ขึ้นป้ายแสดงอัตราการผ่านไว้หน้าโรงเรียนแล้ว แสดงว่าผลคะแนนถูกประกาศั้แ่เมื่อวาน
เซี่ยเสี่ยวหลานมาช้าไปหนึ่งวัน ยามประตูเหล่าจ้าวมีท่าทางตื่นเต้นเหลือเกิน เซี่ยเสี่ยวหลานคาดว่าตนเองน่าจะสอบได้คะแนนดี เธอส่ายหน้าด้วยความสัตย์จริง “ไม่รู้ค่ะ เหล่าจ้าว คุณอย่าหมกเม็ดไปเลย”
เหล่าจ้าวอยากพูดใจจะขาด ทว่าเขาพยายามอดกลั้นสุดชีวิต
“ไม่ได้ไม่ได้ ครูใหญ่ซุนกำชับไว้ เขาจะบอกเธอด้วยตัวเอง เธอรีบเข้าไปเถอะ”
อันที่จริงข้อความเดิมของอาจารย์ใหญ่ซุนคือ ‘เซี่ยเสี่ยวหลานไม่แม้แต่ใส่ใจผลสอบคัดเลือก พอเธอมาก็ควรปล่อยให้ร้อนรนเสียหน่อย’ เขาตั้งใจจะหยอกเล่น เพื่อทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานนึกว่าเธอได้คะแนนไม่ดี แต่การแสดงของเหล่าจ้าวนั้นย่ำแย่จริงๆ ทำลายแผนการของอาจารย์ใหญ่ซุนพังไปเสียหมด เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ว่าตนเองทำผลสอบได้ไม่เลว การประมาณคะแนนล่วงหน้าของเธออาจไม่แม่นยำมากนัก ทว่าตราบใดที่กระดาษคำตอบของเธอถูกตรวจอย่างยุติธรรม นั่นก็หมายความว่าเธอต้องผ่านการสอบคัดเลือกรอบแรกแน่นอน
หากกระทั่ง 300 คะแนนยังไม่ถึง เธอยังคิดจะสอบเข้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยหัวชิงอีกหรือ?
หากเป็เช่นนั้นต้องรีบตบบ้องหูตนเองให้ตื่นโดยเร็ว และเตือนสติตนเองว่าไม่ได้เกิดมาเพื่อเรียนหนังสือั้แ่แรก!
ทันทีที่เซี่ยเสี่ยวหลานเข้าโรงเรียน ก็ถูกพบโดยนักเรียนห้องสาม
“เพื่อนเสี่ยวหลานมาแล้ว!”
นักเรียนกลุ่มหนึ่งประดังกันออกมา ล้อมรอบเซี่ยเสี่ยวหลานและวิ่งเข้าห้องเรียนไป ต่างคนต่างพูดเกี่ยวกับผลคะแนนสอบคัดเลือกรอบแรกจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ แผนการของอาจารย์ใหญ่ซุนไร้ผลโดยสิ้นเชิง
อาจารย์ฉีเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมกับหอบกองกระดาษคำตอบ เมื่อพบเซี่ยเสี่ยวหลาน ก็เผยใบหน้ายิ้มแย้มที่เห็นได้ไม่บ่อยนักออกมา
“ดีมาก สอบคัดเลือกรอบนี้ คะแนนภาษาจีนของเธอมีพัฒนาการมากขึ้นนะ”
วิชาภาษาจีนที่คะแนนรวมเต็ม 120 คะแนน ถือเป็กำลังสำคัญในการคว้าคะแนนของนักเรียนทั้งหลาย นักเรียนทั่วไปสอบได้เจ็ดแปดสิบคะแนนนั้นย่อมไม่แปลก แต่เซี่ยเสี่ยวหลานสอบได้เจ็ดแปดสิบคะแนนบ่อยครั้ง มันช่างขัดกับสถานะนักเรียนดีเด่นของเธอเกินไปแล้ว อาจารย์ฉีไม่เคยเข้าใจเลยสักนิด ภาษาอังกฤษยังทำคะแนนเต็มได้ ภาษาจีนคือภาษาแม่แท้ๆ กลับทำคะแนนสู้ภาษาต่างประเทศไม่ได้?
โชคดีเกิดขึ้นในครั้งนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานอาจทำได้ดีเหนือมาตรฐานปกติ หรืออาจทุ่มเทเวลาให้วิชาภาษาจีน จนสอบได้คะแนนสูงสุดนับั้แ่เข้าโรงเรียนเป็ต้นมา
“95 คะแนน อย่าประมาทและใจร้อนไปนะ หวังว่าเธอจะทำเกาเข่าได้ดีเหมือนกัน... ไม่สิ เกาเข่าต้องเอาคะแนนสูงกว่านี้มาให้ได้!”
