ประกายแสงของมีดส่องกะพริบวาบเกือบตลอดเวลา ทันใดนั้นหมีสี่แขนก็ยืนนิ่งแข็งทื่อ และปรากฏรอยเืขึ้นที่รอบเอว จากนั้นร่างท่อนบนก็ร่วงหล่นลงพื้น ส่วนครึ่งท่อนล่างยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง มันถูกสังหารในชั่วพริบตา
ดาบวงพระจันทร์ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขามุ่งตรงไปยังจุดอื่นในทันที ร่างของเขาแปรเปลี่ยนเป็ดาบแสงที่คมกริบอย่างไม่มีอะไรเทียบ ในขณะที่เขาพุ่งออกไปนั้น ไก่เกราะโลหะ หมีสี่แขน ชะมดั์ตาฟ้าสองตัว ร่างทั้งสี่ของมอนสเตอร์ก็ล้มลงและกระจัดกระจายกลายเป็กองเศษเนื้อที่ยังอุ่นระอุอยู่
ดาบวงพระจันทร์ตวัดปลายลิ้นเลียหยดเืที่กระเซ็นติดบนใบหน้าเข้าปาก หลังจากที่เคลื่อนผ่านลำคอลงไป ริมฝีปากเริ่มแสยะยิ้ม ก่อนจะหัวเราะออกมา...
ตะขาบเกราะโลหะตัวหนึ่งไม่รู้ว่าวิ่งมายังด้านหน้าเมืองได้อย่างไร ขาทั้งสามสิบหกเคลื่อนไหวไปมา เสียงของการปะทะกันทำให้ผู้ใช้เวทเกือบยี่สิบคนที่หลบไม่ทัน เหลือแต่เพียงซากศพภายในระยะเวลาไม่ถึงนาที นักรบคนหนึ่งเมื่อได้เห็นดังนั้น จึงกวัดแกว่งอาวุธเข้าปะทะในทันที หลังจากที่ได้โจมตีเข้าใส่ร่างของตะขาบเกราะโลหะแล้ว ก็ปรากฏให้เห็นเพียงรอยข่วนจางๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังเป็การยั่วโมโหให้ตะขาบเกราะโลหะโกรธขึ้นอีกด้วย จึงได้ปล่อยของเหลวพิษเข้าใส่ร่างของนักรบผู้นั้น ซึ่งทำให้นักรบผู้นั้นถึงกับกรีดร้องอย่างโหยหวน ทั่วทั้งร่างเปลี่ยนกลายเป็สีดำ หลังจากนั้นแค่อึดใจเดียว ร่างก็เปลี่ยนกลายเป็แสงสว่างแห่งความตาย
"ระวัง... มอนสเตอร์เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว"
จอมยุทธ์ย่ำเท้าไปสุดขอบฟ้ากำลังรับมือกับชะมดั์ตาฟ้าทั้งสองตัวเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วไม่ต่างจากภูตผี ก่อนจะพุ่งเข้าใส่ พร้อมเสียงตวัดมีดที่อยู่ในมือดังขวับขึ้น 3 ครั้ง ยิ่งฟันยิ่งรุนแรง ยิ่งฟันยิ่งหนักหน่วง เขาเคลื่อนไหวไปมารวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ
เคร้ง!
เคร้ง!
ฉัวะ!
ตะขาบเกราะโลหะสามารถป้องกันดาบได้เพียงสองเล่มเท่านั้น เมื่อดาบที่สามตัดผ่านมา ก็แบ่งร่างของมันจากบนลงล่างออกเป็สองส่วนในทันที ร่างที่ใหญ่โตของมันกระแทกจนพื้นะเืราวกับผลักูเาทองล้มเสาหยก สั่นะเือยู่ชั่วครู่จึงหยุดลง
"ทุกคนระวังตัวด้วย"
ย่ำเท้าไปสุดขอบฟ้าไม่ได้ใส่ใจมองตะขาบเกราะโลหะที่ตายไปแล้ว เขาพุ่งตัวไปด้านหน้า กวัดแกว่งดาบแสงเพื่อป้องกันหนามแหลมที่พุ่งเข้ามา และสังหารเม่นเป็รายต่อไป...
