“หลีกไปนะนางเด็กปีศาจหากไม่อยากโดนข้าตีจนตาย”
คำว่าตีจนตายกระตุ้นให้เจิ้งซูอี้รู้สึกตื่นตัวนางยืดหลังตรงมองไปที่แม่เฒ่าจางเขม็ง นั่นสินะหลิวอันอันโดนตีอย่างหนักจึงทำให้ิญญาของนางออกจากร่างไปแล้วนางก็มาสิงร่างนี้แทน ทั้งหมดนี่ก็เป็เพราะยายเฒ่าคนนี้ทั้งนั้น
“รีบไสหัวไปซะยายเฒ่าก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน”
เจิ้งซูอี้เอ่ยเสียงเย็นด้วยความรำคาญ กลิ่นอายอำมหิตที่อยู่ในสนามรบมานานของนางแผ่ออกมาทำเอาแม่เฒ่าจางขนลุกด้วยความหวาดกลัว นางถอยออกห่างจากเจิ้งซูอี้เล็กน้อยแล้วะโเข้าไปในเรือนเสียงดัง
“อาจวิ้นข้าเองท่านแม่ของเ้าข้ามีเื่สำคัญที่ต้องพูดกับเ้า ตอนนี้ ออกมาพบแม่หน่อยได้หรือไม่”
หลิวตงจวิ้นเดินออกมาหน้าเรือนเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“อาจวิ้นมาแล้วหรือแม่มีเื่พูดกับเ้า”
หลิวตงจวิ้นมองดูบุตรสาวของตนว่านางถูกแม่เฒ่าจางรังแกหรือไม่ เมื่อเห็นว่านางยังเป็ปกติดีเขาจึงหันมาถามแม่เฒ่าจาง
“ท่านป้าสะใภ้มาที่นี่มีธุระอันใดกับข้า”
หลิวตงจวิ้นไม่เรียกนางว่าท่านแม่อีกต่อไป เพราะพวกเขาได้ตัดความสัมพันธ์กันไปเมื่อวันก่อน แม่เฒ่าจางกัดฟันด้วยความโมโห แต่นางมีเื่ที่สำคัญกว่าต้องทำให้สำเร็จ เื่เนื้อหมูป่าอย่างไรเล่า
“อาจวิ้นข้าได้ยินว่าเ้าจับหมูป่ามาได้อย่างนั้นหรือ เช่นนั้นเ้าจะแบ่งให้ท่านพ่อกับแม่ของเ้าทานสักหน่อยได้หรือไม่”
แม่เฒ่าจางขอเนื้อหมูป่าจากหลิวตงจวิ้นอย่างหน้าไม่อาย เจิ้งซูอี้รู้สึกโมโหจนอยากจะทุบตีคนขึ้นมา นางไม่รู้ว่าแม่เฒ่าผู้นี้ั้แ่เกิดมาเคยรู้จักคำว่ามารยาทหรือไม่
“ไม่มีข้าขายไปหมดแล้ว”
หลิวตงจวิ้นปฏิเสธออกไปตรงๆ เพราะหลังจากนี้เขาจะไม่ยอมก้มหัวให้คนสกุลหลิวอีกแล้ว
“เป็ไปได้อย่างไรข้าได้ยินว่าหมูป่าตัวใหญ่มาก ต่อให้ขายให้คนทั้งหมู่บ้านก็น่าจะมีเหลืออยู่ไม่ใช่หรือ”
แม่เฒ่าจางเถียงเอาเนื้อหมูป่าที่ไม่ใช่ของตนเองอย่างหน้าไม่อาย
“หมดแล้วก็คือหมดหากท่านไม่เชื่อนั่นก็เป็เื่ของท่าน ไม่มีอะไรแล้วก็เชิญท่านกลับไปเถอะ”
หลิวตงจวิ้นเอ่ยปากไล่แม่เฒ่าจางตรงๆ ตอนนี้นางโมโหจนอยากฆ่าพวกเขาทิ้ง ั้แ่ตัดขาดกันพวกเขาก็ปีกกล้าขาแข็งถึงกับกล้าไล่นางไปเชียวหรือ แม่เฒ่าจางนั่งลงตรงหน้าเรือนของหลิวตงจวิ้นจากนั้นจึงแหกปากะโเสียงดัง ทั้งแสร้งร้องไห้ให้ชาวบ้านเข้ามามุงดู
“์เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายกับข้าเช่นนี้ ข้าจางกุ้ยฮวาเลี้ยงเขามาจนโตป้อนข้าวป้อนน้ำให้เขา ข้าขอแค่เนื้อหมูป่าไม่กี่ชั่งให้ข้ากับตาเฒ่ากินเขากลับขับไล่ข้าเหมือนหมูเหมือนหมา”
