไส้จะะเิจากการหัวเราะแต่หลังจากที่หัวเราะอยู่นาน เขาก็หยุด เขามองฉินเฟิงอย่างวางมาดขณะที่พูดว่า“นายอยากจะไล่ฉันออก? นายคิดว่าตัวเองเป็ใคร?ประธานบริษัทหรือผู้จัดการระดับสูงหรือไง? เป็แค่พนักงานขายมาใหม่และยังกล้าพูดอะไรพรรค์นั้นอีกนี่พวกนักศึกษามหา’ ลัยมันโง่กันหมดเลยเหรอ?”
หวังเชามั่นใจว่าฉินเฟิงเป็นักศึกษาจบใหม่เพียงจากการมองเขาจำมันไว้ในใจและตัดสินใจจะทำให้ชีวิตมันอยู่ยากที่สุด
ส่วนสวี่รั่วโหรวเธอรู้สึกค่อนข้างปลื้มฉินเฟิง ถ้าไม่ใช่เพราะเขา วันนี้เธอคงมาสายแน่นอน
หลังจากที่เห็นเขาตกอยู่ในปัญหาวันแรกเพราะไม่รู้วิธีพูดในที่ทำงานเธอจึงรีบวิ่งไปรินน้ำใส่แก้ว เธอ้าจะนำไปให้หวังเชาเขาจะได้หยุดทำความลำบากให้ฉินเฟิง
หลังจากได้น้ำมาเธอโดนฉินเฟิงหยุดตอนที่เธอพยายามจะเดินผ่านเขาเขาหยิบน้ำในแก้วจากมือของเธอขณะที่ยิ้มและกล่าว “น้องรั่วโหรวเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังคอแห้งอยู่พอดี? ขอบใจที่เป็ห่วงนะ”
ฉินเฟิงบอกได้ว่าผู้ชายทุกคนในแผนกการขายรู้จักสวี่รั่วโหรวตอนนี้เขาได้ประกาศทางอ้อมว่านายน้อยผู้นี้กำลังเล็งสวี่รั่วโหรวดังนั้นถ้าใครอยากมีชีวิตอยู่ก็ไสหัวไป
หวังเชาโกรธมากจนอยากกระอักเืเขารู้ว่าสวี่รั่วโหรวรินน้ำมาให้เขาแน่นอน และฉินเฟิงก็ยังเอาไปแบบดื้อๆ อีกตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อฉินเฟิง
ทั้งสองจ้องมองกันและกันสายตาเ็าปะทะกัน ทำให้บรรยากาศดูเหน็บหนาว
ทันใดนั้นสาวสวยผมลอนใส่ชุดออฟฟิศก็เดินเข้ามาเสื้อเชิ้ตของเธอและกระโปรงสั้นได้ปกปิดรูปร่างที่ดูไร้ที่ติของเธอเธอชื่อว่าหลี่อวี่เฉิน เป็หัวหน้างานของแผนกการขาย ทันทีที่เธอเข้ามาเธอรู้สึกว่าบรรยากาศมันผิดปกติ และหลังจากมองดูรอบๆ สายตาของเธอก็ตกไปที่ฉินเฟิง
“คุณคือพนักงานขายที่มาใหม่ใช่ไหม?”
ฉินเฟิงไม่แม้แต่จะได้ยินคำพูดของเธอสายตาของเขาจับจ้องไปที่หน้าอกของเธอขณะที่พึมพำกับตนเอง “มันใหญ่มากใหญ่เลยทีเดียว อาจจะใหญ่กว่าอิ๋งอิ๋งด้วยมั้งน่ะ”
หลี่อวี่เฉินขมวดคิ้วขณะที่ถาม“อะไรใหญ่?”
