เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมาถึงโรงพยาบาลได้อย่างไร
เธอไม่ได้อยากโอ้อวดชาติตระกูลของคังเหว่ย เธอเพียง้าทำให้ตู้เ้าฮุยให้ความสำคัญกับเขา
คังเหว่ยไม่ใช่ลูกหลานชาวบ้านทั่วไปที่ขับรถชนแล้วจะใช้เงินแก้ปัญหาได้ และเซี่ยเสี่ยวหลานรู้ว่าตู้เ้าฮุยไม่ใช่คนโง่ เขาสามารถแยกแยะความสำคัญออก!
รถเบนส์ลีย์คันนั้นขับเร็วเกินไป
เศษฝุ่นที่ตลบฟุ้งเพราะความเร็วของรถทำให้ผู้คนริมถนนต่างหลบไม่พ้น
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปเป็ศตวรรษ ทั้งที่ความจริงแล้วเพิ่งมาถึงโรงพยาบาลได้เพียงไม่นาน รถขับตรงเข้าไปจอดหน้าโรงพยาบาล ตู้เ้าฮุยมีลูกน้องตามมาหลายคน เขาด่าลูกน้องสาดเสียเทเสีย จนคนพวกนั้นพากันวิ่งวุ่นไปทั่ว ไม่นานก็มีหมอเอาเปลหามออกมารับตัวคังเหว่ยไปที่ห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว
ตอนลงจากรถเซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกเข่าอ่อน คุณชายใหญ่ตู้หวังดี้าจะช่วยพยุง แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกลับปัดมือเขาทิ้ง
เธอจะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าตู้เ้าฮุยไม่ได้
คังเหว่ยยังรอให้เธอช่วยดูแลอยู่
เซี่ยเสี่ยวหลานใช้สิ่งนี้เป็ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตนเอง เธอเดินเข้าโรงพยาบาล สักพักก็มีหมอกับพยาบาลวิ่งตรงมาหา
“คุณก็าเ็เหมือนกันหรือ”
“ไม่เป็ไรค่ะ น่าจะไม่มีกระดูกหัก”
“ไม่เป็ไรที่ไหน เศษกระจกเยอะขนาดนี้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะติดเชื้อเอาได้ง่ายๆ นอกจากนี้อาการาเ็ภายในบางอย่างจะไม่แสดงอาการออกมาให้ทราบ ดังนั้นคุณห้ามเดินไปไหนมาไหน ต้องตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้วนอนพักเพื่อดูอาการ”
มองจากภายนอกเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีอาการกระดูกหัก แต่เนื้อตัวของเธอกลับเปื้อนเืเสียจนดูน่ากลัว
หมอทำการตรวจร่างกายเบื้องต้นให้เธอ เธอไม่ได้มีอาการาเ็รุนแรงอะไร เนื่องจากคังเหว่ยเป็ผู้รับแรงกระแทกไปทั้งหมด หมอ้าทำแผลที่มือและแขน แต่เซี่ยเสี่ยวหลานยืนกรานว่าจะไปเฝ้าที่หน้าห้องฉุกเฉิน ไม่รู้ตู้เ้าฮุยคุยกับโรงพยาบาลว่าอย่างไร หมอถึงได้ยอมทำแผลให้เธอที่หน้าห้องฉุกเฉินแทนในที่สุด
เศษกระจกมีขนาดเล็กใหญ่ต่างกัน แผลที่ลึกที่สุดคือเศษกระจกฝังเข้าไปในเนื้อ ผิวของเธอขาวเนียนละเอียด ข้อมือเล็กดูบอบบาง พยาบาลที่ช่วยคีบเศษกระจกออกมายังอดรู้สึกมือสั่นไม่ได้ ทว่าสีหน้าของเซี่ยเสี่ยวหลานกลับดูเหมือนไม่เ็ปแต่อย่างใด
