เซียวเฉินเห็นสีหน้าและแววตาที่เปลี่ยนไปของทุกคน รอยยิ้มยิ่งลึกล้ำ เขาเอ่ยเรียบๆ “ดังนั้น คนที่ข้าสอนต้องแข็งแกร่งกว่า เขาจะสยบชนชั้นรุ่นเยาว์ในหมู่บ้านเหลยถิง และวันนั้นอยู่อีกไม่ไกล!”
ทุกคนมองเซียวเฉินโดยไม่เอ่ยวาจา
พวกเขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่จะโจมตีมาจางๆ นั่นเป็พายุอันน่ากลัว และต้นกำเนิดคือสองคนที่อยู่เบื้องหน้า “ลั่วเฉินอวี่” และเหลยอวิ๋นถิง
เหลยอวิ๋นถิงแข็งแกร่งขึ้นฉับพลัน ทั้งยังมีองค์ชายแห่งแคว้นชางหวงคอยสนับสนุนอยู่ด้วย
มีที่พึ่งพาเช่นนี้ก็สามารถแยกตัวออกไปจากหมู่บ้านเหลยถิงได้
แต่เหลยอวิ๋นถิงไม่ไป เขายังอยู่ในตระกูลต่อ เพื่ออะไร? เพื่อวันหน้าจะได้อุทิศชีวิตของตนให้ตระกูล หรือว่า...แก้แค้น...
ชั่วขณะ เหลยอวิ๋นถิงก็โดดเด่นจับตา
ในเวลาเดียวกัน เซียวเฉินมีสีหน้าแปรเปลี่ยน รู้สึกได้ว่ามีรังสีแข็งแกร่งขุมหนึ่งโอบล้อมเขาไว้กะทันหัน จากนั้น พลังจิติญญาขุมหนึ่งคิดจะแทรกเข้ามาตรวจสอบห้วงการรับรู้ของเขา เื่นี้ทำให้เซียวเฉินหันไปมองเหลยเทียนซิน
ถูกต้อง เหลยเทียนซินนั่นเอง
เดิมทีเหลยเทียนซินคิดจะตรวจสอบความสามารถของเซียวเฉิน แต่ครู่ถัดมาสีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยน เพราะเขารู้สึกว่ามีพลังจิติญญาที่แข็งแกร่งจนน่ากลัวในห้วงการรับรู้ของเซียวเฉินปิดกั้นเขาไว้ในพริบตา
เวลานี้ เขารู้สึกว่ากำลังถูกกักขังอย่างไม่มีทางหลุดพ้นเหมือนเขาถูกชิงิญญา
นั่นคืออะไร ภาพลวงตา ปิดฟ้าบังตะวัน ทะเลเพลิงผลาญนภา...
ขนาดเขายังรู้สึกร้อนระอุอย่างประหลาด
ราวกับวินาทีต่อมาจะถูกเผาไหม้เป็จุณ
พลังนี้ น่าสะพรึงเกินไป
ทันใดนั้น สายตาที่มองเซียวเฉินก็มีความหวาดหวั่น
เซียวเฉินมองเหลยเทียนซินด้วยสายตาเ็าเช่นกัน สีหน้าเย็นเยียบถึงขีดสุด แววตาไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด เขามองเหลยเทียนซินตรงๆ สายตานั้นถึงกับทำให้เหลยเทียนซินรู้สึกเหมือนกำลังถูกคุกคาม
“ผู้าุโเหลย ท่านทำแบบนี้ ไม่ค่อยมีมารยาทนะ”
น้ำเสียงของเซียวเฉินเ็าแฝงความเดือดดาล
เหลยเทียนซินถึงกับตรวจสอบเขา เซียวเฉินจะไม่มีโทสะได้อย่างไร? หากเหลยเทียนซินรุกรานเข้าสู่ห้วงการรับรู้ ก็อาจััได้ถึงความทรงจำของเขา ฐานะที่แท้จริงของเขาก็อาจถูกเปิดเผย เขาไม่กล้าคิดถึงผลที่ตามมา!
เป็ไปได้อย่างยิ่งว่า วันนี้พวกเขาทุกคนต้องตาย!
ดังนั้น เซียวเฉินจึงกักการรับรู้ของเหลยเทียนซินทันทีและประกาศความผิดต่อหน้าสาธารณชน
เหลยเทียนซินก็รู้ตัวว่าผิดจึงไม่ได้พูดอะไร แต่เซียวเฉินกลับไม่คิดจะปล่อยไปแบบนี้
“หรือว่าคนของหมู่บ้านเหลยถิงล้วนต่ำช้า อาศัยว่าตนเองมีความสามารถแข็งแกร่งก็รุกรานการรับรู้และล้วงความลับส่วนตัวของผู้อื่นตามอำเภอใจ”
ระหว่างที่เซียวเฉินเอ่ยวาจา ที่นั่นก็เงียบกริบ
เหลยเทียนซินมีสีหน้าอัปลักษณ์ ใบหน้าชราแดงเถือก เดิมทีคิดจะแอบตรวจสอบเงียบๆ คิดไม่ถึงว่าจะถูกจับได้ ขายหน้าหมดแล้วจริงๆ
“แล้วเ้าจะเอาอย่างไร?” เหลยเทียนซินเอ่ยถาม
เซียวเฉินกล่าวว่า “ขอโทษข้า”
เหลยเทียนซินมีสีหน้าแปรเปลี่ยน แม้สิ่งที่เขาทำจะไม่ถูกต้อง แต่เซียวเฉินก็กักการรับรู้ของเขาไว้ จะให้เขาขอโทษต่อหน้าทุกคน นั่นมิใช่กำลังตบหน้าเขาหรือ?