คะแนนเต็ม 120 คะแนน สอบได้ 95 คะแนน ถือว่าภาษาจีนของเซี่ยเสี่ยวหลานพัฒนาขึ้นอย่างมาก โจทย์การอ่านจับใจความมีแบบแผนสำหรับการตอบ ถ้อยคำสำนวนโด่งดังมีจุดสำคัญให้จดจำ ความสามารถในการถ่ายทอดความคิดของเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย กระบวนการคิดแบบนักเรียนสายวิทย์ของเธออาจขาดอารมณ์ความรู้สึก ทว่าเต็มไปด้วยเหตุผล ไม่ต้องเปลี่ยนภาษาจีนให้กลายเป็ลัทธิจินตนิยม [1] จับเจตนาของผู้ถามให้ได้ และตอบตามบรรทัดฐานก็พอ
อาจารย์ฉีไม่หมกเม็ดแม้แต่น้อย บอกคะแนนภาษาจีนเสร็จแล้ว เธอกลั้นความปลื้มปีติไว้ไม่อยู่
“...565 คะแนน นักเรียนเสี่ยวหลาน คะแนนรวมการสอบคัดเลือกรอบแรกของเธอคือ 565 คะแนน!”
ถ้าสอบคัดเลือกรอบแรกเป็เกาเข่าก็ดีน่ะสิ
อย่างไรก็ตาม ใน่หลายปีที่ผ่านมานับจากการฟื้นฟูเกาเข่า เซี่ยนอีจงไม่มีใครเคยสอบได้คะแนนสูงถึงขนาดนี้
อาจารย์ใหญ่ซุนมาช้าไปหนึ่งก้าว อาจารย์ฉีประกาศผลคะแนนสอบของเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว เขาเองก็ไม่สามารถตีหน้าบึ้งตึงแสร้งเคร่งขรึมได้อีกต่อไป
565 คะแนน ไม่มีใครในอันชิ่งเซี่ยนอีจงที่สอบได้คะแนนสูงมากขนาดนี้มาก่อน
ปีก่อนอันดับหนึ่งสายวิทย์ของมณฑลอวี้หนานก็สอบได้เพียง 584 คะแนนเช่นกัน
การสอบคัดเลือกรอบแรกในครั้งนี้ของเซี่ยเสี่ยวหลาน แม้ไม่ได้ครองอันดับหนึ่งประจำสายวิทย์ของมณฑลอวี้หนาน ทว่าอันดับหนึ่งของเขตอันชิ่งคือเธอ อันดับหนึ่งของเมืองเฟิ่งเสียนก็คือเธอเหมือนกันอย่างไม่ต้องสงสัย! อาจารย์ใหญ่ซุนอยากแขวนป้ายที่ทำเตรียมให้เซี่ยเสี่ยวหลานตั้งหลายหน ทว่าเขาห้ามใจไว้ทุกครั้ง... นี่เป็แค่การสอบคัดเลือกรอบแรก รอเกาเข่าก่อนค่อยแขวน!
เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าโจทย์ในการสอบคราวนี้ไม่ยาก เหนือสิ่งอื่นใดคือเธอทำวิชาภาษาจีนได้ดี สอบได้ 565 คะแนนถือว่าเป็เื่ปกติ
การพัฒนาคะแนนวิชาภาษาจีนเป็เื่ง่าย แต่การอยากพัฒนาคะแนนวิชารัฐศาสตร์นั้นยากมาก ข้อสอบรัฐศาสตร์ในตอนนี้ยากกว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า มีเกร็ดความรู้มากมายหลากหลายประเด็นที่เวลาตอบจะผิดไม่ได้แม้แต่ตัวอักษรเดียว ดังนั้นวิชารัฐศาสตร์ยังอยู่ในสถานะไม่ผ่านเกณฑ์ เซี่ยเสี่ยวหลานคาดว่ายากเกินไปที่จะเพิ่มคะแนนในวิชานี้ให้มากขึ้นอีก
อาจารย์ใหญ่ซุนตื่นเต้นเสียความปลาบปลื้มยินดีแผ่ล้น
“ถ้าทำคะแนนคงที่แบบนี้ตอนเกาเข่าได้ เธอสามารถสมัครสอบเข้าเรียนได้เกือบทุกมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเลยล่ะ!”
