หรงเหมยมีสีหน้าบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมือเล็กถูกจับไว้แน่นให้นางเดินตามร่างสูงโปร่งด้านหน้า ทั้งที่ระยะก้าวเดินของเขาปรกติ แต่สำหรับนางที่มี่ขาสั้นกว่ามาก นั้น จึงแทบจะเรียกว่านางกำลังวิ่งตามอยู่ก็ว่าได้
"ซีหยางข้าเหนื่อยแล้วนะ เ้าจะพาข้าเดินไปถึงไหนกัน" มือเล็กออกแรงสุดกำลังที่มีสะบัดฝ่ามือชายหนุ่มออก ก่อนจะยืนจ้องหน้าเขาเขม็งด้วยความไม่พอใจ
"อะไร"
"เหนื่อยไม่ใช่หรือ ขึ้นมา ข้าจะพาท่านกลับจวน"
"ให้ได้อย่างนี้สิ ค่อยคุยกันรู้เื่หน่อย" เมื่อเห็นเช่นนั้นริมฝีปากบางจึงคลี่รอยยิ้มพึงใจ อ้าลำแขนขาวรีบคล้องลำคอยาวไว้ ก่อนจะทิ้งตัวะโขึ้นแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มที่นั่งรอรับอยู่
เมื่อร่างเล็กขึ้นอยู่บนแผ่นหลัง ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะก้าวเดินต่ออีกครั้ง แต่คราวนี้เหวินซีหยางผ่อนระยะก้าวเดินให้ช้าลง เพราะกลิ่นกายหอมจากหญิงสาว ทำให้เขาเริ่มสงบใจลงได้บ้าง
ซีหยางยอมรับว่าก่อนหน้านี้อารมณ์เขาเต็มไปด้วยความขุ่นโกรธ ไม่รู้เพราะเหตุใด สตรีอย่างนางถึงชอบแอบไปเที่ยวเล่นในหอคณิกานัก เขาสั่งห้ามกี่ครั้งนางก็ไม่เคยฟัง ถูกจับกลับมากี่รอบก็ไม่เคยเข็ด มีแต่รั้งจะแอบหนีไปทุกครั้งที่มีโอกาส
"ไหนว่าต้องไปหาอาจารย์ที่ลั่วหยางกัน แล้วเหตุใดพวกเ้าถึงกลับมาได้"
"หากไม่กลับมา จะจับเด็กดื้อเช่นท่านได้หรือ"
"เหอะ ข้าละไม่เข้าใจจริง ๆ เหตุใดพวกเ้าถึงชอบมาวุ่นวายกับข้านัก"
"ข้าก็ไม่เข้าใจท่านจริง ๆ สถานที่แบบนั้นเหตุใดถึงชอบไปนัก" ซีหยางขยับร่างเล็กบนหลังให้นั่งดี ๆ เมื่อนางทำท่าจะเอนกายทิ้งน้ำหนักไปด้านหลัง
"เสี่ยวหยาง เหตุใดเ้าไม่เป็เด็กตัวน้อยที่น่ารักเหมือนเดิมเล่า เมื่อก่อนข้าพูดอันใด เ้าก็ได้แต่รับคำ ขอรับ ๆ ตลอด เด็กน้อยคนนั้นของข้าหายไปไหนแล้ว" หรงเหมยพลันนึกถึงเด็กน้อยตัวอ้วนกลม ที่คอยวิ่งตามติดนางไม่ห่าง ไม่ว่านางจะสั่งให้หันซ้ายก็ไปซ้าย ให้หันขวาก็ไปขวา ล้วนเป็เด็กน่ารักเชื่อฟังทุกคำ
ส่วนตอนนี้นะหรือ เื่ตามติดนั้นยังคงเป็เช่นเดิม และดูเหมือนจะมากขึ้นด้วย แต่ในเื่เชื่อฟังนั้น....
