อาณาเขตเหนือครามตั้งอยู่ทางเหนือสุดของทวีป์ ภายในอาณาเขตเหนือครามอันกว้างใหญ่ มีอาณาจักรย่อยอยู่ทั้งหมดเจ็ดอาณาจักร ทางใต้ของอาณาจักรฉีซาน คือ อาณาจักรซู พื้นที่ของอาณาจักรซูไม่ด้อยไปกว่าอาณาจักรฉีซานแต่อย่างใด
หากตระกูลหลินเป็ใหญ่ในอาณาจักรูเาฉี ตระกูลหวังก็คือผู้ครองอำนาจของอาณาจักรซูอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีใครรู้ว่าตระกูลหลินและตระกูลหวังเริ่มเป็ศัตรูกันั้แ่เมื่อใด แต่ทุกคนในอาณาจักรเหนือครามต่างรู้ดีว่า ตระกูลหลินและตระกูลหวังไม่อาจอยู่ร่วมกันได้
ไม่ว่าจะเป็งานเลี้ยงหรือแดนลับ ตราบใดที่คนของตระกูลหวังและตระกูลหลินพบกัน มันจะเป็พายุเื ไม่ว่าเมื่อใด ตราบใดที่ทั้งสองตระกูลพบกัน พวกเขาจะสู้กันจนตาแดงก่ำ
...
แม่น้ำสายยาวไหลผ่านเทือกเขาโดยรอบสายของเมืองตั้งอยู่ตามแนวเทือกเขาหากมองลงมาจากท้องฟ้าจะเห็นแสงไฟนับพันดวง อาณาจักรซูเจริญรุ่งเรืองเสมอมา
ใจกลางอาณาจักรซู มีเมืองโบราณชื่อ "เมืองสันติ"
กำแพงเมืองสีดำ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ มีเื่เล่าว่า เมืองสันติมีอยู่ั้แ่ยุคโบราณ และที่นี่ก็คือศูนย์กลางของตระกูลหวัง
เมืองสันติปกคลุมไปด้วยอักขระวิเศษที่ซับซ้อน ตระกูลหวังหลายชั่วอายุคนอาศัยเมืองสันติในการต้านทานกระแสคลื่นอสูรที่ดุร้ายที่สุด
บนตึกที่สูงที่สุดในเมืองสันติ ชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาวนั่งตรงข้ามกับชายชรา
บนท้องนภา ดวงจันทร์และดาราน้อยใหญ่กระจัดกระจาย เหนือศาลา เมฆหมอกปกคลุมดูราวกับแดนเซียน อากาศเย็นเยือกเล็กน้อย
ชายชราใช้หมากสีดำ ส่วนชายวัยกลางคนใช้หมากสีขาว สีหน้าของทั้งสองผ่อนคลาย ขยับหมากไปอย่างช้าๆ ดูท่าจะพึงพอใจกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
"ข่าวได้รับการยืนยันแล้วหรือไม่?" ชายชราวางหมากลงก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ชายวัยกลางคนมีใบหน้าคล้ายคลึงกับเขา ทั้งคู่มีดวงตายาวเรียว รูปร่างผอมบาง บนร่างกายเปล่งไอสังหารอันเย็นะเื ดวงตาพราวระยับดั่งอสรพิษชวนให้ผู้คนขนลุก
หมากของทั้งสองเดินอย่างมีชั้นเชิง ภายใต้ความสงบนั้นแฝงเร้นด้วยการรอคอยเพื่อโจมตีเด็ดขาด
"ท่านบรรพชน ได้รับการยืนยันแล้วว่าข่าวที่ตระกูลหลินปล่อยออกมาเป็เท็จ บรรพชนตระกูลหลินยังไม่ได้ก้าวข้ามขั้นนั้นเลย" ชายวัยกลางคนซึ่งเป็ผู้นำตระกูลหวังในปัจจุบันกล่าวด้วยความเคารพ
เมื่อชายชราได้ยิน รอยยิ้มค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า "ดี! ตระกูลหลินกระจ้อยร่อย กล้าดีอย่างไรถึงคิดจะก้าวข้ามขั้นนั้น? ช่างเพ้อฝันสิ้นดี!"