ชาวบ้านที่กำลังเดินไปดูไร่นาของตนต่างก็แวะดูว่าเกิดอะไรขึ้น หมู่บ้านตระกูลสือเป็หมู่บ้านเล็กๆ มีห้าหกสิบหลังคาเรื่อนเท่านั้น เมื่อเกิดเื่อะไรขึ้นทุกคนมักจะรู้กันทั่ว ยิ่งแม่เฒ่าจางแหกปากะโอย่างไม่อายใครยิ่งทำให้ชาวบ้านมามุงดูมากกว่าเดิม
“์ ์ มาเอาชีวิตแก่ๆ ของยายเฒ่าผู้นี้ไปเถอะข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว”
เจิ้งซูอี้ใช้เท้าสะกิดก้อนหินที่อยู่บนพื้นพุ่งตรงไปที่หน้าผากของแม่เฒ่าจางอย่างพอดิบพอดี นางร้องโอดโอยด้วยความเ็ปพลางใช้มือกุมหัวของตนเอาไว้ จากนั้นนางจึงมองไปรอบๆ เพื่อหาว่าใครกันที่ปาหินใส่นาง
“ใครกัน ใครปาหินใส่หัวข้าออกมาเดี๋ยวนี้นะเ้าหมาลอบกัด”
เจิ้งซูอี้ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เหมือนเื่นี้ไม่เกี่ยวกับนาง
“ท่านกลับไปเถอะข้าบอกว่าขายหมดแล้วก็คือขายหมดแล้ว หากว่าท่านไม่เชื่อก็ไปถามหัวหน้าหมู่บ้านได้เลย ข้าขายให้เขาเป็คนสุดท้าย”
หลิวตงจวิ้นทำท่าจะผละจากไป แม่เฒ่าจางจึงคิดใช้ไม้ตายสุดท้ายคือล้มตัวกอดขาเขาเอาไว้ แต่เจิ้งซูอี้รู้ทันเมื่อเห็นแม่เฒ่าจางล้มตัวพุ่งมาที่พวกเขาพ่อลูก นางก็ใช้เท้าสะกิดก้อนหินพุ่งไปที่หน้าผากของแม่เฒ่าจางอีกก้อน
“โอ๊ย!!”
เสียงเหมือนหมูถูกเชือดของแม่เฒ่าจางที่ร้องออกมาดังก้องะเืหุบเขา ชาวบ้านต่างมองอย่างใว่านางเป็อะไร
“ใครปาก้อนหินใส่หัวข้าออกมานะ เ้าลูกหมาตัวไหนกล้าลอบทำร้ายข้าลับหลัง”
แม่เฒ่าจางไม่ได้นึกสงสัยสองพ่อลูกเลยสักนิดเพราะพวกเขายืนเฉยๆ อยู่ต่อหน้านาง นางเห็นว่าในมือพวกเขาก็ไม่ได้มีก้อนหิน จะต้องเป็ชาวบ้านคนใดคนหนึ่งที่ไม่ถูกกับนางแน่จึงถือโอกาสคนมุงเยอะๆ เช่นนี้แล้วแอบลอบทำร้ายนาง แม่เฒ่าจางกลอกตามองชาวบ้านที่มามุงดูไปรอบๆ เจิ้งซูอี้นึกขำในใจ
“ยายเฒ่าท่านไม่คิดหรือว่าอาจเป็์ก็ได้ที่ปาหินใส่ท่าน ไม่ใช่ว่าท่านพึ่งจะคร่ำครวญให้์พาท่านไปอยู่ด้วยหรอกหรือ คราวนี้ท่านได้ไปอยู่กับ์สมใจอยากแล้ว”
แม่เฒ่าจางเมื่อได้ฟังสิ่งที่เจิ้งซูอี้พูดนางก็นึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
“นางเด็กบ้าเ้ากำลังพูดเหลวไหลอันใด”
แม่เฒ่าจางเลิกนั่งคร่ำครวญบนพื้นรีบลุกขึ้นวิ่งจากไปทางเดิมที่นางพึ่งมา ทุกคนต่างส่ายหน้าให้กับอาการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของแม่เฒ่าจาง ชาวบ้านสองสามคนเอ่ยปลอบหลิวตงจวิ้นว่า อีกไม่นานนางเบื่อนางคงจะเลิกมารังควานพวกเขาไปเองให้พวกเขาอดทนหน่อย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้