เฟิงปู๋จื้อบอกว่า “วันมะรืนก็เป็วันที่สำนักแจกจ่ายยาควบปราณแล้วพวกเราเตรียมพร้อม วันมะรืนรับยาพลังปราณแล้วค่อยไปครั้งนี้ไปอย่างสั้นก็ครึ่งเดือน อย่างยาวก็หนึ่งเดือน ต้องใช้ยาควบปราณในการฝึกฝนด้วย”
“ดี วันมะรืนไปด้วยกันถึงเวลาค่อยพบกัน” เสวียนเทียนพยักหน้ารับ
แม้ว่าเสวียนเทียนจะชนะจนได้ ‘ยาควบปราณแท้ชั้นล่าง’ มาเกือบสองร้อยเม็ด บวกกับที่มีอยู่กับที่ตัวแต่เดิมก็เกินสองร้อยเพียงพอให้เสวียนเทียนฝึกฝนไปอีกนานแล้ว
แต่ ‘ยาควบปราณแท้ชั้นล่าง’ เป็ยาควบปราณที่ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภา่ต้นใช้ฝึกฝน พลังทะลุชั้นเบิกนภาขั้นสามก็ยังต้องใช้ยิ่งกับอัตราบริโภค ‘ยาปราณแท้ชั้นล่าง’ ของเสวียนเทียน ย่อมไม่รังเกียจว่ามาก
เสวียนเทียนนัดกับเฟิงปู๋จื้อสามคนเรียบร้อย เช้าวันมะรืนจะไปรับรางวัลยาควบปราณจากเรือนยาพลังปราณด้วยกันหลังจากนั้นก็ออกเดินทาง มุ่งไปยังเขตลึกของเทือกเขาเร้นลม ตามหาวัตถุดิบหลอม ‘ยาควบปราณแท้’
หลังจากนั้น พวกเฟิงปู๋จื้อสามคนก็ลากลับไปส่วนเสวียนเทียนฝึกฝน ‘ท่าเท้าเงาผีลวงิญญา’ ที่ ‘เรือนหวงเทียน’ ต่อ
เวลาหนึ่งวันกว่านี้ เสวียนเทียนเอาแต่ฝึกฝน ‘ท่าเท้าเงาผีลวงิญญา’ อยู่ที่เรือนหวงเทียน ขนาดของกินก็ยังให้ศิษย์น้องที่ตำหนักโภชนาช่วยส่งมาให้ ‘ท่าเท้าเงาผีลวงิญญา’ นี้ ่แรกฝึกฝนง่าย่หลังกลับค่อนข้างลำบาก เสวียนเทียนฝึกฝน ‘ท่าเท้าเงาผีลวงิญญา’ จนถึงขั้นที่สองอย่างง่ายดาย
ขั้นที่สามของ ‘ท่าเท้าเงาผีลวงิญญา’ เป็ท่าเท้าชั้นนิลขั้นกลาง ถ้าหากอยากฝึกฝนสำเร็จต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
เวลาหนึ่งวันกว่านี้ศิษย์ในของสำนักกระบี่์ทั้งหมดล้วนตื่นเต้นคึกคักเป็อย่างยิ่งข่าวเื่ที่เสวียนเทียนเอาชนะศิษย์ขั้นสองต่อเนื่องกันจำนวนมากอีกทั้งยังเอาชนะจี่ตงเฉิงอันดับที่สามสิบแปดของขั้นที่หนึ่ง ผู้เป็มือวางอันดับหนึ่งของศิษย์ชั้นเบิกนภาขั้นสองรวมถึงเจียงห้าวอวี่อันดับที่เก้าของขั้นที่หนึ่งหนึ่งในสิบศิษย์เอกสำนักในสำนักกระบี่์แพร่ไปถึงหูของศิษย์ทุกคนที่วันนั้นไม่ได้ชมอยู่และศิษย์ในที่เพิ่งกลับมายังสำนัก
แม้กระทั่งศิษย์หลักที่ลึกลับดุจภูตผีบางส่วนก็ยังได้ยินชื่อเสียงของเสวียนเทียน
