เย่เฟิงและซูเมิ่งหานเดินเคียงข้างกันเข้าประตูโรงเรียนด้วยคิ้วขมวดมุ่น เื่แบบนี้ทุกคนรู้ได้อย่างไร? ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้องมีใครบางคนเผยเื่นี้อย่างลับๆ แน่นอน จุดประสงค์คงเป็การสร้างความเสื่อมเสียให้ซูเมิ่งหาน มันเป็ใคร?
“เสี่ยวมี่เฟิง!” โอวบีวิ่งตามมาตลอดทางั้แ่หน้าประตูโรงเรียน เมื่อเห็นเย่เฟิงและซูเมิ่งหานเดินข้างกัน จึงะโเรียกทันที
ทันทีที่เย่เฟิงหันกลับไปก็เห็นเด็กผู้ชายผมสีขาวสว่างซึ่งตนรู้จักเป็อย่างดีวิ่งเข้ามาหา เป็โอวบีที่เขากำลังอยากเจอนี่เอง
“นายมาพอดีเลย ฉันมีเื่อยากจะถามหน่อย” เย่เฟิงดึงเขาไปข้างถนนพลางกวาดสายตามองรอบๆ แล้วกระซิบถาม “ทำไมทุกคนรู้เื่ที่เมิ่งหานจะฟ้องร้องพวกตระกูลเซี่ยล่ะ?”
โอวบีได้ยินคำว่า ‘เมิ่งหาน’ ซึ่งอีกฝ่ายเรียกอย่างสนิทสนม พลางมองดาวโรงเรียนคนสวยที่อยู่ข้างกายเย่เฟิงก็อดสงสัยไม่ได้ เหมือนทั้งสองคนจะใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนหรือเปล่านะ?
เด็กหนุ่มไม่มีทางรู้เื่ราวเลยเถิดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้แน่นอน
“ฉันก็ไม่รู้ที่มาเหมือนกัน มีคนส่งข้อความมาั้แ่เช้า คนทั้งโรงเรียนได้รับกันหมด” โอวบีสบถด่า “ไอ้เวรเอ๊ย สถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีสำหรับพวกนายเลย”
“ไม่ต้องห่วง ไม่มีเื่อะไรเกิดขึ้นหรอก” แววตาเย่เฟิงส่องประกายเย็นะเื “แค่ไม่รู้ว่าใคร จะมาดีหรือร้าย ถ้าฉันจับได้เมื่อไรจะทำให้มันจำขึ้นใจเลยว่าอย่ามาลองดีกับฉัน”
“เอาล่ะเสี่ยวมี่เฟิง ฉันรู้ความสามารถของนาย ประเด็นคือเราไม่รู้ว่าใครปล่อยข่าว...” โอวบีส่ายหน้ารัวก่อนเปลี่ยนเื่ “จริงสิ เมื่อวานนายกับคุณหลินคนสวย...”
พูดได้เพียงครึ่งหนึ่ง เขาถึงรู้ตัวว่าซูเมิ่งหานยังอยู่ตรงนี้ด้วย จึงสงบปากลงทันที
“อะแฮ่ม ไม่เป็ไร เราคุยกันเข้าใจแล้ว เธออยากเป็พี่สาวของฉัน งั้นก็เป็พี่สาวนั่นแหละ” เย่เฟิงกระแอมก่อนพูดอย่างวางตัวไม่ถูก จากนั้นคว้ามือซูเมิ่งหานขึ้นมากุม เป็การกระทำที่สื่อว่าให้เธอสบายใจและมั่นใจว่านี่เป็เื่จริง
ซูเมิ่งหานใช้นิ้วไล้ฝ่ามือเขาเบาๆ รอยยิ้มหวานที่ประดับอยู่บนใบหน้าสวยบริสุทธิ์ทำให้เย่เฟิงเบาใจ สาวน้อยคนนี้ไม่โกรธก็ดีแล้ว
“โอเคไอ้หนุ่ม ไม่เสียแรงที่พี่โอวเป็เพื่อนกับนาย” โอวบีหัวเราะเสียงแห้งพลางตบบ่าอีกฝ่ายเบาๆ แล้วพูดชม
ให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลินมาเป็พี่สาว? ไม่เลวเลยจริงๆ ไม่ทำให้ดาวโรงเรียนคนสวยอย่างซูเมิ่งหานต้องช้ำใจ ทั้งยังสามารถรักษาที่พึ่งหลักอย่างตระกูลหลินไว้ได้!
