ถังชิงหรูเห็นบุรุษรูปงามค่อยๆ ลืมตา ขนตาของเขายาวเป็แพ น่ามองยิ่งนัก แต่ยามดวงตาคู่นั้นลืมขึ้น ประกายเยียบเย็นสายหนึ่งก็พุ่งวาบออกมา
ชั่วขณะที่เห็นถังชิงหรู สีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไป ลั่นวาจาเกรี้ยวกราด "สตรีมาจากไหน ไสหัวไปให้พ้น แค่กๆ" ด้วยอารมณ์ตื่นตระหนก จึงเกือบพลัดตกจากเตียง
ถังชิงหรูมองชายหนุ่มรูปงามด้วยสีหน้าประหลาดใจ ยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตนเอง "ท่านมองออกได้อย่างไร"
"การแปลงโฉมของแม่นางนับว่าไม่เลว ทว่าสำหรับคนในยุทธภพอย่างพวกเราก็ดูจะหยาบไปเล็กน้อย หากเป็ชาวบ้านธรรมดาเ่าั้ย่อมดูไม่ออกขอรับ"
ชายหนุ่มถลึงตาใส่ถังชิงหรูด้วยอารมณ์รุนแรง "ยังไม่รีบไปอีกหรือ"
"นายท่าน แม่นางผู้นี้คือหมอเทวดา อาการของท่านอันตรายยิ่ง เคราะห์ดีได้หมอเทวดาช่วยชีวิตไว้ มิเช่นนั้นก็คงยากจะคาดคะเน" พ่อบ้านหลินถึงกับปาดเหงื่อ พยายามอธิบายอย่างละมุนละม่อม
หลังลั่นวาจาประโยคนั้น ชายหนุ่มก็พยายามใช้เรี่ยวแรงที่มีไม่มากนักเอ่ยวาจาถากถาง "สตรีเดี๋ยวนี้ช่างเ้าเล่ห์แสนกลยิ่ง เพียงเพื่อจับคุณชายเยี่ยงข้า ถึงขนาดกล้าปลอมเป็หมอเทวดา น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้โง่ อ่อนวัยขนาดนี้ทั้งยังเป็สตรี จะเป็หมอเทวดาได้อย่างไร อย่าว่าแต่ฝังเข็ม แค่เข็มเย็บปักจะใช้เป็หรือยังเถอะ" พอกล่าวจบ พลันรู้สึกว่าเจ็บคออย่างรุนแรง น้ำเสียงแหบพร่า ฟังดูก็รู้ว่ามีอารมณ์แต่ไม่มีแรงระบาย ท่าทางเหมือนคนหายใจไม่เต็มอิ่ม
ถังชิงหรูได้ยินวาจาร้ายกาจของของเขาแล้ว ก็ตอกกลับไปอย่างไม่เกรงใจ "คุณชายกล่าวได้ถูกต้องยิ่ง แม่นางเยี่ยงข้าเป็คนฆ่าสุกร เมื่อครู่เห็นเนื้อตายวางหราอยู่บนเตียง เห็นแล้วก็รู้สึกว่าสิ้นเปลืองนัก คิดอยู่ว่าจะกินส่วนบนหรือว่าส่วนล่างก่อนดี แต่ส่วนปากที่เอ่ยวาจาน่ารังเกียจ ก็ไม่เลวเหมือนกัน งั้นเริ่มจากตรงนี้ก่อนก็ได้"
ชายหนุ่มสุขภาพอ่อนแออยู่เป็ทุนเดิม พอลืมตาขึ้นมาเห็นสตรีย่อมรู้สึกขวางหูขวางตา พานเกิดโทสะ ยิ่งได้ยินนางใช้วาจาทิ่มแทงขนาดนี้ ภายในใจยิ่งเดือดดาลเป็ทวี พิษนับไม่ถ้วนในร่างกายเกิดจากการสะสมมาหลายปี เป็ผลให้สุขภาพย่ำแย่ ปรกติยามพิษไม่กำเริบก็ไม่อาจออกแรงได้นานนัก แม้แต่กิจกรรมขี่ม้าซึ่งโปรดปรานที่สุดก็ไม่อาจทำได้ หลายปีมานี้ จากที่แค่นึกรำคาญสตรีจึงกลายเป็เกลียดชังอย่างเข้าไส้ ขอเพียงแค่เป็สัตว์เพศเมีย เขาก็รู้สึกสะอิดสะเอียนแล้ว ด้วยเหตุนี้ยามเห็นถังชิงหรูจึงมีปฏิกิริยาตอบโต้ค่อนข้างรุนแรง
