“เมื่อครู่ตอนที่ขึ้นเขา คนที่ถูกเรียกว่าเ้าสี่ได้กระซิบกับหัวหน้ากองโจร ข้าจึงลองอ่านปากเขาดู เพียงแต่หากพวกเขาคิดจะสมปรารถนาคงเป็ไปไม่ได้ ท่านแม่แค่รอข่าวดีจากลุงจ้าวก็พอ”
ชีเหนียงมองลั่วจิ่งเฉินเหมือนตัวประหลาดอยู่สักพักใหญ่ เ้าเด็กนี่ไปฝึกการอ่านปากมาั้แ่เมื่อใดกัน
“เ้าฝึกการอ่านปากเป็ั้แ่เมื่อใด?”
ลั่วจิ่งเฉินถูกถามเช่นนี้ก็นึกได้กะทันหัน การอ่านปากนั้นมาจากการฝึกฝนของเขาเอง เขาไม่ถูกชะตากับจ้าวจือชิงมาตลอด นับั้แ่ครั้งนั้นที่เขาถูกจ้าวจือชิงบังคับขอดูขา จ้าวจือชิงก็มักจะพูดแบบไร้เสียงกับเขา ทำให้เขาได้แต่พยายามอ่านการขยับรูปปากของอีกฝ่ายว่าตกลงกำลังพูดอะไรอยู่ พอทำซ้ำๆ เช่นนี้จึงทำให้ตนเองอ่านปากได้
หรือว่าทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จ้าวจือชิงตั้งใจ เขาคำนวณไว้อยู่แล้วว่าสักวันจะต้องมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
“ท่านแม่ ท่านลุงจ้าวเคยบอกเื่ราวของคนที่คิดปองร้ายท่านแม่จากที่ลับกับท่านบ้างหรือไม่?”
ชีเหนียงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่เคย เขาไม่เคยพูดอะไรทั้งนั้น”
ท่าทางตื่นเต้นเกินเหตุของชีเหนียงทำให้เขารู้ว่า ท่านแม่จะต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ เพียงแต่จากท่าทีของท่านแม่คงไม่คิดจะบอกเขาแต่แรก
“ท่านแม่ ข้าไม่สนว่าท่านลุงจ้าวบอกอะไรกับท่านหรือไม่ เพียงแต่การไปเมืองหลวงของเราคงต้องเจอกับอันตรายอีกมาก” ไม่ว่าท่านแม่จะปิดบังอะไรเขาและถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยแต่เขาก็เข้าใจท่านแม่เช่นกัน
เมื่อมองดูสีหน้าหนักใจของจิ่งเฉิน ชีเหนียงก็รู้ว่าจากสติปัญญาอันหลักแหลมของเ้าใหญ่จะต้องคาดเดาเื่ราวได้มากมาย เพียงแต่นางไม่้าทำให้ชีวิตอันสดใสของเขาต้องมีปัญหาเคร่งเครียดเพิ่มขึ้นมา ดังนั้นนางจึงแค่พยักหน้ารับและไม่ได้พูดอะไรอีก
ส่วนพฤติกรรมความห่วงใยและกลัวจะกระทบจิตใจที่สองแม่ลูกสกุลลั่วกระทำนี้หญิงสาวชุดดำเห็นอย่างแจ่มแจ้ง ขณะเดียวกันนางก็เข้าใจความรู้สึกของพวกเขาได้เช่นกัน
“คือว่า…” หญิงสาวชุดดำส่งเสียงขัดจังหวะสองแม่ลูก “คนของกองโจรเลี่ยหยางเหล่านี้ได้มายังสันเขาิญญาเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว ข้าเองก็ไม่ทันระวังและได้ยินพวกเขาคุยกันถึงรู้”
