ใน่เวลาสองวันผันผ่าน เ่ิูผจญการต่อสู้ใหญ่น้อยมาเกือบร้อยครั้ง ออกไล่ล่าสัตว์ป่าและสัตว์อสูรแปลกประหลาด มีาแเต็มตัว สองสามครั้งที่กระดูกหักหรือกระอักเื ขาดอีกนิดก็จะล้มลงทั้งยืน
เื่นี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้วิชาลมหายใจไร้ชื่ออีกเช่นเคย ไม่เพียงช่วยให้ฟื้นฟูสภาพจิตใจเร็วเท่านั้น ยังช่วยเยียวยาาแให้หายได้อย่างปาฏิหาริย์ ไม่เช่นนั้นเขาคงกลับบ้านเก่าไปนานแล้ว
แน่นอน การฆ่าต่อเนื่องไม่เว้นวันเว้นคืน สำหรับเ่ิูนั้น เขาได้รับประโยชน์มหาศาล
ก่อนออกมาจากสำนักนั้น เ่ิูผ่านอาณาพิภพขั้นสี่อย่างสมบูรณ์แบบ สำเร็จกระบวนท่าที่อาจารย์ร่างบึกบึนถ่ายทอดให้ ‘ปีกพญาอินทรี’ พาโลหิตแลกโลหิต ขับไล่ความสกปรกมัวหมองในเื ลงตัวกับวิชาลมหายใจไร้ชื่อ ผลออกมาน่าพึงพอใจ
การต่อสู้ถึงสองราตรีนี้ ยังเด็กหนุ่มให้ก้าวข้ามผ่านขั้นที่สี่ได้หมดจด เข้าสู่เขตที่ห้า...เขตไขกระดูก
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน คนไร้พื้นฐานวรยุทธ์กลับล่วงเข้าอาณาพิภพขั้นห้า การฝึกฝนความเร็วระดับนี้ ไม่ใช่แค่เรียกว่ารวดเร็วได้แล้ว แต่เร็วบรรลัยจนน่าพิศวง
ดีที่ระยะเวลาหนึ่งเดือนก่อนหน้าการสอบของปีหนึ่งนี้ เ่ิูไม่เคยแสดงพลังที่แท้ให้ใครเห็น นอกเหนือจากอาจารย์ร่างกำยำแล้ว ใครหน้าไหนก็ไม่ได้รู้ทั้งนั้น
ถ้าไม่ล่ะก็ ต้องเกิดโกลาหลคราวใหญ่แน่
และการฝึกอาณาพิภพขั้นห้า คือเปลี่ยนโลหิตและไขกระดูก กำจัดความฟอนเฟะในร่างที่จะได้รับไว้ล่วงหน้า เป็หนึ่งในวิธีชำระร่างให้สะอาดเอี่ยมอ่อง เตรียมพร้อมสำหรับการค่อยๆ พัฒนาไปถึงอาณาเนื้อฟ้า เปลี่ยนแปลงกายภาพในวันข้างหน้าต่อไป
กระบวนท่าัแผดแห่งกระบวนยุทธ์ทั้งแปด คือท่าที่เหมาะสมที่สุด
ก่อนลองมาย่างกรายในที่ราบขั้วโลกนั้น เวินหว่านได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้เ่ิูไว้แล้ว
สังหารัอสรพิษทอง อาบเือสรพิษได้เมื่อใด จะมีผลให้เขาพัฒนาได้รวดเร็วขึ้นเท่านั้น
“ฟ่อๆ...ฟ่อๆ”
ัอสรพิษทองฉกลิ้นไปมา ระหว่างที่หัวสมองถูกเ่ิูจู่โจม ก็ดูมึนๆ งงๆ หาได้บุกเข้าไปอีกครั้ง