ตู้เ้าฮุยที่มองอยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วมุ่น
เศษกระจกชิ้นนั้นเป็เซี่ยเสี่ยวหลานกดเข้าเนื้อไปเอง หลังเช็ดคราบเืที่ใบหน้าจนสะอาดแล้วก็พบว่า ที่แก้มของเธอมีาแอยู่หลายจุด
ตู้เ้าฮุยอดกำชับพยาบาลไม่ได้ “ตอนทำแผลระวังหน่อย อย่าให้ทิ้งรอยแผลเป็เล่า”
พยาบาลเข้าใจดี เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานสวยเหลือเกิน ต่อให้เนื้อตัวเปื้อนเืก็ไม่อาจมองข้ามความงามของเธอได้ ใบหน้าเช่นนี้หากมีรอยแผลเป็คงน่าเสียดายมากจริงๆ พยาบาลไม่ใช่คนใจร้ายหรือขี้อิจฉา ใครๆ ก็ชอบของสวยๆ งามๆ ด้วยกันทั้งสิ้น เธอจึงช่วยทำแผลให้เซี่ยเสี่ยวหลานอย่างเบามือ
“แผลถลอกที่หน้าไม่เท่าไรค่ะ แต่แผลที่ข้อมือหลายจุดอาจจะไม่สามารถเลี่ยงได้...”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่สนใจบทสนทนาของทั้งสองคน มีแผลเป็หรือไม่สำคัญนักหรืออย่างไรกัน?
เวลานี้จะสวยหรืออัปลักษณ์ก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือชีวิต
หากคนที่นอนอยู่ในห้องฉุกเฉินคือเธอก็คงจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็ไม่ใช่คังเหว่ย
หลังทำแผลที่มือเสร็จ เซี่ยเสี่ยวหลานก็ถามพยาบาลว่าขอโทรศัพท์ได้หรือไม่ ทางโรงพยาบาลย่อมยินดีบริการนักธุรกิจชาวฮ่องกงอย่างแน่นอน เซี่ยเสี่ยวหลานเดินไปจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล ทว่าตู้เ้าฮุยได้จ่ายให้หมดแล้ว เงินสดจำนวนหนึ่งหมื่นหยวนกองอยู่ที่ฝ่ายการเงิน ตู้เ้าฮุยช่างร่ำรวยและใจกว้างเสียจริง
เซี่ยเสี่ยวหลานโทรศัพท์สามสาย สายแรกเธอโทรหาเลขาเผิงเพื่อบอกเล่าเื่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และขอให้เขาช่วยเหลือหากสถานการณ์ทางนี้ไม่สู้ดี โดยขอให้เขาช่วยย้ายคังเหว่ยไปยังโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้
ส่วนอีกสายเธอโทรหาไป๋เจินจู ตอนนี้ไป๋เจินจูยังคงรอทั้งสองคนอยู่ที่ร้านวัสดุ เพราะนัดกันแล้วว่าจะไปดูหน้าร้านด้วยกัน
ส่วนสายที่สามเธอโทรไปที่บ้านโจว เพราะเธอ้าคุยกับกวนฮุ่ยเอ๋อ คังเหว่ยถูกรถชนเช่นนี้ต้องบอกให้คนตระกูลคังรับรู้ ทว่าเสียงสัญญาณดังอยู่นานก็ไม่มีคนรับ อีกทั้งเซี่ยเสี่ยวหลานรู้แค่เบอร์ที่บ้านโจวเฉิง แต่ไม่รู้เบอร์ที่ทำงานของกวนฮุ่ยเอ๋อกับโจวกั๋วปิน และดูเหมือนพี่เจิงจะไม่อยู่บ้าน
