กว่าสิบปีหลังากวาดล้างชาวโลหิต ขบวนสวนสนามครั้งยิ่งใหญ่ได้จัดขึ้นในเมืองหลวงของอาณาจักรดาราอันยิ่งใหญ่ เนปจูโน มีการจุดพลุ ดนตรี และเสียงโห่ร้องยินดี ขณะที่เหล่าทหารในชุดเครื่องแบบสีน้ำเงินเดินสวนสนามไปตามท้องถนน
เหล่าบิดาอุ้มลูกไว้บนบ่าเพื่อชมทหาร และไม่มีผู้ใดในฝูงชนที่ไม่ยิ้มและเคารพทำความเคารพชายเ่าั้
ทหารส่วนใหญ่ยิ้มและเชิดหน้าขึ้นสูงขณะเดินสวนสนาม แต่ก็มีทหารจำนวนไม่น้อยที่ดวงตาเผยความละอายที่ซ่อนอยู่ในใจ
ในขณะที่สำหรับผู้คนแห่งอาณาจักรดาราอันยิ่งใหญ่ ากวาดล้างชาวโลหิตเป็ความขัดแย้งที่โหดร้ายแต่จำเป็ เพื่อกำจัดเผ่าพันธุ์ที่มีเป้าหมายจะรุกรานดินแดนและสังหารครอบครัวของพวกเขา แต่เหล่าทหารที่เข้าร่วมในานั้นรู้ความจริง
มีเพียงคำเดียวเท่านั้นที่สามารถอธิบายากวาดล้างชาวโลหิตได้อย่างถูกต้อง
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ทันใดนั้น ผู้คนก็เริ่มร้องอุทานด้วยความใเมื่อเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินอยู่บนถนนที่สะอาดสะอ้าน ซึ่งทหารหลายร้อยนายกำลังเดินสวนสนามอยู่
ไม่มีใครควรอยู่บนถนนเส้นนั้นนอกจากกองทัพ แต่สิ่งนั้นไม่สำคัญเท่าใดนัก รูปลักษณ์ของชายหนุ่มผู้นั้นต่างหากที่ทำให้ทั้งทหารและพลเรือนแห่งอาณาจักรดาราอันยิ่งใหญ่ตกตะลึงอย่างแท้จริง
เขาเป็ชายหนุ่มผู้สง่างามและรูปงาม มีรัศมีอันไม่เกรงกลัว และร่างกายที่เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต ทว่า ผมสีขาวและดวงตาสีแดงของเขาต่างหากที่เป็ลักษณะสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดความวุ่นวายนี้
ไม่มีใครเชื่อว่าสมาชิกของชาวโลหิต ซึ่งเป็เผ่าพันธุ์ที่ถูกกำจัดไปแล้ว จะมาปรากฏตัวในอาณาจักรดาราอันยิ่งใหญ่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือใน่ขบวนสวนสนามที่เฉลิมฉลองาที่กองทัพได้กวาดล้างผู้คนของเขา
ชายหนุ่มเดินอย่างสงบนิ่งไปตามถนนที่ไร้ที่ติมุ่งหน้าไปยังเหล่าทหาร และเมื่อผู้คนมองไปที่ด้านหลังชุดคลุมของเขา พวกเขาก็เห็นคำสองคำว่า
ราชันชุดแดง
ความเงียบเข้าครอบงำ ขณะที่พลเรือนบางคนไม่สามารถปรับตัวเข้ากับภาพอันแปลกประหลาดตรงหน้าได้ และพวกเขาก็เป็ผู้โชคดี
ในขณะที่คนทั่วไปเห็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่ง เหล่าทหารกลับรู้สึกว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทางธรรมชาติ พลังแห่งการทำลายล้างที่ไร้อารมณ์ ซึ่งจะกวาดล้างทุกสิ่งในเส้นทางของมัน
ทหารหนุ่มคนหนึ่งไม่อาจต้านทานแรงกดดันทางจิตใจที่ราชันชุดแดงส่งออกมาได้ และเขาก็รีบบรรจุะุปืนก่อนที่จะยิงออกไป
"ปัง!"