"พ่อบ้าน ท่านรู้สึกว่าคุณชายเยี่ยงข้ามีชีวิตอยู่นานเกินไป ก็เลยพาสตรีผู้นี้มายั่วโทสะใช่หรือไม่" ชายหนุ่มโกรธจนหน้าเขียว
พ่อบ้านหลินเห็นสถานการณ์เช่นนั้นก็รีบลากถังชิงหรูออกไปคุยตรงมุมห้อง กล่าวกับนางอย่างขอความเห็นใจ "แม่นาง คุณชายของเราเป็โรครังเกียจสตรีอย่างไร้ทางเยียวยา ท่านเร่งมือหน่อยได้หรือไม่ ตอนนี้เขายังควบคุมตนเองได้อยู่ หากเครียดมากจนอาละวาดขึ้นมา อาจถึงกับสังหารคนได้ แม่นาง โปรดเห็นแก่เงินทอง อย่าได้ถือสาหาความกับคนป่วยเลยขอรับ"
งานนี้ได้เงิน ถังชิงหรูย่อมจะไม่บันดาลโทสะ เงินเพียงหนึ่งอีแปะสามารถล้มผู้กล้า นางในตอนนี้ก็อยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกัน ช่างปะไร! เห็นแก่เงินส่วนนี้ จะมองเ้าหนุ่มนั่นเป็คนตายคนหนึ่งก็ได้ นางแค่อยากทำงานของตนเองให้เสร็จ หลังรับเงินแล้วก็สะบัดก้นหนีเป็อันจบ
"ได้ ข้าจะไม่ถือสาหาความกับเขา" ถังชิงหรูปรายตามองชายหนุ่มอย่างเหยียดหยัน ก่อนสาวเท้าก้าวใหญ่เข้าไปหา ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว มองนางอย่างระแวง ยกผ้าห่มขึ้นมากันตนเองไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการััทางกายกับสตรีผู้นั้น
"ข้าเขียนเทียบยาให้ท่านฉบับหนึ่ง ท่านก็ไปหาสมุนไพรมาตามนั้นมาต้มให้เขากิน หนึ่งวันสามเวลา ถ้าเขาไม่อยากตาย ก็ต้องดื่มให้หมด" ถังชิงหรูมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าชิงชัง "ได้ยินคนไข้ที่ข้าไปช่วยพากลับมาจากแดนยมโลกบอกว่า เอี้ยนอ๋อง[1]โปรดปรานชายหนุ่มรูปงามผิวขาวผ่องเช่นนี้เป็ที่สุด ถ้าเขาตายไป ไม่แน่ว่าอาจได้เป็ชายาเอี้ยนอ๋องก็ได้ นั่นก็ไม่เลวนะ"
ชายหนุ่มในกองผ้าห่มลุกขึ้นมาถลึงตาใส่นางอย่างโกรธเกรี้ยว
คนหน้าตาดีต่อให้โมโหโทโสอย่างไรก็ยังน่ามองเป็พิเศษ คนผู้นี้แม้ว่าจะดูดื้อด้านนัก แต่ไม่มีกลิ่นอายน่ารังเกียจ ดังนั้นในสายตานางเขาเป็แค่เด็กที่ยังไม่รู้จักโต
ถังชิงหรูใช้พู่กันและน้ำหมึกที่พ่อบ้านเตรียมให้เขียนเทียบยาเสร็จเรียบร้อย ก็ถอนเข็มทองที่อยู่บนศีรษะของชายหนุ่มออก
