หลงเหยียนกล่าวชม “ได้ผลจริงๆ ด้วย ไม่เสียแรงที่เป็หินวิเศษ ช่างเป็ของที่น่าอัศจรรย์จริงๆ”
จากนั้นศพมารเ่าั้ก็สูญเสียโลหิตหล่อเลี้ยง ศพมารจำนวนมากล้มลงพร้อมกัน ภาพที่เกิดขึ้นดูน่าสะพรึง เกรงว่าคงไม่เคยมีใครเจอมาก่อน หากลั่วซางเห็นภาพนี้ เขาต้องตกตะลึงมากแน่
ท่าทางบรรพบุรุษศพมารจะโมโหยิ่งนัก ระดับของเขาสูงกว่าศพมารเ่าั้เล็กน้อย ขวานที่อยู่ในมือดูน่าเกรงขาม
คาดว่าเขาโมโหแล้ว ร่างกายดูกระฉับกระเฉง สีหน้าไม่มีความรู้สึกแต่อย่างใด เพียงแค่จากแววตาของเขานั้นมีรังสีโลหิตที่เพิ่มมากขึ้น เขาพุ่งชนศพมารจำนวนมากแล้วตรงมาหาหลงเหยียน
หลงเหยียนไม่เกรงใจ เหยียบศพมารที่ขยับไม่ได้แล้วควักหัวใจศพมารเ่าั้ออกมา
ฟิ้ว! รังสีพลังที่มหาศาลพุ่งเข้ามา หลงเหยียนถอยหลังหลบการโจมตี ขวานใหญ่เล่มนั้นตัดศพมารที่อยู่ข้างกายเป็สองท่อน
ขวานใหญ่จู่โจมอีกครั้ง หลงเหยียนตามมาติดๆ เริ่มรวบรวมพลังปราณที่ฝ่ามือ
“หมัดทะลวง!” รังสีพลังถูกขับเคลื่อนออกมาจากภายในตัวหลงเหยียนนั้นปล่อยออกไปอย่างรวดเร็ว หมัดทะลวงของหลงเหยียนถูกใช้เป็ครั้งที่สอง ไม่รู้ว่ามันจะทรงพลังมากเพียงใด เพราะครั้งก่อนเขาใช้หมัดนี้ทำลายแค่ต้นไม้เท่านั้น
ทั้งหมดมีสิบเอ็ดหมัด เขาปล่อยความน่ากลัวของห้าหมัดแรกออกมา
“ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!” ทั้งห้าหมัดถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว สำเร็จ พลังหมัดแทบจะส่งออกมาในเวลาเดียวกัน เงาหมัดทั้งห้าพุ่งตรงไปยังบนตัวศพของบรรพบุรุษมาร
หมัดทะลวง วิชาของหมัดนี้คือความทะลุทะลวงของพลัง ทำลายให้แหลกลาญ แรงของทุกหมัดที่ชกออกไปนั้นต่างกัน บ้างก็ดุดัน บ้างก็อ่อนโยน บ้างก็ร้ายกาจ มาในแนวตรง แนวเฉียง แม้กระทั่งในท่าโค้ง
ทว่าร่างของบรรพบุรุษศพมารอยู่กับที่ไร้การขยับ หลงเหยียนเก็บพลังปราณกลับ ขณะนั้นเองหลงเหยียนก็ััได้ถึงความไม่เป็มงคล รีบถอยหลังทันที ขณะที่หลงเหยียนถอยออกไปประมาณสิบกว่าเมตร เขารีบดึงตัวศพมารบนพื้นขึ้นมาบังไว้ตรงหน้า
“โครม!” ร่างขนาดใหญ่ของบรรพบุรุษมาระเิ โลหิตสีดำกระจายไปทั่วสารทิศ โดยเฉพาะกำแพงถ้ำที่มีลูกตาเหนียวหนืดติดอยู่บนนั้น
ลูกตากลับหมุนเป็วงกลมแล้วค่อยหล่นลงมาบนพื้น
ศพมารหลายร้อยตัวถูกการโจมตีที่น่ากลัวนี้จนาเ็
หลงเหยียนมองรอบข้างที่จมอยู่กับกลิ่นคาวของโลหิต ในใจก็รู้สึกสะอิดสะเอียน!