หากนางให้ไปขวา เด็กคนนี้ก็จะหักไปซ้ายเต็มกำลัง
ลมหายใจชายหนุ่มขาด่ไปหนึ่งจังหวะ เมื่อใบหน้าสวยแนบลงระยะใกล้ชิดจนปลายจมูกโด่งชนเข้ากับแก้มเขา หากตอนนี้มีแสงไฟมากพอ นางคงจะมองเห็นได้ทันทีว่าใบหน้ากับใบหูเขาขึ้นสีแดงก่ำเพียงใด
ซีหยางปล่อยให้หญิงสาวด้านหลังพร่ำพรรณนาถึงเื่ราวในอดีตต่อไป อย่างเช่นทุกครั้งที่นางถูกเขาขัดใจ ปากเล็ก ๆ นั้นจะคอยพ่นรำลึกแต่เื่เยาว์วัยออกมาไม่ขาด ราวกับนางนั้นจะกลายเป็ผู้สูงวัยในอีกสองปีข้างหน้า
เรือนร่างบางพลัดเปลี่ยนจากชุดบุรุษเป็ชุดสตรี หลังอาบน้ำชำระกายเรียบร้อยแล้ว ทว่าบุคคลที่สมควรกลับไปหลังจากส่งนางถึงจวนเรียบร้อย กลับยังนั่งอ้อยอิ่งอยู่ภายในห้องนางไม่ยอมกลับ
"คิดจะบ่นอันใดข้าอีกละ" หรงเหมยนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับชายหนุ่ม ทั้งที่นางสวมใส่เพียงชุดตัวในบางเบาสำหรับเตรียมเข้านอน โดยไม่คำนึงสักเพียงนิดว่าไม่เหมาะสม เพราะอย่างไรสำหรับนางแล้ว ซีหยางก็เปรียบเสมือนพวกเ้าแฝด เป็น้องชายอีกคนของนาง
และที่สำคัญภายในห้องมิได้มีเพียงเขาและนางสองคนเท่านั้น ยังมีลี่จูสาวใช้ที่กำลังช่วยซับเส้นผมที่เปียกให้นางอีกคน
"เมื่อใดท่านจะเลิกไปสถานที่แบบนั้น"
"ใช่ข้าจะไปบ่อย"
"ไม่บ่อยก็ไปไม่ได้ ท่านเป็สตรี ทั้งยังไม่ได้ออกเรือน ผู้ใดรู้เข้าจะว่าอย่างไร" ซีหยางเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง ที่หญิงสาวไม่เคยจะเชื่อฟังคำเขาสักเพียงครั้ง
"เอาน่า เสี่ยวหยาง เ้าอายุเพียงเท่านี้ก็ขี้บ่นแล้ว หากแก่ตัวจะกลายเป็ตาแก่ขี้บ่นเอาได้ ข้าละไม่อยากนึกถึงอนาคตภรรยาของเ้าเลย"
ซีหยางที่คิดจะเอ่ยกับหญิงสาวต่ออีกสักสองสามคำ กลับต้องรีบหันหน้าหนีไม่กล้ามองเรือนร่างบางตรงหน้า เมื่อนางยกมือขึ้นทำท่าปิดหูส่ายใบหน้าไม่อยากฟังคำพูดเขา ทำให้ไม่ทันระวังจนสาบเสื้อที่เว้าลึกแหวกออกเผยให้เห็นเนินเนื้อขาว
ปฎิกิริยาของชายหนุ่มไม่ได้ทำให้หรงเหมยนึกสงสัย นางขอเพียงแค่เขาหยุดบ่นก็พอใจแล้ว ผิดกลับสาวใช้อย่างลี่จูที่ยืนอยู่ด้านหลัง มองออกทุกอย่างว่าคุณชายเหวินที่เ้านายของตนรักเหมือนน้องชายนั้น กำลังมีความรู้สึกอย่างไร
"เป็อะไรของเขา" หรงเหมยยืนเกาะขอบหน้าต่างห้องนอน มองเงาสายหนึ่งบนหนังคา ที่อยู่ ๆ ก็ะโออกไปไม่ยอมบอกแม้แต่คำลา
