ลูกเต๋ามีทั้งหมดหกด้าน ทุกด้านจะถูกประทับแต้มไว้แตกต่างกันไปจึงทำให้แต่ละด้านแตกต่างกันไปด้วย และเสียงที่ดังออกมาเมื่อลูกเต๋าร่วงลงมาก็จะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ความแตกต่างที่ทำให้คนธรรมดายากจะจำแนกได้ก็คือวิธีการตัดสินใจและการควบคุมทิศทางของลูกเต๋า และเ้ามือที่มีฉายาว่า “หัตถ์ปีศาจ” คนนี้ก็ไม่เคยตัดสินผิดเลยั้แ่เมื่อสิบกว่าปีก่อนจนถึงตอนนี้......... แต่ความเร็วในการเขย่าของเย่เทียนเซี่ยที่เร็วยิ่งขึ้นทุกทีๆนั้นต่อให้เขาฟังอย่างตั้งใจเขาก็พบว่าประสาทการฟังของตัวเองถูกทำให้สับสนไปหมด........เพราะความเร็วในการเขย่านั้นรวดเร็วเกินไป ทำให้เสียงที่กระทบกันของลูกเต๋านั้นมีความแข็งแกร่งอย่างที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน และเมื่อรวมเข้ากับเสียงรบกวนของกระบอกไม้ไผ่เสียดสีไปกับโต๊ะแล้ว........เมื่อความคิดและการรับรู้ของเขารวนไปหมดเขาก็เลิกตั้งใจฟังเสียงเ่าั้ เพราะมันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะเขย่ายังไงก็ไม่มีทางชนะได้แน่นอน
เพราะแต้มของลูกเต๋าในกระบอกไม้ไผ่ในมือของเขานั้น.............มีแค่หนึ่งแต้มเท่านั้น!
ในการเล่นทายแต้มสูงต่ำของลูกเต๋าตัวเลขที่ใหญ่ที่สุดก็คือลูกเต๋าแต่ละลูกจะต้องได้หกแต้ม............เมื่อรวมกันก็จะได้สิบแปดแต้ม แต่ตัวเลขที่น้อยที่สุดกลับไม่ใช่หนึ่งแต้มจากลูกเต๋าสามลูก...... แต่เป็หนึ่งแต้ม! มีแค่ยอดฝีมือที่แท้จริงเท่านั้นถึงจะสามารถเขย่าออกมาได้หนึ่งแต้ม และจากจุดนี้ก็ต้องทำให้ลูกเต๋าทั้งสามลูกตกลงซ้อนกันและแต้มบนหน้าของลูกเต๋าจะต้องเป็หนึ่งแต้มเท่านั้น...... หากเป็เช่นนั้นสิ่งที่ปรากฏออกมาก็จะเป็ตัวเลขหนึ่งแต้มที่อยู่้าสุด
และการทำเช่นนี้เรียกได้ว่าเป็ทริคเล็กๆที่ยากจะจินตนาการได้
แต่การทำให้ได้น้อยกว่าหนึ่งแต้มใช่ว่าจะเป็ไปไม่ได้.......... มันก็คือศูนย์แต้มไงล่ะ.........ในหนังพวกเขาจะใช้พลังอันแปลกประหลาดทำให้ลูกเต๋าที่เขย่าออกมาสลายกลายเป็ผง และสิ่งที่ปรากฏออกมาก็คือศูนย์แต้ม!
