เย็นวันต่อมา
บุ๋ม และหงส์เดินปรี่เข้ามาที่กลุ่มเด็กนักเรียนชายบนสนามฟุตบอลด้วยรอยยิ้มสดใส
"บิ๊กเหนื่อยไหม" บุ๋มเอ่ยถามเพื่อนหนุ่มทันทีที่เขาเดินมาหยุดพักริมขอบสนามฟุตบอล ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความห่วงใย
"ไม่เท่าไหร่" บิ๊กตอบบุ๋ม ก่อนจะหันไปทางหงส์พลางพยักพเยิดไปทางหนึ่ง "ไอ้ภัทรอยู่โน่น"
"พาบุ๋มมาหาแกเฉยๆ บิ๊ก! ไม่ได้มาหาไอ้ภัทร!" หงส์บอกเสียงกระด้างอย่างอารมณ์เสียทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น เธอยังจำเื่ราวในอดีตได้ไม่เคยลืม
เมื่อก่อนเธอเคยรวบรวมความกล้าบอกชอบธนภัทร ถึงขั้นซื้อดอกกุหลาบไปมอบให้ด้วยตัวเอง
แต่ผู้ชายคนนั้น... พอรับดอกกุหลาบจากมือเธอไปแล้วก็หันหลังเดินนำมันไปทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ไยดี แถมยังหันกลับมาบอกเธอด้วยน้ำเสียงเ็าว่า
'คงรู้คำตอบนะ'
หลังจากวันนั้นเป็ต้นมา หงส์ก็เกลียดธนภัทรเข้ากระดูกดำ
เธอออกจะเป็คนสวย รูปร่างดี มีแต่คนอยากรู้จัก ดีแค่ไหนแล้วที่เธอเป็ฝ่ายเริ่มต้นจีบผู้ชายตัวดำคล้ำ และรูปร่างอวบอย่างธนภัทรก่อน! …ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะเห็นว่าเขารวยหรอกเลยคิดจะจีบไว้หลอกกินขนมฟรี! ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะกล้าหักหน้าเธอจนแทบจะไม่มีชิ้นดีขนาดนั้น!
"วันจันทร์นี้สอบแล้ว วันเสาร์นี้เราไปติวหนังสือกันนะ" บุ๋มเอ่ยชวนบิ๊กด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
"ก็ดีนะ เดี๋ยวชวนไอ้พวกนั้นไปด้วย" บิ๊กบอก พลางชี้ไปยังเพื่อนๆ ของเขาที่กำลังเล่นเตะบอลกันอย่างสนุกสนานอยู่กลางสนามหญ้ากว้าง
จากที่ยิ้มแย้มอยู่ บุ๋มก็หุบยิ้มลงทันที ใบหน้าฉายแววผิดหวังเล็กน้อย ก่อนจะตอบรับเสียงเรียบ "อือ..." ใจจริงบุ๋มอยากติวกับบิ๊กแค่สองคนมากกว่า
บิ๊กนั้นรู้ดีว่าบุ๋มแอบชอบตน แต่เขากลับไม่ได้มีความรู้สึกเช่นนั้นกับบุ๋มเลยแม้แต่น้อย มองเห็นเธอเป็เพียงเพื่อนเท่านั้น อีกทั้งวิชาภาษาอังกฤษที่ต้องสอบในวันจันทร์นั้น ตัวเขา และเพื่อนๆ ในกลุ่มก็ไม่มีใครถนัดเลยสักคน จึงตอบตกลงไปแบบนั้น และเพื่อไม่ให้บุ๋มคิดเลยเถิดไปไกล รวมถึงอยากให้เพื่อนๆ ได้ติวหนังสือไปพร้อมกัน เขาจึงตัดสินใจพูดออกไปเช่นนั้น
ธนภัทรเคาะกระจกรถของธนกรเบาๆ เมื่อผู้เป็พ่อลดกระจกลง เขาก็ย้ำเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอีกครั้ง
"ติวเสร็จสี่โมงเย็นนะครับพ่อ"
"อืม รู้แล้ว ไม่เกินหกโมงเดี๋ยวพ่อมารับ นั่งรอที่โรงเรียนไปก่อน" ธนกรบอกเสร็จสรรพก็ปิดกระจก แล้วขับรถออกไป
ธนภัทรเดินข้ามถนนตรงไปยังร้าน ณชิตา คาเฟ่ ซึ่งเป็สถานที่ที่เพื่อนๆ นัดกันมาติวหนังสือกันในวันนี้