เมื่อติดต่อกวนฮุ่ยเอ๋อไม่ได้ก็เท่ากับติดต่อครอบครัวคังเหว่ยไม่ได้ อย่างไรก็ตามเซี่ยเสี่ยวหลานรู้ตัวดีว่าห้ามตื่นตระหนกเป็อันขาด
พอเลขาเผิงได้ยินว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเกิดอุบัติเหตุก็รู้สึกใ แต่ในเมื่อเซี่ยเสี่ยวหลานสามารถโทรหาเขาได้ก็แสดงว่าเธอไม่ได้เป็อะไรมาก ทว่าคนที่อยู่กับเซี่ยเสี่ยวหลานนั้นกำลังอยู่ระหว่างการยื้อชีวิต
เซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่า เขาไม่ใช่คนขับรถแต่เป็หุ้นส่วนธุรกิจของเธอ เป็ทายาทข้าราชการระดับสูง เป็ลูกชายของวีรบุรุษที่สละชีพเพื่อชาติ
เลขาเผิงรู้สึกปวดหัวหนัก “เธอรออยู่ที่โรงพยาบาลก่อนนะ ฉันจะรีบไปหา”
วันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานกลายเป็คนขี้อวด และเธอก็รู้สึกโชคดีเช่นกันที่สถานะของคังเหว่ยสามารถทำให้เธอโอ้อวดได้ เธอ้าทำให้คังเหว่ยได้รับความสำคัญ ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด!
เลขาเผิงเดินทางมาที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
เดิมทีที่นี่ก็อยู่ไม่ไกลจากที่ทำการเทศบาลเมืองนัก หากโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของเขตเศรษฐกิจพิเศษอยู่ไกลจากหน่วยงานรัฐ แล้วพวกข้าราชการจะหาหมออย่างรวดเร็วได้อย่างไร
คนที่มาไม่ได้มีแค่เลขาเผิง ทังหงเอินเองก็มาด้วยเช่นกัน
เดิมทีตู้เ้าฮุยนั่งอยู่บนเก้าอี้ พอเห็นทังหงเอินปรากฏตัวเขาก็ลุกขึ้นยืนทันที
“นายกทัง”
นายกทังมาได้อย่างไร?
สมองของเขาคิดหลากหลายอย่าง ในที่สุดเขาก็เชื่อแล้วว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้โกหก ชายหนุ่มที่อยู่ในห้องฉุกเฉินไม่ใช่คนธรรมดา เป็แฟนของเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างนั้นหรือ? หน้าตาสวยขนาดนี้จะมีแฟนเป็คนใหญ่คนโตก็ไม่แปลก
ตู้เ้าฮุยกลุ้มใจยิ่งกว่าเดิม
เซี่ยเสี่ยวหลานเดาถูก ตู้เ้าฮุยเป็พวกมองคนที่ประโยชน์ ไม่ว่าเื่ไหนก็มักจะเน้นผลประโยชน์เป็หลัก หากเขาทำให้ลูกชายของข้าราชการระดับสูงคนไหนตาย การทำธุรกิจที่แผ่นดินใหญ่คงลำบากแน่นอน
ตู้เ้าฮุยนึกว่าทังหงเอินมาเพราะคังเหว่ย แต่เื่หลังจากนั้นกลับค่อนข้างน่าเหลือเชื่อ ทังหงเอินไม่ได้ถามไถ่อาการของลูกชายข้าราชการระดับสูงแม้แต่คำเดียว ความสนใจของทังหงเอินอยู่ที่ตัวเซี่ยเสี่ยวหลานทั้งหมด
เซี่ยเสี่ยวหลานพอเห็นทังหงเอินก็สูดจมูก เสียงของเธอดังกว่าเสียงแมวร้องแค่เล็กน้อยเท่านั้น
“คุณอาทัง!”
