หลังจากที่อาณาเขติญญาถูกผนึกเรียบร้อยแล้ว พลังิญญาทั้งหมดก็เริ่มโคจรเข้าไปอยู่ในอาณาเขติญญามากขึ้นเรื่อยๆ
เนี่ยหลีกินยาวิเศษเข้าไปไม่หยุดเพื่อบำรุงพลังิญญาที่บริเวณนี้
เฉกเช่นเดียวกันกับอากาศที่ถูกบีบอัดจนถึงจุดๆ หนึ่ง สามารถทำให้มันมีพลังะเิอันน่าอัศจรรย์ใจ
พลังิญญาของเขากำลังถูกบีบอัดอยู่ภายในอาณาเขติญญา ไม่อาจหาทางออกได้
ถูกอัดแน่นอย่างต่อเนื่อง และก็ฉีกขาด
เนี่ยหลีรู้สึกว่าอาณาเขติญญาของเขากำลังถูกฉีกกระชากและก็สร้างใหม่ทันทีอย่างต่อเนื่อง ความเ็ปทรมานนี้ทำให้เขาหน้าซีดขาวเหงื่อไหลออกราวสายฝน
“อ้า!” เนี่ยหลีกรีดร้องด้วยความเ็ป แม้ความมุ่งมั่นถูกท้าทายไม่ขาดสาย เนี่ยหลียังคงรักษาความกระจ่างแห่งสติสัมปชัญญะไว้ได้ เหนี่ยวนำพลังิญญาที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งถูกบีบอัดอย่างต่อเนื่อง นำให้มันค่อยๆ โคจรช้าลง
ตูม ตูม ตูม!
ใจกลางอาณาเขติญญา จุดสำคัญแต่ละจุดกำลังพองตัวออก ทุกครั้งที่มันะเิ เนี่ยหลีรู้สึกได้ว่าพลังิญญาของเขาขยายตัวขึ้นหลายเท่าในพริบตา
เสียงตูมสุดท้ายดังขึ้น!
พลังิญญาที่ถูกบีบอัดเริ่มะเิตัวออก กวาดไปทั่วอาณาเขติญญาของเขา พลังิญญาปั่นป่วนเดือดพล่านไม่หยุด
ซี๊ด!
ความเ็ปรวดร้าวนี้แผ่ซ่านไปทั่วร่าง รู้สึกราวกับกำลังถูกเข็มนับพันหมื่นเล่มทิ่มแทงเข้าใส่สมอง
เส้นทางโคจรพลังปราณฉีกขาดไม่หยุด เนี่ยหลีฝืนทนต่อความเ็ปรวดร้าวนี้ รอคอยให้พลังิญญาที่ถูกบีบอัดเต็มที่ะเิอาณาเขติญญา ทะลวงจุดที่ตีบตันของเส้นทางโคจรลมปราณ
ฟู่!
เนี่ยหลีผ่อนลมหายใจออกมาคำหนึ่งอย่างโล่งอก ทั่วทั้งร่างผ่อนคลายลง แม้เส้นทางโคจรลมปราณทั่วร่างถูกทำลายไปเป็อันมากในเวลานี้ ใบหน้าเนี่ยหลีกลับคลี่ยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น เป็ดังคาด การใช้เคล็ดวิชาฝ่ามือสกัดจุดพิสดารสามารถขยายอาณาเขติญญา จึงทำให้อาณาเขติญญาทะลวงถึงระดับเงินได้สำเร็จ
หลังจากฟื้นฟูพลังิญญาแล้ว เนี่ยหลีก็จะกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินผู้หนึ่ง!
