“หัวหน้ามือปราบซุน…” สวีเต๋อเซิ่งมึนงง หัวหน้ามือปราบซุนมาั้แ่เมื่อไร? “ท่าน…มาได้อย่างไรขอรับ?”
ซุนเคอตอบด้วยสีหน้าราบเรียบ “มาตรวจคดีน่ะ เหตุใดเล่า? ข้ามาตรวจคดีต้องบอกเ้าด้วยหรือ?”
สวีเต๋อเซิ่งรีบประสานมือขอโทษ “ท่านหัวหน้ามือปราบ…ข้าน้อยมิได้หมายความเช่นกัน เพียงแต่แปลกใจ”
ซุนเคอไม่สนใจเขาอีก
ที่มาไม่ได้มีแค่ซุนเคอ แต่ยังมีมือปราบขั้นไคว่อีกสองสามคน
“ท่านหัวหน้า…”
“ท่านหัวหน้ามือปราบ…”
มือปราบที่สวีเต๋อเซิ่งพามารีบทำความเคารพ ซุนเคอพยักหน้าตอบแล้วกลับมาจ้องสวีเต๋อเซิ่ง “มือปราบสวีช่างวางมาดใหญ่โตยิ่งนัก ใหญ่โตยิ่งกว่าท่านนายอำเภอเสียอีก”
พูดจบก็ประสานมือคำนับไปทางทิศที่อำเภอตั้งอยู่
สวีเต๋อเซิ่งกระอักกระอ่วนเล็กน้อย รีบประสานมือพูดกับซุนเคอว่า “ท่านหัวหน้า คือเช่นนี้ขอรับ หลัวจินซานจำได้ว่าป้ายหยกที่แขวนบนเอวเจียงหงหย่วนเป็ของเขา ทั้งยังจำได้ว่าเจียงหงหย่วนเป็หนึ่งในโจรที่เคยปล้นฆ่าพวกเขา”
ไม่ว่าซุนเคอจะมาด้วยเหตุผลกระไร หลัวจินซานที่เป็เ้าทุกข์ยืนอยู่ที่นี่ ซุนเคอว่ากล่าวกระไรเขาไม่ได้
ซุนเคอกับพ่อตาของเขาไม่ค่อยถูกกัน ปกติก็ไม่ค่อยชอบหน้าเขาเช่นกัน ด้วยเหตุนี้สวีเต๋อเซิ่งจึงต้องระมัดระวังมาก
ไม่ใช่แค่ซุนเคอ หวงจ้งซานกับหลิวเฉียงก็ออกมาด้วยเช่นกัน
แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังมุงดูเหตุการณ์ในลานบ้าน ไม่มีผู้ใดเห็นว่ามีคนออกมาจากลานชั้นใน
สวีเต๋อเซิ่งรู้จักซุนเคอ แต่ด้วยตำแหน่งของเขาแล้วไม่มีช่องทางให้รู้จักหวงจ้งซานกับหลิวเฉียง สองคนนั้นจึงเป็แค่คนแปลกหน้าที่มาดูเื่สนุกสำหรับเขา
ซุนเคอได้ยินดังนี้ก็มองเจียงหงหย่วน แววตาซับซ้อนแปลกๆ
เขาถามว่า “เจียงหงหย่วน ที่สวีเต๋อเซิ่งพูดเป็ความจริงหรือไม่?”
เจียงหงหย่วนส่ายหน้า “หัวหน้ามือปราบซุน ตัวข้าเจียงหงหย่วนเป็เพียงนายพรานธรรมดา หยกที่แขวนบนเอวเป็หยกที่ภรรยาซื้อมาให้ในราคาหนึ่งตำลึง”
“หัวหน้ามือปราบซุน ท่านอย่าเชื่อเขานะขอรับ ป้ายหยกนั่นเป็ของข้า ทำจากหยกขาวหยางจื่อชั้นดี จะซื้อในราคาหนึ่งตำลึงได้อย่างไร ต่อให้เป็ของโจรก็ไม่มีทางขายถูกขนาดนี้” หลัวจินซานก้าวออกมาประสานมือพูดกับซุนเคอ
“ท่านหัวหน้า เื่นี้มีเลศนัย เถ้าแก่หลัวโดนปล้นเมื่อสามเดือนก่อน ต่อมาเจียงหงหย่วนมีเงินสร้างบ้านขึ้นมาอย่างฉับพลัน ตอนนี้เถ้าแก่หลัวจำของกลางได้…บวกกับเขามีฝีมือต่อสู้เหนือคนธรรมดา ต้องเป็โจรอย่างแน่นอน อีกอย่าง วันนี้เ้าจัดงานขึ้นบ้านใหม่…เชิญแขกบางส่วนเข้าไปในลานด้านใน ให้คนเฝ้าประตูทางเข้าไว้ กลัวคนในหมู่บ้านล่วงล้ำเข้าไป หลบๆ ซ่อนๆ เช่นนี้… เห็นได้ว่าแขกด้านในเป็คนที่เปิดเผยไม่ได้ อาจเป็พรรคพวกของเขา! ท่านหัวหน้า พวกเราจับคนที่อยู่ด้านในไปด้วยเลยดีหรือไม่ขอรับ คดีนี้ล่าช้ามาหลายเดือนแล้ว ท่านนายอำเภอเองก็เร่งเร้ามา ควรถึงเวลายุติ”