เขาเป็ถึงบุคคลระดับผู้าุโของหมู่บ้านเหลยถิง จะขอโทษผู้เยาว์คนหนึ่งได้อย่างไร?
“ข้อนี้เป็ไปไม่ได้เด็ดขาด”
เหลยเทียนซินปฏิเสธคำขอของเซียวเฉินทันที
เซียวเฉินหัวร่อหยัน “หรือว่าขอเพียงคนของหมู่บ้านเหลยถิงมีลำดับรุ่นสูงกว่าก็สามารถทำชั่วได้ตามอำเภอใจ อาศัยว่าตนเองเป็ผู้คุมกฎก็ไม่เห็นกฎระเบียบอยู่ในสายตาได้?”
คำพูดของเซียวเฉินแทงใจดำทุกประโยค
ทำเอาเหลยเทียนซินมีสีหน้าน่าเกลียดทันที
“องค์ชายลั่ว ทำแบบนี้บีบคั้นกันเกินไปหน่อยกระมัง? ข้ายอมรับว่าข้าเสียมารยาท...”
เหลยเทียนซินยังเอ่ยไม่จบ เซียวเฉินก็ตัดบททันที
“เสียมารยาทแล้วทำไมไม่ขอโทษ?”
ประโยคเดียวทำเอาเหลยเทียนซินพูดไม่ออก เขาสะบัดแขนเสื้อจะหันกายจากไป แต่กลับถูกแสงจรัสสายหนึ่งขวางไว้
เคร้ง!
กระบี่เล่มหนึ่งพาดขวางด้านหน้าของเหลยเทียนซิน เบิกฟ้าร่วงพื้นเกิดเสียงดังสนั่นทันใด พื้นดินปริแตก ปราณกระบี่อันกล้าแข็งทำให้เหลยเทียนซินมีสีหน้าหนักใจ
“ผู้าุโเหลย ท่านเห็นแคว้นชางหวงเรารังแกง่ายจริงๆ หรือ? ข้าลั่วเฉินอวี่เป็บุคคลระดับองค์ชายแห่งแคว้นชางหวง หรือว่าข้ารับคำขอโทษจากท่านไม่ได้?”
เซียวเฉินซักไซ้ด้วยเสียงเ็า
“องค์ชายลั่ว ข้าเคารพท่านเป็องค์ชายก็ถือว่าไว้หน้าท่านแล้ว แต่ที่นี่คือแคว้นเยี่ย ไม่ใช่แคว้นชางหวงของท่าน ดูฐานะในปัจจุบันของตนเองให้ชัดเจนด้วย ท่านอยู่ในหมู่บ้านเหลยถิงเราในฐานะอาคันตุกะ”
คำพูดของเหลยเทียนซินแฝงความหมายว่า ที่นี่คือหมู่บ้านเหลยถิง ไม่ใช่แคว้นชางหวง แม้เ้าเป็องค์ชายของแคว้นชางหวง แต่ในหมู่บ้านเหลยถิงเรา เ้าเป็เพียงแขกผู้มาเยือนเท่านั้น ส่วนข้าเป็ผู้าุโของหมู่บ้านเหลยถิง ดังนั้น เ้าสมควรหยุด
เซียวเฉินย่อมฟังออก
จากนั้น เซียวเฉินจึงเอ่ยเรียบๆ ภายใต้การจับจ้องของทุกคน “ลั่วเฉินอวี่แห่งแคว้นชางหวงคิดจะขอคำชี้แนะจากผู้าุโหลายกระบวนท่า ผู้าุโโปรดส่งเสริมด้วย หากข้าแพ้ ข้าจะปล่อยการรับรู้ของผู้าุโและถือว่าพวกเราหายกัน หากข้าชนะ ผู้าุโโปรดขอโทษเื่การกระทำเมื่อครู่ด้วย”
คำพูดของเซียวเฉินทำเอาที่นั่นสะท้านะเื
ทุกคนมองเซียวเฉินด้วยสายตาหวาดกลัว
นั่นคือผู้มีความสามารถขั้นเสวียนเต๋าไปแล้วครึ่งก้าวนะ!