......
ปังง...
กำแพงเมืองถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าวัวัแห่งดินแดนรกร้างจะไม่รู้สึกรู้สาแต่อย่างใด มันดึงเขาแหลมคู่นั้นออกจากหิน ก่อนจะทิ้งหลุมดำลึกคู่หนึ่งที่ลึกราวแปดสิบเิเเอาไว้บนกำแพง หลังจากสะบัดหัวอันใหญ่โตไปมา จึงได้เริ่มก้าวถอยหลังไปสักสองสามก้าว แล้วพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง
วัวัแห่งดินแดนรกร้าง ระดับ 58 มีข่าวลือว่า เป็มอนสเตอร์สายเืโบราณ ทำให้พละกำลังที่มีนั้นค่อนข้างแข็งแกร่งมากทีเดียว มีคำว่า ั อยู่ในชื่อ เพื่อ้าอธิบายถึงความแข็งแกร่งที่มีอย่างมาก เขาคู่นั้นมีความแข็งแรงทนทาน เมื่อถูกแทงก็ไม่ต่างจากหินแหลมพุ่งชนเต้าหู้ ทำให้เขาของมันนั้นเป็สิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นนิยมนำมาทำเป็อาวุธกัน
ปัง... ปัง... ปัง...
วัวัแห่งดินแดนรกร้างต่างก็ผลัดกันพุ่งเข้าชนกำแพงเมืองอย่างต่อเนื่อง การสั่นะเืแผ่ขยายไปทั่วบริเวณด้านหน้าเมือง ทุกคนในเวลานี้ต่างก็เริ่มรู้สึกมึนงงขึ้นบ้างแล้ว
"น้ำมัน... รีบเอาน้ำมันมาที่นี่เร็วเข้า..."
"ท่อนซุงหนาม รีบปล่อยมันออกไปเดี๋ยวนี้..."
"นักเวทโจมตีไปอย่าหยุด..."
......
กัวหยากัวยังคงออกคำสั่งอยู่ตลอด ในน้ำเสียงเจือความกังวลอยู่บ้าง เครื่องยิงหน้าไม้เฉียนหนิวก็เพิ่งจะยิงออกไป ก่อนจะเตรียมการโจมตีรอบถัดไปคงต้องใช้เวลาอีกสักครู่หนึ่ง นักธนูิญญาตอนนี้ก็กำลังทำหน้าที่อยู่เช่นกัน แต่ก็ยังไม่สามารถยับยั้งการบุกโจมตีที่รุนแรงของมอนสเตอร์ได้ ในที่สุด 'ลมกระจ่างจันทร์แรม' ก็ยอมหยุดหน้าที่ในการออกคำสั่ง ก่อนจะคว้าธนูคู่ใจพร้อมกับลูกธนู และมุ่งไปยังแนวหน้า
สีเขียวเริ่มเบ่งบานบนกำแพงเมืองหมายเลข 7 แน่นอนว่า นั่นย่อมต้องเป็เฉ่าเสียเสี่ยวมู่โถวที่กำลังปลดปล่อยความแข็งแกร่งออกมา เด็กหนุ่มผู้ซึ่งเชื่อมั่นในิญญาของธรรมชาติ และเป็มิตรกับต้นไม้ใบหญ้าทั้งหลาย ซึ่งพละกำลังที่ปลดปล่อยเพียงครั้งเดียวก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวเป็อย่างมาก กิ่งก้านใบเริ่มเจริญงอกงามอย่างรวดเร็วจนเรียกว่าบ้าคลั่งก็คงไม่ผิดนัก ก่อนจะเลื้อยจับมัดอนาคอนดาเขาเดียวที่ยาวถึงห้าสิบเมตรไว้แน่น พันทบกันเป็เกลียวจนหนาแน่นขึ้นทีละทบๆ ไม่ถึงห้าวินาที เ้าป่าที่ทรงพลังที่สามารถหักโค่นต้นไม้ใหญ่ได้ด้วยการสะบัดหางเพียงครั้งเดียว ในเวลานี้กลับไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนได้แล้ว ผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์อยู่ห่างๆ ถึงกับต้องอ้าปากค้าง นี่มันเป็มอนสเตอร์ระดับ 59 ต่ำกว่าระดับ 60 แค่ขั้นเดียว นั่นทำให้พวกเขาต่างก็ให้ความนับถือเป็อย่างมาก เมื่อพวกเขาทราบเื่เกี่ยวกับชายหนุ่มผู้ต่ำต้อยคนนี้ เมื่อพวกเขาได้พบกันคราวหน้า คงต้องทำความรู้จักมักและตกลงเป็เพื่อนกันเสียแล้ว