เมื่อเธอพูดจบประโยคเธอก็รู้ว่าฉินเฟิงกำลังมองที่หน้าอกของเธอ และเธอก็เข้าใจทันทีใบหน้าขาวที่สวยงามกลายเป็เ็าขณะที่แผ่ออร่าน้ำแข็งออกมา “มากับฉัน”
หลังจากจ้องฉินเฟิงหลี่อวี่เฉินก็เดินไปยังออฟฟิศของเธอเสียงส้นสูงที่เธอใส่กระทบกับพื้นเป็จังหวะฟังดูยั่วยวนหลังจากจ้องเธอจากข้างหลังสักพัก ฉินเฟิงก็รีบตามเธอไป
หลังจากที่หลี่อวี่เฉินออกไปสักพักทุกคนในห้องก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเธอเป็สาวสวยเ็าในบริษัทที่มีชื่อเสียงเื่เป็ผู้หญิงที่โดดเด่นและเข้มงวด
แม้ว่าความสวยของเธอจะถึงระดับชาติแต่ก็มีผู้ชายไม่มากที่กล้าเข้าหาเธอ ความเ็าที่ปล่อยออกมาจากเธอมันรุนแรงมากคนธรรมดาจึงไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้
ผู้คนได้รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็อย่างไรหลังจากที่เห็นเด็กใหม่ฉินเฟิงเดินกระดี๊กระด๊าอย่างมีความสุขตามหลังเธอไป
“ฮึ่ม...ไอ้งี่เง่านั่นมันกล้าต่อต้านพ่องั้นเหรอ? เดี๋ยวั้แ่นี้ไปพ่อจะทำให้แกตกนรกทั้งเป็”รอยยิ้มเ็าโผล่ที่ใบหน้าของหวังเชาขณะที่เขาเริ่มวางแผนว่าจะทำให้ฉินเฟิงยุ่งยากอย่างไร
“ชื่อ การศึกษา ประสบการณ์” เมื่อหลี่อวี่เฉินเข้ามาในออฟฟิศเธอนั่งลงบนเก้าอี้ขณะที่ใส่แว่นกรอบสีดำเธอไขว่ห้างและวางมือเข้าด้วยกันขณะมองฉินเฟิงอย่างไร้อารมณ์
เธอแค่ได้รับข้อมูลมาเมื่อเช้าว่าจะมีคนมาใหม่ที่แผนกการขายแต่นอกจากนั้นก็ไม่รู้อะไรเลย
“ฉินเฟิง ตอนนี้กำลังเรียนมหา’ ลัย ประสบการณ์ไม่มี แต่ผมสามารถเขียนประสบการณ์กับผู้หญิงใส่หนังสือได้3 เล่ม” ฉินเฟิงยิ้มขณะที่มองหลี่อวี่เฉินั้แ่หัวจรดเท้าแว่นกรอบสีดำที่เธอใส่ทำให้เธอดูมีเสน่ห์อย่างมาก
หลี่อวี่เฉินไม่ค่อยพอใจพฤติกรรมของฉินเฟิงแต่หลังจากที่ได้ยินชื่อของฉินเฟิง ร่างกายของเธอก็สะดุ้งเล็กน้อยขณะที่มองเขาใกล้ๆ“นายชื่อฉินเฟิง?”
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอกล่าวอย่างนี้ เธอก็รีบส่ายหัวขณะที่พึมพำ “เป็ไปไม่ได้ๆนายน้อยตระกูลฉินทั้งเสเพลเหลวไหล และรู้แค่วิธีเล่นสนุกเขาจะมาทำงานที่บริษัทและเริ่มต้นในฐานะพนักงานขายได้ยังไง? ก็แค่ชื่อเหมือนกัน”
เมื่อเธอเงยหน้ากำลังจะถามเื่อื่นอีกครั้งเธอเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายบนหน้าของเขาขณะที่เขาก้มหน้ามาใกล้มาก “คุณกำลังจะทำอะไร?”
ฉินเฟิงที่กำลังเอนหน้าเพื่อพยายามจะมองข้างในเสื้อเชิ้ตของเธอเขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไม่มีอะไรผมก็แค่อยากจะเห็นยี่ห้อของเสื้อเชิ้ตที่คุณใส่ วัตถุดิบมันดูค่อนข้างเหนียวมันดูเหมือนกับกำลังจะะเิออกมาสักพักแล้วแต่มันก็ยังไม่เป็ไร”
ตอนแรกหลี่อวี่เฉินไม่เข้าใจคำพูดของฉินเฟิงแต่เมื่อเธอรู้ว่าฉินเฟิงกำลังจ้องหน้าอกของเธอใบหน้าของเธอก็บึ้งตึงและเกือบจะตบเขา ณ ตรงนั้น
เธอหายใจเข้าลึกๆพยายามจะทำให้ใจเย็นลงและมองฉินเฟิงอย่างเ็า “คุณคาดว่าจะได้อะไรจากงานนี้? เงินเดือน? วันหยุดพักร้อน?”