ทันทีที่เห็นเข็มในมือนาง ทั้งยังดึงออกมาจากศีรษะของตนเอง ชายหนุ่มก็หน้าหน้าซีดราวกับดินเหลือง ปากคอสั่นระริก "นี่เ้าถึงกับฝังเข็มบนหัวข้าเชียวรึ"
ถังชิงหรูมองชายหนุ่มพลางยิ้มอ่อน รอยยิ้มของนางแลดูบริสุทธิ์สดใสไร้พิษสง ก่อนหันกลับไปพูดกับพ่อบ้านหลิน "เ้านายของท่านมิเพียงถูกพิษ แต่สมองยังมีปัญหาอีกด้วย วันนี้ข้ามารักษาให้ ต่อไปอย่าตามข้ามาอีกล่ะ ข้าไม่อยากเสื่อมเสียชื่อเสียง"
"ท่านหมอเทวดาอย่าโมโหไปเลยขอรับ นายของเรา..." พ่อบ้านหลินอยากอธิบายสักสองสามประโยค แต่ถูกชายหนุ่มตะคอกตัดบท
"พ่อบ้าน หากผู้อื่นไม่เต็มใจ ก็ไล่ออกไปจากจวนข้าเดี๋ยวนี้ ให้เวลาหนึ่งถ้วยชา[2] หากหลังจากนั้นนางยังไม่ไปอีก ข้าจะให้เ้าได้เห็นดีกัน" หลังกล่าวจบ ชายหนุ่มก็เริ่มอึดอัดทรมานที่หน้าอก นับั้แ่เขาต้องพิษ วันนี้ปวดหัว พรุ่งนี้เจ็บหน้าอก มะรืนปวดขา ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีส่วนไหนที่ไม่เ็ป
พ่อบ้านไม่กล้ายั่วยุผู้เป็นาย จึงหันมายิ้มกับถังชิงหรูด้วยความละอายใจ พลางผายมือเชิญ
ถังชิงหรูเดินก้าวใหญ่ไปที่ประตู ก่อนจากไป ยังหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ชายหนุ่ม พลางหัวเราะเย้ยหยัน "มิน่าทำไมถึงชิงชังสตรีนัก ที่แท้ก็เพราะนกเขาไม่ขันนี่เอง"
"ว้าก..." ชายหนุ่มไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน คว้าผ้าห่มบนตัวขว้างใส่ถังชิงหรู
ยามนี้เขาสวมเพียงเสื้อกับกางเกงชั้นใน ในสมัยโบราณก็นับว่าค่อนข้างเปิดเผยเนื้อหนัง ใบหน้าของเขาซีดจนขาว ถลึงตาใส่นางอย่างโมโหสุดขีด "เ้าอย่าให้ข้าเห็นหน้าอีกนะ"
"สบายใจได้ แม่นางเยี่ยงข้าก็ไม่อยากเจอท่านนักหรอก หน้าตาก็ออกจะดี ที่แท้ก็แค่หมอนปักลายบุปผา[3] คราวหน้าหากท่านยังยั่วโมโหข้าอีก ข้าจะป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ว่า ท่าน-ใช้-การ-ไม่-ได้" ถังชิงหรูพูดจบ ก็รีบแล่นออกไปจากประตู มีเสียงโครมครามตามหลังมาระลอกใหญ่ ตามมาด้วยเสียงร้องอาละวาดลั่นบ้านของชายหนุ่มรูปงามผู้นั้น
ถังชิงหรูกลอกตาอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก
พ่อบ้านปาดเหงื่อกาฬที่หน้าผาก พลางเอ่ยวาจาอย่างระมัดระวัง "ท่านหมอเทวดา ที่ท่านพูดเมื่อครู่... เป็เื่จริงหรือ"