"นกกาเหว่า รีบไปช่วยท่านจอมยุทธ์" สีหน้าของฉินโจ้วเปลี่ยนไปเล็กน้อย และรีบสั่งการออกไป ท่านจอมยุทธ์นี่ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับค่าความยุติธรรมนั้นสูงเกินไปหรือเปล่า จึงดึงดูดความเกลียดชังได้ง่ายดายเช่นนี้ ทำให้มอนสเตอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่คราวนี้ดูเหมือนจะเลวร้ายยิ่งกว่า มอนสเตอร์ทรงพลังทั้ง 6 ตัว ต่างก็วิ่งตรงไปยัง้าสุดของเมือง มีเม่นสามตัว อนาคอนดาเขาเดียวหนึ่งตัว และวัวัแห่งดินแดนรกร้างอีกสองตัว ซึ่งพวกมันล้วนเป็มอนสเตอร์ระดับหัวหน้าฝูงทั้งสิ้น
"ได้ครับ หัวหน้า" นกกาเหว่านั้นเป็ผู้ใช้เวท หลังจากที่โบกมือของเขา ทักษะวิชาตัวเบาก็ปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้า จากนั้นก็พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
เสียงหวีดร้องดังโหยหวนขึ้นบริเวณด้านหน้าเมือง เมื่อฉินโจ้วหันกลับไปก็พบกับอนาคอนดาเขาเดียวที่กำลังพ่นพิษออกมาเป็จำนวนมาก ดูไม่ต่างจากฝนที่กำลังตกอยู่บริเวณด้านหน้าเมือง จากนั้นหินอัคนีเริ่มปรากฏควันสีขาวลอยออกมา โชคไม่ดีนัก มีผู้เล่นมากกว่าสองร้อยคนจมอยู่ในพิษ จากนั้นไม่นานก็เหลือเพียงแค่กระดูกขาวลอยปรากฏขึ้นให้เห็น เพียงไม่ถึงอึดใจ กระดูกขาวนั้นก็สลายไปจนหมด ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะกินยาถอนพิษ สุดท้ายก็เหลือนักรบเพียงแค่คนเดียวที่ต้านทานพิษไว้ได้ จากการร่วมมือของนักบวชทั้งหลายจึงทำให้เขามีชีวิตรอด ทุกคนในเวลานี้ต่างก็รู้สึกหวาดกลัวเป็อย่างมาก เดิมทีอนาคอนดาก็เป็เผ่าพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแล้วในบรรดางูเหลือมขนาดใหญ่ ซึ่งแต่เดิมนั้นปราศจากพิษ แต่ไม่รู้ว่ามันผ่านการวิวัฒนาการมาอย่างไร จึงสามารถมีพิษที่ร้ายแรงเช่นนี้
ฉินโจ้วจ้องมองเพียงครู่ ก่อนจะละสายตามา ดูจากคลื่นมอนสเตอร์ระลอกนี้แล้ว เหมือนจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันไม่ใช่เื่แปลกอะไรที่มอนสเตอร์และผู้เล่นนั้นจะมีการตายลงหรือเสียชีวิตอยู่ตลอดเวลา เวลานี้การต่อสู้ไม่ได้ถูกจำกัดไว้เพียงแค่นอกเมืองเท่านั้น แต่เริ่มมีขึ้นภายในเมืองแล้ว มอนสเตอร์จำนวนไม่น้อยต่างก็ะโข้ามกำแพงเมืองตรงเข้าไปด้านใน อย่างไรก็ตามพวกมันก็ไม่ได้คิดว่าภายในเมืองนั้นจะมีผู้เล่นที่เป็ขุมกำลังหลักรออยู่ด้วย โดยมีน้องชายมีดและหงยี่เป็คนนำทีม ซึ่งมีกองทหารอยู่ราวหนึ่งแสนคน