สวีเต๋อเซิ่งพูดจาแฝงความหมาย เขามั่นใจว่าซุนเคอจะทำตามที่เขาพูด เพราะทุกคนรู้กฎข้อนี้ของหยาเหมินดี
คดีที่หน่วงเหนี่ยวนานเกินไปจะส่งผลต่อการประเมินของนายอำเภอ ดังนั้น…เวลามีคดีที่ปิดไม่ได้จริงๆ เช่นนั้นคงต้องลุ้นเอาว่าผู้ใดจะเป็ผู้เคราะห์ร้าย
จับเข้าหยาเหมินแล้วทรมาน ต่อให้ไม่มีความผิดก็เปลี่ยนให้เ้ามีความผิดได้
ใช่ว่าความยุติธรรมสุจริตแบบในนิยายจะไม่มีจริง เพียงแต่มีน้อยมากก็เท่านั้น
เอาเป็ว่านายอำเภอของพวกเขาไม่ใช่หนึ่งในนั้นก็แล้วกัน
ซุนเคอชี้ไปทางลานด้านใน ถามสวีเต๋อเซิ่งด้วยสีหน้าไม่แน่ชัด “เ้าหมายความว่า ให้จับแขกที่อยู่ในลานชั้นในของบ้านเจียงกลับไปด้วยหรือ?”
สวีเต๋อเซิ่งพยักหน้า “ขอรับ พวกเขาต้องเป็พรรคพวกของเจียงหงหย่วนเป็แน่ แต่ถึงจะไม่ใช่พรรคพวกก็ต้องจับไปสอบสวนที่อำเภอให้แน่ชัด” ตอนแรกเขายังแสร้งทำเป็ปกป้องชาวบ้าน แต่ตอนนี้ซุนเคอมาแล้ว ไม่จำเป็ต้องได้หน้าหรือรักษาภาพพจน์อีก
ภาพพจน์มีค่ากระไร ต้องรีบใช้โอกาสนี้มาแสดงฝีมือให้ซุนเคอเห็น
สวีฝูถอนหายใจแล้วเดินไปอยู่หน้าเจียงหงหน่วน “เหตุใดเ้าต้องดึงดันถึงเพียงนี้ ทั้งที่ข้าบอกก่อนหน้านี้แล้วว่าให้เ้าตามเต๋อเซิ่งไปหยาเหมิน ทีนี้ดีล่ะ…เ้าขัดขืนไม่ยอมไป หัวหน้ามือปราบถึงกับมาด้วยตัวเอง เห็นได้ว่าเ้าถูกหยาเหมินจับตาดูมานานแล้ว คราวนี้ไม่ใช่แค่เ้าที่ต้องไป แม้แต่แขกก็เดือดร้อนไปด้วย… อุตส่าห์หวังดีแต่เ้าไม่รับน้ำใจ ดูเถิดว่าคราวนี้จะแก้ตัวอย่างไรอีก เลิกทำร้ายผู้อื่นได้แล้ว!”
สวีฝูพูดอย่างปวดใจ หากเขาปกปิดความได้ใจและละโมบในสายตาได้ดีกว่านี้ก็คงเหมือนหัวหน้าหมู่บ้านที่เป็ห่วงชาวบ้านอยู่หรอก…
น่าเสียดาย หมาป่าก็คือหมาป่าอยู่วันยังค่ำ
เสแสร้งเพียงใดก็ไม่อาจเป็สุนัขเฝ้าบ้าน
เมื่อสวีฝูพูดเช่นนี้ บรรดาชาวบ้านพากันวิพากษ์วิจารณ์ บ้างก็รู้สึกว่าเจียงหงหย่วนทำผู้อื่นเดือดร้อน บ้างก็รู้สึกว่าแขกที่อยู่ในลานชั้นในเป็โจรทั้งหมด
พูดกันไปต่างๆ นานา อย่างไรเสียก็ไม่ใช่เื่ของพวกเขา พวกที่มามุงดูชอบให้เื่ราวบานปลายใหญ่โตอยู่แล้ว
ยิ่งใหญ่โตยิ่งดี
“หัวหน้าหมู่บ้าน พูดกระไรของท่าน ท่านเป็คนวางแผนยึดบ้านพวกข้าอยู่มิใช่หรือ ยังจะแสร้งมาร่วมงานเลี้ยงอีก ทั้งที่สวีเต๋อเซิ่งพาคนมาซุ่มอยู่ด้านนอก…เหนื่อยหรือไม่ที่ต้องเป็คนเช่นนี้?”
สวีฝูโมโหขึ้นมา “หลินหวั่นชิว เ้าพูดบ้ากระไร?”