"เื่ไหนที่ว่าไม่จริง เื่ที่ส่วนนั้นของเขาใช้การไม่ได้น่ะหรือ" ถังชิงหรูย้อนถามอย่างกังขา "นั่นจะเป็เท็จได้อย่างไร เขาถูกพิษขั้นรุนแรง มีผลกระทบถึงรากแก่น เกรงว่าคงไม่อาจสืบทอดทายาทได้แล้วล่ะ โอ... รู้สึกว่าข้าจะใช้ถ้อยคำกำกวมเกินไป เอาเป็ว่าข้าขอพูดกับท่านชัดๆ ไปเลยก็แล้วกันนะ ใช่ว่าเขาไม่อาจมีลูกหลานสืบวงศ์สกุลหรอกนะ เพียงแต่... ไม่อาจทำตามวิถีธรรมชาติของมนุษย์น่ะ"
หัวใจของพ่อบ้านยามนี้ดั่งมีฝูงเหอหม่า[4]นับหมื่นตัวควบวิ่งผ่านอย่างบ้าคลั่ง แต่ไรมาตนเองไม่เคยนึกถึงเื่นี้ ฮูหยินยังรออุ้มหลานอยู่ แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดีเล่า?
"ท่านหมอเทวดา ท่านพอมีวิธีรักษาหรือไม่ นายของเรายังหนุ่มแน่น หากต้องกลายเป็เช่นนั้น ท่านไม่คิดว่าน่าสงสารหรอกหรือ" พ่อบ้านหลินพยายามชักจูง
ถังชิงหรูมองไปที่ประตูฝั่งตรงข้าม พลางกล่าวด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม "อย่ามาล้อเล่นเลย ข้าไม่ได้อยากรักษาเขาเสียหน่อย ให้เขาสวดมนต์ภาวนาเอาเองแล้วกันนะ เงินของข้า... ส่งมา"
พ่อบ้านครุ่นคิด สตรีผู้นี้ที่มาไม่ชัดเจน สิ่งที่นางเอ่ยก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน มิสู้เชิญท่านหมอที่แท้จริงสักสองสามคนตรวจให้นายน้อยค่อยว่ากันดีกว่า หากเป็เหมือนเช่นที่นางกล่าวอ้าง ถึงเวลาต่อให้ต้องจับมัด ตนเองก็จะพานางมารักษานายน้อยให้ได้
พ่อบ้านหลินล้วงถุงเงินออกมาจากอกเสื้อ หยิบแท่งเงินสองก้อนส่งให้ถังชิงหรู "ขอบพระคุณท่านหมอเทวดาที่มาตรวจอาการให้เ้านายของพวกเรา นี่คือค่ารักษาของท่าน"
ถังชิงหรูมองแท่งเงินสองก้อนนั้น แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นประหลาดใจ นางไม่เคยเห็นเงินแบบนี้มาก่อน ยิ่งไม่เคยเห็นแท่งเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ หลังรับมาแล้วก็รับรู้ได้ถึงน้ำหนักของมัน พลันรู้สึกว่าได้รับเงินเยอะขนาดนี้ ก็ควรให้คำแนะนำสักสองสามประโยค ถึงจะดูเป็มืออาชีพหน่อย
"เทียบยาที่ข้าเขียนให้มีหวงเหลียนรวมอยู่ด้วย ท่านอย่ารังเกียจในรสขมของมัน สรรพคุณยาต่างหากที่สำคัญที่สุด หากเ้านายของท่านไม่ดื่ม เกรงว่าพิษในร่างกายจะแทรกซึมเข้าสู่อวัยวะภายในแล้ว ท่านต้องคำนึงถึงชีวิตน้อยๆ ของนายตนเองเป็อันดับแรก อย่าตามใจเขาให้มากนัก ยาดีย่อมขมปาก ต้องดื่มให้หมด เข้าใจหรือไม่" ถังชิงหรูกล่าวจบ ก็โบกไม้โบกมือให้พ่อบ้าน ทว่าพอเดินไปได้สองก้าว พลันนึกได้ว่าผู้อื่นพาตนเองเข้ามา จึงหันไปเอ่ยกับพ่อบ้าน "ไม่ให้ใครส่งข้าออกไปหน่อยหรือ"