แต่เดิมเสวียนเทียนผ่านชั้นที่สามของหอกระบี่ก็ถูกเล่าลือไปในหมู่ศิษย์ในแล้วแทบไม่มีใครไม่รู้จักตอนนี้ยิ่งกลายเป็บุคคลในตำนานที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของทั้งสำนักกระบี่์เทียบกันกับชื่อเสียงเลื่องลือตอนที่ยังอยู่สำนักนอกในวันวาน ไม่ด้อยกว่าแม้แต่น้อย
ตอนที่อยู่สำนักนอกเป็ศิษย์ชั้นวิถียุทธ์ต่อสู้เอาชนะคู่ต่อสู้ข้ามระดับสองขั้นในชั้นวิถียุทธ์ แม้ว่าจะเก่งผิดมนุษย์แต่ทุกรอบหลายปีก็ยังมีให้เห็นคนสองคน
แต่เมื่ออยู่ในสำนักใน ล้วนเป็ศิษย์ชั้นเบิกนภาการต่อสู้ข้ามระดับสองขั้นในชั้นเบิกนภา เทียบกับชั้นวิถียุทธ์ความยากไม่ใช่แค่เพิ่มขึ้นนิดๆหน่อยๆ บนแผ่นดินเสินโจวอันกว้างใหญ่ไพศาลอัจฉริยะเช่นนี้บางทีอาจจะพบได้บ่อยไปแต่กับดินแดนเสี้ยวหนึ่งอย่างอาณาจักรเสินเตานี้นับว่าเป็ตำนานที่ร้อยปียากจะมี
ถึงแม้ชื่อเสียงของเสวียนเทียนจะลือลั่นราวกับพายุพัดโหมขึ้นในสำนักกระบี่์เกิดเป็เื่ครึกโครม แต่ตัวเสวียนเทียนเอง เวลาหนึ่งวันกว่านี้กลับผ่านไปอย่างสงบฝึกฝน ‘ท่าเท้าเงาผีลวงิญญา’ อยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่มีใครมารบกวน
ศิษย์หลายคนที่เป็หนึ่งในสิบอันดับแรกของสำนักในผู้ที่เป็ลูกน้องของฉู่เฟิงยังไม่มีใครกลับมาส่วนศิษย์ที่ลำดับก่อนหน้าเจียงห้าวอวี่ซึ่งตอนนี้เป็สิบศิษย์อันดับแรกของสำนักในสำนักกระบี่์รู้ว่าความสามารถของเสวียนเทียนแข็งแกร่งมาก ไม่มีเหตุก็ไม่มาท้าสู้กับเสวียนเทียนเพราะเสวียนเทียนแพ้ก็ไม่เกิดอะไร ยังคงชื่อเสียงกระฉ่อนเหมือนเก่า แต่ถ้าพวกเขาแพ้กลับต้องตกอันดับ
นอกจากนี้ ด้วยฐานะของหนึ่งในสิบศิษย์เอกสำนักในใครก็ไม่้าแพ้ให้กับผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งคนหนึ่ง
ศิษย์ที่อันดับก่อนหน้าเจียงห้าวอวี่เมื่อไม่มีแค้นใดกับเสวียนเทียน ย่อมไม่เป็ฝ่ายมาท้าสู้กับเสวียนเทียนก่อนศิษย์ที่อันดับต่ำกว่าเจียงห้าวอวี่ หวั่นเกรงพลังของเสวียนเทียนไม่กล้าท้าสู้กับเสวียนเทียน
ขนาดเจียงห้าวอวี่หนึ่งในสิบศิษย์เอกสำนักในยังแพ้ไปแล้วอันดับข้างหลังไหนเลยจะกล้าท้าสู้ ดังนั้นหนึ่งวันกว่านี้จึงผ่านไปอย่างสงบยิ่งนัก
เวลาหนึ่งวันกว่าผ่านไป มาถึงวันแจกจ่ายยาควบปราณของเรือนยาพลังปราณสำนักกระบี่์เสวียนเทียน เฟิงปู๋จื้อ ซุนอี้ชิว กู้เชียนโหรวมาที่ตำหนักยาพลังปราณของสำนักในด้วยกัน
“ดูเร็ว นั่นศิษย์พี่หวง!”