หลินหวั่นชิวชี้ชาวบ้านรอบๆ พร้อมกับยิ้มเยาะ “ข้าพูดบ้ากระไร เช่นนั้นท่านพูดต่อหน้าทุกคนสิ ว่าต่อให้ครอบครัวพวกข้าเป็กระไรไปหรือต้องเข้าหยาเหมินจริงๆ บ้านตระกูลเจียงจะไม่กลายเป็แซ่สวี!”
สวีฝูเดือดดาล “เหตุใดข้าต้องทำตามที่เ้าว่าด้วย?”
หลินหวั่นชิวถ่มน้ำลาย “ไม่กล้าทำก็คือใจฝ่อ!”
สวีเต๋อเซิ่งตำหนิ “หลินหวั่นชิว อย่าก่อกวนโดยไร้เหตุผล มิเช่นนั้นแม้แต่เ้าก็จะโดนจับไปหยาเหมินด้วย!”
หลินหวั่นชิวไม่สนใจเขา หันไปคำนับซุนเคอ “หัวหน้ามือปราบซุน พวกเขาแจ้งว่าพวกข้าเป็โจร เช่นนั้นข้าก็ขอแจ้งว่าสวีเต๋อเซิ่งเป็โจรเช่นกันเ้าค่ะ!”
“หลินหวั่นชิว เ้ารนหาที่ตาย!” สวีเต๋อเซิ่งได้ยินดังนี้ก็ชักดาบฟันไปทางหลินหวั่นชิว รัศมีรอบตัวเจียงหงหย่วนเย็นยะเยียบทันที ลงมือบิดข้อมือสวีเต๋อเซิ่งด้วยความเร็วสายฟ้า “โอ๊ย…” สวีเต๋อเซิ่งร้องโอดครวญ ดาบหลุดจากมือ
“มือ…มือข้าหักแล้ว! ท่านหัวหน้า จับเขาเลยขอรับ เขาเป็โจรเป็แน่ ถึงกับกล้าทำร้ายเ้าหน้าที่ราชสำนัก...หากไม่ใช่เขาแล้วจะเป็ผู้ใดไปได้อีก!”
ขณะที่สวีเต๋อเซิ่งกุมมือร้องโอดครวญก็ไม่ลืมที่จะฟ้องร้องเจียงหงหย่วนไปด้วย สวีฝูใ ตะคอกสวีไคซาน “เหล่าเอ้อร์ เ้ามัวทำกระไรอยู่ ยังไม่รีบมาช่วยดูมือให้เต๋อเซิ่งอีก!”
สวีไคซานมัวแต่ใกับเจียงหงหย่วน เ้าหมอนี่จะโหดไปแล้ว อยากลงมือก็ลงมือเลย หลานชายคนโตของเขาเป็ถึงมือปราบ มิหนำซ้ำ หัวหน้ามือปราบก็อยู่ เขา…ไม่กลัวถูกจับหรือ?
เขารีบไปตรวจมือให้สวีเต๋อเซิ่ง
ซุนเคอรู้สึกว่าเจียงหงหย่วนบุ่มบ่ามเกินไป ถึงอย่างไรสวีเต๋อเซิ่งก็เป็มือปราบ เขาลงมือทำร้ายมือปราบต่อหน้าสาธารณะชนเช่นนี้ แม้จะเป็หัวหน้าผู้คุมบ่อนก็…จัดการยากอยู่ดี
อีกทั้งยังเกี่ยวข้องถึงการปิดคดี
เื่นี้จัดการยากเสียแล้ว
“เจียงหงหย่วน เื่นี้ต้องมีคำอธิบาย มิเช่นนั้น…” เขาส่งสายตาเตือน เื่บางเื่พูดต่อหน้าผู้อื่นไม่ได้ ได้แต่ส่งสายตาบอกเป็นัย
หลินหวั่นชิวไม่อยากให้เื่นี้ยืดเยื้อต่อไป ดำเนินมาถึงขั้นนี้ กำลังไฟใกล้จะได้ที่แล้ว
นางเดินไปยืนหน้าหลัวจินซาน ถามเขาว่า “หยกที่เ้าทำหายทำจากวัสดุกระไร?”
หลัวจินซานตอบ “หยกขาวหยางจื่อคุณภาพเยี่ยม ราคาหมื่นตำลึง”
หลินหวั่นชิวพยักหน้า หันไปถามพวกซุนเคอ “พวกท่านหัวหน้ามือปราบซุนได้ยินกันแล้วใช่หรือไม่เ้าคะ?”
พวกซุนเคอไม่รู้ว่านางจะเล่นลูกไม้กระไร ตอบไปว่า “ได้ยินแล้ว หยกขาวหยางจื่อคุณภาพเยี่ยมราคาหมื่นตำลึง”
หลินหวั่นชิวหันไปถามชาวบ้านต่อ ชาวบ้านตอบว่าได้ยินเช่นกัน พูดทวนคำพูดของหลัวจินซาน
ในตอนนี้เองที่หลินหวั่นชิวทำกระไรบางอย่างที่เกือบทำทุกคนใตาย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้