ทว่ากายยาวกว่ายี่สิบเมตรของมัน กลับเหมือนโอบล้อมเข้ามาเชื่องช้า อากาศอบอวลด้วยไอพิษเหม็นคาว ทำให้ผู้คนมึนงง
นี่คือสัตว์นักล่าที่น่ากลัวเหลือกิน
กายเ่ิูนั้นเล่า ผิวเนื้อสีแทนมีรอยถลอกอยู่เพียบ มองแล้วน่าขยาดนัก
นี่คือรอยแผลจากการต่อสู้ออกล่าไม่ยั้งถึงสองวันสองคืน ทั้งรอยถูกกัดฉีกหรือรอยกรงเล็บกรีด บางแผลยังไม่สมานตัวดี ครั้นถูกกระทบกระเทือนจากการสู้เมื่อครู่ ก็ฉีกขาดขึ้นอีกครั้งจนเืรินไหล
“ตำนานว่าไว้ว่าัอสรพิษทองคือทายาทของัเทพที่ตายจาก ในกายแอบซ่อนสายเืแห่งั หากมีโอกาส จะสามารถเปลี่ยนร่างเป็ัได้ แต่ัอสรพิษตรงหน้าข้านี้...” เ่ิูวิเคราะห์ศัตรูอย่างละเอียด
เขามั่นใจแล้วว่า ัอสรพิษทองตนนี้ไม่มีทางแปลงเป็ัได้ สายเือ่อนเกินไป าแฟกช้ำดำเขียวไม่ฟื้นฟู
“ถึงจะเป็ชั้นหางแถว แต่ข้า้าเืัจอมปลอมนี้เพียงหยิบมือ จะช่วยให้ข้าเข้าถึงกระบวนท่าัแผดได้สำเร็จ ขับเคี้ยวฝึกปรือไขกระดูก...และ ัอสรพิษตัวนี้เป็สัตว์อสูร ในกายต้องมีกระดูกแท้ทั้งดุ้นอยู่เป็แน่”
ั์ตาเด็กหนุ่มลุกโชนด้วยไฟสังหาร
เขาซึ่งร่างกายเต็มเปี่ยมด้วยเืสด มีรัศมีเยี่ยงอยากฆ่าล้างให้สิ้นแผ่ออกมาบางๆ
“ฟ่อๆ...” สัตว์อสูรโกรธเกรี้ยวพุ่งเข้าโจมตี
เ่ิูตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
ใจเต้นเพียงชั่ววินาทีเดียว ก็สับขาออกวิ่งด้วยฝีเท้าที่ร่ำเรียนมาจากหลิวเล่ย แหวกผ่านการโจมตีรูปแบบนี้ได้
พริบตาต่อมา เ่ิูตะลุยห่างออกมาหลายสิบเมตร เหยียดแขนคว้าหอกไน่เหอจากปลอกดำทมิฬว่องไว
สองมือจับหอกสองส่วน กระแทกเข้าต่อติดกัน
เสียงฉับๆ ดังแว่ว เมื่อเครื่องจักรทำงานเสร็จสิ้น หอกยาวยาวถึงสามเมตรเศษก็กันครบ
ฟิ้ว!
เล็งเป้าออกไป
แม้เพียงเสี้ยวก็มีอำนาจบางอย่างทำศัตรูขวัญหนี
ัอสรพิษทองยังลอยคว้างเพื่อจู่โจมกลางอากาศ ไร้ทางหลบหนี ถูกปลายหอกแทงทะลุคอลึกเจ็ดนิ้ว เกล็ดแข็งกร้าวดังเหล็กหินถูกเจาะทะลวงง่ายดายเหมือนเต้าหู้ เรี่ยวแรงมหาศาลพุ่งพล่านเสียบร่างั์หนักพันจินกระเด็นไปไกล
ทีเดียวต้องตาย!