ผ่านไป 55 นาทีแล้ว เหลืออีกเพียงแค่ห้านาทีสุดท้าย
ฉินโจ้วถือไม้เท้าเวทเอาไว้ ก่อนจะชี้ตรงไปด้านหน้าทันที ที่ด้านนอกเมือง ซากของเม่นเริ่มมีการเคลื่อนไหว ค่อยๆ หดตัวก่อนจะเริ่มขยายออกเกิดเสียงดังปัง ทำให้เกิดการะเิขึ้น ร่างของผู้เล่นกิลด์ราตรียิ่งใหญ่กระเด็นขึ้นไปในอากาศราวสามสิบเิเ ที่บริเวณหน้าอกก็ะเิออกเป็ชิ้นๆ เมื่อมองดูเหมือนว่าจะยังไม่หมดลมหายใจในทันที ในขณะที่เขากำลังนอนมองม้วนคัมภีร์ระดับสูงที่อยู่บนพื้นอย่างเงียบงัน ซึ่งอยู่ห่างจากปลายนิ้วของเขาไปไม่ถึงสิบเิเ แต่เป็ระยะทางที่ดูเหมือนจะยาวไกลจนไม่มีที่สิ้นสุด ก่อนจะกลับไปเกิดใหม่อย่างรู้สึกคับแค้นใจ
ถ้า้าเพียงแค่สามเหรียญทอง หรืออุปกรณ์ระดับทองคำหนึ่งหรือสองชิ้น ฉินโจ้วนั้นยอมให้นำมันออกไปได้ แต่ถ้า้าม้วนคัมภีร์เวท และแถมยังเป็ม้วนคัมภีร์เวทระดับสูง เขาคงไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ เพราะในเวลานี้เขาเองก็ค่อนข้างขาดแคลนอยู่เช่นกัน ในตอนที่จัดการกับกลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าโลหิตนั้นก็ได้ใช้ออกไปหลายม้วน และยังใช้ไปอีกสามม้วนเมื่อต่อกรกับกิลด์ต้นไม้ทงเทียนในเมืองลิงอีก ทำให้เวลานี้เขาเหลือม้วนคัมภีร์เวทระดับสูงเพียงม้วนสุดท้าย ถือได้ว่ายากจนข้นแค้นอยู่พอสมควร
อีกอย่าง 'ะเิศพ' นั้นสามารถสังหารได้เพียงหัวขโมยตาบอดเท่านั้น จู่ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้น ดูเหมือนว่าจะมีมอน สเตอร์ระดับหัวหน้าฝูงปรากฏขึ้นถึง 8 ตัว
เหล่ามอนสเตอร์ทั้งแปดตัวนี้สูงใหญ่มาก ความสูงมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกันแล้ว ดูๆ ไปแล้วพวกมันก็แทบไม่ต่างจากูเาที่เดินได้ แม้ว่าจะอยู่ในกลุ่มของมอนสเตอร์ ก็ยังสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัดอยู่ดี
ความเร็วในการเคลื่อนที่นั้นว่องไวมากเลยทีเดียว ระยะทางสำหรับพวกมันนั้นไม่ได้ถือว่ายาวไกลเลยสักนิด ทันทีที่พวกมันพุ่งผ่านออกจากหลุมดำ ก็ปรากฏตัวขึ้นในระยะ 1,600 เมตร เพียงชั่วพริบตาพวกมันก็เข้ามาใกล้ระยะ 1,000 เมตรเสียแล้ว
"เครื่องยิงหน้าไม้เฉียนหนิว... ยิงได้" กัวหยากัวเมื่อสบโอกาสจึงสั่งการอย่างรวดเร็ว ทันทีที่รู้ว่าเครื่องยิงหน้าไม้นั้นพร้อมที่จะโจมตีได้เพียงแค่หนึ่งรอบ แต่ก็ไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย เมื่อมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าฝูงเข้ามาใกล้ นั่นหมายถึงหายนะแล้ว
ผึงง...