เมื่อเดินมาถึงหน้าร้าน เ้าของร้านก็กำลังหอบของสดของแห้งที่เพิ่งซื้อมาจากตลาดสด เพื่อนำเข้าไปจัดเก็บในร้าน ธนภัทรจึงเดินตามเข้าไปด้านใน
"เฮลบลูบอยผสมน้ำเปล่าแก้วหนึ่งครับ" ธนภัทรเอ่ยปากบอกทันทีที่หยุดยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์
ณชิตาหันมาตามเสียง ก็ออกอาการใเล็กน้อย เพราะไม่รู้ตัวมาก่อนว่ามีคนเดินตามเข้ามาในร้าน พอเห็นว่าเป็เด็กคนนี้ เธอก็จำได้แม่น จากวีรกรรมที่เขาทำไว้ในวันแรกที่เธอเปิดร้าน
"ร้านยังไม่เปิดเลยค่ะน้อง เปิดเก้าโมง นี่เพิ่งจะเจ็ดโมงเอง" ณชิตาบอกด้วยรอยยิ้มบางๆ
"ขอนั่งรอในร้านจนถึงเก้าโมงได้ไหม ี้เีนั่งรอข้างนอก" ธนภัทรเอ่ยอย่างสบายๆ
ณชิตาชั่งใจคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคลี่ยิ้ม และตอบกลับไป "ได้สิ งั้นพี่ไม่ปิดประตูร้านนะ ฝากช่วยดูหน้าร้านด้วย เดี๋ยวพี่เข้าไปเตรียมของในครัวก่อน"
ธนภัทรพยักหน้าตกลง พลางคิดในใจว่า 'วันนี้ไม่ใจร้ายเหมือนวันนั้นแฮะ'
สักพักใหญ่ๆ ณชิตาก็เดินออกมาจากห้องครัว เห็นธนภัทรนอนฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะ แต่ไม่ได้หลับ เธอเดาว่าเช้าขนาดนี้เขาคงยังไม่ได้กินอะไรมา จึงเอ่ยถามด้วยความเป็ห่วงเล็กน้อย "กินข้าวมาหรือยัง"
"ยัง" คนตอบยังคงนอนแนบหน้าอยู่บนโต๊ะ
ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา ข้าวไข่เจียวร้อนๆ หอมฉุยก็ถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าธนภัทร พร้อมกับน้ำเปล่าเย็นชื่นใจหนึ่งแก้ว
ธนภัทรรีบเงยหน้าขึ้นมามองข้าวไข่เจียวบนโต๊ะทันที กลิ่นหอมกรุ่นของมันช่างเย้ายวนใจ ทำให้คนที่ยังไม่ได้กินข้าวเช้ารู้สึกหิว และอยากกินขึ้นมาในบัดดล
"อาหารเช้าเป็มื้อที่สำคัญนะ ยิ่งวัยเรียนยิ่งต้องกิน ขาดไม่ได้เลย" ณชิตาบอกด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
"คิดตังค์หรือเปล่าเนี่ย" ธนภัทรถามอย่างระแวงเล็กน้อย เงินน่ะเขามีจ่ายอยู่แล้ว แต่ถ้าจะมาหลอกเอาเงินเด็กโดยที่ทำอาหารมาวางตรงหน้า บังคับให้ซื้อโดยที่เขาไม่ได้เอ่ยปากสั่งนั้น เขาก็ไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะ!
"ไม่คิดเงินหรอกจ้ะ ให้กินฟรีเลย แต่ถ้าเกรงใจละก็... หลังกินเสร็จก็ล้างจานล้างแก้วที่กินแล้วให้พี่ก็พอ" เธอว่ายิ้มๆ ก่อนจะเดินไปหยิบโน่นทำนี่ตระเตรียมของสำหรับเปิดร้านขาย
ธนภัทรมองตามเ้าของร้านด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย บนโลกนี้มีคนใจดีกับคนที่ไม่รู้จักกันแบบนี้อยู่ด้วยเหรอเนี่ย...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้