“อ้อ ยังมีของนี่อีก กลับไปค่อยให้พ่อของนายลองประเมินราคา ได้เท่าไรแล้วช่วยขายให้ฉันด้วย” เย่เฟิงเปิดกระเป๋าให้โอวบีดูไข่มุกราตรีที่อยู่ข้างใน
โอวบีชะโงกหน้าดูของที่อยู่ข้างในแล้วก็ต้องใตาค้าง ไข่มุกราตรีอะไรใหญ่ขนาดนี้เนี่ย? มันใหญ่กว่ากำปั้นของผู้ใหญ่ตั้งสามเท่า และยังมีลวดลายัสองตัวสลักอยู่ที่ผิวอีก เห็นเพียงแวบแรกก็รู้สึกว่าของสิ่งนี้ช่างน่าอัศจรรย์ แม้จะมองด้วยตาของเขาก็ยังมองออกว่าไข่มุกราตรีเม็ดนี้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าห้าล้าน หากเอาเข้าประมูลล่ะก็ มากกว่าสิบล้านก็ใช่ว่าจะเป็ไปไม่ได้!
“ยังมีข่าวดีอีกเื่ หลินซิวเหวินอะไรนั่น อยู่ๆ ก็กลายเป็เป็บ้าไปแล้วเมื่อคืน” เย่เฟิงยิ้ม
“อะไรนะ?” โอวบียังไม่ทันหายใจากไข่มุกราตรี กลับต้องใอีกครั้งกับข่าวนี้
คุณชายสามตระกูลหลินกลายเป็บ้า? เขายังจำเื่ครั้งก่อนที่ร้านขายของโบราณโอวซื่อได้ พ่อของเขากลั้นใจจ่ายเงินชดใช้ไปตั้งสามเท่า เห็นได้ชัดเลยว่าคนรับใช้ของเขาทำของโบราณชิ้นนั้นแตก แล้วทำไมเป็พวกเขาที่ต้องชดใช้?คุณชายผู้หยิ่งยโสกลายเป็บ้าไปแล้วอย่างนี้ ช่างสาแก่ใจและฟังรื่นหูอะไรอย่างนี้ ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองด้วยการจุดประทัด!
“เขากลายเป็แบบนั้นได้ยังไง?” เพียงข้อนี้โอวบีกลับคิดไม่ออก หรือเป็ฝีมือของเย่เฟิง?
“นายอย่าเข้าใจผิด” เย่เฟิงมองสายตาสงสัยของคนตรงหน้าแล้วรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย หากเขาจะลงมือ คงฆ่าให้จบเลยทีเดียว ทำไมต้องลำบากทำให้คนกลายเป็บ้าด้วย?
“มันอาจทำเื่ลบหลู่พระเ้าไว้มากก็ได้ พระเ้าเลยลงโทษ” เย่เฟิงโบกมืออย่างขอไปที “เื่แบบนี้คุยแค่กับพวกเราก็พอ อย่าไปใส่ใจมากเลย จวนได้เวลาแล้วพวกเราไปเข้าเรียนกันเถอะ”
หากเขา้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยเยี่ยนจิง พออิงตามอันดับของเย่เฟิงตอนนี้แล้วยังห่างไกลอีกมาก ถึงเขาจะอยู่ในโรงเรียนมัธยมในสังกัดของมหาวิทยาลัยเยี่ยนจิง แต่คะแนนที่เป็อันดับหนึ่งนับจากท้ายสุดของทั้งห้องแบบนี้ ก็คงไม่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยเยี่ยนจิงได้ แน่นอนว่าเย่เฟิงไม่รู้สึกกดดันใดๆ ด้วยความทรงจำของเขาตอนนี้ มันไม่ง่ายที่จะสอบเข้าคณะศิลปศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเยี่ยนจิงได้
หลังจากบทสนทนาของทั้งสามคนสิ้นสุดลง พวกเขาก็มุ่งหน้าไปห้องเรียนด้วยกัน
เมื่อผ่านประตูบันไดเพื่อตรงไปยังห้องเรียน ขณะที่สายตาหยุดอยู่ที่สุดระเบียงทางเดิน ทั้งสามคนต่างชะงักอย่างพร้อมเพรียง ทำไมคนมาออกันมากมายขนาดนั้น? หลายคนไม่ใช่นักเรียนด้วย หรือมีเื่ยุ่งยากมาหาถึงหน้าประตู?
“เดี๋ยวนะ?” เย่เฟิงใช้จิตหยั่งรู้ตรวจสอบ แล้วคิ้วเข้มก็ค่อยๆ ขมวดเข้าหากันแน่น
เซี่ยิ่และเซี่ยเฉิงเย่ สองพี่น้องจากตระกูลเซี่ยนี่เองที่ยืนปิดทางเข้าห้องเรียนอยู่ แม้คนอื่นๆ จะอยู่ในชุดลำลอง แต่เย่เฟิงมองปราดเดียวก็ดูออกว่าเป็พวกทหารใต้บังคับบัญชาของเซี่ยเฉิงเย่ซึ่งเคยขวางหน้าเขาที่ภัตตาคารจิงเฉิงครั้งก่อน
มาหาเื่กันอีกแล้วเหรอ?
