“ไม่ถูกวิธี? ” ฮวาเหนียงเอ่ยถามด้วยความใ “ไม่ถูกอย่างไรงั้นหรือ? ”
"ดอกหลิงเซียวชอบแสงแดด ร่มเล็กน้อย ชอบสภาพอากาศอบอุ่นและชุ่มชื้น ไม่อาจทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นต้องใช้ดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี อุดมสมบูรณ์และชุ่มชื้น ค่อนข้างทนต่อความชื้น และทนต่อความแห้งแล้ง"เซี่ยยวี่หลัวจับดินขึ้นมา พร้อมกล่าว "ดินของท่านถึงแม้จะชุ่มชื้น แต่ยังไม่อุดมสมบูรณ์พอนอกจากนั้น มุมกำแพงตรงนี้ร่มเกินไป ไม่มีแสงแดด ไม่ดีต่อการเจริญเติบโตของดอกหลิงเซียวถ้าอย่างไรท่านย้ายมันไปปลูกตรงมุมกำแพงที่มีแสงแดดส่องถึง"
เซี่ยยวี่หลัวชี้ไปยังมุมกำแพงที่อยู่ตรงข้าม"ตรงนั้นแสงแดดส่องถึง เหมาะกับการเจริญเติบโตของดอกหลิงเซียวเป็อย่างยิ่ง ดอกไม้ชนิดนี้บอบบางและล้ำค่าต้องเอาใจใส่คอยดูแลตัดแต่งกิ่งเป็ประจำ เช่นกิ่งเหี่ยวแห้งและกิ่งที่อ่อนแอเหล่านี้ล้วนต้องตัดทิ้งนอกจากนั้น กิ่งที่ยาวออกมา ต้องคอยชักนำหรือผูกไว้บนต้นเสา อย่าให้กิ่งของหลิงเซียวแตะพื้นดินเช่นนี้จะไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของหลิงเซียว! "
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอย่างฉะฉานฮวาเหนียงฟังจนอ้าปากตาค้าง แทบอยากหยิบกระดาษกับพู่กันมาจดไว้
"่ต้นฤดูร้อนในทุกปี ต้องใส่ปุ๋ยก่อนดอกหลิงเซียวจะบานหนึ่งถึงสองครั้งเน้นปุ๋ยชนิดเจือจางเป็หลัก ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนต้องรดน้ำในปริมาณที่เหมาะสม ดอกหลิงเซียวของท่านมีอายุมากกว่าสามปีแล้วเวลานี้ขอเพียงได้รับการดูแลอย่างดี ฤดูร้อนปีนี้ ต้องออกดอกแน่นอน! " เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม
ฮวาเหนียงได้ฟังนั้นจึงรีบกล่าว"ได้ได้ได้ ข้าจะให้คนย้ายไปทางนั้นทันที ถงเต๋อ เ้ารีบไปหาคน ขุดดอกไม้ต้นนี้ขึ้นมาจำไว้ ห้ามขุดโดนรากเด็ดขาด! "
ดอกไม้นี่ล้ำค่ายิ่งนัก!
ถงเต๋อรีบไปหาคน
ฮวาเหนียงพาเซี่ยยวี่หลัวเข้าไปในห้องอย่างสนิทสนมนำชาดอกไม้และขนมอย่างดีมาให้เด็กสองคน แล้วจึงพาเซี่ยยวี่หลัวเข้าไปในห้องด้านใน“ยวี่หลัว เ้ารู้ได้อย่างไรว่าดอกไม้นี่ต้องปลูกอย่างไร? เ้าไม่รู้ว่าสหายที่ให้ดอกไม้ข้ามา ยังไม่บอกข้อมูลข้ามากขนาดนี้เลย”
เซี่ยยวี่หลัวดื่มชาร้อนคำหนึ่งกล่าวอย่างเรียบสงบ “เคยอ่านจากตำรา”
ฮวาเหนียงเอ่ยถาม “เ้ายังมีตำราเล่มนั้นหรือไม่? สหายของข้าก็กำลังปลูกดอกไม้ชนิดนี้เช่นกัน ปลูกได้ไม่ค่อยดีเช่นเดียวกัน”
ตำรา?