หอกยาวนับพันพุ่งทะลวงผ่านช่องว่างออกไป เหลือทิ้งไว้เพียงเงาดำจางให้เห็นในอากาศเท่านั้น
ห่างออกไปราวพันเมตร มอนสเตอร์ระดับหัวหน้าฝูงเหมือนจะรับรู้ได้ถึงบางสิ่ง ก่อนจะะโผลุงขึ้นหลบหลีกหอกที่ยิงออกมาจากเครื่องยิงหน้าไม้เฉียนหนิวนั้นได้อย่างง่ายดาย มีแค่สี่ตัวเท่านั้นที่ถูกยิงใส่ มีหลุมเืปรากฏขึ้นมาสองแห่ง แต่มันก็ยังไม่ตาย โดยอีกสองตัวนั้นยังอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีใครคาดคิดว่า จู่ๆ ทั้งสี่ตัวที่ถูกยิงนั้น หนึ่งในนั้นเซถลามาดึงกระชากหอกแหลมนั้นออก และคำรามก้องพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ เืหลั่งรินออกจากหลุมเืดังกล่าวเป็ทางยาวตลอดสาย
นั่นก็คือ หอกยาวที่พุ่งออกไประลอกนี้สามารถสังหารมอนสเตอร์ได้เพียงแค่สามตัวเท่านั้น
800 เมตร
400 เมตร
300 เมตร
"เครื่องยิงหิน ยิงง..."
ก้อนหินนับพันพุ่งตรงมาจากท้องฟ้า เกิดเสียงหวีดหวิวผ่านลมจนน่าหนวกหู
หลังจากฝนก้อนหินร่วงหล่น มอนสเตอร์ระดับหัวหน้าฝูงส่วนใหญ่ไม่สามารถหลีกหนีจากภัยในครั้งนี้ได้ ต่างล้วนได้รับาเ็ด้วยกันทั้งสิ้น มีจำนวนไม่น้อยที่ต้องทอดตัวยาวลงบนถนนนอนหลับไปตลอดกาล ฉินโจ้วเห็นอุปกรณ์ระดับทองคำดำดรอปออกมา และมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าฝูงตัวอื่นก็ล้วนได้รับาเ็เช่นกัน ทำให้ความเร็วของพวกมันเริ่มลดต่ำลงบ้างแล้ว
200 เมตร
100 เมตร
80 เมตร
"ผู้ใช้เวทถอยกลับไปด้านหลัง นักธนูก้าวขึ้นมาด้านหน้าแทน เปลี่ยนไปใช้คันธนูิญญา เตรียมตัว... ยิงได้"
ชิ่วๆๆ...