เย่เฟิงสบถอย่างหัวเสีย เขาจับมือเล็กของซูเมิ่งหานแน่นแล้วก้าวเท้าเดินต่อ
“เฮ้ยๆ เสี่ยวมี่เฟิง อย่าเพิ่งเดินไปเลย ถ้าพวกนั้นมาหาเื่นายล่ะ? เดี๋ยวฉันไปดูให้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น...” โอวบียื่นมือขวางพวกเขาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“ไม่ต้องห่วงน่า ไม่มีเื่อะไรหรอก” เมื่อเย่เฟิงเห็นความห่วงใยและความกังวลบนใบหน้าของเพื่อนก็รู้สึกซาบซึ้ง จัดการกับนักเลงกระจอกพวกนี้ คนอย่างเย่เฟิงไม่จำเป็ต้องถอยหรอก
ไม่มีการพิจารณาคำห้ามปรามของโอวบี เย่เฟิงพาซูเมิ่งหานไปถึงหน้าประประตูห้องเรียนอย่างรวดเร็ว!
“ดูสิ ซูเมิ่งหานกับเย่เฟิงมาแล้ว”
“มาแล้วจริงด้วย จบเห่แน่ คนตระกูลเซี่ยมาหาถึงหน้าประตูขนาดนี้”
“เราควรไปบอกครูดีไหม?”
“บอกบ้านแกสิ ต่อให้เป็ผอ.มา แกคิดว่าจะมีใครกล้าหือกับตระกูลเซี่ยเหรอ?”
บทสนทนาที่นักเรียนกระซิบกระซาบกันอยู่ตรงประตูห้องเรียนเข้าหูเย่เฟิงทั้งหมดด้วยพลังของจิตหยั่งรู้
เซี่ยิ่และเซี่ยเฉิงเย่ซึ่งอยู่ท่ามกลางผู้คนรายล้อมหันกลับมามองเย่เฟิงที่กำลังพาซูเมิ่งหานเดินเข้ามา สายตาแต่ละคนพลันวาววับขึ้นมาทันที
“อ้าว มากันได้สักที นี่ใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนะเย่เฟิง นายยังมัวอยู่กับนังแรดนี่อีกเหรอ ไม่กลัวสอบตกหรือไง?” เซี่ยิ่ยืนขึ้น จิกตามองทั้งสองคนด้วยความดูถูก ทั้งตัวของเธอประดับประดาด้วยเพชรพลอย เครื่องสำอางหนาเตอะ ไม่รู้ว่าไปหาคนหนุนหลังจากที่ไหน ถึงกล้ามาผยองอีกครั้งแบบนี้
“ครั้งที่แล้วยังได้รับบทเรียนไม่พอเหรอ?” เย่เฟิงไม่คิดอะไรด้วยซ้ำ เขาก้าวขึ้นไปตบหน้าฝ่ายตรงข้ามหนึ่งฉาด
เพียะ!
ไม่มีใครในที่นี้มองเห็นการกระทำของเขาได้ชัดเจนเลย กว่าเซี่ยเฉิงเย่กับลูกน้องจะรู้สึกตัว เซี่ยิ่ก็ถูกตบหน้าอย่างจังแล้ว ใบหน้าครึ่งซีกบวมแดงเป็ปื้น แรงตบทำให้เธอถอยหลังไปหลายก้าวแล้วล้มลงอย่างแรงท่ามกลางฝูงชน
ตบกระเด็นเลย!
“ว้าย!” ความโกลาหลเกิดขึ้นในหมู่นักเรียนโดยรอบ เย่เฟิงที่ใกล้ชิดกับตระกูลหลินแห่งเมืองเยี่ยนจิงช่างกำเริบเสิบสาน กล้าลงมือโดยไม่ลังเลเลย!
“แกกล้าตบพี่สาวฉัน! แน่จริงเข้ามาเลย ตอนนี้ไม่มีใครโผล่มาช่วยแกได้หรอก!” เมื่อเซี่ยเฉิงเย่เห็นอย่างนี้แล้วก็กัดฟันกรอดพลางถลกแขนเสื้อ เขาออกคำสั่งกับทหารใต้บังคับบัญชาเจ็ดแปดนายที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีโดยไม่ลังเล จากนั้นกลุ่มทหารก็พุ่งเข้าหาเย่เฟิงทันที!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้