เบนจามินถึงกับลอบกลืนน้ำลาย ไหนเลยเขาจะรู้ว่าเป้าหมายของการลงมือครั้งนี้คือยอดฝีมือผู้เก่งกาจในยุทธจักร ไม่ใช่แค่เย่เฟิงที่อยู่ตรงหน้า กระทั่งลูกน้องของเขาก็ยังร้ายกาจมาก ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาก็สามารถจับคู่หูของเขากลับมาได้แล้ว
“พี่เย่ ผมกลับไปซ่อนตัวก่อนนะ”
หนานฟางโยนศพของชายผิวดำเข้ามาแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบแล้วออกไปเฝ้าระวังเช่นเดิม
“พี่เย่ ผมไปก่อนนะครับ”
เตาปาโค้งคำนับก่อนจากไปเช่นกัน
เตาปาสุภาพต่อเขามากขนาดนี้ ทำให้เย่เฟิงวางตัวไม่ถูก หรือเพราะเขาช่วยดึงอีกฝ่ายสู่โลกผู้ฝึกวรยุทธ์ ทำให้เตาปามีโอกาสล้างแค้นตามเป้าหมายของตนได้งั้นเหรอ? ซือถูฉางเตาแห่งวิหารดาบ์เป็ผู้สร้างแผลเป็บนหน้าเขา ทั้งยังสังหารลูกน้องของเขาจำนวนมาก รวมถึงภรรยาของเขาด้วย ตอนนี้ในใจเตาปา้าติดตามช่วยเหลือเย่เฟิงและตั้งใจฝึกวรยุทธ์ให้มาก เพื่อวันหนึ่งเขาจะสามารถสังหารซือถูฉางเตาแห่งวิหารดาบ์ด้วยมือตัวเอง
เย่เฟิงโบกมือส่งสัญญาณให้ทั้งคู่จากไปได้ ตอนนี้เหลือเพียงเขาที่อยู่กับเบนจามินตามลำพัง
“ถ้าคิดจะเค้นคำตอบจากปากฉันก็ฝันไปเถอะ”
เบนจามินเป็ชายหนุ่มอกสามศอก อีกทั้งนิสัยดื้อรั้นเด็ดเดี่ยว จึงไม่มีทางยอมจำนนโดยง่าย โชคดีที่ภาษาจีนของเขาค่อนข้างดี ไม่เช่นนั้นเย่เฟิงคงฟังคนต่างชาติคนนี้ไม่เข้าใจ
“จะไม่พูดจริงเหรอ?”
เย่เฟิงเหลือบมองอีกฝ่าย เขารู้สึกว่าคนประเภทนี้ช่างทำตัวยุ่งยากเสียจริง หัวแข็งสมกับเป็คนของไวเปอร์ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าทางไวเปอร์ส่งคนมาจัดการเขาทำไม หรือเพราะร่วมมือกับเพ่ยเค่อกรุ๊ปจึงส่งคนมาจัดการเขางั้นเหรอ? แต่สถานะของพวกเขาดูจะต่างกันไม่น้อย
“แกฆ่าฉันเลยเถอะ”
เบนจามินนับเป็คนที่ฉลาดใช้ได้ เขาเงยหน้าขึ้น สายตาเผยแววเย้ยหยัน ในมุมมองของเขา ไม่ว่าเย่เฟิงจะเก่งกาจสักเพียงใด แต่เมื่อเป็ศัตรูกับไวเปอร์และเพ่ยเค่อกรุ๊ป จุดจบย่อมมีเพียงความตาย
เย่เฟิงไม่คิดสนองความ้าของฝ่ายตรงข้าม เขาเพียงยกมือขึ้น ก่อนปรากฏลูกไฟบนมือ
“ต่อให้แกไม่อยากพูด ฉันก็มีวิธีทำให้แกพูด”
เย่เฟิงยกยิ้ม เบนจามินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เขามองเย่เฟิงโยนลูกไฟในมือไปที่ศพของชายผิวดำบนพื้น
พรึ่บ!