ัอสรพิษทองถูกตรึงไว้กับพื้นดิน กายใหญ่โตดิ้นพล่าน มันกระเสือกกระสนแล้วก็ดับชีวิตลง
เ่ิูเก็บหอกแล้วยืนขึ้น
ยามมีศาสตราคู่ใจ สามารถเพิ่มพูนพลังได้มากมาย
สัตว์อสูรขั้นสองชั้นเลว เพียงเขาใช้หอกไน่เหอคราเดียวก็เกือบแหลกสลาย ต้องปะทะพลังลึกลับมหาศาลในกายเขาต่อหน้า สัญชาตญาณของสัตว์อสูรย่อมรู้ดีว่ากำลังจะถูกส่งไปตาย
เ่ิูปักหอกลงดิน ก่อนหยิบกริชสีน้ำเงินหม่นออกมา เพื่อเริ่มแล่เนื้อเถือหนัง
กริชนามว่า ‘เหล็กหนาว’ นี้เวินหว่านให้เขามา ยินข่าวว่าเป็อาวุธิญญาปลดระวางแล้ว กระบวนพลังที่สลักเสลาไว้บนตัวถูกทำลาย ทว่าส่วนประกอบไม่เลว หั่นเหล็กเป็โคลนได้ เหมาะกับการแล่เนื้อสัตว์อสูรที่สุด
เขานำโลหิตที่บริสุทธิ์ที่สุดของอสรพิษบรรจุลงในขวดหยกเล็ก
ที่ผ่านมาสองราตรีเขาได้ฝึกฝนหั่นศพสัตว์อสูรมานับไม่ถ้วน รู้ครอบจักรวาล จึงลงมือได้เยี่ยงผู้ชำนาญการ
“ลำไส้ัอสรพิษ? ที่แท้ก็มีขนาดประมาณกำปั้น สัตว์ั์สามารถขับพิษออกได้ สุดท้ายก็ยังเป็ของดีล่ะนะ...”
“หนังอสรพิษก็ควรเก็บรักษาไว้ดีๆ เอาไปแลกเปลี่ยนเป็คะแนนก็ได้...เอ๊ะ?”
“เนื้อแฝงฝังแก่นแท้พลังอาณาเนื้อฟ้าไว้ ชดเชยได้ดีเชียว ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้แล้ว...”
“เขี้ยว อืม อย่างไรก็น่าจะมีราคา...”
“ฮ่าๆ ไหนจะพิษของหนุ่มตัวนี้อีก คะเนแล้วก็น่าจะเอาไปแลกเป็คะแนนได้เหมือนกัน!”
เ่ิูชักตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว
ศพของสัตว์อสูรขั้นสองอาบไปด้วยหยก เหล่านี้ล้วนมีบันทึกไว้ในสมุดภาพสัตว์ร้ายขั้วโลกเหนือทั้งสิ้น เด็กหนุ่มท่องจำจนขึ้นใจและแตกฉาน
บนโลกใบนี้ ไฉนถึงมีพวกแส่หาอันตรายบ้าๆ ออกบุกเบิกแว่นแคว้นอันตรายกันไม่หยุดด้วย ก็เพราะในภยันตรายนั้นบ่มเพาะเศรษฐีอำนาจล้นฟ้าอยู่ ในภพที่วรยุทธ์โด่งดังและรุ่งโรจน์ ศพของเผ่าพันธุ์อื่นและสัตว์อสูรล้วนแต่เป็สมบัติล้ำค่า ไม่ต้องเอ่ยถึงสมบัติฟ้าประทานนั่นเลย
สำนักกวางขาวในรูปแบบนี้ ส่งเสริมให้ลูกศิษย์ฝึกทักษะการเอาตัวรอดในอนาคต
“เอ๋? ยังไม่เจอกระดูกแท้อีกหรือนี่? เป็ไปได้อย่างไรกัน กระดูกแท้น้อยๆ เ้าอยู่ไหน ออกมาให้ข้าเจอเถอะ...”
เ่ิูบ่นซ้ำไปซ้ำมา
ทันใดนั้น...
“เอ๊ะ? นี่มันอะไร? ก้อนใหญ่ถึงเพียงนี้...นี่มัน...หา ที่แท้เ้าหนุ่มนี่ก็กลืนหอยแมลงภู่อยู่นี่เอง...”