“เขาคือศิษย์พี่หวงหรืออายุน้อยมากเลย ดูแล้วเพิ่งประมาณสิบห้าปีเอง”
“ศิษย์พี่จี่ตงเฉิงมือวางอันดับหนึ่งของศิษย์ชั้นเบิกนภาขั้นสองท้าสู้กับศิษย์พี่หวงถูกศิษย์พี่หวงเอาชนะไป!”
“แค่จี่ตงเฉิงที่ไหนอันดับเก้าของขั้นที่หนึ่งอย่างศิษย์พี่เจียงห้าวอวี่หนึ่งในสิบศิษย์เอกสำนักในก็ยังแพ้ให้กับศิษย์พี่หวงเลยตอนนี้ศิษย์พี่เจียงห้าวอวี่อันดับตกมาอยู่ที่อันดับสิบแล้วอันดับเก้าเป็ศิษย์พี่หวงแล้ว”
“ศิษย์พี่หวงพลังวัตรเพิ่งชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งเองได้เป็หนึ่งในสิบศิษย์เอกสำนักในเสียแล้ว พลังน่ากลัวเหลือเกิน”
“เทียบกับศิษย์พี่ฉู่เฟิงแล้วยังน่ากลัวมากกว่าอีก ถึงกับล้มคู่ต่อสู้ข้ามอันดับสองขั้นได้ความสามารถในการต่อสู้แข็งแกร่งเหลือเกิน”
.....
.....
วันนี้เป็วันแจกจ่ายยาควบปราณในตำหนักยาพลังปราณมีศิษย์สำนักในมารวมตัวกันอยู่ไม่น้อย เมื่อเห็นเสวียนเทียนสามคนจับกลุ่ม ห้าคนจับกลุ่มยืนอยู่ด้วยกัน คุยถกกันขึ้นมาน้ำเสียงล้วนแต่มีความตื่นตะลึง
“ฮึ ตอนที่ศิษย์พี่ฉู่เฟิงอายุสิบห้าพลังวัตรก็ลุถึงชั้นเบิกนภาขั้นสามแล้ว ปราบทั่วสำนักในไร้คู่ต่อกรเป็อันดับหนึ่งของศิษย์สำนักใน หวงเทียนตอนนี้อายุสิบห้าเทียบกับศิษย์พี่ฉู่เฟิงเขายังห่างชั้นอีกไกล”
“ใช่แล้วตอนนี้ศิษย์พี่ฉู่เฟิงเป็ศิษย์หลักไปแล้ว อายุของหวงเทียนมากแล้วศักยภาพเทียบกับศิษย์พี่ฉู่เฟิงห่างชั้นกันไกล”
“ตอนนี้หวงเทียนลำพองไปรอศิษย์พี่ฉู่เฟิงกลับมา ไม่...ไหนเลยจะต้องถึงมือศิษย์พี่ฉู่เฟิงกลับมาศิษย์พี่เติ้งเฟย ศิษย์พี่มู่เหวินเจา ศิษย์พี่หยางเทียนจวิน คนเหล่านี้กลับมาคนไหนก็ได้ ล้วนจัดการเสวียนเทียนให้หมอบราบได้”
....
....