ลูกไฟลุกไหม้ทันที เปลวเพลิงห้อมล้อมศพของชายผิวดำพร้อมแผดเผาร่างของเขา เพียงชั่วพริบตา ร่างนั้นก็เหลือแค่เถ้าถ่าน!
หากเป็สุดยอดเปลวสุริยะ การเผาร่างกายคนให้กลายเป็เถ้าถ่านใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวินาทีด้วยซ้ำ แต่เย่เฟิงไม่้าผลลัพธ์มากขนาดนั้น จึงเลือกใช้เปลวสุริยะที่ให้ผลลัพธ์ด้อยกว่าแทน อุณหภูมิของมันสูงถึงสองถึงสามพันองศาเซลเซียสซึ่งให้ผลลัพธ์เพียงพอแล้ว
ในสายตาของเบนจามิน คู่หูของเขาเก่งกาจและองอาจดุจราชสีห์ เป็สมาชิกไวเปอร์คนหนึ่งที่สุดยอดมาก ตอนนี้กลับถูกเพลิงแผดเผากลายเป็เถ้าถ่าน เพียงลมพัดผ่านเบาๆ หลักฐานการดำรงอยู่ของชายผิวดำคงสลายไป ราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้
เบนจามินเผลอกลืนน้ำลาย เขาตกตะลึงกับความสามารถอันแปลกประหลาดของเย่เฟิง
เ้าเด็กนี่มีเวทมนต์หรือไง? ทำไมถึงเสกลูกไฟได้! ไม่รู้เลยว่าเย่เฟิงมีความสามารถลึกลับเช่นนี้อีกมากเพียงไร? มิน่าล่ะ กระทั่งะเิที่เขาซ่อนไว้อย่างดียังถูกคนตรงหน้าจับได้... แต่เื่นั้นจะทำให้เบนจามินใได้เท่ากับเื่ที่อีกฝ่ายเสกลูกไฟออกมาได้อย่างไร? มันสามารถแผดเผาเขาได้เลยด้วยซ้ำ!
ในฐานะนักฆ่าชั้นยอด เขาควรมีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ ไม่ว่าอย่างไรเขาจะไม่ยอมเปิดเผยตัวผู้ว่าจ้างและองค์กรของเขาออกไปเด็ดขาด
ขณะนั้นเย่เฟิงเมินเฉยผู้ตกเป็รอง ชายหนุ่มโคจรพลังชี่ไว้ที่เท้า ก่อนเตะปลุกหญิงสาวผมทองชุดกระโปรงสีแดงสุดเซ็กซี่ เขาใช้จิตหยั่งรู้สำรวจจึงพบว่าเธอยังไม่ตาย เพียงสลบไปเท่านั้น จึง้าปลุกเธอขึ้นมาเค้นคำตอบเช่นเดียวกับเบนจามิน
หลังจากถูกเตะ หญิงสาวค่อยๆ ฟื้นคืนสติ เธอเงยหน้ามองโดยรอบ ผมสีทองสยายเป็คลื่น ดวงตาสีฟ้าคู่โตสะท้อนภาพเย่เฟิงที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำ
“แกเป็ใคร?”
เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวผมทองใ เธอถามเขาเป็ภาษาจีน
“ฉันชื่อเย่เฟิง เธอคงเคยได้ยินชื่อฉันมาก่อนแล้วสินะ” เย่เฟิงตอบตรงไปตรงมาพร้อมหรี่ตามอง “ฉันคร้านจะพูดจาไร้สาระด้วยแล้ว ฉันมีสองทางให้พวกแก ตัวเลือกแรก ฉันถามอะไร พวกแกก็แค่ตอบ หรือไม่ก็ตายไปซะ จะเลือกทางไหนดีล่ะ?”
