“นี่เธอ เป็อะไรรึเปล่า?” จี้หนิงยืนอยู่ที่ประตู หลังจากพิจารณาถึงสถานะของพวกเธอในฐานะผู้หญิงไซด์ไลน์ด้วยกันแล้ว คาดว่าน่าจะเป็เื่ปกติที่จะเป็ห่วง NPC คนนี้
เผื่อจะได้ข้อมูลสำคัญจากเธอคนนี้ก็ได้
ผู้หญิงที่ร้องไห้อยู่ตรงมุมห้องสวมชุดว่ายน้ำวันพีซสีชมพูแบบมีช่องตรงกลางบริเวณหน้าท้อง ดูแล้วก็ปกปิดเนื้อหนังมากกว่าคนอื่นๆ
เมื่อได้ยินเสียงคนถาม ผู้หญิงคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา และพบว่าดวงตาของเธอแดงก่ำเต็มไปด้วยน้ำตา ทำให้รู้สึกสงสารเธอขึ้นมาทันที
เธอคือสาวงามร่างบอบบาง
เธอรีบขยี้ตาเพื่อเช็ดน้ำตา แล้วส่ายหน้าให้กับจี้หนิง “ไม่เป็ไร ฉันก็แค่อารมณ์ไม่ค่อยดีนิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวจะขึ้นไปแล้วละ เธอรีบขึ้นไปก่อนเถอะ ไม่อย่างนั้นจะถูกดุเอาได้นะ”
จี้หนิงคิดในใจ ร้องไห้หนักขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ
แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ถามซ้ำอีกถ้าถูกอีกฝ่ายปฏิเสธแบบนี้ จี้หนิงจึงพยักหน้าและตอบกลับไป “ก็ได้ งั้นฉันไปก่อนนะ” เธอหันหลังกลับแล้วปิดประตูก่อนเดินจากไป
โดยก่อนจากไป จี้หนิงเหลือบไปมองเธออีกครั้งและสังเกตรูปร่างหน้าตาของเธอ
ด้วยการพบเจออย่างไม่คาดคิดนี้ จี้หนิงกลับไปที่ชั้นหนึ่งของเรือสำราญ และพบสิงเยี่ยกำลังยืนพิงราวบันไดอยู่ เขายังคงรอเธออยู่ตรงที่ที่เธอแยกจากเขาไปเมื่อสักครู่ เธอจึงรีบวิ่งเหยาะๆ ไปหาเขา
สิงเยี่ยรู้สึกประทับใจกับชุดใหม่ของจี้หนิง คว้าเอวของเธอดึงมาไว้ในอ้อมแขน แล้วพูดกึ่งติดตลกว่า “คุณสวยมาก ทริปนี้คุณจะเป็ของผมคนเดียวเท่านั้น”
จี้หนิงเอียงศีรษะและยิ้ม “ได้ค่ะคุณผู้ชาย”
ราวกับสนุกไปกับเธอ สิงเยี่ยเอนตัวไปหอมแก้มจี้หนิง แล้วทิ้งคำพูดไว้ข้างหูของเธอ “ผมเพิ่งพบอะไรบางอย่างเข้า”
แน่นอนว่าจี้หนิงก็รีบขยับเข้าไปใกล้ๆ และมองไปยังโทรศัพท์ที่สิงเยี่ยส่งให้
บนโทรศัพท์มือถือเป็กระทู้เว็บบอร์ดในหมวดรักท้องถิ่น ซึ่งหัวกระทู้เขียนไว้ว่า เวยหย่งลูกพี่ลูกน้องที่แสนดีของเขาต้องตายเพราะถูกทายาทเศรษฐีของเครือจ้าวกรุ๊ปขับรถชนขณะกำลังแข่งรถ ก่อนทำการปิดข่าวนี้ด้วยเงิน จึงได้ไม่มีการรายงานข่าวออกไป