พ่อบ้านมัวแต่วิตกเื่สุขภาพของเ้านาย พอได้ยินนางกล่าวเช่นนี้ ถึงตระหนักได้ รีบกล่าวว่า "เป็ข้าเสียมารยาทแล้ว"
"ท่านพาข้าออกไปแล้วกัน" ถังชิงหรูชี้ไปที่ชายวัยกลางคนที่มากับพ่อบ้านเมื่อครู่นี้
บุรุษผู้นั้นรีบตอบรับ ในความเห็นของเขา หมอเทวดาวัยอายุน้อยเช่นถังชิงหรูจะต้องไม่ใช่คนธรรมดา การคบหากับผู้สูงส่งเช่นนี้มีแต่ได้ไม่มีเสีย
พอพ้นมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่ได้ ถังชิงหรูก็แหงนหน้าขึ้นฟ้า รู้สึกว่าอากาศช่างบริสุทธิ์ยิ่งนัก
"ผู้ชายอะไร ในห้องมีแต่กลิ่นกำยานน่าอึดอัดชะมัด มิน่าเล่าถึงถูกพิษสารพัดชนิด ใช้กำยานมั่วซั่วแบบนี้ หากไม่ต้องพิษสิถึงจะแปลก" ถังชิงหรูบ่นพึมพำ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เงินมาถึงมือแล้ว ต่อไปไม่ต้องกินของรสชาติแย่เ่าั้อีก นางจะซื้อแป้งข้าวเ้ากับเนื้อหมูกลับไป จัดอาหารชุดใหญ่สักมื้อ ตอนนี้มีแต้มพลังงานบ้างแล้ว ระบบก็สามารถใช้งานได้ แม้ว่าเื่งานบ้านงานเรือนของตนเองจะห่วยแตก แต่ด้วยประสิทธิภาพของระบบจะเปลี่ยนนางให้กลายเป็แม่บ้านแม่เรือนที่ยอดเยี่ยมได้อย่างแน่นอน
การจับจ่ายซื้อของคือสิ่งที่ผู้หญิงไม่ว่าจะยุคสมัยไหนล้วนชมชอบ ถังชิงหรูราวกับผีเสื้อเริงร่า กางปีกโผผินร่อนไปตรงโน้นที ตรงนี้ที เพียงชั่วพริบตา ก็ซื้อของกินของใช้มามากมาย แต่เน้นอาหารกับแพรพรรณเป็หลัก
เ้าของร่างเดิมใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาครึ่งปี เสื้อผ้าที่สวมใส่ขาดจนพรุนไปหมดแล้ว ไหนจะน่าหลันหลิงอีกคน แม้ว่าเขาจะนอนบนเตียงเสียเป็ส่วนใหญ่ แต่อาภรณ์ชุดนั้นก็เก่าเต็มที เขาเป็คุณชายสูงศักดิ์ คงไม่เคยลำบากยากเข็ญขนาดนี้มาก่อนกระมัง
"แม่นางถัง นี่ท่าน..." บนเกวียนเทียมโค หลี่ว์ซื่อมองถังชิงหรูหอบของพะรุงพะรังกลับมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ ฉินลี่ก็เพ่งพิศข้าวของที่นางถือมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ร้องทักอย่างตื่นเต้น "เ้านี่แรงเยอะดีนะ ของพวกนี้รวมกันแล้วน้ำหนักมีถึงห้าหกสิบชั่ง[5] แต่กลับเดินตัวปลิวไม่เหน็ดเหนื่อย ท่าทางที่พวกเขาบอกว่าเ้ามีวรยุทธ์จะเป็ความจริง มิเช่นนั้นจะหิ้วของมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร"