เนี่ยหลีกลืนยาฟื้นฟูพลังลงไปหลายเม็ด นั่งลงขัดสมาธิและเริ่มโคจรลมปราณไปอย่างเงียบๆ เมื่อก้าวขึ้นถึงระดับนี้ ต่อให้เขาดูดซับพลังหยินในยามราตรีก็ไม่เป็อะไร เนี่ยหลีสามารถขจัดไอเย็นไปทีละส่วนได้ กอปรกับเขาเป็ผู้ชาย มีพลังหยางเพียงพอ จึงไม่หลงเหลือความเจ็บป่วยทิ้งไว้ในร่างกายดังเช่นเซียวหนิงเอ๋อร์
หลังฝึกยุทธ์อยู่ราวครึ่งชั่วโมง เส้นทางโคจรลมปราณของเนี่ยหลีและพลังิญญาก็ได้รับการฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว
ในที่สุดเขาก็ก้าวขึ้นถึงระดับเงิน
เนี่ยหลีลืมตาขึ้น ประกายแสงวูบวาบขึ้นในดวงตา ในที่สุดก็สามารถใช้ตะเกียงิญญาปีศาจเงาได้แล้ว!
เนี่ยหลีหยิบตะเกียงิญญาปีศาจเงาออกมา มือขวาค่อยๆ ลูบไล้ตะเกียงิญญาปีศาจเงานั้น พลังิญญาส่วนหนึ่งถูกถ่ายเทเข้าไป ตะเกียงิญญาปีศาจเงาพลันส่งเสียงดังขึ้นคราหนึ่ง แสงไฟสีเหลืองสลัวพลันทอแสงวูบขึ้นมา กลางดึกกลางดื่นเช่นนี้ดูราวกับิญญาภูตผีดวงหนึ่งก็ไม่ปาน
เสียงร้องราวกับปีศาจดังโหยหวนออกมาจากจิตอสูรปีศาจเงา
ท่ามกลางแสงสว่างสลัวนั้น มีจิตอสูรปีศาจเงาตนหนึ่งซ่อนตัวอยู่!
อย่างไรก็ตาม เนี่ยหลีไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาร้องเสียงต่ำออกมาคำหนึ่ง พลังิญญาแปรเปลี่ยนเป็เหมือนเชือกเส้นหนึ่ง พุ่งเข้าพันแสงสลัวกลุ่มนั้นไว้
พลังิญญาของเนี่ยหลีตรวจจับรับรู้ได้ถึงเงาดำนั้น ทันทีที่พลังิญญาของเนี่ยหลีเข้าพันล้อมรอบเงาดำนั้นราวกับเชือกเส้นหนึ่ง จิตอสูรปีศาจเงาพลันกรีดร้องขึ้นมา ดิ้นรนขัดขืนไม่หยุด คิดทำลายเชือกพลังิญญาของเนี่ยหลีให้ขาด
“คิดจะหนีรึ ไม่ง่ายปานนั้นหรอก ยอมรับใช้ข้าเสียโดยดี!” เนี่ยหลีเค้นเสียงต่ำ ทุ่มพลังิญญากระตุกใส่จิตอสูรปีศาจเงาตนนี้อย่างแรงคราหนึ่ง
จิตอสูรปีศาจเงาตัวสั่นเทาขณะขัดขืนไม่หยุด ทว่าภายใต้พลังิญญาที่กดข่มอยู่ของเนี่ยหลี จิตอสูรปีศาจเงาจึงค่อยๆ หยุดต้านทาน เสียงตูมดังขึ้นคราหนึ่ง มันแปรเปลี่ยนเป็เงาดำสายหนึ่งพุ่งเข้าสู่อาณาเขติญญาของเนี่ยหลี ครั้นเมื่อจิตอสูรปีศาจเงาเข้าไปในอาณาเขติญญาของผู้ควบคุมจิตอสูรแล้ว พวกมันจะถูกผู้ควบคุมจิตอสูรควบคุม อาศัยอาณาเขติญญาของผู้ควบคุมจิตอสูรคอยเพาะเลี้ยงไว้ หากมัน้าอิสระ เว้นแต่ผู้ควบคุมจิตอสูรจะเป็ฝ่ายปลดปล่อยมันเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจิตอสูรตนนี้ก็จะไม่สามารถเป็อิสระได้เลย