อาจเป็เพราะหัวข้อกระทู้ค่อนข้างธรรมดา อีกทั้งเนื้อหาก็มีแค่คำไม่กี่คำ และมีโพสต์ตอบด้านล่างอยู่ไม่มากนัก จึงเป็กระทู้แช่แข็งที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ
“ผมสังเกตเห็นโพสต์ตอบกระทู้หนึ่งที่เขียนโดยพนักงานบนเรือนี้ บอกว่าชื่อแซ่ของกัปตันเรือเองก็แซ่เวยเหมือนกัน แซ่เวยนี้เป็ชื่อแซ่ที่พบเจอไม่บ่อย บางทีกัปตันเรือกับผู้ตายอาจจะเป็พ่อลูกกัน” สิงเยี่ยที่โอบกอดจี้หนิงก็ก้มหน้าลง และทำเป็ดมไซ้ซอกคอของเธออย่างเมามัน เพื่อปิดบังการสนทนาที่แท้จริงของทั้งคู่
จี้หนิงยัดโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกันลมของสิงเยี่ยและโอบกอดเขาพร้อมพูดว่า “ฉันเองก็เจออะไรมาเหมือนกัน ในตอนที่เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ ฉันได้ยินเสียง NPC ร้องไห้ในห้องแต่งตัว เลยถามเธอว่าเป็อะไร แต่เธอไม่ยอมบอก ฉันรู้สึกได้ว่าต้องมีเื่อะไรอยู่แน่ๆ”
“นี่คุณสามารถสังเกตสิ่งรอบตัวได้แล้วเหรอเนี่ย” สิงเยี่ยรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาในความกระตือรือร้นของจี้หนิง เป็เื่ยากสำหรับผู้เล่นใหม่ที่จะปรับตัวให้เข้ากับเกมได้อย่างรวดเร็วและออกสืบหาเบาะแสอย่างแข็งขันแบบนี้ เขาจึงพูดชมเชยเธอออกไป “คุณปรับตัวได้เก่งมาก”
จี้หนิงอธิบายอย่างเขินๆ “ไม่หรอก แค่มันรู้สึกเหมือนเล่นเกมอยู่น่ะ ถ้า NPC ดูผิดปกติ ก็ถึงเวลารับภารกิจแล้ว”
สิงเยี่ยก่อนที่จะตายนั้นเคยอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่สีเทามาก่อน และต้องใช้ชีวิตอย่างเลียเืที่ปลายมีด เลยไม่ได้เล่นเกมมากเท่าไร เขาจึงไม่เข้าใจที่จี้หนิงพูดหมายถึงอะไร
แต่เื่นี้ไม่ได้ส่งผลต่อความชอบของเขาที่มีต่อความมีชีวิตชีวาและคล่องแคล่วว่องไวของเธอ
เขาตั้งใจแนะนำเธอ “ถ้าพิจารณาจากความสัมพันธ์ของกัปตันแล้ว นี่อาจจะเป็ด่านไขคดี และผมเคยเจอมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจาก NPC หลักถูกฆ่าตาย ก็จะพบผู้ต้องสงสัยจำนวนมากที่มีแรงจูงใจในการฆาตกรรม และวัตถุประสงค์หลักของภารกิจด่านนี้คือ ตามหาฆาตกรตัวจริง”
จี้หนิงถามกลับอย่างไม่แน่ใจ “ถึงกัปตันอาจจะมีแรงจูงใจ แต่ก็ใช่ว่าจะต้องเป็ฆาตกรตัวจริงไม่ใช่เหรอ?”