หญิงสาวชุดดำยินดีบอกเล่าเื่เหล่านี้กับพวกเขา ไม่เพียงแค่เพราะพวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ที่มากไปกว่านั้นคือ นางมีลางสังหรณ์ว่าพวกลั่วชีเหนียงจะต้องพานางหลบหนีจากเงื้อมมือของกองโจรเลี่ยหยางได้แน่ นางเพียงหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะสามารถกลับมาอยู่พร้อมหน้ากับจินเป่าอีกครั้ง ส่วนเื่การแก้แค้นให้สามี หากแก้แค้นได้จะดีที่สุด แต่ครั้นหากไม่อาจแก้แค้นได้จริงๆ นางก็ได้แต่ต้องยอมรับ ขอเพียงจินเป่ามีชีวิตรอดปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว
“ถ้าพวกเ้าสามารถช่วยจินเป่าออกมาได้ข้ายินดีบอกในสิ่งที่ข้ารู้ให้กับพวกเ้าทั้งหมด” คราวนี้หญิงสาวชุดดำไม่กลัวพวกเขาอีกต่อไป นางคุกเข่าวิงวอนต่อหน้าชีเหนียง “ขอเพียงพวกเ้าช่วยจินเป่าของข้าได้ จะให้ข้าทำอะไรก็ย่อมได้”
ชีเหนียงเห็นดังนั้น แม้อยากจะประคองนางให้ลุกขึ้นมาแต่มือถูกจับมัดไว้จึงได้แต่ส่งเสียงอย่างร้อนใจ “นี่เ้าทำอะไร เราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน หากมีโอกาส ย่อมไม่มีทางทิ้งพวกเ้าไว้แน่”
ชีเหนียงไม่กล้าพูดรับประกันว่าจะทำได้ ประวัติที่มาของหญิงสาวชุดดำ พวกนางยังไม่รู้ จึงไม่อาจให้คำมั่นได้ตามอำเภอใจ
เหมือนหญิงสาวชุดดำจะรู้ความกังวลของนาง จึงคุกเข่ากับพื้นและพูดขึ้นเอง
“ข้าชื่อว่า ซีเสีย เดิมทีเป็คุณหนูตระกูลร่ำรวย สิบปีก่อนได้ครองรักกับบัณฑิตคนหนึ่ง แต่น่าเศร้าที่ท่านพ่อเห็นว่าเขาเป็เพียงบัณฑิตยากจน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมให้ข้าแต่งงานกับเขา”
ซีเสียบอกเล่าประวัติที่มาของตนเอง ตอนนั้นนางกำลังอยู่ในวัยสาวสะพรั่ง หัวใจมีเพียงความรัก เพื่อบัณฑิตผู้เป็ที่รัก นางตัดใจทอดทิ้งบิดามารดาและหนีตามกันมา หารู้ไม่ว่าพอทั้งสองมาถึงสันเขาวั่งอัน ซึ่งก็คือสันเขาิญญาในปัจจุบัน ไอหมอกประหลาดก็โหมมาทั่วทุกทิศ ร่างกายของนางอ่อนแรง เงินทองของมีค่าล้วนถูกบัณฑิตหลอกเอาไปหมดสิ้น ยิ่งไปกว่านั้น นางยังถูกบัณฑิตผู้นั้นผลักลงจากสันเขาอย่างเหี้ยมโหด
“ตอนนั้นจุดที่ข้าร่วงลงไปคือบึงน้ำพอดี ร่วงหล่นจากที่สูงกลับไม่เป็อะไร ตอนนั้นข้าแอบกลับบ้าน กลับพบว่าท่านพ่อรังเกียจหาว่าข้าทำขายหน้า จึงป่าวประกาศกับภายนอกว่าข้าได้ตายไปแล้ว”
เพียงแต่ทุกครั้งที่นางนึกถึงตัวตนของตนเองก็จะเ็ปจับใจ ครั้นเมื่อนึกถึงเื่ราวหลอกลวงจากบัณฑิตก็ยิ่งชิงชัง ประจวบกับตอนนั้นเป็่ที่หมอกในสันเขาิญญาลงอย่างหนาจัด เสียงร้องไห้ของนางเหมือนดั่งเสียงร้องโหยหวนของิญญาสาว ผู้ที่หวาดผวาจึงทิ้งของเซ่นไหว้ไว้ทุกครั้งที่เดินทางผ่าน นางที่ไม่มีของกินเมื่อเห็นของเซ่นไหว้เหล่านี้จึงน้อมรับไว้ นานวันเข้านางก็พบโอกาสอยู่รอดต่อไป จึงแกล้งเป็ิญญาสาวบนสันเขาวั่งอัน
เมื่อชีเหนียงได้ฟังก็เข้าใจเื่ราวได้ทั้งหมด “นี่เป็เื่เข้าใจได้ แล้วเด็กจินเป่า?”