"ข้าได้ยินมาว่าเขาประกาศว่าจะสามารถทะลวงขึ้นไปได้ในสามปี" ชายวัยกลางคนกล่าว
"สามปี? เฮอะ น่าขันนัก!" บรรพชนตระกูลหวังหัวเราะเยาะ เขาหยิบหมากสีดำขึ้นมาด้วยสองนิ้ว แววตาเย็นเยียบเปล่งประกาย ไม่เชื่อถือและเต็มไปด้วยการดูแคลน
"ตอนแรกที่ข่าวแพร่ออกมา ข้าก็ควรรู้แล้ว มันเพิ่งผ่านไปแค่ร้อยปีนับจากการทะลวงขั้นครั้งก่อน แม้แต่ข้าเองยังต้องใช้เวลาหลายร้อยปีเพื่อก้าวไปอีกขั้น"
"สามปี? ไร้สาระ! อย่ามาทำให้ข้าขำ!"
"บรรพชนตระกูลหลินนั่นไม่มีวันทำสำเร็จภายในสามปีแน่นอน!"
ชายชราเอ่ยตัดสินด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พลันรัศมีรอบกายเปลี่ยนไป หมากสีดำตกลงบนกระดาน เชื่อมโยงกันกินพื้นที่กว้างขวาง หมากสีขาวถูกกดดันจนแทบไม่อาจขยับได้!
"บรรพชนช่างเฉียบแหลม" ชายวัยกลางคนถอนหายใจ
ชายชรามองเขาแวบหนึ่งก่อนสะบัดมืออย่างไม่ใส่ใจ พลันหมากขาวบริเวณเล็กๆ บนกระดานสลายเป็เถ้าธุลีที่ปลิวหายไป "เลิกพูดคำไร้ประโยชน์เถอะ มีข่าวอะไรจากตระกูลหลินอีกหรือไม่?"
ใบหน้าของชายวัยกลางคนแปรเปลี่ยนเป็เคร่งขรึม "บรรพชน แม้ว่าบรรพชนตระกูลหลินจะยังไม่ทะลวงขั้น แต่ปรากฏการณ์ประหลาดเ่าั้เป็เื่จริง พร์อัจฉริยะได้ถือกำเนิดขึ้นในตระกูลหลิน"
"พร์อัจฉริยะ?" ชายชราวางหมากลงอีกตัวก่อนหรี่ตา "อย่าบอกข้าว่าปราณสีม่วงและเสียงแห่งมหาเต๋านั่นปรากฏขึ้นเพราะเด็กคนนั้น?"
ชายวัยกลางคนชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนกัดฟันกล่าว "บรรพชน... การสั่นะเืเ่าั้เกิดขึ้นเพราะพร์ของเด็กตระกูลหลินจริงๆ..."
เขาสูดลมหายใจลึกแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "แต่บรรพชน! อัจฉริยะจากตระกูลหลินหาได้มีสิ่งใดน่าหวาดกลัว! เขาเทียบไม่ได้กับอัจฉริยะของพวกเราเลย!"
"บุตรชายของข้า หวังเถิงเฟย ได้รับโชควาสนาของจักรพรรดิ!"
"ในวันที่เขาเกิด นกกระเรียน์นับหมื่นพากันมาชุมนุม เขาคือการกลับชาติมาเกิดของเซียนโบราณ!!"
"เมื่อเทียบกับบุตรชายของข้าแล้ว คนของตระกูลหลินล้วนไร้ความหมาย!"
สายลมเย็นะเืพัดผ่านหอคอยสูง บรรยากาศเงียบงันเนิ่นนาน
"อัจฉริยะของตระกูลเรา หวังเถิงเฟย แท้จริงแล้วมีท่วงท่าของจักรพรรดิ ในฐานะการกลับชาติมาเกิดของเซียน เมื่อเขาเติบโตขึ้น จะไม่มีผู้ใดในโลกนี้สามารถเทียบเคียงเขาได้"
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ชายชราจึงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "แต่ในเมื่อตระกูลหลินมีอัจฉริยะ เช่นนั้นเหตุใดเ้าจึงไม่รู้เื่นี้มาก่อน?"
ชายวัยกลางคนเบิกตากว้าง รีบเงยหน้าขึ้นหมายจะแก้ต่าง ทว่าชั่วพริบตาเขากลับรู้สึกเหมือนถูกโจมตีอย่างรุนแรง!
ร่างทั้งร่างกระเด็นไปดั่งกระสอบทราย ถูกพลังมหาศาลอัดเข้าใส่โดยตรง!
"กร๊อบ!"
เสียงกระดูกลั่นดังสนั่น ชายวัยกลางคนกระอักโลหิตสีแดงเข้มออกมาคำโตก่อนร่างจะปลิวออกไป!
ก่อนที่เขาจะตกถึงพื้น หมากดำเก้าตัวพลันเปลี่ยนเป็เข็มสีดำพุ่งทะลวงร่างอย่างแม่นยำ แทงผ่านแขนขาและปอดของเขา ปักตรึงร่างติดกับผนังศาลา!