การกรอกใบสมัครเกาเข่าในปัจจุบันราวกับคนตาบอดดูดวง เมื่อสอบเสร็จก็ให้ผู้สอบไปโรงเรียนเพื่อ ‘ประมาณคะแนนล่วงหน้า’ ก่อนที่จะประกาศคะแนนจริง ประเมินคำตอบด้วยตนเองว่าได้คะแนนเท่าไร จากนั้นค่อยเลือกมหาวิทยาลัยที่้าโดยยึดคะแนนขั้นต่ำ คะแนนสุดท้ายออกมาแล้วได้รับการตอบรับก็ได้เรียน ไม่ถูกตอบรับก็ตกอันดับ คะแนนที่ได้จากการคาดคะเนมีความแตกต่างกับคะแนนที่แท้จริงอย่างแน่นอน เพื่อการถูกตอบรับเข้าเรียนอย่างราบรื่น คนส่วนใหญ่จึงมักน้อยเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้กลุ่มผู้เข้าสอบคะแนนสูงกระจัดกระจาย ผู้ที่สอบได้ 600 คะแนนกับผู้ที่สอบได้ 500 คะแนนปรากฏตัวในสถานศึกษาเดียวกันก็ไม่ประหลาดนัก ผ่านเกณฑ์รับเข้าศึกษาปริญญาตรีทั้งนั้นแล้วนี่นา!
เพราะฉะนั้นอาจารย์ใหญ่ซุนถึงกล่าวว่า หากเซี่ยเสี่ยวหลานสามารถทำคะแนนเกาเข่าเท่านี้ได้ ก็สามารถเลือกมหาวิทยาลัยได้เกือบทั้งประเทศ
เซี่ยเสี่ยวหลานมี ‘ความฝันถึงหัวชิง’ อยู่ในใจ มันยากที่จะบอกอาจารย์ใหญ่ซุน สิ่งที่อาจารย์ใหญ่ซุน้าคือผลิตนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังสักคน ส่วนมหาวิทยาลัยระดับเพชรยอดมงกุฎอย่างหัวชิงและจิงต้านี้ ถ้าจะทำให้อาจารย์ใหญ่ซุนเชื่อว่ามีนักเรียนในเซี่ยนอีจงสอบเข้าได้ โน้มน้าวให้เขาเชื่อว่าหมูปีนขึ้นต้นไม้เป็ยังน่าเชื่อกว่าเสียอีก!
อันดับหนึ่งสายวิทย์ของเฟิ่งเสียนคือเซี่ยเสี่ยวหลาน พอคะแนนนี้ออกมา ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมปลายหลายแห่งในเมืองเฟิ่งเสียนต่างยอมรับไม่ได้
โดนโรงเรียนมัธยมประจำเขตในปกครองชิงอันดับหนึ่งสายวิทย์ไป ยังเหลือความยุติธรรมอยู่อีกหรือ?
อันชิ่งเซี่ยนอีจงมีนักเรียนสอบติดมหาวิทยาลัยจำนวนหนึ่งทุกปี แล้วอย่างไรเล่า ไม่ใช่แค่โรงเรียนมัธยมปลายประจำเขตอยู่ดีหรอกหรือ! ปีนี้โรงเรียนมัธยมปลายจากเขตทำเกินไปแล้วจริงๆ เป็การร่วมกันทุจริตหรือเปล่า อัตราผ่านการสอบคัดเลือกรอบแรกสูงถึง 75% นี่เป็อัตราการผ่านของเฟิ่งเสียนอีจงและเฟิ่งเสียนเอ้อร์จงเลยทีเดียว เฟิ่งเสียนซานจงที่เซี่ยเสี่ยวหลานและคนอื่นๆ ไปสอบนั่น อัตราผ่านการสอบคัดเลือกในปีนี้ยังสู้อันชิ่งเซี่ยนอีจงไม่ได้ด้วยซ้ำ!
การสอบคัดเลือกรอบแรกสิ้นสุด สำนักบริหารงานการศึกษาเมืองเฟิ่งเสียนจัดการประชุมขึ้น อาจารย์ใหญ่ซุนแสดงอาการกระหยิ่มยิ้มย่องขนานใหญ่
ที่ผ่านมาการสอบคัดเลือกจะปัดนักเรียนของอันชิ่งเซี่ยนอีจงทิ้งได้ครึ่งหนึ่ง 5 ใน 10 คนของนักเรียนที่สอบการคัดเลือกรอบแรกผ่านมีโอกาสร่วมการสอบเกาเข่า โรงเรียนมัธยมปลายที่ดีที่สุดของเขตอันชิ่งมีศักยภาพเท่านี้ อาจารย์ใหญ่ซุนโอ้อวดกับอันชิ่งเอ้อร์จงได้เท่านั้น เวลามาประชุมที่เฟิ่งเสียนไม่แม้แต่จะเงยหน้า ปีนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว อัตราการผ่าน 75% ในผู้เข้าสอบของอันชิ่งเซี่ยนอีจงจำนวน 100 คน มี 75 คนที่ได้สิทธิ์ร่วมสอบเกาเข่า และอันดับหนึ่งสายวิทย์ของเมืองเฟิ่งเสียนยังอยู่ในอันชิ่งเซี่ยนอีจงอีกด้วย ระหว่างการประชุมบรรดาผู้บริหารต่างพากันยอมรับในผลการทำงานของอาจารย์ใหญ่ซุน
เชิญอาจารย์ใหญ่ซุนบรรยายประสบการณ์ทำงานในที่ประชุม ให้บุคลากรของโรงเรียนอื่นตั้งใจฟัง
อันที่จริงอาจารย์ใหญ่ซุนไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ทรัพยากรนักเรียนที่เข้าสอบปีนี้ไม่ต่างจากปีก่อนเท่าไรนี่นา เกณฑ์คะแนนการรับนักเรียนซ้ำชั้นก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลง แต่อัตราผ่านการสอบคัดเลือกรอบแรกกลับสูงขึ้น!