สิงเยี่ยมองเธออย่างชื่นชมและพยักหน้า
“ตอนนี้เรารู้เหตุการณ์ล่วงหน้าแล้วว่า NPC เ้าของวันเกิดอาจถูกฆ่า ถ้าอย่างนั้นเราก็แค่คอยแอบตามเขาไปและจับตาดูตอนที่เกิดเหตุก็ได้ใช่ไหม? แค่นี้พวกเราก็รู้คำตอบแล้ว” จี้หนิงถามอีกหน
“ไม่” สิงเยี่ยอธิบาย “คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือเข้าไปแทรกแซงเหตุการณ์ได้ ถ้าคุณถูกจับได้ ก็ถือว่าทำผิดกติกา”
จี้หนิงถอนหายใจ ดูเหมือนว่ากติกาในเกมเข้มงวดมากจริงๆ แถมไม่มีที่ว่างให้ผู้เล่นเอาเปรียบได้เลย
ตอนนี้ต้องขอบคุณการช่วยเหลือของสิงเยี่ย ที่ทำให้เธอรู้ข้อมูลล่วงหน้ามากมาย แต่ตามกติกาของเกมแล้ว เธอต้องรอจนกว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นเสียก่อนถึงจะทำอะไรได้
ถึงแม้จะทำอะไรไม่ได้เลย แต่เมื่อเทียบกับผู้เล่นที่ไม่รู้อะไรเื่เลยแล้ว จี้หนิงรู้สึกว่าตัวเธอโชคดีกว่ามาก
“เข้าไปดูข้างในกันเถอะ” สิงเยี่ยยกหัวกลับมาและเดินไปทางห้องด้านในชั้นหนึ่งของเรือสำราญ โดยมีจี้หนิงอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ภายในเรือถูกจัดเอาไว้เป็บาร์ส่วนตัว ในเวลานี้มีเสียงเพลงดังกระหึ่มอยู่ข้างใน หมู่ชายหญิงต่างกำลังดื่มและเต้นกันอย่างมีความสุข
นอกจากนี้ยังมีเวทีอยู่ตรงกลางซึ่งมีสาวสองคนกำลังเต้นรูดเสาอย่างสุดสยิว
นายน้อยฮุยตัวเอกของงานวันเกิดนี้ถูกโอบกอดจากทั้งซ้ายและขวา
แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากผู้ชายคนอื่นๆ ขณะโอบกอดสาวทั้งซ้ายขวา มีสาวคนหนึ่งดูสง่างามมาก และสวมชุดที่ไม่เหมือนคนอื่นนั่งอยู่ข้างๆ เขา
สิงเยี่ยพาจี้หนิงไปนั่งตรงโซฟาและแนะนำให้เธอรู้จัก “คนที่อยู่ข้างๆ นายน้อยฮุยคือแฟนสาวของเขา ครอบครัวเธอเองก็มีอำนาจมากพอๆ กัน เขาเลยไม่กล้าทำอะไรรุ่มร่ามต่อหน้าเธอ”
“ไม่แปลกใจเลย” จี้หนิงละสายตาไปจากผู้หญิงคนนั้น พลางมองไปรอบๆ ห้องแล้วเผอิญไปพบสาวงามร่างบอบบางที่นั่งร้องไห้อยู่ชั้นล่างก่อนหน้านี้
ในเวลานี้เธอกำลังขดตัวอยู่ตรงมุมห้อง ซึ่งไม่เข้ากับบรรยากาศรอบๆ ตัวเธอเลย
ขณะที่จี้หนิงกำลังจะชี้นิ้วให้สิงเยี่ยดู จู่ๆ ก็มีเสียงที่เธอคุ้นเคยดังมาจากข้างๆ
“พี่สิง ขอฉันนั่งตรงนี้ด้วยได้ไหม?”