"คุณชายเหวินคงนึกขึ้นได้ว่าติดภารกิจละมั้งเ้าคะ"
"เด็กคนนี้ นึกจะไปก็ไป ช่างเถอะ"
ลี่จูทำได้แต่นึกอยู่ภายในใจระหว่างพาเ้านายสาวเข้านอน ว่าคุณชายเหวินจะอยู่ต่อได้อย่างไร ในเมื่อมีหญิงงามสวมใส่ชุดวาบหวิวเผยทรวดทรงเย้ายวนอยู่ตรงหน้าเช่นนี้
คุณชายเหวินไม่ตบะแตก จับคุณหนูกดกับเตียงก็ถือว่าดีเท่าไหร่แล้ว
เฝิ่นลู่มาหาสหายแต่ยามเช้า เพราะเมื่อคืนแยกกันโดยไม่ได้พูดคุย ทำให้นางเป็ห่วงว่าสหายจะถูกเ้าเด็กหนุ่มนั้นจับกินไปแล้วก็เป็ได้
"พี่เฝิ่นลู่มาแต่เช้าเลยนะขอรับ"
"แน่สิ ข้าจะมาดูให้แน่ใจ ว่าพวกเ้าปล่อยให้สหายของพวกเ้าทำอันใดสหายของข้าหรือเปล่า"
"พี่เฝิ่นลู่ก็พูดไป พี่หญิงก็เป็พี่สาวของพวกเรานะขอรับ"
"ใช่ ๆ"
เฝิ่นลู่ส่ายใบหน้าระอาให้กับเด็กหนุ่มที่ใบหน้าละม้ายคล้ายกัน จนแทบแยกไม่ออกว่าคนไหนเป็คนไหน ยังดีที่นางโตมากับเด็กทั้งสองคนนี้ จึงไม่ยากเกินไปสำหรับนางนักที่จะแยกฝาแฝดคู่นี้ออก
"อาลู่มาแล้วหรือ ข้าขอโทษที่เมื่อคืนทิ้งเ้าไว้เช่นนั้น" หรงเหมยเดินแหวกกลางระหว่างน้องชายสองคน ตรงเข้าจับมือสหายด้วยความรู้สึกผิด
"ไม่เป็ไร เด็กสองคนนี้ไปส่งข้าถึงเรือน ปลอดภัยดีไม่ต้องห่วง"
"เพราะเป็เด็กพวกนี้แหละข้าถึงห่วง"
"อ้าวพี่หญิง ไหงว่าพวกเราอย่างนั้นละ"
"ข้ายังไม่ได้เอาเื่พวกเ้าเลยนะ บอกท่านพ่อท่านแม่ว่าจะไปลั่วหยางมิใช่หรือ ยังไม่ทันข้ามวันเหตุใดถึงกลับมาแล้ว" นิ้วเรียวไล่จิ้มเข้าหน้าผากน้องชายทั้งสองคนอย่างคาดโทษ
"ก็...."
"อาจารย์ท่านเปลี่ยนกำหนดกลับเร็วขึ้น พวกข้าเลยไม่ต้องไป ใช่ไหม" หรงเจียงหันไปพยักหน้าให้น้องชายเห็นด้วย พวกเขาสองคนจึงกลายเป็พยักหน้าพร้อมกันราวไก่จิกอาหาร
ผู้ใดจะกล้าบอกกัน ว่าซีหยางแอบสงสัยว่าพี่สาวจะแอบหนีเที่ยว เลยยกเลิกไม่ไปลั่วหยาง ให้ทางสำนักศึกษาหาคนอื่นไปแทน
ซึ่งทางผู้เป็พี่สาวก็เชื่อไม่คิดจะซักไซ้พวกเขาต่อ ต่างจากเฝิ่นลู่ที่นั่งอยู่ด้วย นางรับรู้ได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มคู่นี้กำลังโกหก เพราะท่าทางส่อพิรุธซะขนาดนั้น หากมองไม่ออกก็โง่เต็มทนแล้ว
แล้วก็แน่นอน สหายนางมองไม่ออก
****************************
สามารถพูดคุยทักทายกันได้ที่ เพจ Hawthorn-ฮอว์ธอร์น นะคะ