เ่ิูใเล็กน้อย
ส่วนท้องของัอสรพิษ เขาพบอะไรบางอย่างปูดโปนขึ้นมา จึงลองกรีดออกดู เห็นเป็หอยแมลงภู่ทองคำที่ตายไปแล้ว ทั้งตัวยาวตกสองเมตร เปลือกนอกถูกน้ำย่อยกัดกร่อนไปไม่น้อย ทว่ายังคงเปล่งแสงวูบวาบเหมือนเทด้วยทองคำ
มิน่าเล่า ตอนต่อสู้กันถึงได้รู้สึกว่าไม่ได้ร้ายกาจเท่าตำราว่าไว้ ที่แท้แล้วเป็เพราะกินอิ่มไปไม่นาน หอยแมลงภู่ทองคำที่อยู่ในท้องจึงส่งผลกระทบกับความปราดเปรียว
ทว่า...
หอยแมลงภู่นี้ดูอย่างไรก็น่าแปลกอยู่ดี
ในสมุดภาพสัตว์ร้ายที่ราบขั้วโลกเหนือ ไม่ได้เอ่ยถึงหอยชนิดนี้อยู่เลย บันทึกถึงสัตว์น้ำที่ตั้งรกรากอยู่ในแม่น้ำเกือบหมื่นชนิด ประเภทหอยมีอยู่เกือบร้อย โทนสีส่วนมากมีแต่สีดำไม่ก็สีเหลืองดิน ทว่า หอยตลับสวยระยิบดั่งอาบทองมานี้ไม่เห็นอยู่เลยจริงๆ
“ฮ่าๆ หรือว่าเ้านี่จะเป็าาหอยแมลงภู่กันนะ?”
เ่ิูหัวเราะร่า
เขายังคงพิศวงสงสัย จึงเอื้อมมือจะเปิดเปลือกหอยออก ลองดูว่าจะมีจำพวกไข่มุกดำวาดวางอยู่หรือไม่ คะเนดูแล้วหอยแมลงภู่มีราศีทองคำถึงเพียงนี้ อาจเป็สัตว์อสูรขั้นสูงก็เป็ได้กระมัง ภายในอาจจะมีกระดูกแท้อยู่หรือเปล่า?
เปลือกหอยแข็งกระด้างนัก แขนแรงอย่างต่ำหมื่นจินของเ่ิูยังต้องออกแรงไปตกเก้าพันสองกว่าๆ ถึงจะบังคับให้อ้าออกได้
ทันใดนั้นแสงเรืองรองแห่งไข่มุกล้ำค่าก็รั่วไหลออกมาจากช่องว่าง
เ่ิูก้มหน้ามอง เห็นเพียงไข่มุกรูปร่างเหมือนไข่นกพิราบเล็กใหญ่สามฟอง หยาดหยดกลอกกลิ้งอยู่บนเนื้อหอย มันเปล่งแสงประหลาดวับวาว มีคลื่นพลังอ่อนๆ บางอย่างที่เ่ิูไม่อาจเข้าใจได้
เด็กหนุ่มยื่นมือเข้าไป หยิบไข่มุกทั้งสามออกมา
“เอ๋?” เขาใอีกรอบ
เพราะไข่มุกน้ำงามทั้งสาม ให้ความรู้สึกต่างกัน หนึ่งเยือกเย็นแทบแช่แข็ง หนึ่งร้อนนัก หนึ่งอบอุ่นดุจหยก
ตอนพินิจอย่างละเอียดนั้นเอง ไข่มุกลูกร้อนเปลี่ยนเป็สีแดงอ่อนจาง ลูกเย็นแปรเป็ดำมืด และลูกอุ่นนั้นกระจ่างดุจผิวเนื้อของสาวงาม มันแจ่มจรัสยิ่งนัก
เ่ิูยังกะประมาณมูลค่าของไข่มุกทั้งสามนี้ไม่ออก แต่กลับแอบคิดว่าต้องมิใช่ของธรรมดา เมื่อเล่นพอเป็กระษัยแล้วจึงนำใส่ย่าม รอกลับสำนักกวางขาวเมื่อใดค่อยหาคนตัดสินว่าเป็หอยอะไรกันแน่
เขาคิด ทั้งยังผ่าเนื้อในหอยตลับ ว่าจะมีหรือไม่มีกระดูกแท้กันแน่