ก็เหมือนกับการถูกตีตราด้วยพลังิญญาอย่างหนึ่ง
หลังการหลอมรวมเข้ากับจิตอสูรปีศาจเงา อาณาเขติญญาของเนี่ยหลีก็ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วถึงกว่าสองเท่า เมื่อใดที่หลอมรวมจิตอสูร ผู้ควบคุมจิตอสูรและจิตอสูรตนนั้นจะเชื่อมโยงถึงกัน แม้แต่ความเร็วในการฝึกพลังิญญาก็จะส่งเสริมกัน เพิ่มเป็สองเท่าจากเดิม
จิตอสูรปีศาจเงาเป็หนึ่งในจิตอสูรที่ลึกลับที่สุด น้อยคนนักที่จะรู้จักนิสัยของมัน ดังนั้นจึงมีผู้ควบคุมจิตอสูรน้อยคนนักที่จะสามารถดึงความสามารถในการต่อสู้ของมันออกมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้มิใช่เื่ยากเย็นสำหรับเนี่ยหลี
ไม่ต้องสงสัยว่าจิตอสูรปีศาจเงานี้มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง และยังมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่ง ไม่อาจเทียบกับจิตอสูรทั่วไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น ในสมองของเนี่ยหลียังเต็มไปด้วยเคล็ดวิชาการต่อสู้มากมายที่เหมาะสมกับจิตอสูรปีศาจเงา ดังนั้นเขาจะสามารถใช้ประโยชน์จากพลังอำนาจของจิตอสูรปีศาจเงาได้จนถึงขีดสุดของมัน
เนี่ยหลีโบกมือขวาขึ้นคราหนึ่ง เรียกจิตอสูรปีศาจเงาออกมา ร่างกายก็หลอมรวมเข้ากับจิตอสูรปีศาจเงาอย่างรวดเร็ว เวลานี้ร่างกายของเนี่ยหลีปรากฏแสงวับวาบเดี๋ยวจางเดี๋ยวโผล่จนดูราวกับภูตผี หลังแขนสองข้างงอกกระดูกรูปเคียวประหลาดออกมา หน้าตาคล้ายตั๊กแตนตำข้าว จิตอสูรปีศาจเงาสามารถหายตัวได้ทุกเวลา และก็สามารถคืนร่างได้ทุกเมื่อ ขณะที่เนี่ยหลีหายตัว น้อยคนนักที่จะสามารถจับลมหายใจของเขาได้ อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาหายตัว เนี่ยหลีจะไม่มีพลังโจมตี แต่เขาก็สามารถคืนร่างได้ตลอดเวลา ครั้นเมื่อคืนร่างแล้วก็ย่อมสามารถเข่นฆ่าศัตรูได้!
จิตอสูรปีศาจเงาเป็นักฆ่าที่ทรงอานุภาพ ยามเมื่อเผชิญหน้าศัตรู ต่อให้มีระดับสูงกว่าหลายชั้น หากไม่ระวังตัวก็อาจถูกจิตอสูรปีศาจเงาสังหารได้โดยง่าย!