เย่เทียนเซี่ยเขย่าไปครึ่งนาทีในที่สุดเขาก็หยุดลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น แล้วทันใดนั้นแววตาแปลกๆก็ส่องประกายออกมาจากดวงตาของเขา
เขาบอกไปแล้วว่าเงินน่ะเป็สิ่งที่ได้มาโดยง่าย
เย่เทียนเซี่ยกลับมานั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วรักษาท่าทีสงบนิ่งเอาไว้โดยไม่ปริปากพูดอะไรออกไป ซูเฟยเฟยที่หัวใจเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่งหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าแล้วซับเหงื่อบนหน้าผากของเขาเบาๆ การกระทำอันอ่อนโยนและระมัดระวังทำให้เย่เทียนเซี่ยต้องเงยหน้าขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธเธอ นั่นทำให้เธอเผยรอยยิ้มอ่อนออกมา
ทันใดนั้นซูเฟยเฟยก็รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นถี่รัวยิ่งขึ้น เพราะนี่คือสายตาที่เขาไม่เคยแสดงต่อเธอมาก่อน
“เปิดเถอะ”เย่เทียนเซี่ยพูดอกมาเสียงเย็น ตอนนั้นไม่ว่าท่าทาง สีหน้า แววตาหรือแม้กระทั่งน้ำเสียงของเขาก็ล้วนทำให้ผู้คนแปลกใจ เขาที่เพิ่งจะสูญเสียการควบคุมตนเองอย่างชัดเจนกลับเปลี่ยนไปเป็สงบนิ่งเหมือนตอนเริ่มอย่างแปลกประหลาด ท่าทางที่ไร้ความตื่นเต้น.......... อย่างน้อยใบหน้าของเขาก็แสดงสีหน้าแบบนั้นออกมา
หรือว่าชัยชนะจะอยู่ในมือของเขาแล้ว? หรือจะเป็การเล่นละครตบตา............ ไม่ว่าใครก็คิดเป็อย่างหลังทั้งนั้น
หลี่เทียนเผิงพยักหน้าเล็กน้อย เ้ามือมองตรงไปด้านหน้าแล้วเตรียมตัวจะเอื้อมมีออกไปที่กระบอกไม้ไผ่อันนั้นช้าๆ แต่ทันใดนั้นเย่เทียนเซี่ยก็พูดขึ้นมาก่อน “ก่อนหน้านี้พวกนายก็เขย่าก่อน เพื่อความยุติธรรมครั้งนี้ให้ฉันเปิดก่อนก็แล้วกัน”
เ้ามือเก็บมือของเขากลับมา หลี่เทียนเผิงจึงโบกมืหนึ่งครั้ง “ตามใจเถอะ........หึ ฉันก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าที่นายเพิ่จะใช้แรงไปขนาดนั้นคงจะไม่เหมือนในหนังที่ทำให้ลูกเต๋าแหลกเป็ผงหรอกมั้ง ถ้าเป็อย่างนั้นจริงๆล่ะก็ หลี่เทียนเผิงคนนี้คงจะต้องขอยอมแพ้แต่โดยดีแล้วล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
เมื่อหลี่เทียนเผิงหัวเราะออกมาเสียงดังก็ทำให้คนรอบข้างอดจะหัวเราะตามไปไม่ได้ เย่เทียนเซี่ยยังคงมีสีหน้าสงบนิ่งไม่เปลี่ยน เขายื่นมืออกไปหากระบอกไม้ไผ่ที่อยู่บนโต๊ะก่อนจะโยนไปอีกฝั่ง
เมื่อมองแต้มของลูกเต๋าให้ชัดๆผู้คนทั้งหมดก็แทบจะสำลักออกมา
หกแต้ม หกแต้ม ห้าแต้ม.......... สิบเจ็ดแต้ม
เย่เทียนเซี่ยได้สิบเจ็ดแต้มซึ่งเป็รองแค่สิบแปดแต้มเท่านั้น!