มีคนนับถือ อิจฉา ประหลาดใจย่อมต้องมีคนแค่นจมูก พวกนี้โดยส่วนใหญ่ย่อมเป็ศิษย์ใต้สังกัดของฉู่เฟิง
แน่นอนว่าศิษย์ส่วนใหญ่ย่อมประจบไม่ถึงตัวฉู่เฟิงเองแต่ตามก้นบุคคลผู้มีฝีมือร้ายกายหลายคนที่อยู่ใต้สังกัดของฉู่เฟิงแต่คิดไปว่าตนเองเป็คนของฉู่เฟิง รู้สึกว่าบนใบหน้าประดับด้วยทองคำยามปกติเดินบนทางกร่างอวดเบ่ง เชิดหน้าชูคอ เช่นหยางเวยหรือซือซุ่นชางเป็ต้น
คำพูดเกี่ยวกับตนเอง ไม่ว่าจะนับถือก็ดีดูถูกก็ดี เสวียนเทียนล้วนฟังประหนึ่งเสียงลมพัดผ่านหู เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาขอแค่ไม่ด่าเขา เขาล้วนทำเป็ไม่ได้ยิน สีหน้าไม่ทุกข์ร้อน ไม่หลงระเริงเพราะคำชื่นชมของศิษย์คนอื่นและไม่หงุดหงิดเพราสายตาเหยียดหยามของศิษย์บางพวก
แต่ไม่ว่าจะเป็คนที่ชื่นชมเสวียนเทียนก็ดีเหยียดหยามเสวียนเทียนก็ดี ล้วนแต่รู้ว่าพลังของเสวียนเทียนน่ากลัวอย่างยิ่งเห็นเสวียนเทียนเดินผ่านมาก็พากันหลีกหลบไปด้านข้างกลายเป็ปล่อยให้เสวียนเทียนกับพวกเฟิงปู๋จื้อสามคนเดินเข้ามาในเรือนยาพลังปราณได้อย่างสะดวกใช้เวลาไม่นาน พวกเขาก็รับรางวัลยาควบปราณของแต่ละคนมาได้
พวกเฟิงปู๋จื้อสามคน กลัวว่าจะพกยาควบปราณไปไม่พอแต่ละคนก็ซื้อเพิ่มสิบกว่าเม็ดติดตัวไป
ส่วนเสวียนเทียนไม่ได้ซื้อ ‘ยาควบปราณแท้ชั้นล่าง’ เพิ่มอีก ‘ยาควบปราณแท้ชั้นล่าง’ ที่ตัวมีพอให้เขาใช้สองเดือนแล้ว
เมื่อทั้งสี่คนรับรางวัลยาพลังปราณเสร็จสิ้นทันใดนั้นก็ััได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งสายหนึ่งจากด้านนอกตำหนักยาพลังปราณทะลักเข้ามา
ศิษย์ที่อยู่ใกล้ประตูทางเข้าต่างพากันถอยออกสองข้าง สายตาล้วนฉายแววตกตะลึง
พวกเสวียนเทียนทั้งสี่คนยังไม่ทันได้ทำความเข้าใจสถานการณ์ เสียงะโก้องก็ดังขึ้นมาจากนอกประตู “หวงเทียน ข้าหยางเทียนจวิน ขั้นที่หนึ่งอันดับห้าขอท้าสู้กับเ้า!”
เป็หยางเทียนจวิน!
พี่ชายคนโตของหยางติ่งจวินอายุเพียงยี่สิบปีพลังวัตรก็บรรลุถึงขีดสุดของชั้นเบิกนภาขั้นสามเป็ลำดับที่ห้าของสิบศิษย์เอกสำนักใน เทียบกับเจียงห้าวอวี่ลำดับที่เก้าแล้วพลังแข็งแกร่งกว่ากันมากกว่าหนึ่งเท่าตัว
ศิษย์สิบอันดับแรกสำนักในกับห้าอันดับแรกเป็สองระดับชั้นโดยสิ้นเชิงห้าอันดับแรกเป็บุคคลผู้เป็สุดยอดยอดฝีมือในหมู่ศิษย์สำนักในอย่างแท้จริงแต่ละคนมีประวัติการต่อสู้ที่ทำให้คนสะพรึง
หนึ่งปีก่อนตอนที่ยังอยู่่ปลายของชั้นเบิกนภาขั้นสามหยางเทียนจวินเคยฉายเดี่ยวขี่ม้าไปล้างบางตระกูลขั้นเก้าแห่งหนึ่งจนชโลมเืมาแล้ว
ตระกูลขั้นเก้าแห่งนั้น พลังไม่อ่อนแอผู้ฝึกยุทธ์พลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสามมีถึงสามคนเ้าตระกูลพลังวัตรเป็ถึงขั้นสูงสุดของพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสามนอกจากนั้นยังมีผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสองอีกเจ็ดคนผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งอีกยี่สิบกว่าคน