กระดูกเคียวนี้ยาวราวหนึ่งหมี่ (เมตร) ้าทอประกายเย็นเยือก ดูแหลมคมยิ่ง
เนี่ยหลีจ้องมองสองแขนที่กลายสภาพไป และก็หันไปมองต้นไม้ใหญ่ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายหมี่ ร่างของเขาพุ่งไป เร่งความเร็วเข้าใส่ต้นไม้ใหญ่นั้น เคียวข้างหนึ่งแล่นวาบสะท้อนแสงแปลบปลาบ เสียงดัง “ฉัวะ” คราหนึ่ง ต้นไม้ใหญ่ถูกฟันฉับ ล้มครืนลงทันที รอยตัดนั้นเรียบลื่นอย่างยิ่ง
เนี่ยหลีลดเคียวลงด้วยสีหน้าพึงพอใจ เพียงแค่คิด ร่างกายก็ค่อยๆ โปร่งใสขึ้น หายวับไปจากจุดนั้น ผ่านไปครู่หนึ่ง ร่างของเขาจึงปรากฏกลับขึ้นมาใหม่
“ช่างสมกับเป็จิตอสูรปีศาจเงาจริงๆ!” เนี่ยหลียิ้มบางๆ เผยให้เห็นความพึงพอใจบนใบหน้า จิตอสูรปีศาจเงานี้ช่างสมกับเป็มือสังหารยามต่อสู้กับศัตรู คนทั่วไปย่อมไม่อาจป้องกันตัวได้ สามารถถูกจิตอสูรปีศาจเงาเข้าประชิดตัวสังหารได้อย่างง่ายดาย และมันยังมีอัตราการเจริญเติบโตสูงยิ่ง ซึ่งสามารถค่อยๆ ช่วยบำรุงให้วรยุทธ์ของเนี่ยหลีก้าวหน้าขึ้น
การเลือกจิตอสูรปีศาจเงาเป็จิตอสูรตนแรกนับว่าไม่ผิดพลาดแม้แต่น้อย!
โดยทั่วไป เมื่อหลอมรวมกับจิตอสูรเป็ครั้งแรก จะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเข้ากันได้กับจิตอสูรนั้นๆ และจึงมีความเชี่ยวชาญพอที่จะแสดงความสามารถของจิตอสูรตนนั้นออกมาได้ ทว่านี่มิใช่เื่ยากสำหรับเนี่ยหลี เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงสั้นๆ เนี่ยหลีก็สามารถแสดงความสามารถเหล่านี้ออกมาได้อย่างคล่องแคล่ว
“ไม่เลว ไม่เลว!” เนี่ยหลียิ้มบางๆ นั่งลงขัดสมาธิ เขาชำเลืองมองตะเกียงิญญาที่แตกหัก หลังการหลอมรวมกับจิตอสูรปีศาจเงาแล้ว ตะเกียงิญญาดวงนี้ก็หมดประโยชน์ เนี่ยหลีจึงโยนตะเกียงทิ้งไปที่มุมหนึ่งในแหวนมิติของตน
เวลานี้ ร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปกำลังวิ่งเข้ามาทางเขาอย่างรวดเร็ว
ภายใต้แสงจันทร์สลัว เนี่ยหลีเห็นร่างของอีกฝ่าย ที่แท้เป็เสียวอวี่ที่น่ารักนั่นเอง
“เสียวอวี่ เหตุใดเ้าจึงมาที่นี่?” เนี่ยหลีเอ่ยถาม จ้องมองเสียวอวี่
“ข้านอนไม่หลับ ข้าจะเอาอย่างพี่เนี่ยหลี ขยันฝึกยุทธ์เช่นกัน!” เนี่ยอวี่พูด ใบหน้าที่เยาว์วัยดูจริงจังยิ่งนัก
“ก่อนถึงระดับเงิน ทางที่ดีที่สุดอย่าฝึกยุทธ์ยามค่ำคืน ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ได้จะไม่คุ้มเสีย!” เนี่ยหลีสอนเนี่ยอวี่ด้วยสีหน้าจริงจัง
“แต่ทำไมพี่เนี่ยหลีฝึกได้?”
“ข้า...” เนี่ยหลีคงไม่สามารถพูดได้ว่าเขาทะลวงฝ่าถึงระดับเงินแล้วกระมัง “เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงไม่เหมือนกัน เด็กผู้ชายเต็มไปด้วยพลังหยาง ไม่ต้องกลัวพลังหยินเข้าสู่ร่างกาย!”