ทันใดนั้นผู้คนรอบข้างก็หัวเราะออกมาเสียงดัง บางคนถึงกับต้องกุมท้องหัวเราะอยู่ใต้โต๊ะเลยทีเดียว แม้กระทั่งเ้ามือที่มีใบหน้าสงบนิ่งอยู่คลอดเวลาก็ยังอดจะแสดงสีหน้าดูถูกออมาไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็กำลังพยายามอดกลั้นไม่ให้หัวเราะออกมาอย่างสุดความสามารถเช่นกัน หลี่เทียนเผิงเองยังพยายามกดรอยยิ้มเอาไว้อย่างยากลำบากก่อนจะพูดออกมาช้าๆ “เพื่อนเอ้ย ดูเหมือนว่านายนี่มันจะไม่มีวาสนากับต่ำจริงๆเลยนะ ถ้านายเลือกสูงตลอดล่ะก็หลี่เทียนเผิงคนนี้อาจจะแพ้จนล้มละลายไปแล้วก็ได้..... น่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ”
“ดูเหมือนว่านายจะเสียดายเร็วไปหน่อยมั้ง นายแน่ใจได้ยังไงว่าแต้มของนายจะน้อยกว่าฉัน?” เย่เทียนเซี่ยปรายตามองก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเล่ห์นัย
ผู้คนโดยรอบถึงกับพ่นลมหายใจผ่านจมูกออกมาทันที...........หรือชายคนนี้จะต่อสู้มากจนเสียสติไปแล้ว? ความน่าจะเป็อย่างเดียวที่เขาจะชนะได้ก็คือลูกเต๋าทั้งสามของฝ่ายตรงข้ามจะต้องได้หกแต้ม.........รวมเป็สิบแปดแต้มซึ่งเป็คะแนนสูงสุด แต่มันจะเป็ไปได้เหรอ? ด้วยความสามารถของ “หัตถ์ปีศาจ” อย่าว่าแต่เลขหกสามตัวเลย ต่อให้เป็เลขหนึ่งสามตัวก็ยังไม่น่าจะเป็ไปได้เลย
“เหอะ น่าสนใจจริงๆ เปิดสิ” หลี่เทียนเผิงบุ้ยปากไปทางเ้ามือ ใบหน้าของเขาฉายชัดถึงความสบายใจ เ้ามือคนนั้นพยักหน้าจากนั้นจึงเอื้อมมือไปที่กระบอกไม้ไผ่แล้วหันไปมองทางเย่เทียนเซี่นจากนั้นก็แสดงท่าทางเยาะเย้ยออกมาชัดเจน
แต่วินาทีต่อมาเขาก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ถูกต้อง......... เขามองไม่เห็นสีหน้าหม่นหมองในแบบที่เย่เทียนเซี่ยควรจะมี และไม่ได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นของหลี่เทียนเผิงด้วย และแล้วความเงียบโดยรอบก็เปลี่ยนเป็ความน่ากลัวอย่างฉับพลัน มันเงียบจนไม่มีเสียงใดๆเลยแม้แต่อย่างเดียว ผู้คนต่างจ้องมองมาที่ลูกเต๋าทั้งสามด้วยดวงตาที่แทบจะถลนออกจากเบ้า
เขาเผลอมองไปที่ลูกเต๋าในมือของตัวเองอย่างไร้สติ........... ทันทีที่เขาก็เห็นจำนวนแต้มใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดลงทันที
หกแต้ม หกแต้ม หกแต้ม...........สิบแปดแต้ม!!
“หึ” ในที่สุดก็ถึงคราวที่เย่เทียนเซี่ยจะเป็ฝ่ายหัวเราะออกมาบ้าง เขาเอนตัวไปด้านหลังแล้วนั่งลงไปบนเก้าอี้ตัวโตด้วยท่าทางกึ่งนั่งกึ่งนอนแล้วใช้สายตาเย็นะเืจ้องมองไปยังใบหน้าของหลี่เทียนเผิงที่กลายเป็เหมือนหมูโง่ๆตัวหนึ่ง
สิบแปดแต้มต่อสิบเจ็ดแต้ม ตัวเลขสูงสุดที่เขย่าออกมาจากลูกเต๋าทั้งสามที่ปรากฏออกมาพร้อมกันในเกมที่เลือกต่ำเช่นนี้ทำให้ผู้คนที่อยู่ในคาสิโนหัวใจเต้นแรง ตอนนี้ผู้คนรอบข้างก็เพิ่งจะมีปฏิกิริยาตอบสนองจากเื่อันน่าใ ทันใดนั้นเสียงจากความใก็ดังขึ้นมาอย่างสับสน เสียงต่ำของผู้ชาย เสียงแหลมของผู้หญิง และก็ยังมีคนที่ตกตะลึงพูดกับตัวเองด้วยทำให้ประสาทการรับฟังของพวกเขาอื้ออึงขึ้นมาทันที
“..........ชนะแล้ว..........พวกเราชนะแล้ว พวกเราชนะแล้วจริงๆ ตั้งสามร้อยล้านล่ะ! ว๊าว!!!”