ส่วนเซียวเฉินเพิ่งอยู่ขั้นเสวียนฟ้าห้าชั้นฟ้า การต่อสู้ครั้งนี้ยังมีอะไรน่าลุ้นอีก? แค่ระดับขั้นของเหลยเทียนซินก็เพียงพอที่จะสะกดจนถึงขั้นกำราบเขาได้แล้ว
เซียวเฉินมีความมั่นใจจริงๆ หรือ...
ส่วนคนอื่นๆ ยิ่งดูแคลนและหัวร่อหยัน
“ลั่วเฉินอวี่บ้าคลั่งจนไร้ขีดจำกัด ถึงกับกล้าท้าสู้ผู้าุโคุมกฎ นึกว่าช่วยเหลยอวิ๋นถิงให้ทะลวงสองขั้นรวดแล้วจะไร้ผู้ต่อต้านในแผ่นดินหรือ?”
“เหิมเกริมจริงๆ ดูสิว่าอีกสักครู่เขาจะขายหน้าเช่นไร”
“พวกเรารอดูผู้าุโคุมกฎทรมานองค์ชายแห่งแคว้นชางหวงกันเถอะ รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย”
“ข้าด้วย ข้าด้วย...”
“...”
อีกด้านหนึ่ง เหลยชิงโหรวมองเซียวเฉินด้วยสีหน้ากังวล “พี่ ท่านว่าพี่ใหญ่เซียว...พี่ใหญ่ลั่วจะเอาชนะผู้าุโคุมกฎได้หรือ...ข้าเป็ห่วง...”
แม้เหลยอวิ๋นถิงจะมีสีหน้าหนักใจเช่นกัน แต่ก็ยังเอ่ยปลอบเหลยชิงโหรวว่า “วางใจเถอะ เขาต้องมีความมั่นใจแน่นอน ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่เสนอให้ต่อสู้หรอก”
“พวกเราแค่เชื่อใจเขาก็พอ”
“อืม”
เหลยเทียนซินยิ้มหยัน “ได้ ข้าจะสงเคราะห์เ้าเอง!”
เวลานี้ เหลยเทียนซินคำนวณความเป็ไปได้ไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าห้วงการรับรู้ของ “ลั่วเฉินอวี่” จะแข็งแกร่ง แต่เขาก็อยู่แค่ขั้นเสวียนฟ้าห้าชั้นฟ้าเท่านั้น ส่วนตนเองอยู่ขั้นเสวียนฟ้าเก้าชั้นฟ้าระดับสูงสุดและย่างสู่ขั้นเสวียนเต๋าไปแล้วครึ่งก้าว ยังสยบเขาไม่ได้หรือ?
หรือว่าเขาจะข้ามสี่ระดับขั้นมาเอาชนะตนเองได้?
คิดถึงตรงนี้ รอยยิ้มของเหลยเทียนซินยิ่งลึกล้ำ
เซียวเฉินก็ยิ้มหยันเช่นกัน นึกว่าจะสยบเขาได้จริงๆ หรือ? เช่นนั้น จะให้เ้าดูว่าสยบข้าได้หรือไม่!
ตูม!
เซียวเฉินปลดปล่อยแสงเสวียนบนร่าง กลิ่นอายอันแข็งแกร่งะเิออกในพริบตา เขามองเหลยเทียนซินแล้วยิ้มกล่าว “ผู้าุโเหลย ท่านจะหยั่งเชิงความสามารถของข้ามิใช่หรือ วันนี้ข้าจะให้ท่านเห็นจนพอใจ”
“ขั้นเสวียนฟ้า...หกชั้นฟ้า!”
สีหน้าของเหลยเทียนซินเริ่มน่าเกลียด
เพราะเซียวเฉินให้ความรู้สึกว่าแข็งแกร่ง ต่อให้เป็เขาก็รู้สึกได้ว่ากลิ่นอายอันแข็งแกร่งขุมนั้นกำลังพุ่งทะยาน
วิ้ง!
เหลยเทียนซินปลดปล่อยพลังเสวียนออกมาเช่นกัน ส่วนแขนทั้งสองข้างของเซียวเฉินมีแสงเสวียนปกคลุม เร่งเร้าแรงัเถื่อนยุคกำเนิดโลก พลังมหาศาลหนึ่งแสนชั่งเพิ่มขึ้นเพราะระดับขั้นของเซียวเฉินสูงขึ้น เวลานี้ เซียวเฉินจึงมีพละกำลังเกือบหนึ่งแสนสองหมื่นชั่ง พลังเช่นนี้น่ากลัวสุดขีด!
“เอาหมัดข้าไปกิน!”
เซียวเฉินตวาดเสียงดังลั่น ต่อยหมัดจู่โจมไป
เหลยเทียนซินย่อมไม่เกรงกลัว เขาต่อยหมัดออกไปเช่นกัน พลังเสวียนเจิดจ้าบาดตาดุจดาวตก พลังหมัดสองสายปะทะกันจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเหมือนฟ้าร้อง...