ราชันชุดแดงหยุดเดินหลังจากทหารยิงปืนออกไป แตกต่างจากที่ผู้คนคาดคิด ะุไม่ได้ทำอันตรายหรือแม้แต่แฉลบออกจากร่างกายของเขาเลย
ชิ้นส่วนโลหะเล็กๆ นั้นลอยนิ่งอยู่ในอากาศ ห่างจากศีรษะของราชันชุดแดงไม่ถึงห้าเิเ
ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของเหล่าทหารและพลเรือน ราชันชุดแดงก็คว้าะุด้วยนิ้วของเขา ก่อนที่จะทำให้มันเรืองแสงด้วยแสงสีเืหมู
ราชันชุดแดงเพ่งความสนใจไปที่ทหารที่ยิงปืนใส่เขา และขว้างะุออกไป
"ตูม!" แรงะเิคล้ายกับที่เกิดจากการยิงปืนใหญ่ของรถถังเกิดขึ้นเมื่อราชันชุดแดงพุ่งะุสีเืหมูออกจากมือของเขา
ด้วยพลังงานจลน์ของะุ ทหารหลายสิบนาย รวมถึงผู้ที่รับผิดชอบการยิงนั้น ถูกะเิออกเป็เสี่ยงๆ
"อ๊ากกกก!"
ผู้คนเริ่มร้องไห้เนื่องจากฉากอันน่าสยดสยองนั้น แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำนานนัก ราชันชุดแดงตบมือลงบนพื้น ทำให้แสงสีเืหมูปกคลุมพื้นดินไปไกลหลายร้อยเมตร
แสงสีเืหมูนั้นเป็สิ่งสุดท้ายที่พลเรือนและทหารเ่าั้เห็น ก่อนที่หนามแหลมคมจากพื้นดินจะพุ่งขึ้นมาและสังหารพวกเขาไปทั้งหมด
ไม่มีอารมณ์ใดปรากฏในดวงตาของราชันชุดแดงหลังจากความหายนะนั้น เขารู้ว่านี่เป็เพียงจุดเริ่มต้น และเขาก็เพ่งความสนใจไปที่เครื่องบินรบที่ปรากฏบนท้องฟ้า
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปสามารถอธิบายได้เพียงว่าเป็การปะทะกันระหว่างเทคโนโลยีทางการทหารกับพลังเหนือธรรมชาติ
วัตถุะเิ ขีปนาวุธ และะุพลังสูงร่วงหล่นลงมาราวกับห่าฝนใส่ราชันชุดแดง และนี้เขาตอบโต้ด้วยการปลดปล่อยลูกไฟ สายฟ้า พายุ ฝนกรด และความสามารถเหนือธรรมชาติอีกมากมาย
เช่นเดียวกับใน่ากวาดล้างชาวโลหิต ที่ฝ่ายหนึ่งควบคุมพลังที่เหนือกว่าอีกฝ่ายอย่างมาก จึงไม่มีข้อสงสัยเลยว่าใครจะเป็ผู้ชนะ
เนปจูโน มหานครอันเป็ดั่งมงกุฎแห่งอาณาจักรดาราอันยิ่งใหญ่ เมืองที่มีประชากร ห้าสิบห้าล้านคน และมีชื่อเสียงว่าเป็มหาอำนาจทางทหารสูงสุดของโลก ถูกลดทอนเหลือเพียงเถ้าถ่านในเวลาไม่ถึง สิบห้าชั่วโมง
มีเพียงสองชีวิตเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในเมือง และทั้งสองอยู่บนท้องฟ้า มองซากปรักหักพังที่กำลังลุกไหม้ หนึ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ขณะที่อีกคนหนึ่งจมดิ่งสู่ความสิ้นหวังอย่างที่สุด
สุริตมหาราชเห็นทุกสิ่งอันเป็ที่รักของตนถูกทำลาย และแทบจะพูดไม่ออก ร่างกายของพระองค์แทบจะหมดสิ้นเรี่ยวแรงแล้ว แต่ก็ไม่สำคัญเท่าใดนัก เนื่องจากพระองค์ยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้าได้ด้วยการจับคอเสื้อของราชันชุดแดงที่แ่า
"อสุรกาย..."