แม้เธอจะเชื่อว่าเย่เทียนเซี่ยจะต้องทำให้เธอเซอไพรซ์และตกตะลึงสุดๆ แต่เมื่อแต้มสิบเจ็ดแต้มปรากฏออกมา เธอก็ยังคงรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอบีบรัดด้วยความตึงเครียด แม้จะถูกคนลอบสังหารแต่เธอก็ไม่เคยเครียดเท่านี้มาก่อน เงิน....แม้จะรวมกันเป็สี่ร้อยล้านเธอก็ไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็ไม่อยากจะเห็นสีหน้าผิดหวังของเย่เทียนเซี่ยเช่นกัน......
และผลที่ออกมาเขาก็ไม่ทำให้เธอผิดหวัง เมื่อแต้มของหลี่เทียนเผิงกลายเป็สิบแปดแต้มอย่างยากจะเชื่อสมองของซูเฟยเฟยก็ว่างเปล่าด้วยความตื่นเต้น ความตื่นเต้นสุดขีดนั้นทำให้เธอรู้ว่าความรู้สึกที่ควบคุมตัวเองไม่ได้นั้นเป็อย่างไร ความตื่นเต้นและเซอร์ไพรซ์ที่เกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่นี้เป็ความรู้สึกที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน แรงกระตุ้นบางอย่างทำให้เธอพุ่งเข้าไปกอดคอเย่เทียนเซี่ยจากนั้นก็จูบปากเขาไปแรงๆอีกหนึ่งที
เย่เทียนเซี่ยเบิกตากว้างรีบผลักซูเฟยเฟยออกไปทันทีด้วยจิตใต้สำนึก ริมฝีปากทั้งคู่ที่ัักันเพียง่ระยะเวลาสั้นๆทำให้หัวใจของเธอเต้นถี่แรงขึ้นเรื่อยๆอย่างแปลกประหลาดจนในที่สุดมันก็ทำให้ซูเฟยเฟยรู้สึกตัวขึ้นมาเล็กน้อย เธอค่อยๆห่างออกมาอย่างระวังพร้อมกับสีแดงที่ฉีดพุ่งขึ้นไปบนใบหน้าของเธอและลามไปจนถึงลำคอ มันช่างเป็ความรู้สึกที่ชวนใจเต้นจริงๆ
ัับนริมฝีปากนั้นยังคงอยู่ คนทั้งคู่ต่างก็มีปฏิกิริยาที่แทบจะเหมือนกัน............นั่นคือการยื่นมือออกไปััตรงที่ที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายประทับลงมาด้วยจิตใต้สำนึก ซูเฟยเฟยจินตนาการไม่ออกเลยว่าเมื่อครู่ตัวเองทำเื่หน้าอายขนาดนั้นออกไปได้อย่างไร.......... เพราะนี่คือจูบแรกของเธอ เธอไม่เคยจูบกับผู้ชายมาก่อนเลย และยิ่งไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนจูบมาก่อนด้วย ด้วยการขับเคลื่อนภายใต้แรงกระตุ้นและความตื่นเต้นทำให้เธอทำเื่ที่เธอไม่อยากจะเชื่อออกไป
สีหน้าของเย่เทียนเซี่ยแข็งค้างไปพักหนึ่ง............ซูเฟยเฟยกลายเป็ผู้หญิงคนที่สองที่เขาเคยจูบโดยไม่ทันตั้งตัวไปซะแล้ว......... เขาควรจะปฏิเสธเธอไปอย่างชัดเจน แต่ทำไมตัวเขาถึงไม่เกลียดความรู้สึกนั้นเลยสักนิด
เขาส่ายหัวไปมาเพื่อขจัดความฟุ้งซ่านออกจากหัวก่อนจะใช้มือชี้ไปที่พนักงานที่มีสีหน้าอึ้งสนิทและดูน่าเกลียด สายตาของเขาพยักเพยิดไปที่ชิพที่อยู่ตรงหน้าตัวเองและหลี่เทียนเผิง “ไปสิ เอาพวกมันไปแลกเป็เงินหัวเซี่ยแล้วโอนเขาบัตรของฉันด้วย ส่วนภาษีของคาสิโนก็คงจะแยกออกได้เองนะ”
“เป็ไปไม่ได้! นี่มันเป็ไปไม่ได้!! โกง.........แกต้องโกงแน่ๆ!!” หลี่เทียนเผิงยืนขึ้นพร้อมกับะโออกมา สีหน้าของเขาขาวซีดไม่หลงเหลือความสงบนิ่งเหมือนก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย เขาไม่ใช่คนที่มีสภาพจิตใจแข็งแกร่งอะไร และลูกชายที่เติบโตมาในครอบครัวอันร่ำรวยก็ล้วนเติบโตมาอย่างไข่ในหินที่ไม่เคยได้รับความพ่ายแพ้ และจะมีสักกี่คนที่มีความสามารถแข็งแกร่งมากพอจะต่อกรกับเขา? สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ท่าทางของเขามีแต่ความสงบนิ่งเพราะเขาเชื่อว่าตัวเองไม่มีวันแพ้.........แต่วันนี้ จากชัยชนะหนึ่งร้อยล้านกลับกลายเป็ความพ่ายแพ้สองร้อยล้าน เขาจะทนต่อความเ็ปนี้ได้อย่างไร
มันไม่ใช่สองร้อย สองพัน สองหมื่น แต่เป็สองร้อยล้าน สองร้อยล้านเต็มๆ!!
