ทันทีที่รัชทายาทตอบไปแบบนั้นเหล่าสาวๆ ก็พากันส่งเสียงกรี๊ดแสดงความยินดีกันมากมาย และพากันไปบอกปากต่อปากทำให้มีคนที่ไม่พอใจในเื่นี้เพราะตนเองก็สนใจไวท์อยู่ไม่น้อย จู่ๆ จะมาเอาไว้คนเดียวแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด และเริ่มออกตัวกันว่าชอบไวท์อย่างออกนอกหน้ากันในงานเลี้ยงทันที
"รัชทายาทจะพูดแบบนั้นไม่ได้นะพะยะค่ะ" เทรเลอร์ บอกพลางมองไปที่คนที่อยู่ข้างกายแล้วส่งสายตาให้ว่าอยากให้มาอยู่กับตนเองมากกว่า
"เ้าหมายความว่ายังไง สวิต เทรเลอร์"
"หม่อมฉันก็สนใจในตัวคุณชายริค ไวท์ ไม่น้อย แถมยังไม่ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็ทางการ เพราะฉะนั้นหม่อมฉันมีสิทธิที่จะได้เดินหน้าจีบคุณชายอย่างเต็มที่"
"ได้ข่าวว่าคุณชายเป็ถึงเชื้อพระวงศ์ที่รังเกียจมนุษย์มากเป็อันดับต้นๆ ทำไมถึงได้มาสนใจมนุษย์เสียแล้วล่ะขอรับ" บลัฟเฟอร์ถามด้วยสีหน้ากวนประสาทเพราะเขารู้มาตลอดว่าคุณชายคนโตจากตระกูลสวิตเกลียดชังมนุษย์มากแค่ไหน ทำไมถึงได้ให้ความสนใจคนที่เขาหมายปองเสียได้
"ไวท์ออกจะน่ารักขนาดนี้ พวกเราสองคนจะไม่เข้าร่วมได้ยังไง จริงไหมครอส"
"แน่นอนครับพี่คลาส พวกเราไม่พลาดงานที่มันสนุกขนาดนี้อย่างแน่นอน"
"ตรวจสอบเื่ที่ไปที่มาถูกต้องแล้วจะหมั้นเลยรึพะยะค่ะ ตัดสินใจเร็วเกินไปหรือเปล่า" เรเวล ถามด้วยความกังวล ความเป็ไปของราชวงศ์คือสิ่งที่เขาจะต้องปกป้องเอาไว้ให้ได้ ไม่ใช่ให้คนจากเผ่าพันธ์ุอื่นมาทำร้ายเอาได้
"ยังคงเคร่งเื่นั้นไม่เปลี่ยนไปเลยนะ สารวัตรเนี่ย" คลาส อดที่จะล้อเลียนไม่ได้ ถึงจะรู้จักมาหลายปีแต่เขาก็ยังรำคาญที่มีคนที่มาปกป้องแบบนี้ มันดูไร้เหตุผลเกินไปหน่อย
"ท่าทางว่าสารวัตรจะมาช้าเพราะเพิ่งจะออกเวร เด็กคนนี้คือลูกหลานของตาแก่ แค่นี้น่าจะบ่งบอกได้แล้วนะว่าใครกันที่ควรถอยจากเื่นี้" ครอส จัดการสวนต่อจากพี่ชายฝาแฝดทันที ไม่ว่าใครก็ห้ามมารังแกคนที่พวกเขาชอบเด็ดขาด ไม่งั้นพวกมันมีจุดจบที่ไม่สวยแน่ๆ
"ว่าไงนะ! ลูกหลานตาแก่งั้นเหรอ" คำตอบของฝาแฝดทำให้เรเวลหันไปพิจารณาใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างละเอียดทันที ทำให้รู้ว่ามีความเหมือนเป็อย่างมาก แบบนี้ใช่แน่ๆ โคตรจะใช่ ทำให้ถึงกับกลืนน้ำลายอย่างลำบากเลย
"หึ! เงียบได้สักทีนะ จะได้รู้สักทีว่ากำลังพูดอยู่กับใคร" รัชทายาทพึงพอใจมากที่หลังจากสารวัตรจอมวุ่นวายรู้เื่ราวแล้วหยุดรามือกับกระรอกน้อยของเขาเสียที ไม่งั้นคงจะทำตัววุ่นวายได้ตลอดเวลา หาเื่จับผิดกันตลอดแบบนี้ช่างขัดหูขัดตายิ่งนัก
แปะ! แปะ! แปะ!