ฉินเฟิงส่ายหัวทั้งสองสิ่งไม่ใช่เื่ที่เขากังวล เขาขมวดคิ้วและพูดอย่างจริงจัง“แม้ว่าผมจะมาที่นี่ได้ไม่นาน แต่ผมก็พบปัญหาจริงจังมากและอยากจะรายงานกับคุณผมหวังว่าแผนกที่เกี่ยวข้องจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ให้เร็วที่สุดไม่งั้นพนักงานกว่าครึ่งจะได้รับผลกระทบแน่”
“มันคืออะไร?” เมื่อเห็นฉินเฟิงดูจริงจังหลี่อวี่เฉินก็อยากรู้ว่าปัญหาจริงจังแบบไหนที่เขาพบ
“มันเป็อย่างนี้ ผมรู้สึกว่าชุดของพนักงานหญิงควรจะเปลี่ยนเสื้อเชิ้ตมีกระดุมเยอะเกินไป พวกเธอควรจะเปลี่ยนเป็คอวีให้หมดส่วนกระโปรงก็ยาวไป ทำให้ผมเห็นอะไรไม่สะดวก อืมผมคิดว่าความยาวที่คุณใส่เนี่ยกำลังดีเลย”
ฉินเฟิงขยับรวดเร็วมากในทันทีก่อนที่หลี่อวี่เฉินจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเธอก็รู้สึกถึงมือที่เข้ามาจากใต้กระโปรงและแตะลงที่ขาอ่อนของเธอเธอใจนกระเด้งขึ้นมาและไม่สามารถสงบเยือกเย็นได้อีกต่อไป เธอตะคอกใส่ฉินเฟิง“คุณจะอยู่ในแผนกการขายทีมสอง ส่วนตอนนี้ไสหัวออกไปได้แล้ว!”
เนื่องจากหลี่อวี่เฉินไม่ตั้งใจทำตามคำแนะนำของเขาฉินเฟิงจึงส่ายหัวขณะเดินออกจากออฟฟิศเขาพิจารณาจะรายงานปัญหาจริงจังนี้ให้กับพ่อของเขาตอนกลางคืน
ผู้คนที่ทำงานอยู่บริเวณใกล้เคียงได้หันไปขณะที่ฉินเฟิงเดินออกมาจากออฟฟิศของหลี่อวี่เฉินแต่ฉินเฟิงก็ไม่สนใจพวกเขา เขาเดินไปที่โต๊ะตรงข้ามกับสวี่รั่วโหรวและนั่งลงโต๊ะนั้นว่างเปล่า ดังนั้นฉินเฟิงจึงตัดสินใจจะทำงานตรงนี้จากนี้ไป
เมื่อเห็นฉินเฟิงนั่งตรงข้ามเธอสวี่รั่วโหรวรู้สึกกังวลนิดหน่อยเธอรู้สึกกลัวหลังจากที่จำสิ่งที่ฉินเฟิงบอกว่าอยากจะทำกับเธอ
“น้องรั่วโหรว ในอนาคตเราจะได้เห็นหน้ากันและกันระหว่างทำงานในเมื่อเราอยู่ใกล้กัน มันก็ง่ายที่จะเกิดอะไรขึ้นใต้โต๊ะ ใช่ไหม?” ห้องของแผนกการขายกว้างประมาณ 300 ตารางเมตรและโต๊ะแต่ละโต๊ะก็ถูกกั้นด้วยกระจกที่สูงครึ่งหนึ่งของตัวคน
ฉินเฟิงนั่งเผชิญหน้ากับสวี่รั่วโหรวด้วยโต๊ะที่ติดกันและพวกเขาก็แยกกันโดยคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องเขาเอนตัวลงและััน่องของสวี่รั่วโหรวทันที ทำให้เธอใจนกระตุกขากลับเธอมองฉินเฟิงด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน
เธอเป็นักศึกษาจบใหม่จากมหาวิทยาลัยเป็คนขี้อายและสุภาพการโดนฉินเฟิงแกล้งทำให้ดวงตาของเธอเบลอและเกือบจะเริ่มร้องไห้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้