“พวกเขามาทำกระไร?” หลินหวั่นชิวแปลกใจเล็กน้อย
“สองสาเหตุ หนึ่ง สวีไคซานจะเป็หัวหน้าหมู่บ้าน สอง พวกเขาอยากได้ที่ดินของสวีฝู”
ที่ดินของสวีฝูเป็ที่ดินดี ไม่มีทางที่สวีไคซานจะปล่อยไป
“ท่านตั้งใจจะให้ลุงหวางเป็หัวหน้าหมู่บ้านมิใช่หรือ?” หลินหวั่นชิวสับสน แต่ไม่นานนางก็เข้าใจ “ข้าเข้าใจแล้ว ยิ่งยืนสูง ตกลงมาก็ยิ่งเจ็บ ท่านอยากให้เขาเป็หัวหน้าหมู่บ้านแล้วค่อยดึงลงมา หัวหน้าหมู่บ้านไม่ใช่จะเป็กันง่ายๆ ต้องจ่ายเงินค่าน้ำชาให้หลายคน!”
เจียงหงหย่วนพยักหน้า “ภรรยาข้าฉลาดที่สุด!”
หึหึ…สวีเทา กล้าหมายปองภรรยาของเขา…เขาจะจัดการให้ชื่อเสียงป่นปี้!
ฆ่าให้ตายมันง่ายเกินไป
“ใต้เท้าสื่อ…สวัสดีขอรับ สวัสดีปีใหม่!” กำนันเฉินซ่านสิงโค้งตัวยิ้มให้สื่อจู่ปู้ ขณะเดียวก็ยัดซองแดงให้
สือจู่ปู้รับซองแดงด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ภายในใจดูถูก ขี้เหนียว!
ซื้อตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านแต่ให้เงินแค่สองตำลึง…เหอะ เจียงหงหย่วนแค่ซื้อที่ดินยังให้เขาตั้งสิบตำลึง!
เฉินซ่านสิงเป็บุรุษเฒ่าที่อยู่เป็ มิเช่นนั้นคงเป็กำนันไม่ได้ เห็นชัดว่าหมอนี่รังเกียจที่เงินน้อย!
แต่ว่า…เขาไม่ใช่คนโง่ที่ตามคนอื่นไม่ทันนะ!
“ตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านเค่าซานกำลังว่าง จะปล่อยทิ้งไว้ต่อไปก็ไม่ใช่หนทาง ก่อนหน้านี้ข้าแนะนำสวีไคซานกับท่านซือเหยีย ท่านซือเหยียบอกว่าท่านนายอำเภอเห็นด้วยแล้ว”
ความหมายก็คือ ที่มาหาเ้าเป็แค่การปฏิบัติตามขั้นตอนเท่านั้น
“อ้อ…เื่นี้ซือเหยียไม่ได้บอกข้า ไม่มีคำสั่งจากท่านนายอำเภอเช่นกัน ข้าขอไปถามท่านนายอำเภอกับซือเหยียก่อนดีกว่า เื่นี้จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก ผู้ใต้บังคับบัญชาแบบพวกเราไม่ควรกระทำโดยพลการจริงหรือไม่? แต่ว่า…พวกเ้ามาได้ไม่ถูกจังหวะนัก ตอนนี้ท่านนายอำเภอกับซือเหยียไม่อยู่หยาเหมิน ไว้ค่อยมาใหม่วันหลังดีหรือไม่?”
ติดต่อซือเหยียไว้แล้ว เช่นนั้นก็อย่าคิดว่าจะข้ามหน้าข้ามตาเขา
มิเช่นนั้น หึ…เขากลั่นแกล้งนิดๆ หน่อยๆ ท่านนายอำเภอไม่ว่ากระไรอยู่แล้ว
ก็แค่ตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้าน
ท่านนายอำเภอรู้จักหรือว่าเ้าเป็ผู้ใด?
สวีเทาเห็นบรรยากาศไม่สู้ดีก็รีบก้าวออกไปยัดซองแดงอีกซองให้สือจู่ปู้
“รบกวนท่านแล้วขอรับ!” ด่าพ่อตาตัวเองในใจ มารดามันเถิด พวกเขาให้เงินตาแก่นี่ไปไม่น้อย ตอนนี้ใช่เวลามาตระหนี่หรืออย่างไรเล่า!
ไม่รู้ถูกตาแก่อมเงินไปเท่าไรเช่นกัน!