เมื่อได้ฟังคำพูดของเย่เฟิง หญิงสาวผมทองก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา ดูเหมือนเธอเริ่มจะเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ทำให้รู้สึกหมดหวังในทันที หญิงสาวเหลือบมองเบนจามินที่อยู่ด้านข้าง พบว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าหวาดหวั่นอย่างยิ่ง คราแรกเบนจามินไม่ได้หวาดกลัวเย่เฟิงเช่นนี้ สิ่งนี้ทำให้เธอตัดสินใจได้ในที่สุด
“ฉันเลือกข้อแรก”
สาวผมทองเอ่ยปากตอบในที่สุด เธอเชิดหน้ามองเย่เฟิง ดวงตาสีฟ้าเผยร่องรอยน่าสงสาร
เย่เฟิงไม่ถูกรูปลักษณ์ของเธอดึดดูงแม้แต่น้อย เขาถามเสียงเรียบ “งั้นก็ดี ตอบมา พวกแกเป็คนของใคร? มีเป้าหมายอะไร?”
“ฉันเป็คนของเพ่ยเค่อกรุ๊ป ส่วนเขาเป็นักฆ่าจากองค์กรไวเปอร์ชื่อเบนจามิน เป็นักฆ่าอันดับที่หนึ่งร้อยในบรรดานักฆ่าทั้งหมด”
สาวผมทองตอบโดยไม่ต้องคิดพลางเหลือบมองเพื่อนร่วมงานข้างกาย
“เมดูซ่า เธอ!”
เบนจามินโมโหมาก เขาไม่คิดว่าเธอจะสารภาพอย่างง่ายดาย ทรยศไปอยู่ฝั่งเย่เฟิงเสียอย่างนั้น
หรือว่าคนของเพ่ยเค่อกรุ๊ปจะเป็พวกขี้ขลาด?
“เพื่อความอยู่รอด อย่าโทษฉันเลย”
ดวงตาสีฟ้าของเมดูซ่าเผยแววสิ้นหวัง เธอค่อยๆ เหยียดตัวลุกขึ้น ก่อนเดินไปตรงหน้าเย่เฟิง ขายาวขาวราวหิมะใต้ชุดกระโปรงคอวีสีแดง หน้าอกอวบอิ่มและรูปร่างสมส่วนดึงดูดสายตามาก
“เย่เฟิง แค่นายปล่อยฉันไป ฉันจะยอมให้นายทุกอย่าง...”
เมดูซ่าเผยอริมฝีปากแดงเล็กน้อย เธอมองเย่เฟิงด้วยสายตาเย้ายวน ดวงตาราวกับสามารถสื่อความหมายได้ ทั้งยังเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์
หากเป็ผู้ชายทั่วไป เดาได้เลยว่าจะจัดการกรณีนี้เช่นไร คงมีจำนวนไม่น้อยที่ตกหลุมพรางของเธอ ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงสาวต่างชาติผมทองอย่างเมดูซ่า นอกจากรูปร่างแล้ว หน้าตาของเธอไม่ด้อยไปกว่าดารานักแสดงเลย หรืออาจเหนือกว่าด้วยซ้ำ!
น่าเสียดายที่คนตรงหน้าเธอคือเย่เฟิง
เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าคนตรงหน้าใช้แผนสาวงาม จึงอดขบขันไม่ได้ เขาเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อมสะกดจิตเธอเงียบๆ
เมื่อเธอคิดอยากยั่วยวน เขาก็จะทำให้มันเป็จริง!
แน่นอนว่าเย่เฟิงไม่สนใจสาวสวยผมทองตรงหน้าเลยสักนิด เพียงแต่การทำให้เธอตกหลุมรักเขาก็ไม่ใช่เื่แย่ เมื่ออยู่ในห้วงความรัก เธอจะยินยอมทำทุกอย่างเพื่อเขาอย่างเต็มใจ
ระหว่างที่ระยะห่างของทั้งสองคนค่อยๆ ลดลง สายตาของเมดูซ่าก็เริ่มเปลี่ยนไป เดิมทีเธอ้ายั่วยวนเย่เฟิง ทำให้เขาคลายความระวังหรือคอยอยู่ข้างเขาเพื่อรอโอกาสเคลื่อนไหว แต่ตอนนี้เธอตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเย่เฟิง จากการแสร้งยั่วยวนในครั้งแรกแปรเปลี่ยนเป็หลงรักเขาเข้าเต็มเปา!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้