“ข้าไม่เชื่อท่านหรอก!” เนี่ยอวี่ทำหน้าไม่เชื่อปากยื่นปากยาวตอบ
เนี่ยหลีได้แต่ส่ายศีรษะ เนี่ยอวี่ยังมีความดื้อรื้นอยู่บ้าง บางครั้ง ไม่ว่าผู้อื่นจะพูดอะไรล้วนพูดไม่เข้าหัวนาง
เนี่ยหลีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดขึ้นว่า “ในเมื่อข้ากลับมาแล้ว มาสอนวิชายุทธ์ให้เสี่ยวอวี่สักอย่างหนึ่งดีหรือไม่!”
“ดีๆ ขอบคุณพี่เนี่ยหลี!” เนี่ยอวี่ปรบมือเล็กๆ ของนางอย่างตื่นเต้น ใบหน้ากลมเล็กเหมือนลูกซาลาเปาน้อยเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
เนี่ยหลีล้วงผลึกิญญาเบื้องต้นออกมาชิ้นหนึ่งจากแหวนมิติและยื่นให้เนี่ยอวี่ “ก่อนอื่นเ้าถ่ายเทพลังิญญาลงไปในผลึกิญญาเบื้องต้นนี้ก่อน!”
“อ้อ!” เนี่ยอวี่ไม่คิดมาก นางถ่ายเทพลังิญญาเข้าไปในผลึกิญญา ผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในผลึกิญญาค่อยๆ ทอแสงขึ้นมา
“พลังิญญาสามสิบสองแต้ม เสียวอวี่ไม่เลวๆ อายุแค่เก้าขวบก็มีพลังิญญาเท่านี้แล้ว...” เนี่ยหลีพลันหยุดชะงักลง ดวงตาจับจ้องผลึกิญญา เขาตะลึงงันและพึมพำ “ไม่แปลกใจที่เสียวอวี่มีความก้าวหน้าในการฝึกยุทธ์รวดเร็วยิ่ง ที่แท้เสียวอวี่มีร่างตรา์เทียนเหิน!”
“พี่เนี่ยหลี อะไรคือร่างตรา์เทียนเหินรึ?” เนี่ยอวี่สงสัยยิ่งนัก นางไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน พี่เนี่ยหลีกลับพูดว่านางฝึกยุทธ์ได้เร็ว นางไม่รู้สึกอย่างนั้นสักนิด!”
สิ่งที่เนี่ยอวี่ไม่ทราบก็คือเนี่ยหลีกำลังพูดถึงชีวิตในชาติก่อนของนาง น่าเสียดายที่พร์ซึ่งฟ้าประทานมาให้ในชีวิตชาติก่อนยังไม่ทันได้เปิดเผย ก็ต้องร่วงจาก์ลงในการต่อสู้ครั้งนั้นแล้ว
เนี่ยหลีตบๆ ศีรษะเล็กๆ ของเนี่ยอวี่เบาๆ และพูดว่า “พวกเราตระกูลเทียนเหินสืบเชื้อสายกันมาแต่ยุคอาณาจักรวายุเหมันต์ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานยิ่ง เชื้อสายสูงส่งยิ่ง ยอดยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเทียนเหินแทบทุกคนล้วนมีร่างตรา์เทียนเหิน ความเป็ไปได้ที่สายเืของพวกเราจะปรากฏร่างตรา์เทียนเหินนี้ขึ้นมาคือหนึ่งในร้อยส่วน พูดอีกนัยหนึ่ง ภายในหนึ่งร้อยคน อาจจะมีเด็กคนหนึ่งมีร่างตรา์เทียนเหินนี้ได้ น่าเสียดายที่เคล็ดวิชาซึ่งเหมาะสมกับร่างตรา์เทียนเหินหายสาบสูญไปั้แ่ครั้งยุคมืดแล้ว!”