ไม่มีตำราเล่มนั้นจริงๆ
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มเก้อ“ที่ข้าอ่านมาล้วนเป็ตำราเบ็ดเตล็ด ไม่รู้ว่าเคยอ่านเจอในตำราเล่มไหน”
ฮวาเหนียงเสียดายยิ่งนัก“เช่นนั้นก็ช่างน่าเสียดายนัก”
“หากฮวาเหนียงอยากบอกสหายของท่านข้าสามารถเขียนวิธีการปลูกดอกหลิงเซียวให้ท่านได้ แล้วท่านค่อยนำไปให้สหายของท่าน”เซี่ยยวี่หลัวกล่าวช้าๆ
ฮวาเหนียงได้ฟังดังนั้นย่อมรู้สึกยินดียิ่งรีบนำอุปกรณ์เครื่องเขียนมา เซี่ยยวี่หลัวเขียนวิธีการปลูกดอกหลิงเซียวรวมถึงข้อห้ามต่างๆไว้ทั้งหมด จากนั้นทั้งสองคนจึงเริ่มคุยธุระกัน
เมื่อเริ่มคุยธุระ ฮวาเหนียงก็ยิ้มจนตาหยีหยิบสมุดบัญชีมาให้เซี่ยยวี่หลัวดู “ยวี่หลัว หลังจากเ้าวาดแบบลวดลายเ่าั้ให้ข้ากำไรของร้านดีกว่าเดิมเป็เท่าตัว เมื่อก่อนหนึ่งเดือนจะมีรายรับเพียงหนึ่งร้อยตำลึงเดือนนี้มีรายรับสองร้อยกว่าตำลึงเชียว”
เมื่อหักรายจ่ายยิบย่อยออกเดือนนี้เซี่ยยวี่หลัวได้รับเงินยี่สิบตำลึง
เซี่ยยวี่หลัวเองก็ยิ้มจนแทบไม่เห็นตาเมื่อได้รับเงิน คิ้วงามโก่งโค้งประหนึ่งลูกสุนัขตัวน้อยที่ได้กินซาลาเปาไส้หมูก็มิปาน
หลังจากเซี่ยยวี่หลัวได้รับเงินก็คิดจะซื้อผ้าเพื่อตัดเสื้อให้เด็กสองคน
“ฮวาเหนียง ข้าอยากซื้อผ้าตัดเสื้อให้เด็กสองคนรบกวนท่านช่วยเลือกให้ข้าสักสองผืน” เซี่ยยวี่หลัวมีเงินก็คิดจะใช้จ่าย ย่อมต้องให้เด็กสองคนได้แต่งตัวอย่างสะอาดเรียบร้อย
“ได้ ที่นี่มีผ้ามากมายเ้าอยากซื้อผ้าชนิดไหน! ”
“เลือกเนื้อผ้าที่ใส่แล้วสบายก็พอ”เซี่ยยวี่หลัวกล่าว
พวกเขาล้วนมาจากหมู่บ้านชนบทใส่เสื้อผ้าดีเกินไปไม่ได้ อาจทำให้ผู้อื่นอิจฉา
ไม่ว่าอย่างไรฮวาเหนียงก็เป็คนมีไหวพริบย่อมรู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวอยู่ในหมู่บ้านชนบท มีเงินก็ไม่สามารถสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูสะดุดตาเกินไปเมื่อเห็นว่าด้านนอกไม่มีลูกค้า จึงพาเซี่ยยวี่หลัวออกไป
มองดูชั้นวางสินค้าด้านหลังก่อนหยิบผ้าสองผืนที่มีเนื้อผ้าชนิดเดียวกันแต่สีแตกต่างกันมาให้เซี่ยยวี่หลัวเลือก“เ้าดูสิเนื้อผ้าชนิดนี้เป็อย่างไร? เป็ผ้าฝ้ายล้วนซับเหงื่อได้ดีทั้งยังเป็มิตรกับิั ใกล้ถึงฤดูร้อนแล้ว ใส่เสื้อเช่นนี้แล้วจะสบายเป็พิเศษมีสองสี ตัดสีละหนึ่งตัว คิดว่าอย่างไร? ”
สมกับเป็ร้านใหญ่ แนะนำสินค้าให้เหมาะสมกับฐานะของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม
นางไม่ได้เลือกผ้าที่คนรวยใส่กันและไม่ได้เลือกผ้าหยาบคุณภาพต่ำ แต่เลือกเนื้อผ้าตามที่เซี่ยยวี่หลัว้า สีสันสดใสน่ารักเป็สีที่เด็กผู้ชายชอบ เซี่ยยวี่หลัวไม่จำเป็ต้องดูผ้าอื่นอีก เพียงมองเซียวจื่อเซวียนแวบหนึ่งเซียวจื่อเซวียนยิ้มพร้อมกล่าวว่าดูดี เซี่ยยวี่หลัวก็ตอบตกลง “ได้ เอาสองสีนี้”
ฮวาเหนียงวัดขนาดร่างกายเซียวจื่อเซวียนวัดตามขนาดแล้วจึงตัดผ้าออกมาสองผืน เซี่ยยวี่หลัวกำลังดูผ้าอื่นๆ ภายในร้าน
เนื้อผ้าที่ใช้ตัดเสื้อให้เซียวจื่อเซวียนยังมีสีฟ้าครามและสีน้ำเงินเข้มด้วยไม่รู้เพราะเหตุใด เซี่ยยวี่หลัวเห็นแล้วก็รู้สึกชอบทันที
อีกประมาณหนึ่งเดือนท่านราชบัณฑิตน้อยก็จะกลับมาแล้วอย่างไรก็ควรตัดเสื้อให้เขาสักสองตัว!