สือจู่ปู้ลองชั่งน้ำหนักดู พบว่ามีประมาณห้าตำลึง ใบหน้าถึงได้เริ่มมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง
เื่นี้ซือเหยียบอกเขาไว้แล้ว ได้ เอาแต่พอดีก็พอ เพราะช้าหรือเร็วก็ต้องจัดการอยู่แล้ว
“ย่อมได้ เช่นนั้นข้าจะออกหนังสือให้พวกเ้า แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ หากท่านนายอำเภอกลับมาแล้วบอกว่าไม่มีเื่นี้ พวกเ้าจบไม่สวยเป็แน่!”
“ไอ๊หยา…ผู้ใดจะกล้าโกหกเื่นี้กันขอรับ” เฉินซ่านสิงประสานมือโค้งตัวยิ้ม “ต่อให้ข้าน้อยจะกล้าเพียงใดก็ไม่กล้าหลอกท่านเป็แน่!”
ขณะที่พูด สือจู่ปู่ประทับตราลงในหนังสือแต่งตั้งหัวหน้าหมู่บ้านและมอบให้สวีไคซาน
สวีไคซานรับหนังสือแต่งตั้งด้วยความตื้นตันใจ มือสั่นไม่หยุด
ในที่สุดเขาก็ได้เป็หัวหน้าหมู่บ้าน
ในที่สุดเขาก็จะได้เดินโอ้อวดเฉิดฉายในหมู่บ้าน
“ใต้เท้า ข้าอยากซื้อที่ดินด้วยขอรับ” สวีไคซานเก็บหนังสือแต่งตั้งด้วยความระมัดระวังแล้วพูดกับสือจู่ปู้
“ซื้อที่ดิน? ซื้อบริเวณใด?”
“หมู่บ้านเค่าซาน ที่ของสวีฝูขอรับ” ที่ดินของสวีฝูถูกหยาเหมินยึด ดังนั้นหากจะซื้อก็จำเป็ต้องซื้อผ่านหยาเหมิน ไม่เหมือนการซื้อที่ดินแบบอื่นที่แค่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน ไปทำเอกสารที่หยาเหมินหรือเขียนสัญญาขึ้นเองก็ได้แล้ว
“โอ้…บังเอิญยิ่งนัก ที่ของเขาถูกขายไปเสียแล้ว” สือจู่ปู้ยิ้ม
รอยยิ้มเขามีความยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่น
“ขายไปแล้ว เป็ไปไม่ได้!” สวีไคซานร้อนใจ
สีหน้าสือจู่ปู้ดำทะมึน “อย่างไรเล่า? คิดว่าข้าโกหกหรือ? ถ้าเช่นนั้น...เชิญเ้าไปตีกลองร้องทุกข์ ฟ้องท่านนายอำเภอเอาเถิด”
เดิมทีเขาก็ไม่ชอบคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว อยากซื้อตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านแต่กลับข้ามหัวเขาไปหาซือเหยีย!
เหอะ ไม่รู้หรือไรว่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่เปรียบเหมือนกระแสน้ำ ขุนนางชั้นผู้น้อยเปรียบเหมือนเหล็ก?
นายอำเภอเปลี่ยนทุกสามปี ซือเหยียติดตามนายอำเภอ มีเพียงขุนนางชั้นผู้น้อยแบบพวกเขาที่ตีให้ตายก็ไม่ไปที่ใด
สือจู่ปู้ไม่พอใจมากที่สวีไคซานสงสัย คำพูดคำจาย่อมมีความเดือดดาล
สวีเทาเห็นสือจู่ปู้โมโหก็รีบดึงแขนเสื้อพ่อตัวเอง ก้าวออกไปโค้งตัวขอโทษสือจู่ปู้ “มิใช่ขอรับ…ใต้เท้าสือ ท่านพ่อข้าเพียงแต่ร้อนใจไปชั่วขณะ มิได้มีเจตนาล่วงเกินท่านแต่อย่างใด คือว่า…ข้าน้อยขอทราบได้หรือไม่ขอรับว่าผู้ใดเป็คนซื้อที่ดิน? เรียนตามตรง ที่ดินผืนนั้นเคยเป็ของตระกูลสวี ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ พวกข้า้าซื้อกลับมา”
สือจู่ปู้พูดยิ้มๆ “เดิมทีข้าก็ไม่อยากบอกนัก แต่พวกเ้าเป็คนหมู่บ้านเดียวกัน ปิดไปก็ปิดไม่อยู่ เจียงหงหย่วนจากหมู่บ้านพวกเ้าเป็คนซื้อไป เขาเพิ่งกลับตอนพวกเ้ามา”
เจียงหงหย่วน!