"พักาน้ำลายกันไว้เท่านี้ หนูไวท์ต้องไปเตรียมตัวเื่การแต่งตั้งคนรับใช้และเหล่าอัศวินอีก เพราะฉะนั้นถ้าจะทะเลาะอะไรกันก็ปล่อยหนูไวท์ออกมาก่อน" ถึงจักรพรรดินีจะพูดด้วยรอยยิ้มแต่ทุกคนเดาได้ว่ามันคือรอยยิ้มพิฆาตมากกว่ารอยยิ้มจากใจจริง ทำให้ต่างพากันหลบให้ไวท์เดินไปหาได้ง่ายดาย
"ท่านจักรพรรดินีมีอะไรหรือเปล่าครับ กำหนดการมันวันพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ" เสียงทุ้มนุ่มถามด้วยสีหน้าสงสัยพลางเอียงคอไปมา แน่นอนว่ามีใครหลายคนเห็นมากมายงงกับการกระทำแบบนั้นแต่ดูไปแล้วก็น่ารักไม่ใช่น้อยเลย เพราะที่นี่ไม่มีใครทำแบบนี้เลยสักคนเดียว
"ทำไมน่ารักแบบนี้ ไปคุยกับแม่ดีกว่านะ ปล่อยเ้าพวกคนแก่ให้ทะเลาะกันต่อไป" คำพูดที่ว่าแก่ของจักรพรรดินีทำให้ทุกคนพากันมองกลับไปที่เ้าของเสียงทันทีเพราะว่าอายุของทุกคนในทีนี้รวมกันแล้วยังไม่น่าถึงอายุขององค์จักรพรรดินีเลยสักคนเดียว
คนน่ารักในกลุ่มได้ถูกลากไปทำงานอย่างอื่นต่อก็มาถึงคุยของเหล่าแวมไพร์ที่กำลังเติบโตเป็หนุ่มใหญ่ที่กำลังจะหาเื่กันต่ออย่างไม่หยุดยั้ง ถึงจะไม่มีการพูดอะไรกันมากแต่ต่างฝ่ายต่างรู้กันดีว่าชอบพอ ริค ไวท์ มากน้อยแค่ไหน อยู่ที่เหตุผลของแต่ละคนเสียมากกว่าว่าชอบร่างสูงโปร่งเพราะอะไร
"ข้าจะพูดให้ชัดๆ ว่าข้าชอบกระรอกน้อยั้แ่วันแรกที่เจอแล้ว ไม่ได้ชอบเพราะเป็ลูกหลานของตาแก่แต่ชอบเพราะเป็ตัวของกระรอกน้อยเองทั้งนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสายเื เป็ลูกหลานใคร เผ่าพันธ์ุไหน ถ้าใครชอบเพราะไวท์แปลก มีกลิ่นเืที่หอมหวาน เป็ลูกหลานตาแก่ แนะนำว่าอย่าเข้าใกล้เลยดีกว่า เพราะการชอบแค่เปลือกมันไม่ใช่" คีย์จงใจพูดชัดถ้อยชัดคำและเน้นน้ำหนักลงไปทุกอัน
"งั้นหม่อมฉันจะพูดให้ชัดเจนเหมือนกัน ตอนแรกสนใจเพราะเห็นว่ากลิ่นเืหอมดีแต่ว่าท่าทางไม่กลัวตายแบบนั้นเป็อะไรที่น่าสนใจยิ่งกว่า อยากรู้ว่าถ้ามาอยู่ข้างกายยังมีอะไรให้น่าประหลาดใจอีกไหม จริงๆ ก่อนที่รัชทายาทจะมาถึงข้าเกือบจะฆ่าเด็กคนนั้นไปแล้วเพียงแต่แววตาไม่เกรงกลัวแบบนั้นมันทำให้คิดว่าถ้าฆ่าไปคงไม่สนุกเลยปล่อยให้มีชีวิตรอดต่อไป"
"ช่างหน้าไม่อายเหลือเกิน เทรเลอร์ แบบนี้พวกข้าก็อดเล่นกับพี่สะใภ้น่ะสิ ไม่มีทางยกให้เ้าหรอก" ครอส บอกพลางแลบลิ้นด้วยเพราะไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับครอบครัวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