“สิงโตน้อย ไม่เสียแรงเลยที่หมัดทะลวงนี้เป็วิชาระดับมายา อิทธิฤทธิ์มันสูงดังคาด พละกำลังของบรรพบุรุษมารอยู่ระดับชีพัขั้นที่เก้า แค่ถูกหมัดทะลวงก็คร่าชีวิตมันได้แล้ว ไม่เพียงแค่ชีพจรและอวัยวะภายในมันแตกสลาย ร่างยังะเิด้วย เกรงว่าคงไม่มีใครทนรับหมัดนี้ได้กระมัง”
หลงเหยียนเริ่มเหยียบและเก็บหัวใจศพมารเ่าั้อย่างบ้าคลั่ง ขณะที่เขากำลังตื่นเต้นอยู่นั้น ราชสีห์หิรัณย์ก็พูดเตือน “พี่เหยียน เวลาใกล้ถึงแล้ว พวกเราออกไปกันไหม?”
หลงเหยียนหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ หายใจเหนื่อยหอบ ไม่สนสิ่งน่ารังเกียจในมือแล้วแปลงร่างกลับมาเป็ดังเดิม
การต่อสู้เมื่อครู่ลดพลังปราณของเขาไปมาก ที่นี่มืดมัวนัก กายสุริยะของเขาไม่สามารถดูดพลังหยางจากแสงอาทิตย์มาใช้ได้ ไร้พลังปราณมาเติมเต็ม ส่วนพลังปราณในจุดรวมปราณก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ
“อ๊าก! ดูเหมือนข้าคงต้องหลอมโลหิตที่อยู่ในหินวิเศษแล้วละ” โลหิตที่อยู่ในหินวิเศษถูกหลงเหยียนหลอมละลายอย่างรวดเร็ว กลายเป็พลังปราณเติมเต็มให้เขา
ผ่านหินวิเศษ โลหิตเ่าั้ถูกหลอมกลายเป็พลังปราณ จากนั้นหลงเหยียนก็หลอมมันให้กลายเป็พลังปราณบริสุทธิ์ เมื่อก่อน ในตอนที่เขาใช้โลหิตของสัตว์อสูรมาหลอมกลายเป็พลังปราณ พลังปราณจะลดลงจากปริมาณโลหิตเป็เท่าตัว และโลหิตที่ได้ในตอนนี้ เมื่อหลอมแล้วปริมาณพลังปราณจะน้อยมากกว่าสัดส่วนปกติถึงห้าเท่า
โลหิตเ่าั้ปนเปื้อนมากเกินไป!
ภายในระยะเวลาไม่กี่ลมหายใจ หลงเหยียนก็หลอมโลหิตกลายเป็พลังปราณที่บริสุทธิ์สำเร็จแล้ว พลังปราณที่มหาศาลเติมเต็มจุดรวมปราณของเขา ทำให้เขาฟื้นฟูกลับมาในสภาพเดิม นั่นก็คือก่อนเข้ามาในถ้ำแห่งนี้
ผ่านการต่อสู้กับศพมารเ่าั้ หลงเหยียนไม่รู้สึกเหนื่อยล้า กลับกัน เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่า เมื่อเห็นหัวใจศพมารหลายร้อยดวง เขาก็ประกายรอยยิ้มที่มุมปาก
“หัวใจมารเยอะเช่นนี้ ไม่รู้ว่าข้าจะติดอันดับหนึ่งในสิบไหม?”