ที่แท้ก็เจียงหงหย่วน!
นายพรานอัปลักษณ์นั่นนั่นเอง!
ที่ดินของตระกูลสวีเป็ที่ดินดี ทั้งยังมีมาก หากจะซื้อต้องมีเงินอย่างน้อยหลายร้อยตำลึง นี่หมายความว่าเจียงหงหย่วนมั่งคั่งแล้วจริงๆ มีเงินเยอะ
สองพ่อลูกบ้านสวีออกจากหยาเหมินด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
เดิมที เมื่อไม่มีสวีฝูแล้ว บ้านพวกเขาจะได้เป็บ้านที่รวยที่สุดในหมู่บ้านเค่าซาน หากซื้อที่ดินของสวีฝูเพิ่ม เช่นนั้นก็พอเป็เ้าของที่ดินรายใหญ่ได้อยู่
ขนาดพวกเขาจะซื้อที่ดินของสวีฝูยังต้องยอมกัดฟันนำเงินที่สะสมมาตลอดหลายปีออกมา สวีเทายืมเงินเพื่อนร่วมงานมาไม่น้อย ฟานซื่อ แม่ของเขากลับไปยืมเงินจากบ้านแม่ ส่วนสวีลั่งก็ยืมเงินคนที่บ่อนเช่นกัน
แต่บ้านเจียงมีญาติที่ใด?
ก็หมายความว่า
เจียงหงหย่วนมีเงิน
เื่ที่เขาล่าเสือและจับลูกเสือได้คงเป็เื่จริง มิเช่นนั้น…เขาต้องมีฝีมือ
สวีเทารู้สึกถึงภัยคุกคามจากเจียงหงหย่วนขึ้นมาอย่างฉับพลัน
ต้องหาวิธีมากำจัดอีกฝ่ายให้ได้
ในสายตาสวีเทา เื่ที่เกิดกับสวีฝูเป็แค่ความโชคดีของเจียงหงหย่วน เพราะความผิดโทษฐานสมคบคิดกับโจรูเามิใช่สิ่งที่คนธรรมดาแบบเจียงหงหย่วนจะโยนให้สวีเต๋อเซิ่งได้
เขามองว่าสวีเต๋อเซิ่งใจกล้าเทียมฟ้า รับสินบนจากโจรูเา รู้ดีว่าสวีเต๋อเซิ่งละโมบเพียงใด
มีเพียงฆ่าเจียงหงหย่วนให้ตายเท่านั้น…เขาจึงจะหลินหวั่นชิวและสมบัติบ้านเจียงได้
“ท่านพ่อ…ไม่ต้องโมโหขอรับ ท่านเป็หัวหน้าหมู่บ้านแล้ว วันหน้ายังมีโอกาสสั่งสอนเขาอีกมาก อย่าลืมสิขอรับว่าเมื่อก่อนนี้ที่ดินของท่านลุงได้มาอย่างไร?”
ที่ดินเกือบครึ่งของสวีฝูมาจากการหลอกชาวบ้าน
สวีฝูทำได้ เหตุใดพวกเขาจะทำไม่ได้?
ได้ยินดังนี้ เงาดำบนหน้าสวีไคซานจางลงทันที เขาตบเข่าฉาด “จริงด้วย! เขาซื้อไปก็ดี จะได้ช่วยประหยัดเงินให้พวกเรา! ราชสำนักเปิดปีใหม่แล้วถึงเวลาเกณฑ์ทหารและแรงงานพอดี ส่งเหล่าเอ้อร์บ้านพวกเขาไป…”
สองพ่อลูกสบตากัน เห็นประกายเ้าเล่ห์และเย้ยหยันในแววตาอีกฝ่าย
ต่อให้เจียงหงหย่วนจะเก่งกาจและล่าสัตว์เก่งแล้วอย่างไรเล่า?
ถึงเหล่าเอ้อร์บ้านเขาจะหายป่วยแล้วแต่ก็ยังอ่อนแอ ส่งไปเกณฑ์ทหาร…ไม่ต้องกลัวว่าบ้านเจียงจะไม่ล้มละลาย!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้