จี้หนิงมองไปรอบๆ ก็พบผู้เล่นที่คุ้นหน้าคุ้นตา ทั้งสี่คนเป็ผู้เล่นหมายเลข 2, 4, 8 และ 9 ตามลำดับ
ผู้ที่พูดขึ้นก่อนก็คือผู้เล่นชายหมายเลข 8 ซึ่งจับคู่กับหมายเลข 4
จากผู้เล่นทั้งหมด 12 คน ผู้เล่นที่ได้รับบทบาทเป็ ‘สาวไซด์ไลน์’ ได้แก่ผู้เล่นหมายเลข 2, 4, 7 และจี้หนิง ในขณะที่ผู้เล่นชาย 4 คนได้รับบท ‘ทายาทเสเพล’ ได้แก่ผู้เล่นหมายเลข 3, 8, 9 และสิงเยี่ยหมายเลข 12
สำหรับผู้เล่นอีกสี่คนที่เหลือมีผู้หญิงสองคนถูกจัดให้เป็บริกร และผู้ชายอีกสองคนถูกจัดให้เป็บอดี้การ์ด
นี่คือบทบาทของแต่ละคนที่สิงเยี่ยบอกกับจี้หนิง
แม้จะมีความสัมพันธ์เชิงคู่แข่งระหว่างผู้เล่นด้วยกันมาก่อนก็ตามที แต่การให้ความร่วมมือกันตามเหมาะสมก็จำเป็เช่นกัน
สิงเยี่ยหันหน้าไปมองหมายเลข 8 ที่ยื่นขอสงบศึกมา ซึ่งเขาก็ไม่ปฏิเสธ ก่อนพยักหน้าให้และพูดว่า “นั่งลงสิ”
ผู้เล่นทั้งสามคู่ก็มารวมตัวกัน จากภายนอกแม้ดูเหมือนพวกเขาเป็มิตรสหายนั่งอยู่ด้วยกันพร้อมกับสาวไซด์ไลน์ แต่ความจริงแล้วมีคลื่นใต้น้ำแอบแฝงอยู่
เมื่อฟังจากการสนทนาของพวกเขา จี้หนิงรู้ว่าผู้เล่นหญิงหมายเลข 2 มีชื่อว่าเจียงซืออวี่
อาจเป็เพราะเจียงซืออวี่อยากจับคู่กับสิงเยี่ยในตอนแรก จี้หนิงซึ่งกลายมาเป็คู่ขาของสิงเยี่ยแทนที่เธอนั้น ทำให้เจียงซืออวี่ไม่เป็มิตรอย่างมากกับจี้หนิง
สายตาของเธอดูไม่ดีเอาเสียเลย
ในทำนองเดียวกันเยี่ยเจียิหมายเลข 9 เองก็ไม่ค่อยเป็มิตรกับสิงเยี่ย
แต่ไม่ว่ายังไง ทุกคนต่างเป็ตั๊กแตนที่อยู่บนเชือกเส้นเดียวกัน
หมายเลข 8 ที่นั่งถัดจากสิงเยี่ย ถือแก้วไวน์พร้อมชูเยื้องไปข้างหน้าแล้วพูดขึ้นมา “ไหนๆ หมายเลข 10 ก็ถูกลบไปแล้ว ตอนนี้เหลือพวกเราอยู่แค่ 10 คน พี่สิงเจออะไรบ้างไหม?”
สิงเยี่ยหมุนไวน์ในแก้วอย่างไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ภายใต้ดวงตาสีดำเข้มของเขา “แล้วความจริงใจล่ะ?”