ด้านหนึ่งของถ้ำขนาดใหญ่เป็กลไกบางอย่างที่ถูกสร้างขึ้น อัญมณีสีเขียวนูนออกมา หาก้าออกไปก็ใช้พลังปราณ ขับเคลื่อนอัญมณีสีเขียวให้ยุบลงไปเพื่อสังหารศพมารให้มากขึ้น หลงเหยียนกัดฟันทน หากไม่ถึงวินาทีสุดท้าย เขาจะไม่เปิดประตูเด็ดขาด
“รีบเร็ว พี่เหยียน จะไม่ทันการแล้ว หากยังไม่รีบเปิดประตูอีก พวกเราจะออกไปไม่ได้ตลอดกาล” สิงโตน้อยร้อนใจทันที
เมื่อเวลามาถึง ต่อให้เขาใช้พลังปราณขับเคลื่อนอัญมณี แต่ประตูเหล็กก็คงไม่เปิดแล้ว
เสียงดังโครม... ในวินาทีสุดท้าย หลงเหยียนเคลื่อนอัญมณีได้สำเร็จ ประตูเหล็กขนาดใหญ่ถูกเปิดออก แล้วแสงสว่างแยงตาก็สาดส่องเข้ามา จากนั้นนักรบสิบกว่าคนก็พุ่งเข้ามาทันที
ในมือของพวกเขาถือกระดาษยันต์จำนวนมาก ขณะที่นักรบเ่าั้เห็นร่างของคนที่เปื้อนไปด้วยเื ก่อนหันไปมองศพมารที่กองเกลื่อนกับพื้นด้านใน ทุกคนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความใ
“นี่… นี่เป็ฝีมือของชายหนุ่มคนเดียวจริงหรือ?” ขณะที่ทุกคนมองภาพตรงหน้าด้วยความใ และกำลังมองหาบรรพบุรุษศพมารนั้น หนึ่งในนักรบก็นำกระดาษยันต์แปะลงบนหัวของศพมารที่ยังพอขยับได้
เสียงแตกดังโพละ! นักรบก้มหน้ามอง เห็นว่าใต้เท้าตนคือลูกตาข้างหนึ่งของบรรพบุรุษศพมาร
“ถึงเวลาแล้ว เ้าจะควักหัวใจศพมารไม่ได้แล้วนะ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเ้าฝ่าฝืนกฎ เ้าออกไปได้แล้ว หากยังไม่อยากไป เช่นนั้นก็อยู่ที่นี่ไปตลอดกาล” คนที่พูดใช้ผ้าสีดำโพกหน้า เห็นเพียงดวงตาเท่านั้น น้ำเสียงของเขาเ็าอย่างที่สุด
หลงเหยียนพุ่งออกไปทางปากถ้ำทันที…
...
ชั้นนอกแห่งเมืองอู่ตี้ ที่นี่คือเขาหยุนลั่ว หรือเรียกอีกอย่างว่าเขาซ่อนเงื่อน เขาแห่งนี้ถูกใช้เป็สถานที่คัดเลือกผู้เข้ารอบสำนักตงฟางแห่งตระกูลอู่ตี้
ยามนี้ พื้นที่ราบกลางหุบเขาที่ถูกซ่อนเอาไว้ ด้านหน้ามีคนนั่งเรียงแถว มีชายวัยกลางคนหลายท่านนั่งอยู่ พวกเขาจ้องมายังประตูทางออกตาไม่กะพริบ
มีแปดคนใช้เหรียญเจ็ดสีขอความช่วยเหลือแล้ว พวกเขาถูกนักรบแบกออกมาจากกลางถ้ำ ยังโชคดีที่พวกเขารอดชีวิต
ถึงแม้จะถูกพิษของศพมาร ทว่าก็เป็พิษที่น้อยนิด สำนักซีเหมินใช้สมุนไพรควบคุมแล้ว อย่างไรก็ตาม เพราะเหตุนี้ทำให้พวกเขาตกรอบ
ทุกคนต่างก็ตั้งตารอว่าครั้งนี้จะเหลือผู้เข้าแข่งขันรอดชีวิตกี่คน ไม่นานนัก สองชั่วยามก็ผ่านไป ปากถ้ำทั้งหมดถูกเปิด คนที่ร่างเปื้อนโลหิตสีดำพุ่งออกมาจากด้านใน เมื่อพวกเขาเห็นแสงแยงตา ต่างก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่สนความเ็ปบนร่างกาย บางคนนอนลงบนพื้นอย่างหมดแรง หายใจเหนื่อยหอบ
เหมือนพวกเขาผ่านประสบการณ์อันน่าอนาถมาอย่างไรอย่างนั้น ขณะอยู่ในถ้ำ ชีวิตทุกคนแขวนอยู่บนเส้นด้าย
คนส่วนมากเสื้อผ้าหลุดลุ่ยและฉีกขาด สภาพอนาถนัก เมื่อเห็นว่าตนยังรอดชีวิต ในที่สุดพวกเขาก็ประกายรอยยิ้มราวกับยกูเาออกจากอก ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่ออกมา มีบางคนขาอ่อนล้มลงกับพื้นอย่างหมดสภาพ
--------------------