ราชันชุดแดงหันไปทางสุริตมหาราช นั่นเป็คำแรกที่กษัตริย์ดาราเอ่ยออกมานับั้แ่ถูกจับกุม
"อสุรกาย, ปีศาจ, สัตว์นรกที่ถูกส่งมาทำลายอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของข้า!" กษัตริย์ดาราเริ่มะโสุดเสียง ดูเหมือนว่าความใจากการสูญเสียทุกสิ่งจะทำให้พระองค์เสียสติ
ราชันชุดแดงเพียงแค่ส่ายศีรษะเมื่อได้ยินคำพูดของสุริตมหาราช
"ความลึกลับและนิทานปรัมปรา เครื่องมือของคนอ่อนแอและโง่เขลาเพื่ออธิบายสิ่งที่เกินความเข้าใจของพวกเขา
สามวันหลังการกำเนิด ข้าก็เข้าใจคำพูดและรับรู้สิ่งรอบตัวได้แล้ว หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ข้าก็มีความสามารถในการพูดและแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ขั้นสูงได้
แน่นอนว่า ข้าซ่อนสิ่งเ่าั้จากผู้ให้กำเนิด เพราะข้ารู้ว่าการมีอยู่เช่นข้าสามารถก่อให้เกิดความกลัวในหมู่คนทั่วไปได้
ในวันเกิดปีแรก ข้าได้รับรู้ถึงพลังที่แทรกซึมอยู่ทั่วทุกมุมโลก ก่อนอายุสามขวบ ข้าเรียนรู้วิธีใช้มันเพื่อปลดปล่อยเวทมนตร์ธาตุและเสริมสร้างร่างกายของข้า"
สุริตมหาราชไม่เข้าใจว่าราชันชุดแดงกำลังพูดถึงพลังอะไร แต่สิ่งนั้นไม่สำคัญ เนื่องจากชายหนุ่มไม่เคยคาดหวังคำตอบรับ
"แก... แกคือปีศาจ พระเ้าจะลงโทษการมีอยู่ของแกที่ทำเช่นนี้กับผู้คนของข้า"
คำพูดเ่าั้ไม่ก่อให้เกิดสิ่งใดในราชันชุดแดง และเขาก็เพียงส่ายศีรษะ
"ในความคิดของท่าน การสั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโลหิตเป็ไปตามพระประสงค์ของพระเ้า แต่การกวาดล้างอาณาจักรของท่านกลับขัดต่อพระประสงค์นั้นงั้นหรือ? อา... ข้าคิดว่ากษัตริย์แห่งมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกจะดีกว่านี้ แต่ท่านก็เป็เพียงคนหน้าซื่อใจคดอีกคนหนึ่ง" ราชันชุดแดงไม่กล่าวอะไรอีกก่อนที่จะปล่อยสุริตมหาราช
"อ๊าก!" กษัตริย์ดาราแห่งอาณาจักรดาราอันยิ่งใหญ่กรีดร้องขณะร่วงหล่นจากท้องฟ้า ก่อนที่จะปะทะกับพื้นและกระดูกทุกส่วนในร่างกายหักละเอียด
สิบวันก่อนวันเกิดปีที่สิบห้าของเขา ราชันชุดแดงได้ทำลายอาณาจักรดาราอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็มหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและเป็ผู้รับผิดชอบการกวาดล้างชาวโลหิต
ราชันชุดแดงจ้องมองเมืองที่พังทลาย และเข้าใจว่าเขาได้กลายเป็สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในโลก แต่สิ่งนั้นกลับทำให้เขารู้สึกว่างเปล่า
ค่ำคืนได้สิ้นสุดลงในเวลานั้น และดวงอาทิตย์ก็ขึ้นมา ขณะที่เขาััได้ถึงความอบอุ่นของเทหวัตถุอันสง่างามนั้น เป้าหมายที่ทำให้เขามีความหลงใหลอย่างแท้จริงก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของราชันชุดแดง
"โลกนี้เล็กเกินไปสำหรับข้า" ราชันชุดแดงจ้องมองเทหวัตถุอันยิ่งใหญ่ที่ปกคลุมท้องฟ้าขณะที่รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้