“เชิญไปทำเื่ของท่านต่อเถิด นี่เป็เื่ในบ้านของพวกเรา” สวี่ซื่อเอ่ยปากไล่คน ฟู่เหรินจึงได้แต่ออกไป ไม่กล้าตอแยต่อ
ออกไปแล้วก็เล่าให้เพื่อนบ้านซ้ายขวาฟังเป็เื่ซุบซิบนินทาต่อ
หลินหวั่นชิวกับเจียงหงป๋อไม่อยู่บ้านพอดี พ่อแม่ลูกตระกูลหลินมุ่งตรงไปที่เรือนประธาน น่าเสียดายที่หลินหวั่นชิวมีนิสัยชอบลงกลอนประตู เรือนหลักจึงถูกลงกลอนเสียแน่นสนิท
พวกเขาเปลี่ยนไปเรือนข้างแทน เด็กสองคนเมื่อก่อนยากจน ในห้องไม่มีของมีค่ากระไร ไม่ได้มีนิสัยชอบลงกลอนประตู ตอนนี้หลินฟาไฉสองสามีภรรยากำลังค้นเรือนข้างฝั่งซ้าย ส่วนหลินซย่าจื้อค้นเรือนฝั่งขวา
หลินซย่าจื้อกับสวี่ซื่อเริ่มค้นอย่างบ้าคลั่ง ยายสวีร้อนใจมาก นางห้ามผู้ใดไม่ทันทั้งนั้น เด็กสาวสองคนที่บ้านเคยเป็ขอทาน รู้ว่าควรรับมืออย่างไร วิ่งออกไปตามคนทันที
หลินซย่าจื้อกับสวี่ซื่อค้นอยู่นานแต่ก็ยังไม่เจอของมีค่า ไม่เจอเงินแม้แต่สตางค์แดงเดียว
ทั้งคู่พากันสบถ หลินซย่าจื้อเก็บตำรา หมึก กระดาษ พู่กันและที่ฝนหมึกลงห่อ
จินเป่าของนางใช้ของพวกนี้ได้
สวี่ซื่อห่อเสื้อผ้ารองเท้าสภาพดีของสองพี่น้อง วางแผนว่าจะนำกลับไปให้จินเป่าใส่
ค้นห้องซ้ายขวาเสร็จ สองแม่ลูกไปค้นห้องครัวต่อ
“บ้านเจียงนี่รวยจริงๆ!” สวี่ซื่อถอนหายใจเมื่อเห็นเสบียง
“พ่อเอ้ย พวกเราขนของพวกนี้กลับไปกันเถิด” สวี่ซื่ออยากขนเสบียงและน้ำมันกลับไปทั้งหมด หลินหวั่นชิวกลับมาแล้วให้นางไปซื้อใหม่ก็จบเื่
“คนสายตาตื้นเขินนัก ถ้ามีแรงขนของพวกนี้กลับไป สู้ไปไถเงินจากลูกคนเล็กดีกว่า”
หลินฟาไฉด่า เขาเงยหน้ามองเนื้อแดดเดียวที่แขวนไว้ใต้ชายคาและคานบ้าน อธิบายความรู้สึกในใจไม่ถูก เหตุใดตอนนั้นนังเด็กนี่ไม่ตาย เหตุใดถึงโชคดีเช่นนี้ ไม่นึกเลยว่านายพรานจนๆ ที่แต่งงานด้วยจะมีเงินถึงเพียงนี้
แต่จะว่าไป หากนายพรานไม่มีเงิน เขาจะกล้าอยากได้ลูกสาวคนเล็กได้อย่างไร?