ลูกธนูพร่างพราวลงมาดั่งหยาดฝนอีกครั้ง มากกว่าหนึ่งหมื่นดอกที่ถูกยิงลงมา มอนสเตอร์จำนวนไม่น้อยล้มตายลง ซึ่งมีมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าฝูงที่โจมตีกำแพงเมืองได้รุนแรงที่สุดก็ถูกฆ่าตายลง นั่นก็คือ อนาคอนดาเขาเดียว ทำให้ผู้เล่นที่ตื่นกลัวบนกำแพงหมายเลข 6 ได้คลายความกังวลลงไปบ้าง
ร่างของมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าฝูงทั้งสี่เต็มไปด้วยลูกธนู แต่ดูเหมือนว่ายังไม่มีตัวไหนล้มลง ต่างกู่ร้องด้วยความเ็ป
50 เมตร
30 เมตร
"นักธนูก้าวถอยหลัง ผู้ใช้เวทสลับออกมาด้านหน้า เตรียมตัว... เริ่มได้" กัวหยากัวะโขึ้น สีหน้าดูเคร่งขรึม
บรรดาเวททั้งหลายสาดเสียงดังสนั่นไปทั่วฟ้า เป้าหมายในการโจมตีมีเพียงแค่มอนสเตอร์ใหญ่โตทั้งสี่เท่านั้น หลังจากการโจมตีเวทในรอบนี้ หนึ่งในสี่ก็ได้ทอดกายล้มลง เพียงแต่ยังไม่ตายลงในทันที มีแต่เสียงร้องครวญครางด้วยความเ็ปและโกรธเกรี้ยว
เวลานี้เหลือมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าฝูงเพียงแค่สามตัวเท่านั้น ระยะทางสามสิบเมตรไม่มีความสำคัญสำหรับพวกมันเลยแม้แต่น้อย สองในสามตัวะโขึ้นไปสู่้าของเมือง ด้วยรูปร่างที่ใหญ่โตมโหฬารของมัน ทันทีที่ถูกพุ่งเข้าใส่ผู้เล่นนับสิบก็โดนทับจนบี้แบนไม่ต่างจากพายเนื้อ หนึ่งในนั้นก็คือ ลิงกอริลลา เพียงแค่กางสองมือที่ใหญ่โตจนน่ากลัวออก คล้ายกับการปัดแมลงวัน ผู้เล่นที่ถูกตบก็ลอยปลิวกระเด็นหายไปลับตา ยังไม่ทันตกลงมาถึงพื้นก็สลายกลายเป็แสงสีเทาไปเสียแล้ว อีกตัวก็คือ อนาคอนดาเขาเดียว แค่ยกหางขึ้นสะบัดออกไปเพียงครั้งเดียว ผู้เล่นหลายร้อยคนก็สลายกลายเป็แสงสีเทาไปในทันที
ส่วนนักรบและผู้ใช้เวทนั้นดูจะดีกว่า พวกเขายังสามารถโจมตีใส่ก่อนที่จะตาย ถึงแม้ว่าจะทำอะไรได้ไม่มากนักก็ตาม ในส่วนของนักบวชและผู้เล่นแผนกขนส่งพวกเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะถอยหนี ซึ่งในเวลานี้ไม่ต่างอะไรจากหุ่นเชิดที่เอาไว้ถ่วงเวลาเท่านั้น ไม่มีทางที่จะต่อต้านได้เลย แต่มีข้อดีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือ ่หน่วงเวลาอนาคอนดาเขาเดียวได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งแทบจะไม่คุ้มค่าเลยด้วยซ้ำ