แต่ต่อหน้าหยางเทียนจวินตระกูลขั้นเก้าที่แข็งแกร่งแห่งนี้ก็เป็เหมือนรูปปั้นไก่รูปปั้นสุนัขเช่นนั้นถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย
การล้างบางครั้งนี้ มีเหตุมาจากนายน้อยของตระกูลแห่งนั้นสังหารลูกหลายสายรองคนหนึ่งของตระกูลหยางโดยไม่ได้เจตนาลูกหลานสายรองคนนั้นพอดีมีความสัมพันธ์เป็ลูกพี่ลูกน้องกับหยางเทียนจวิน
เพราะหยางเทียนจวินลงมือโเี้ อำมหิตยิ่งนักราวกับปีศาจร้าย จึงมีคนไม่น้อยเรียกหยางเทียนจวินว่า ‘ปีศาจหยาง’ อย่างลับๆ
เสวียนเทียนรับรางวัลยาควบปราณจากสำนักแล้วกำลังเตรียมจะออกจากสำนักเพื่อเดินทางไปยังเทือกเขาเร้นล้ม ตามหาวัตถุดิบ ‘ยาควบปราณแท้’ ตอนนี้เอง ‘ปีศาจหยาง’ หยางเทียนจวินก็กลับมา ท้าสู้กับเขา
ได้ยินเสียงสีหน้าของเฟิงปู๋จื้อก็เปลี่ยนไปทันที กระซิบเสียงเบาใส่หูของเสวียนเทียนว่า “เป็ ‘ปีศาจหยาง’ หยางเทียนจวินเป็พี่ใหญ่ของหยางติ่งจวินคู่ต่อสู้ตอนอยู่สำนักนอกของท่านคนนั้นคนผู้นี้น่ากลัวอย่างมาก เป็ลำดับห้าของสิบศิษย์เอกสำนักในในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสาม เป็บุคคลระดับสุดยอดห่างชั้นกับเจียงห้าวอวี่อย่างเทียบกันไม่ได้ เจียงห้าวอวี่สองคนก็ยังยากจะเป็คู่ต่อกรของหยางเทียนจวินตอนนี้เขาควรจะตามล่าสังหารโจรร้ายแห่งยุทธภพคนหนึ่งอยู่ถึงจะถูกหรือจะทิ้งภารกิจชั่วคราว จงใจรีบกลับมา? ฉายาของเขาคือ ‘ปีศาจหยาง’ ลงมือโเี้ยิ่งนักเคยล้างบางตระกูลขั้นเก้าแห่งหนึ่งมาแล้ว ผู้เฒ่าเด็กสตรีล้วนไม่ไว้ชีวิตศิษย์พี่หวงหยางเทียนจวินเป็หนึ่งในบุคคลที่ร้ายกาจที่สุดสามคนในหมู่ลูกน้องของฉู่เฟิงเขาอาจตั้งใจกลับมาเพราะท่าน ท่านต้องระวังไว้”
ซุนอี้ชิวกับกู้เชียนโหรวได้ยินสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า ชื่อของ ‘ปีศาจหยาง’ หยางเทียนจวิน ในหมู่ศิษย์สำนักใน ดังสนั่นดุจอสนีบาตะเืหูชื่อเสียงลือลั่น เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของบรรดาศิษย์ในอาจกล่าวได้ว่าชื่อเสียงเลวร้ายก็โด่งดังเช่นเดียวกัน
ปีศาจหยาง? หยางเทียนจวิน? อันดับห้าของสิบศิษย์เอกสำนักใน?หนึ่งในสามลูกน้องที่ร้ายกาจที่สุดของฉู่เฟิง?
มุมปากของเสวียนเทียนค่อยๆ ยกขึ้นแย้มรอยยิ้มสมใจขึ้นมา ในใจคิดว่า “ข้าจะออกไปนอกสำนักอยู่รอมร่อเวลานี้ยังรีบกลับมาทันให้ข้าข่มเหง เ้าหยางเทียนจวินนี่ช่างดวงดีเสียจริงเรียกว่า ‘ปีศาจหยาง’ อะไรกันข้าวันนี้จะอัดเ้าให้นกเขาไม่ขันเอง”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้