ตอนนี้ต่อให้เขาเป็คนโง่ก็น่าจะดูการแสดงของเย่เทียนเซี่ยที่เปลี่ยนแปลงไปออกในทันที เขาเริ่มเกมนี้ขึ้นมา...... และตัวเองก็ถูกผู้ชายตรงหน้าจูงจมูกมาโดยตลอด จากท่าทางสงบนิ่งเปลี่ยนเป็ตื่นตระหนกจากนั้นก็เสนอการพนันสามร้อยล้านออกมาราวกับคนบ้า......... ที่แท้ก็เพื่อที่จะดึงเขาให้ติดกับ และที่เย่เทียนเซี่ยสามารถชนะเขาได้จะต้องเป็เพราะเขาใช้วิธีการพิเศษอะไรบางอย่างอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางที่จะปรากฏแต้มสิบเจ็ดแต้มและสิบแปดแต้มออกมาโดยบังเอิญแบบนี้ได้แน่
ถ้าเขาถูกเอาเปรียบและต้องเสียเงินสองร้อยล้านไป เขาจะต้องกลายเป็ตัวตลกอย่างแน่นอน..........แล้วพ่อของเขาก็คงจะต้องฉีกเขาเป็ชิ้นๆ
“โกง? เห้อ! นายหมายความว่าไงน่ะ! ลูกเต๋าของฝั่งนายก็เป็พวกนายเขย่ากันเอง ฉันไม่ได้ไปแตะมันเลยซักนิด แล้วนายเอาตาที่ไหนมองว่าพวกเราโกงล่ะฮะ! ถ้าลูกผู้ชายอย่างฉันจะโกงล่ะก็ แล้วทำไมเขาถึงไม่เขย่าให้ได้สักสามสี่แต้มล่ะ ตระกูลหลี่อย่างนายไม่น่าจะเป็ไอ้ขี้แพ้ที่ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้จนต้องมากล่าวหาว่าคนอื่นเขาโกงหรอกมั้ง!” ใบหน้าของซูเฟยเฟยยังไม่หายแดง แต่เธอกลับชี้หน้าหลี่เทียนเผิงแล้วะโออกมาเสียงดัง ถ้านายยังกล้าใส่ร้ายผู้ชายของฉันอีกล่ะก็ฉันกับนายคงได้เห็นดีกันแน่
ผู้คนโดยรอบต่างก็เฝ้ามองเหตุการณ์ตรงหน้า ฝ่ายเย่เทียนเซี่ยนั้นเขย่าเอง แล้วยังเขย่าออกมาได้สิบเจ็ดแต้มอย่างน่าหัวเราะอีกด้วย......... แต้มขยะแบบนี้จะสามารถ “โกง” ได้อย่างนั้นเหรอ? แต่ฝ่ายหลี่เทียนเผิงกลับให้เ้ามือเป็คนเขย่าแทน เย่เทียนเซี่ยเองก็ไม่ได้แตะกระบอกไม้ไผ่ของเขาเลยแม้แต่น้อย หากจะบอกว่าเขาโกง แล้วทั้งหมดนั้นมันจะเป็ไปได้ยังไง