เป็เหล่าวังที่ไขข้อข้องใจให้เขา “วิชาภาษาอังกฤษของปีนี้ นักเรียนส่วนใหญ่คะแนนสูงขึ้นกันหมด”
อย่างน้อยเพิ่มขึ้น 10 กว่าคะแนน อย่างมากเพิ่มขึ้น 30 กว่าคะแนน ทั้งที่เมื่อก่อนนักเรียนทุกคนต่างเคยหวาดกลัววิชาภาษาอังกฤษ แต่ปัจจุบันราวกับตรัสรู้สิ่งใหม่กันเป็หมู่คณะ เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เมื่อใช้ถูกวิธี ภาษาอังกฤษจะไม่ได้ยากอย่างที่ทุกคนคิด หากมีแต่ความกลัวต่อวิชาใดวิชาหนึ่ง จะไม่มีกระทั่งความสนใจและความกล้าในการเรียน ย่อมกลายเป็วงจรอุบาทว์ที่ยิ่งเรียนยิ่งยาก พอยิ่งยากยิ่งไม่อยากเรียนไม่ใช่หรือ!
ความจริงแล้ววิชาอื่นคะแนนสูงขึ้นด้วยเช่นกัน เพียงแต่ไม่ชัดเจนเท่าวิชาภาษาอังกฤษ
ข้อสอบภายในประเภทต่างๆ ที่เซี่ยเสี่ยวหลานนำกลับมาไม่ได้ถูกทำโดยเสียเปล่าจริงๆ อย่างไรเสียนั่นก็เป็ ‘เคล็ดลับที่ไม่เผยแพร่’ ของโรงเรียนมัธยมปลายประจำเมืองมณฑล มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกำลังต่อสู้ของผู้เข้าสอบจากอันชิ่งเซี่ยนอีจง ด้วยเหตุนี้จึงเกิดผลสำเร็จอันที่น่าจับตามองในการสอบคัดเลือกรอบแรก ทว่าการจะทำให้สำนักงานศึกษาธิการประจำมณฑลตกตะลึงนั้นไม่ง่าย นี่เป็เพียงการสอบคัดเลือกและยังไม่ใช่เกาเข่า
แต่อัตราการผ่านครั้งนี้ทำให้สำนักบริหารงานการศึกษาเมืองเฟิ่งเสียนตกตะลึงแน่นอน ถึงได้มีภาพอาจารย์ใหญ่ซุนรายงานประสบการณ์ทำงานท่ามกลางบุคลากรทุกคนเช่นนี้
สิ่งเดียวที่ไม่น่าอภิรมย์คือ อาจารย์ใหญ่จากเฟิ่งเสียนเอ้อร์จงหน้าไม่อาย กล่าวต่อหน้าผู้บริหารสำนักงานการศึกษา การที่อันดับหนึ่งสายวิทย์ของการสอบคัดเลือกรอบแรกประจำเมืองเฟิ่งเสียนศึกษาเล่าเรียนในเขต จะเป็การถูกถ่วงให้ไม่ก้าวหน้าหรือไม่
“ถ้าครูใหญ่ซุนยินยอม พวกเราเฟิ่งเสียนเอ้อร์จงยินดีมากที่จะรับนักเรียนคนนี้ เอ้อร์จงจะจัดหาอาจารย์ที่เก่งที่สุดให้เธอเพื่อเตรียมพร้อมเป็พิเศษ ทำให้เธอสามารถคว้าอันดับหนึ่งของมณฑลในการสอบเกาเข่าให้ได้!”
เชิงอรรถ
[1]浪漫主义 ลัทธิจินตนิยม หรือในภาษาอังกฤษ Romanticism คือ กระแสทางศิลปะแขนงหนึ่ง เน้นการถ่ายทอดอารมณ์ให้ตราตรึงใจผู้ชมผลงาน ไม่ยึดตึดกับกฎเกณฑ์แบบแผนดั้งเดิม เต็มไปด้วยจินตนาการของศิลปิน