“หวั่นชิวไม่อยู่บ้าน พวกเ้าสองคนทำกับข้าวหน่อย” หลินฟาไฉสั่ง
“มัวงงกระไรอยู่ ยังไม่รีบไปทำกับข้าวอีก เอาเนื้อแดดเดียวลงมาหนึ่งก้อน ทำเนื้อต้ม เนื้อผัดกระเทียม กุยช่ายผัดไข่ นึ่งซาลาเปาไส้เนื้อสามสิบลูก”
สวี่ซื่อวางตัวเป็เ้าบ้านทันที ชี้นิ้วสั่งยายสวี
ยายสวีไม่เคยได้ยินหลินหวั่นชิวพูดถึงครอบครัวฝ่ายแม่ คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองบ้านน่าจะไม่ดีจึงไม่กล้าฟังคำสั่งนาง เอาแต่บอกว่าเดี๋ยวไท่ไท่ก็กลับมาแล้ว
ทำเอาสวี่ซื่อโมโหมาก คว้าไม้กวาดมาโบยตียายสวี วิ่งไล่ยายสวีไปรอบลานบ้าน
“ทำกระไรของพวกเ้า!” ในตอนนี้เองที่หลินหวั่นชิวเดินหน้าเครียดเข้ามา
ตามมาด้วยเจียงหงป๋อ
เจียงหงป๋อเห็นคนบ้านเหล่าหลินก็ไม่พูดกระไรทั้งนั้น คว้าท่อนไม้ข้างกำแพงขึ้นมาแกว่งไปรอบๆ และทุบตีใส่ร่างของหลินซย่าจื้อ
ตอนนี้ร่างกายของเจียงหงป๋อที่กินโอสถชำระไขกระดูกติดต่อกันสามครั้งแทบไม่ต่างกับคนปกติแล้ว
หลินซย่าจื้อคิดไม่ถึงว่าเจียงหงป๋อจะเข้ามาทุบตีนางทันที นางวิ่งหนีด้วยความใ “ใช้กำลังทุบตีแล้ว ใช้กำลังทุบตีกันตายเสียแล้ว!”
นางหลบไม่พ้น ไม้ท่อนนี้ฟาดลงบนหลังหลินซย่าจื้อเต็มแรง
หลินซย่าจื้อเจ็บจนน้ำตาเล็ด
หลินฟาไฉกับสวี่ซื่อรีบเข้ามาดึงเจียงหงป๋อ สาวใช้สองคนเห็นดังนั้นก็เข้ามากอดขาทั้งคู่ไว้
ท่อนไม้ในมือเจียงหงป๋อฟาดใส่หลินซย่าจื้อไม่หยุด หลินซย่าจื้อใมาก วิ่งกุมหัวออกไป “ข้าจะถูกฆ่าแล้ว! ข้าจะถูกฆ่าแล้ว!”
นางวิ่งไปด้วย ร้องไปด้วย เพียงไม่นานก็เรียกเพื่อนบ้านทั้งตรอกมามุงดู
เจียงหงป๋อไม่ได้ตามออกไป เขาฟาดท่อนไม้ใส่ตัวเอง จากนั้นขดตัวร้องไห้ข้างประตู “ช่วยด้วย ข้าจะถูกฆ่าแล้ว!”
เพื่อนบ้านเห็นหลินซย่าจื้อวิ่งออกมาเหมือนคนบ้าก็คิดว่าถูกคนบ้านเจียงทำร้าย แต่เพิ่งเดินเข้าบ้านเจียงก็เห็นนายน้อยรองบ้านนี้นั่งกุมท้องขดตัวหน้าซีดอยู่ข้างประตู
“เกิดกระไรขึ้น ผู้ใดทำร้ายพวกเ้า?” มีคนถาม
เจียงหงป๋อกล่าวอย่างอ่อนแรง “ฝีมือสตรีที่วิ่งออกไปเมื่อครู่ นางทุบตีข้า เพราะจะแย่งเงินบ้านพวกเรา ให้พี่สะใภ้มอบเงินที่ส่งน้องชายข้าเรียนหนังสือกับเงินค่ายาของข้า พี่สะใภ้ไม่ยอมให้ พวกเขาจึงทุบตีนาง ทั้งยังทุบตีข้าและยายสวี”
เจียงหงป๋อพูดจบก็เลิกเสื้อตัวเองขึ้น เปิดท้องให้เพื่อนบ้านทุกคนดู เขาเป็เพียงเด็กอายุสิบขวบ ไม่จำเป็ต้องหลีกเลี่ยงหรือต้องหวงตัวกระไร
รอยแดงบนท้องปรากฏสู่สายตาทุกคน ป้าบางคนที่ใจอ่อนถึงกับน้ำตาไหล
“ทำไมโหดร้ายเช่นนี้!”
“นั่นสิ ลูกสาวที่แต่งออกไปไม่ต่างกับน้ำที่สาดออกไปแล้ว คิดจะแย่งเงินบ้านสามีผู้อื่น ช่างไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี!”
“ลูกสาวต่างจากลูกชาย ที่นี่เป็บ้านตระกูลเจียง มีสิทธิกระไรมาเอาเงินค่ายากับค่าเรียนหนังสือของน้องชายผู้อื่น!”
ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความเคียดแค้นต่อความไม่เป็ธรรม หลินซย่าจื้อคิดว่ามีคนมามุงดูแล้วเจียงหงป๋อจะไม่กล้าทำกระไรอีก แต่นางเกือบต้องโมโหตายเมื่อกลับมาแล้วได้ยินเช่นนี้
“เขาโกหก เด็กสวะนี่พูดโกหก!” หลินซย่าจื้อชี้หน้าด่าเจียงหงป๋อ “เขาต่างหากที่เป็ฝ่ายตีข้า!”
“เขาตีเ้าที่ใด?” มีคนถาม เด็กอ่อนแอเช่นนี้หรือที่จะตีหลินซย่าจื้อ?
“เขาใช้ท่อนไม้นั่นตี ตีใส่หลังข้า” หลินซย่าจื้อรีบตอบ
ชายฉกรรจ์คนหนึ่งก้าวออกมาพูดยิ้มๆ “ถ้าเช่นนั้นให้พวกข้าดูสิ มีเพียงคำพูดอย่างเดียว…ข้าก็พูดได้ว่าโดนเ้าตี!”
“ไอ้ชาติชั่ว หลังข้าให้เ้าดูได้หรือ หน้าไม่อาย ไสหัวไปไกลๆ เลย!” หลินซย่าจื้อได้ยินดังนั้นก็โมโห งอหลังที่แสบร้อนและชี้หน้าด่า
ชายฉกรรจ์ไม่ยี่หระ เพื่อนบ้านรอบๆ พากันหัวเราะหลินซย่าจื้อ
หลายคนด่าทอนาง “พวกเขารังแกยายสวีั้แ่เข้าประตู เห็นอยู่ว่าทำร้ายนายน้อยรองบ้านผู้อื่นแต่ไม่ยอมรับ หนังหน้านี่ช่าง…ไม่รู้เอาหนังด้านจากบั้นท้ายมาใส่ที่หน้าแทนหรือไม่?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็ไม่แน่นะ!”
ถูกทุกคนชี้ไม้ชี้มือวิจารณ์ หลินซย่าจื้อโมโหเป็ฟืนเป็ไฟ น่าเสียดายที่ไม่มีผู้ใดเชื่อนาง จะแก้ผ้าให้ทุกคนดูก็ไม่ได้ ถูกเด็กชั่วบ้านเจียงเล่นงานเข้าแล้ว!
เพื่อนบ้านช่วยประคองเจียงหงป๋อเข้าไป เดินผ่านกำแพงภาพแกะสลัก สถานการณ์ในลานบ้านยิ่งไปกันใหญ่
เด็กสาวสองคนเนื้อตัวมอมแมม มุมปากมีเืไหล พวกนางกำลังกอดขาหลินฟาไฉกับสวี่ซื่อร้องอ้อนวอน “ขอร้องล่ะ อย่าทุบตีไท่ไท่พวกข้าเลย ไท่ไท่ทำงานหนักจนสุขภาพไม่ดีั้แ่ตอนอยู่บ้านแม่ ทนรับการตีไม่ได้อีกจริงๆ เ้าค่ะ!”
“ไท่ไท่ของพวกเราก็เป็ลูกสาวพวกท่านเช่นกัน พวกท่านทำใจตีนางให้ตายลงได้อย่างไร! ที่นี่คือบ้านเจียง ไท่ไท่ตัดสินใจเองไม่ได้ ต่อให้ตีนางจนตายก็ไม่มีเงินให้พวกท่านอยู่ดี!”
ยายสวีนอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้น หลินหวั่นชิวถูกสวี่ซื่อกระชากผม “นังเด็กเวรนี่ เ้าจงใจชัดๆ!”
“ท่านแม่ ข้าเปล่านะเ้าคะ…” หลินหวั่นชิวร้องไห้น่าสงสารมาก แค่เห็นก็ปวดใจ
“ทำกระไรของพวกเ้า?”
“ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
“รีบไปแจ้งทางการ บ้านเมืองนี้ยังมีกฎหมายหรือไม่ ทั้งทุบตีทั้งปล้นเงินผู้อื่น!”
บรรดาเพื่อนบ้านพากันตำหนิ รังแกกันเกินไปแล้วจริงๆ ไม่เคยเจอครอบครัวฝ่ายแม่ที่ไหนรังแกลูกเช่นนี้มาก่อน
“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว พวกข้าไม่ได้ทุบตีคน หวั่นชิว เ้ารีบบอกพวกเขาสิ พ่อแม่ไม่ได้ทำร้ายผู้ใด” หลินฟาไฉเห็นสถานการณ์ผิดปกติก็พูดกับหลินหวั่นชิวทันที