ในขณะที่หมายเลข 8 กำลังจะตอบ เจียงซืออวี่ลุกขึ้นยืนและเดินไปทางด้านหน้าของสิงเยี่ย แล้วคล้องคอเขาพร้อมกับเอนตัวไปด้านข้าง เพื่อเผยให้เห็นร่องหน้าอกลึกของเธออย่างชัดเจน “พี่สิง ฉันรู้มาว่ามี NPC ที่ชื่อเหอจื้อฟาง ได้ยืมเงินนายน้อยฮุยถึง 10 ล้าน แต่บริษัทของเขาเพิ่งจะล้มละลายเมื่อเร็วๆ นี้”
เมื่อจี้หนิงได้ยินเื่นี้ เธอก็ยิ่งแน่ใจแล้วว่าสิงเยี่ยเดาถูก
มีเบาะแสหลายอย่างที่ชี้ไปยังนายน้อยฮุยตัวเอกของงานวันเกิดนี้ พิสูจน์ได้แล้วว่านายน้อยฮุยจะต้องเป็ตัวละครหลักซึ่งเกี่ยวข้องกับเื่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
ฆาตกรที่ฆ่าลูกชายของกัปตันเรือ เ้าหนี้เงินกู้ก้อนโต... นี่คือเหตุผลที่นายน้อยฮุยอาจถูกฆ่า
“ลองค้นหาคำว่า ‘จ้าว’ กับ ‘แข่งรถ’ ดู” สิงเยี่ยแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างห้วนๆ และปัดมือของเจียงซืออวี่ออก ก่อนลุกขึ้นยืนและเดินไปที่บาร์ซึ่งมีเครื่องดื่มให้บริการอยู่
เจียงซืออวี่จ้องไปที่จี้หนิง จากนั้นกลับไปยังที่นั่งเดิมของตัวเองข้างๆ เยี่ยเจียิ
ตอนนี้จี้หนิงไม่ชอบเธอเอาเสียเลย
เมื่อสิงเยี่ยกลับมาพร้อมกับไวน์แก้วใหม่ จี้หนิงลุกขึ้นยืนและต้อนรับสิงเยี่ย
สิงเยี่ยหยุดและมองมาที่เธอ
จี้หนิงหยิบแก้วไวน์จากมือของเขามาจรดที่ริมฝีปากของตัวเองแล้วจิบคำโตๆ ก่อนดื่มอย่างรวดเร็วจนไวน์ไหลออกมาจากมุมปาก
หลังจากคิดดูแล้ว แค่ดื่มไวน์ของสิงเยี่ยมันยังไม่พอ จี้หนิงคว้าปกคอเสื้อกันลมของเขาแล้วดึงลงมาจูบ
ลูกกระเดือกของสิงเยี่ยขยับไปมา ตัวเขารู้สึกสนใจอาหารเลิศรสที่เข้ามาหาถึงปากของเขาเองแบบนี้มาก
เขากดแผ่นหลังของจี้หนิงด้วยฝ่ามือ เพื่อให้เอวของเธอเอนมาพิงเขา จากนั้นก็ยื่นลิ้นออกมาเพื่อเลียเอาไวน์ที่ติดริมฝีปากของจี้หนิง จากนั้นตามด้วยไวน์ที่ไหลออกมาจากปากของเธอ ไล่จนไปถึงคออันเรียวงามและหน้าอก...
เขาที่ฝังตัวเองอยู่ในร่องอกของจี้หนิง และสูดดมเอากลิ่นหอมเข้าไปลึกๆ จากนั้นใช้ปากดูดจนเกิดเป็รอยสีแดงสตรอว์เบอร์รีบนหน้าอกของเธอ
ราวกับจิติญญาของจี้หนิงถูกดูดออกไป เธอส่งเสียงครวญครางออกมาเบาๆ
ในเวลานี้เองดนตรีก็เปลี่ยนเป็จังหวะเพลงแจ๊สสุดสยิวขึ้นแทน
มีคนหยิบไมโครโฟนขึ้นมาแล้วพูดขึ้น “เต้นยั่ว 3 นาทีกันหน่อยสาวๆ ขยับก้นเร็ว!”
ทันใดนั้นสาวๆ ที่อยู่รอบๆ ก็ลุกขึ้นมาทีละคนและเดินมาตรงเวที แล้วเอามือแตะหน้าอกพร้อมกับบิดบั้นท้ายของตัวเองไปมา เพื่อโชว์ให้กับเหล่าเศรษฐีผู้ชายดู
สิงเยี่ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับไปร่วมวงกับผู้ชายคนอื่นๆ เพื่อหามุมนั่งลงและยืดเหยียดขายาวๆ ของเขามองดูคู่ขาตัวน้อย ‘เข้าร่วมการแสดง’ อย่างสบายอารมณ์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้