"ไม่รู้เลยหรือพะยะค่ะ ว่าสาเหตุที่เกิดช้ากว่าราชวงศ์อื่นเพราะท่านจักรพรรดิกลัวว่าจะเกิดการเลือกฝั่งเลยอยากทำให้ตำแหน่งของรัชทายาทมั่นคง"
"แล้วไงล่ะ พวกข้าไม่สนราชบัลลังค์อยู่แล้ว ให้ท่านพี่ทำไปจะได้สบาย ไปเที่ยวเล่นได้ตามใจชอบไม่ต้องมาเหนื่อยในวังหลวงด้วย โง่แล้วยังอวดฉลาดอีก" คำตอบของแฝดน้องว่าแสบแล้วเจอคำตอบของแฝดพี่เข้าไปแสบกว่าเยอะเลย เทรเลอร์ได้แต่กัดฟันด้วยความไม่พอใจ
"หม่อมฉันคิดว่าชื่อตอนแรกที่ไวท์มาที่นี่ก็น่ารักดี แต่พอถูกเปลี่ยนให้เข้ากับที่นี่ก็ยิ่งน่ารักขึ้นไปอีก อยากเห็นท่าทางแบบนั้นไปตลอดเลยแถมตอนที่ช่วยชีวิตข้าไว้ก็เท่ไม่ใช่น้อย" บลัฟเฟอร์บอกด้วยความจริงใจเพราะชอบท่าทางของไวท์มาั้แ่แรกเห็น
"คงจะต้องให้กระรอกน้อยตัดสินใจแล้วล่ะ ว่าจะเลือกใครมาเป็คู่หมั้น"
"หม่อมฉันก็คิดแบบรัชทายาทพะยะค่ะ" บลัฟเฟอร์เห็นด้วยเป็อย่างยิ่ง การบังคับฝืนใจใครไปไม่ใช่เื่ที่ถูกต้อง และคนมีอำนาจอย่างเขาก็สามารถเลือกสาวๆ มาได้มากมายหรือมีคนที่พร้อมจะถวายตัวให้ด้วยซ้ำ
"หม่อมฉันไม่ขอยุ่งกับเื่นี้ด้วย ลูกหลานตาแก่น่ากลัวที่สุด" เรเวลบอกพลางเดินหนีจากบทสนทนาการแย่งชิงบุตรบุญธรรมคนใหม่ของตระกูลริคไป
ทางด้านหนึ่งก็กำลังเคร่งเครียดกับการจัดลำดับคนดูแลข้างกาย อัศวิน แม่บ้าน พ่อบ้าน รวมถึงตำแหน่งต่างๆ ที่จะต้องมีให้ครบหากมีวังแยกตัวออกไปต่างหากจะต้องมีตำแหน่งให้ครบถ้วนเสียก่อน ดีที่ว่ามีเฟลิกซ์คอยช่วยอยู่ไม่ห่างทำให้ทำความเข้าใจอะไรหลายอย่างได้มากขึ้น ถึงจะอ่านภาษาของจักรวรรดิไม่ออกแต่มีผู้ช่วยแปลที่ดีขนาดนี้ถือว่าไม่เลวเลย
"คุณชายจะต้องฝึกภาษาจักรวรรดิให้เร็วที่สุดขอรับ เดี๋ยวเหล่าคนรับใช้ที่คัดเลือกมาแล้วจะมาเป็ผู้สอนให้กับคุณชายเอง" เฟลิกซ์บอกพลางช่วยเก็บเอกสารทั้งหมดที่เ้านายของตนเป็คนลงลายลักษณ์อักษรทั้งหมด
"ได้ครับ มีอะไรที่ต้องทำเพิ่มอีกไหม"
"การเรียนภาษาจักรวรรดิ ขนบธรรมเนียมในวัง กิริยามารยาท น่าจะเป็สิ่งที่ต้องเริ่มเรียนรู้ก่อนเป็อันดับแรก นอกนั้นยังมีเวลาสอนกันอีกนานขอรับเพราะอายุขัยของท่านยาวนานกว่าพวกเราเยอะ"
"หมายความว่ายังไง ลูกครึ่งแวมไพร์อายุขัยน้อยกว่าลูกครึ่งเทพกับัเหรอ"
"ใช่ขอรับ พวกเราอาจจะอยู่ดูแลไม่ได้ตลอดแต่ลูกหลานของพวกเราจะคอยดูแลข้างกายท่านไปตลอด"