ซีเสียเอ่ยถึงจินเป่าก็หน้าแดงระเรื่อ “เด็กคนนั้นคือลูกของข้ากับสามีใหม่ น่าเสียดายที่เพราะตัวตนของข้า จินเป่าจึงได้แต่อยู่ในสันเขาิญญาโดยไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันเช่นนี้มาโดยตลอด”
ที่แท้ เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว เฉินจื้อิ นายอำเภอแห่งอำเภอวั่งอันตั้งใจจะขึ้นไปกำจัดเื่ราวขวัญผวาของิญญาสาวที่ทำให้ชาวเมืองหวาดกลัว เพียงแต่หลังจากขึ้นไปสันเขาวั่งอัน เฉินจื้อิกลับพบว่าิญญาสาวบนเขาแห่งนี้ กลับเป็เพื่อนสมัยเด็กที่เติบโตมาด้วยกันมา ตอนที่ได้ข่าวว่าหญิงในดวงใจของตนเสียชีวิต ทำให้เฉินจื้อิหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อไป เขาเกลียดชังที่เหตุใดจึงไม่บอกกล่าวความรู้สึกของตนให้นางรับรู้แต่แรก หากเขามีความกล้าสักหน่อย คงไม่ต้องพลัดพรากจากกันกับคนที่รักไปคนละภพเช่นนี้
นับแต่นั้นมา เฉินจื้อิก็มักจะมาแอบนัดพบกับนางที่สันเขาวั่งอัน เดิมทีทั้งสองก็รู้สึกดีต่อกันและสนิทสนมกันั้แ่วัยเยาว์ ความชอบพอที่เฉินจื้อิมีต่อนางก็ทวีความชัดเจนอย่างรุนแรง การสูญเสียและได้คนที่รักคืนกลับมาจึงหวงแหนและทะนุถนอมนางเป็อย่างมาก เพียงไม่ถึงหนึ่งปีทั้งสองก็ตัดสินใจครองคู่อยู่ด้วยกันโดยมีฟ้าดินเป็พยาน ณ สันเขาวั่งอันแห่งนี้
เฉินจื้อิ้าให้นางกับจินเป่าลงจากเขาและใช้ชีวิตปกติ แต่ซีเสียกลับผ่านอุปสรรคทางใจของตนไม่ได้ ทั้งสองจึงทะเลาะกันใหญ่โต แต่ใครจะรู้ว่าการทะเลาะกันครั้งนี้กลับทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกันไปตลอดกาล
“ระหว่างทางที่จะมาขอโทษข้า จื้อิดันเจอกับพวกโจรเข้า ตอนที่เขามาคาดว่าคงเร่งรีบจนไม่ทันได้เปลี่ยนชุดขุนนาง คนเหล่านี้คือโจรชั่วอยู่แล้วเมื่อเห็นคนของทางการมีหรือจะใจอ่อน ข้ามองดูจื้อิล้มลงต่อหน้า แต่ข้ากลับทำอะไรไม่ได้ ข้าไม่อาจแก้แค้นให้เขาได้ ข้ายังต้องดูแลจินเป่า ข้าไม่อาจล้มลงเช่นนี้ ไม่อาจทำได้!”
ซีเสียน้ำตานองหน้า ่ที่ผ่านมานางยืนหยัดเพียงลำพัง พอตอนนี้ได้ระบายอารมณ์ความรู้สึกที่แหลกสลายออกมาทำให้นางห้ามน้ำตาไว้ไม่อยู่
รอจนนางสงบจิตใจลง ชีเหนียงถึงเอ่ยอย่างเชื่องช้า
“น้องสาว อย่าเก็บเื่ราวเ่าั้มาใส่ใจ อย่างน้อยเ้ากับจินเป่าก็ยังอยู่ดี ขอเพียงพวกเ้ามีชีวิตรอดปลอดภัยต่อไป ข้าเชื่อว่าใต้เท้าเฉินที่อยู่บน์ต้องดีใจแน่” ชายสารเลวมีมากมาย พวกนางต่างก็เคยลุ่มหลงและเสน่หาชายต่ำช้าสารเลวมิใช่หรือ อย่างน้องซีเสียก็โชคดีกว่านางเพราะยังมีชายที่รักนางและทำให้นางรู้สึกถึงความสวยงามของชีวิต
“เ้าวางใจได้ คนเหล่านี้้าจัดการข้า จากการบอกเล่าของเ้า พวกเขาน่าจะเคลื่อนไหวในอีกไม่นาน เ้าแค่ให้ความร่วมมือกับพวกข้าก็พอ”
ซีเสียมองดูชีเหนียงวางแผนด้วยความสุขุม เหมือนกับไม่หวาดกลัวกองโจรเลี่ยหยางแม้แต่น้อย นี่จึงทำให้สภาพจิตใจที่ระส่ำระสายของนางสงบลง
-----