ฮวาเหนียงเห็นเซี่ยยวี่หลัวกำลังดูไปทั่วนึกว่านางเองก็กำลังหาผ้าอยู่เหมือนกัน จึงกล่าว “ยวี่หลัว ถ้าอย่างไรเ้าก็ตัดสักสองชุดที่นี่มีผ้าใหม่เข้ามาจำนวนหนึ่ง เ้าใส่แล้วต้องดูดีมากแน่นอน”
รูปลักษณ์เช่นนี้ ต่อให้ใส่ผ้ากระสอบออกไปยืนข้างนอกก็ยังงดงามไร้ที่ติ!
เซี่ยยวี่หลัวเองก็อยากซื้อแต่พอคิดได้ว่าในตู้ตัวเองมีเสื้อผ้าเต็มตู้แล้ว จึงได้แต่ล้มเลิกความคิด นางไม่อยากตัดเสื้อแต่เซียวจื่อเมิ่งสามารถตัดเสื้อฤดูร้อนที่ดูดีสักสองตัวได้ "มีสีอะไรบ้าง ข้าจะตัดให้น้องสาวข้าสักสองตัว"
สุดท้ายก็เลือกผ้าสีเหลืองนวลและสีชมพูอ่อนวัดตามขนาดร่างกายและความสูงของเซียวจื่อเมิ่ง ไม่ได้ซื้อทั้งผืน เพียงตัดแบ่งส่วนที่้า
เซี่ยยวี่หลัวยังรู้สึกชอบผ้าสองผืนนั้นนิ้วมือเรียวงามชี้ไปยังผืนผ้าด้านหลัง "ฮวาเหนียง ข้าเอาผ้าสองผืนนี้ ไม่ต้องตัด"
ไม่รู้ว่าท่านราชบัณฑิตน้อยตัวอ้วนหรือผอมตัวสูงหรือเตี้ย ซื้อมากหน่อยย่อมไม่ผิด หากใช้ไม่หมด ฤดูใบไม้ร่วงยังตัดให้จื่อเซวียนได้อีกหนึ่งตัว!
เซี่ยยวี่หลัวพยายามครุ่นคิดอย่างสุดความสามารถแต่กลับจำไม่ได้สักนิดว่าท่านราชบัณฑิตน้อยหน้าตาเป็อย่างไร
เมื่อฮวาเหนียงเห็นนางซื้อผ้าสีฟ้าครามและสีน้ำเงินเข้มก็แสดงสีหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจ มองเซี่ยยวี่หลัวพร้อมยิ้มกริ่ม ทำหน้าหยอกเย้า
เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่านางกำลังคิดอะไรใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อทันที
ฮวาเหนียงคงไม่ได้คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางและเซียวยวี่ดีมากกระมัง?
คิดรวมทั้งหมด เป็เงินหนึ่งตำลึง
เซี่ยยวี่หลัวไม่ใ แต่เด็กสองคนกลับใเป็อย่างมาก
เวลานี้พวกเขาไม่กลัวการซื้อเนื้อหมูครั้งละหลายสิบอีแปะแล้วแต่ซื้อผ้ากลับไปตัดเสื้อด้วยเงินหนึ่งตำลึง เซียวจื่อเมิ่งรีบดึงแขนเสื้อของเซี่ยยวี่หลัวก่อนกล่าวเสียงใส "พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าไม่เอาเสื้อตัวใหม่เ้าค่ะ..."
เซียวจื่อเซวียนก็กล่าว"พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าก็ไม่เอาเช่นกันขอรับ"
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวกับเด็กสองคน"เหตุใดถึงไม่เอา? "
"แพงเกินไป! " เด็กสองคนกล่าวตอบพร้อมกัน