มอนสเตอร์ระดับหัวหน้าฝูงที่ไม่ได้พุ่งตรงไปที่ด้านหน้าเมือง ก็คงมีแต่วัวัแห่งดินแดนรกร้าง ดูเหมือนว่ามันจะหลงใหลในการพุ่งชนกำแพงเสียจริง กีบทั้งสี่ห้อตะบึงพุ่งตรงมาให้เห็นเป็แนว ก่อนที่ร่างจะพุ่งถลาเข้าใส่ เหลือทิ้งไว้แค่ฝุ่นควันฟุ้งอยู่เื้ั ได้ยินเสียงกระแทกประตูดังสนั่น ก่อนที่วัวัแห่งดินแดนรกร้างจะดึงเขาที่ติดอยู่กับประตูเมืองออกมา สะบัดหัวที่น่าเกลียดของมันไปมา และถอยหลังไประยะหนึ่ง ก่อนที่กีบทั้งสี่จะโผนกระโจนเข้ากระแทกใส่อีกครั้ง
วัวัแห่งดินแดนรกร้างในเวลานี้ดูราวกับกำลังเล่นสนุก มันมีพลังที่ไร้ขีดจำกัด ในขณะที่พุ่งเข้าชนประตูเมืองจนเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ทำให้ผู้เล่นทั้งหลายที่ได้เผชิญหน้าต่างก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวเพิ่มมากขึ้น ในใจลึกๆ นั้นก็เกรงว่ากำแพงเมืองอาจจะถล่มลงมาในไม่ช้า
"รายงาน... กำแพงหมายเลข 6 ตกอยู่ในอันตราย ขอกำลังสนับสนุนด่วน..." สายลับรายงาน
"รายงาน... กำแพงหมายเลข 4 กำลังแย่แล้ว ขอกำลังสนับสนุนด้วย" สายลับอีกคนรีบเข้ามารายงาน
"รายงาน... กำแพงเมืองหมายเลข 8 ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแล้ว..."
"รายงาน..."
......
ดูเหมือนว่าในเวลานี้ นอกจากกำแพงหมายเลข 5 ที่ฉินโจ้วอยู่ ทั้งแปดกำแพงกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ ชูหลิงก็ถึงกับลืมหายใจไปชั่วขณะ และเอ่ยขึ้นว่า "ถ้าไม่อย่างนั้น ให้เปลี่ยนเป็ลูกธนูเวทไหม?"
ฉินโจ้วส่ายหน้า บนใบหน้าไม่มีแม้ร่องรอยแห่งความหวาดวิตกปรากฏขึ้นให้เห็น ก่อนจะเอ่ยกับสายลับไปว่า "กลับไปบอกทุกคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบกำแพงเมืองว่า ยืนหยัดเข้าไว้" มีเพียงสายลับของกำแพงหมายเลข 3 ที่จากไป
" 'หายไปกับสายลม' นายไปที่กำแพงหมายเลข 3 " ฉินโจ้วออกคำสั่ง ถึงแม้ว่ากำแพงอื่นๆ ก็มีความจำเป็เร่งด่วนมากเช่นกัน แต่พวกเขาก็ยังสามารถยันเอาไว้ได้อยู่ คงมีแต่กำแพงหมายเลข 3 เท่านั้น ที่มีรอยแตกเป็ช่องบนกำแพง ซึ่งค่อนข้างอันตรายมาก ทั้งหมดนี้ก็เป็เพราะฝีมือของวัวัแห่งดินแดนรกร้างทั้งสิ้น
"รับทราบ" ร่างของ 'หายไปกับสายลม' ก็ได้จางหายไปในอากาศ ราวกับถูกลมพายุพัดหอบปลิวหายไป ในขณะนั้นเอง บริเวณใต้ฝ่าเท้าของเขาก็รับรู้ได้ถึงแรงสั่นะเืที่เกิดขึ้น
ตูม...
ในที่สุดประตูเมืองก็ถูกวัวัแห่งดินแดนรกร้างโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และถูกทำลายลงจนได้ แผ่นเหล็กกล้าหนาถึง 40 เิเ แตกกระจายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย แล้วประตูก็ถูกกระแทกจนเปิดออก
จู่ๆ กัวหยากัวก็รู้สึกว่าเหงื่อเย็นๆได้ไหลออกมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้