ทังหงเอินเห็นมือสองข้างของเธอมีผ้าพ้นแผลพันอยู่ บนหน้าก็มียาฆ่าเชื้อทาไว้เป็วงกระดำกระด่าง ดูแล้วน่าใยิ่งนัก
“เสี่ยวเผิงบอกว่าเธอถูกรถชน รู้ไหมว่าฉันใแค่ไหน ทำไมไม่ไปนอนพักบนเตียง เฝ้าอยู่ตรงนี้แล้วเห็นสถานการณ์ในห้องฉุกเฉินหรืออย่างไรกัน มีแต่จะเพิ่มความกดดันให้กับทีมแพทย์เสียเปล่าๆ !”
ปกติฉลาดขนาดนั้น ทำไมตอนนี้ถึงทำเื่ไร้ประโยชน์เช่นนี้กันนะ
“คุณอาทัง ฉันไม่เป็ไรจริงๆ ค่ะ แค่ถูกกระจกบาดที่มือเท่านั้น”
หากยังไม่รู้อาการของคังเหว่ยเธอจะสามารถนอนลงได้หรือ นอกจากนี้เธอไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น
ทังหงเอินขมวดคิ้ว ก่อนหน้านี้เขานึกว่าคนที่เกิดอุบัติเหตุพร้อมกับเซี่ยเสี่ยวหลานคือโจวเฉิง ถ้าเป็เช่นนั้นเื่คงยุ่งยากยิ่งกว่านี้ เพราะถึงอย่างไรเื่ที่เซี่ยเสี่ยวหลานไปเยี่ยมโจวเฉิงก็นับว่าเป็การฝ่าฝืนกฎระเบียบ
แต่พอเลขาเผิงบอกว่าอีกฝ่ายแซ่คัง ทังหงเอินก็รู้สึกกลุ้มใจเช่นกัน
ลูกหลานวีรบุรุษ เป็ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลคัง ยังไม่ทันลืมตาดูโลกพ่อแท้ๆ ก็สละชีพเพื่อชาติ หากเด็กหนุ่มคนนี้เป็อะไรไป อย่าว่าแต่คนตระกูลคังเลย แม้แต่ทังหงเอินเองก็คงทำใจลำบาก
ความสัมพันธ์ของมนุษย์มีทั้งสนิทและเหินห่าง พอเห็นคนสนิทอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานไม่เป็ไร ทังหงเอินจึงหายห่วงไปบ้าง
เขาไม่ว่างพอที่จะทักทายคุณชายใหญ่ตู้ ถ้าไม่ใช่เพราะรถของตู้เ้าฮุยพุ่งเข้ามาชน อุบัติเหตุวันนี้คงไม่เกิดขึ้น ตอนนี้ทังหงเอินไม่ประทับใจในตัวคุณชายใหญ่ตู้เอาเสียเลย
ตอนนั้นเองเลขาเผิงก็เดินกลับมา ด้านหลังเขามีทีมแพทย์หลายคนตามมาด้วย
นายกเทศมนตรีใหญ่กว่านักธุรกิจฮ่องกง ดังนั้นหมอที่เก่งที่สุดของโรงพยาบาลจึงมาด้วยตัวเอง
“ท่านนายกทัง...”
“ทุกท่าน รบกวนดูอาการคนเจ็บก่อนเถอะครับ!”
ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก ทีมแพทย์หลายคนจึงเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เซี่ยเสี่ยวหลานรู้อยู่แล้วว่าการโทรหาเลขาเผิงเป็เื่ที่ถูกต้อง ตอนนี้อำนาจการคุมสถานการณ์อยู่ในมือเธอ เวลาผ่านไปทุกวินาที ทังหงเอินคุยกับเธอเป็ครั้งคราว ทำให้ความกังวลใจของเซี่ยเสี่ยวหลานน้อยลงบ้าง
ในที่สุดประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก ก่อนที่คุณหมอที่สวมหน้ากากอนามัยจะเดินออกมา
“ท่านนายกทัง ภารกิจผ่านไปได้ด้วยดีครับ!”
เซี่ยเสี่ยวหลานถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้พลางหอบหายใจด้วยความยินดี
โชคดี โชคดีจริงๆ นี่คือข่าวดี!