"แค่ก!"
"ท่านบรรพชน..."
ร่างของชายวัยกลางคนสั่นระริกด้วยความเ็ป แต่เขาไม่กล้าเปล่งเสียงแม้แต่น้อย จวบจนผ่านไปครู่ใหญ่ หมากเ่าั้จึงตกลงพร้อมกับร่างของเขาที่ร่วงลงกระแทกพื้น
"ขะ...ขอบคุณท่านบรรพชนที่ไว้ชีวิตข้า..." เขาหอบหนัก ก่อนรีบคุกเข่าก้มศีรษะทันที
"เข้ามา เกมยังไม่จบ" ชายชรากล่าวอย่างราบเรียบ
"ขอรับ" แม้จะเ็ปเพียงใด ชายวัยกลางคนก็กล้ำกลืนฝืนทนแล้วกลับไปนั่งลงหน้าโต๊ะหมากล้อม
"ยังมีอะไรอีก?" ชายชราถามต่อ ราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น เขาไม่ได้แม้แต่จะปรายตามองชายวัยกลางคนที่แทบสิ้นชีวิต
"มีอีกเื่หนึ่ง ภรรยาของหลินห่าว บุตรีตระกูลซวน ซึ่งตั้งครรภ์มานานกว่าร้อยปี ดูเหมือนจะคลอดบุตรแล้ว" ชายวัยกลางคนกล่าวพลางกลั้นความเ็ป
"ภรรยาของหลินฮ่าวหรือ?"
"ท่านบรรพชน เพื่อขัดขวางไม่ให้หลินฮ่าวแข็งแกร่งขึ้น พวกเราเคยใช้คำสาปมรณะกับนาง"
"คำสาปนี้มาจากโชควาสนาที่บุตรชายข้า หวังเถิงเฟย ค้นพบจากดาบเล่มนึงที่พังทลาย มันเป็เพียงเศษสนิมสัมฤทธิ์ ทว่ากลับสามารถกัดกร่อนสรรพสิ่ง เมื่อนำมาใช้จะทำให้ผู้ตกเป็เป้าหมายทนทุกข์ทรมานไปตลอด และสามารถกักขังทารกไว้ในครรภ์ได้ถึงร้อยปีโดยไม่ให้ถือกำเนิด"
"แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด เด็กคนนั้นกลับคลอดออกมาได้"
"แต่เื่นี้ไม่มีผลกระทบใดๆ เมื่อลืมตาดูโลก คำสาปก็จะสำแดงฤทธิ์รุนแรงขึ้น คำสาปนี้ไม่มีทางลบล้างได้ นางไม่ได้รับมันไปโดยเปล่าประโยชน์ ข้ามั่นใจว่าตอนนี้บุตรีตระกูลซวนต้องตายแล้วอย่างแน่นอน"
"หลินฮ่าวและบุตรีตระกูลซวนต่างมีสถานะสูงส่งในตระกูลหลิน หากมีผู้หนึ่งต้องตาย ตระกูลหลินย่อมเผยจุดอ่อนออกมาโดยไม่ต้องสงสัย จากนั้นมือสังหารของเราก็สามารถแทรกซึมเข้าไปและค้นหาอัจฉริยะของตระกูลหลิน..."
"แล้วเราจะสังหารมันได้!"
ชายชราหันไปมองชายวัยกลางคนแวบหนึ่งก่อนแค่นเสียงเ็า "อย่างน้อยเ้าก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์จนเกินไป"
ชายวัยกลางคนตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว มิกล้าเอื้อนเอ่ยคำใด
ภายใต้ม่านราตรี ชายชราเงยหน้าขึ้นมองไปยังที่ห่างไกล พระจันทร์เสี้ยวสาดแสงเย็นเยียบลงมา ประกายแสงในดวงตาของเขาฉายแววสีดำสนิทดั่งั์ตาของอสรพิษ เ็าและอำมหิต!
"อัจฉริยะผู้ทำให้พลังปราณสีม่วงพัดมาจากทิศตะวันออกยาวไกลถึงสามหมื่นลี้..."
"เ้าจะเป็ผู้นำทีมสังหารครั้งนี้ด้วยตัวเอง"
"ระหว่างเ้าและอัจฉริยะของตระกูลหลิน จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิต"
ชายวัยกลางคนสูดลมหายใจลึกก่อนพยักหน้า
"ขอรับ ท่านบรรพชน!"