“อ้อ...” เนี่ยอวี่กระพริบตาปริบๆ คล้ายจะเข้าใจทว่าไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง
โชคดี ในบันทึกจิตอสูรแห่งกาลเวลามีเคล็ดวิชาสำหรับร่างตรา์เทียนเหิน ในใจเนี่ยหลีลิงโลดยิ่ง สามารถใช้เคล็ดวิชานี้ฟูมฟักเสี่ยวอวี่แล้ว!
“ถ้าอย่างนั้นพี่เนี่ยหลีจะสอนเสี่ยวอวี่ฝึกวิชาหรือไม่?” เนี่ยอวี่เอ่ยถามอย่างกังวลเล็กน้อย ในเมื่อวิชาเหล่านี้สูญหายไปนานแล้ว ใช่จะไม่สามารถฝึกได้แล้วหรือไม่?
“แน่นอน แต่สิ่งที่ข้าจะสอนเสียวอวี่ เสียวอวี่ห้ามบอกผู้อื่น นี่เป็ความลับเล็กๆ ของเรา เ้าให้สัญญากับพี่เนี่ยหลีได้หรือไม่?” เนี่ยหลีจ้องมองเนี่ยอวี่ด้วยสายตาอ่อนโยนและถาม ตามที่เนี่ยหลีรู้มา ตระกูลเทียนเหินไม่มีความเป็อันหนึ่งอันเดียวกัน มีความขัดแย้งทางด้านผลประโยชน์อันซับซ้อนหลายอย่าง ดังนั้นเนี่ยหลีจึงไม่คิดจะสนับสนุนเคล็ดวิชาสำหรับร่างตรา์เทียนเหินให้แก่ทางตระกูลอย่างเปิดเผย
อีกหน่อยเมื่อเนี่ยหลีมีกำลังเข้มแข็งขึ้น เขาจะปกป้องตระกูลเทียนเหิน แต่นั่นก็มิได้หมายความว่าเนี่ยหลีจะถ่ายทอดทุกอย่างให้แก่ทางตระกูล
“อื้อ!” เนี่ยอวี่พยักหน้าหงึกๆ อย่างจริงจัง “เสียวอวี่จะไม่บอกใคร!”
เนี่ยหลีถ่ายทอดส่วนแรกของเคล็ดวิชาร่างตรา์เทียนเหินให้แก่เนี่ยอวี่ และเนี่ยอวี่ท่องตาม ในเมื่อนางมีพลังิญญาถึงสามสิบสองจุดแล้ว ความทรงจำของเนี่ยอวี่จึงดีมากแล้ว ไม่นานก็สามารถจดจำเคล็ดวิชาได้หมด
เพื่อความปลอดภัย สอนส่วนแรกให้ก็เพียงพอแล้ว รอจนเนี่ยอวี่ฝึกส่วนแรกสำเร็จ จากนั้นจึงค่อยสอนส่วนต่อไป! ไม่ว่าอย่างไรเนี่ยอวี่ก็ยังเด็กนัก และบริสุทธิ์ยิ่ง ดังนั้นนางจึงอาจจะถูกหลอกได้ง่ายๆ
เนี่ยอวี่พึมพำท่องเคล็ดวิชาในใจ ไม่นานพลังิญญาภายในอาณาเขติญญาก็เริ่มสาดซัดขึ้นมา
ในยุคอาณาจักรวายุเหมันต์ ผู้ควบคุมจิตอสูรคนหนึ่งที่ฝึกเคล็ดวิชาร่างตรา์เทียนเหินมีชื่อเสียงเลื่องลือในฐานะหนึ่งในสามผู้ควบคุมจิตอสูรที่ทรงอำนาจที่สุด ในยุคนั้น ผู้มีพร์มีเป็จำนวนมาก ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานมีอยู่ดาษดื่นทั่วอาณาจักร กระนั้นก็ตาม เคล็ดวิชาร่างตรา์เทียนเหินยังสามารถสร้างชื่อได้ ดังนั้นย่อมจินตนาการได้ว่าเคล็ดวิชาร่างตรา์เทียนเหินนี้ทรงอานุภาพเพียงใด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้