"นี่แม่หนู แม่นางถังย่อมเป็วรยุทธ์แน่นอนอยู่แล้ว" หญิงชาวบ้านคนหนึ่งบนเกวียนยิ้มกล่าวอย่างประจบสอพลอ "ไม่เพียงเท่านั้น ยังหาเงินเก่งมากอีกด้วย"
"เ้าซื้อของมาเยอะแยะ ไม่คิดจะเชิญคนในหมู่บ้านไปกินเลี้ยงที่บ้านบ้างหรือ พวกเ้าก็มาอยู่ในหมู่บ้านนานแล้ว หากไม่เชิญแขกในหมู่บ้านมากินข้าวสักมื้อ ก็ดูจะใจแคบไปหน่อยกระมัง" หญิงสาวร่างท้วมคนหนึ่งจีบปากจีบคอพูด
ถังชิงหรูวางของในมือลง ก่อนหันไปพูดกับคนบังคับรถ "ข้าจะนั่งรถ พอจะให้เบียดไปอีกคนได้หรือไม่ หากไม่ได้ข้าจะได้ลง ถึงอย่างไรระยะทางแค่นี้ก็ไม่ได้เป็อันใดสำหรับข้าอยู่แล้ว"
"นั่งได้ๆ แม่นางนั่งให้ดีก็พอ ทุกคนล้วนเป็ญาติมิตร ย่อมต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันอยู่แล้ว"
หญิงสาวร่างท้วมเห็นถังชิงหรูไม่สนใจนาง ก็ยังคิดจะเอ่ยวาจาอีก แต่หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ด้านข้างกระตุกชายเสื้อของนางไว้ พลางกระซิบข้างหู "เ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง นางเป็ยอดฝีมือในยุทธจักร พวกเราอย่าหาเื่ใส่ตัวดีกว่า"
ฉินเหยากับอวี๋ซื่อที่อยู่ข้างๆ หน้าหงิกดูแทบไม่ได้ ถังชิงหรูเก่งกล้ามากขึ้นทุกวัน ในใจของฉินเหยาก็ยิ่งหวาดผวา เมื่อก่อนนางเสแสร้งเก่ง สามารถปั่นหัวทุกคนได้ตามอำเภอใจ ตอนนี้เกรงว่าพวกชาวบ้านจะกลายเป็ปักษาตื่นหน้าไม้[6] ไปเสียแล้ว ไม่รู้ว่าตนเองจะหาเื่ล้างสมองพวกเขาได้อีกเมื่อไร
--------------------------------------------------------------------------------
[1] เอี้ยนอ๋อง หรือเยี่ยนหลัวอ๋อง เป็พระนามของพญายมราชเ้าแห่งแดนนรก เป็หัวหน้าของยมบาลสิบขุม ทั้งยังเป็ผู้คุมนรกขุมที่ห้าด้วยตนเอง
[2] เป็หน่วยบอกเวลาแบบของจีนโบราณ เวลาหนึ่งถ้วยชา หมายถึงเริ่มนับั้แ่น้ำชาถูกยกเข้ามาจนกระทั่งจิบจนหมดถ้วย เทียบกับเวลาประมาณ 10-15 นาที
[3] หมอนปักลายบุปผา หมายถึงสวยแต่เปลือกนอก ที่จริงไร้ความสามารถ
[4] เหอหม่า หมายถึงฮิปโปโปเตมัส
[5] ชั่ง หรือ จิน คือมาตรน้ำหนักจีน มีค่าประมาณครึ่งกิโลกรัม
[6] ปักษาตื่นหน้าไม้ หมายถึงคนที่เคยพบประสบการณ์ที่น่าหวาดกลัวมาก็จะกลายเป็จดจำฝังใจ แค่เหมือนนกที่เคยถูกยิงด้วยหน้าไม้ เพียงเห็นหน้าไม้เท่านั้นก็หวาดกลัวเสียแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้