สิ่งที่เรียกว่ากระดูกแท้นั้น เป็กระดูกเนื้อฟ้าในร่างของสัตว์อสูร คือริ้วลายสมบูรณ์ซึ่งสรรสร้างโดยธรรมชาติ ริ้วลายนี้สามารถติดต่อสื่อสารกับพลังแห่งใต้หล้าได้ กระตุ้นทุกพลังและอิทธิฤทธิ์ทรงอานุภาพ เป็สิทธิพิเศษที่น่ามหัศจรรย์
และก็เป็สาเหตุที่สัตว์อสูรแตกต่างจากเดรัจฉานธรรมดา
การมีอยู่ของกระดูกแท้ทำให้พวกมันแข็งแกร่ง และศิลปะแห่งอักขระของมนุษย์ก็ยังว่ากันว่าได้มาจากรากฐานของริ้วลายของพงศ์เพาสัตว์อสูร ที่ผ่านการกลั่นกรองและสืบเสาะมากมาย นำมาซึ่งการพัฒนาก้าวหน้า การบุกเบิกของบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น ถึงได้มีวรยุทธ์อักขระที่สั่นะเืทั้งภพในทุกวันนี้
นับแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน กระดูกแท้ก็ยังคงเป็หนึ่งในวัตถุดิบชั้นดีอย่างหนึ่งของศาสตร์อักขระ
พิภพนี้ไม่มีกระดูกแท้ใดจะเหมือนกันซ้ำสอง ไม่ว่าจะได้มาจากสัตว์อสูรพันธุ์เดียวกันก็ยังแตกต่างอย่างสิ้นเชิง มีบางครั้งที่สัตว์อสูรอ่อนแอตัวลีบบ่มเพาะอักขระกระดูกแท้แกร่งกล้าอยู่ในร่าง
และตามตำนานเล่าขาน นอกจากไว้ศึกษาวิจัยคุณค่าแล้ว กระดูกแท้ยังเป็ส่วนประกอบในการฝึกฝนอย่างหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งที่แท้ จะใช้กระดูกแท้รูปแบบต่างๆจัดการกระบวนอักขระ อำนาจดั่งเทพเ้าสังหาร
ดังนั้น คุณค่าแห่งกระดูกแท้จึงแพงมหา
ไม่อาจบอกได้แน่นอนว่าหอยแมลงภู่ทองคำนี้จะแอบซ่อนกระดูกแท้ทรงค่าไว้หรือไม่ ถึงเวลาสามารถนำไปแลกคะแนนได้มากนัก... เ่ิูคิดถึงตรงนี้แล้วก็เผยยิ้มตื่นเต้นออกมา
ทว่าคลำหาอยู่เนิ่นนาน เนื้อในหอยกลับดูเหมือนไร้ของจำพวกกระดูก
เขาเพ่งมองเปลือกหอยเสียละเอียดยิบ ไม่มีวี่แววริ้วลายอันใดอยู่เลย
“ดูท่าข้าจะโลภเกินไป...”
หอยแมลงภู่ทองคำนี้เป็ของแปลกจริงแท้ ไม่ธรรมดาเท่าใด อาจเป็ไปได้ว่าสัตว์อสูรนั้นยากจะจำกัดความได้ เื่ไม่มีกระดูกแท้ก็คงเป็ไปได้กระมัง
ตอนเ่ิูกำลังจะถอดใจนั้นเอง มือที่ยื่นไปคลำหาในเนื้อหอย พลันแตะกับอะไรแข็งๆ
“อ๊ะ? นี่มัน...หาเจอแล้วสินะ?”
เ่ิูดีใจจนเนื้อเต้น เขาหนีบส่วนหนึ่งไว้ แล้วฉุดกระชากของแข็งๆ นั่นออกมา
ทว่าเมื่อได้เห็นมัน เด็กหนุ่มกลับอึ้งไปเลย