เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า อนันทิตาก็เดินไปเข้าห้องน้ำตามปกติ ก่อนจะไปนั่งทานกาแฟที่โซฟา สักพักเวราก็ตื่น และทำแบบเดียวกัน เธอเดินมานั่งข้างๆ อนันทิตา ทำให้เธอนึกถึงภาพเมื่อคืน ทำเอาใจเต้นไม่เป็จังหวะ แล้วค่อยๆ ขยับให้ห่างออกไป ทำให้เวราคว้าแขนเธอไว้แล้วพูดว่า
“จะขยับหนีไปทำไม ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย ไม่มีอารมณ์ ไม่ต้องขยับไปไหน จะดูงานต่อ เธอขยับไปแล้วเราจะดูโน๊คบุ๊คของเธอยังไงละ เธอเล่นขยับมันไปด้วย”
อนันทิตาถึงกับหน้าเสียกับคำพูดว่าไม่มีอารมณ์ หน้าตาเธอมันดูแย่ขนาดนั้นเลยหรา น้องสาวตัวแสบของเธอถึงพูดแบบนั้นทำให้ อนันทิตาที่รู้สึกเสียหน้า เริ่มคิดอะไรแผลงๆ ขึ้นมา โดยการหว่านเสน่ห์แต่ลืมไปว่าน้องสาวตัวแสบของเธอ อารมณ์แปรปวนมากแค่ไหน ทำเอาเธอเปลืองตัวอีกรอบจนได้
เมื่ออนันทิตายั่วเวรามาก จากเธอที่จะปล่อยไปเช้านี้เพื่อที่จะทำงาน ก็เปลี่ยนจากนั่งข้างๆ ไปนั่งบนตักคนเป็พี่ซะดื้อๆ แล้วบอกว่า
“เธอหาเื่เองนะ ไม่ยอมทำงานดีๆ อยากทำอย่างอื่นหรือ เดียวเราจัดให้ก็ได้”
เมื่อเวราพูดจบ จากที่อนันทิตาจะลุกขึ้นหนีตอนแรก แต่เธอกลับถูกเด็กดื้อคนนี้นั่งบนตักซะอย่างนั้น ก่อนที่เวราจะทำอะไร อนันทิตาก็เอามือปิดปากเวราอย่างเร็วแล้วบอกว่า
“เดียว พี่มีเื่ต้องคุยกับเธอให้เข้าใจก่อนนะเวย์ เธอจะได้รู้ความจริงสักที แล้วกลับมาเป็น้องสาวที่น่ารักเหมือนเดิม อย่าลืมสิเราเป็พี่น้องกันนะ”
เวราเอามืออนันทิตาออกจากปากเธอ
“ใครเป็พี่น้องกับเธอ เราเคยบอกเมื่อไหรว่าเป็น้องสาวเธอ ไหนลองพูดมา เราต้องรู้ความจริงอะไรจากคนแบบเธออีก เท่าที่เราเห็นเธอมันช่างยั่วเก่งนะ คงหลอกมาหลายคนแล้วสิ แต่อย่าคิดว่าจะหลอกเราได้ง่ายๆ คนอย่างเรา เจ็บแล้วจำ ถ้าแค้นก็ต้องเอาคืนให้สาสม”
//ยั่วเก่งบ้างละ เอาคืนบ้างละ น้องสาวฉันปากร้ายขึ้นมากจริงๆ // อนันทิตาคิดในใจ อนันทิตาข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ ไม่อยากไปยั่วโมโหเวราตอนนี้ เพราะเธอต่างหากที่เป็ฝ่ายเสียเปรียบอยู่ เล่นไม่ยอมลุกขึ้นจากตักเธอเลย
“เวย์ น้องฟังพี่ดีๆ นะคะ พี่กับเมย์เราเคยเป็แฟนกันมาก่อนก็จริง แต่นั่น ั้แ่เราอยู่เมืองนอกนะคะ เราคบกันจนเรากลับมาเมืองไทยไปอีกหลายปี จนเมื่อ 5 ปีก่อน อยู่ๆ เค้าก็หายไปจากชีวิตพี่เฉยๆ พี่เองก็เสียใจเพราะไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดหรือปล่าว จนพึ่งมาทราบนี่แหละว่า่ 5 ปี ที่ผ่านมาเมย์ทิ้งพี่ไปคบกับเวย์ เราทั้งคู่ต่างก็โดนผู้หญิงคนนั้นปั่นหัว หลอกให้รัก หลอกเอาเงินเรา เขาไม่เคยจริงใจกับใครเลยนะคะ...........”
อนันทิตายังไม่ทันพูดจบ เธอแค่จะบอกต่อว่า ั้แ่เมธานันหายไปเธอก็ไม่เคยได้พบกันอีกเลย เวราเข้าใจผิดมาตลอด แต่ปากของเธอก็ถูกเวราประกบจูบลงไปอย่างรุนแรง และคราวนี้เวราก็ใช่ลิ้นหยอกเย้า วนไปวนมากับลิ้นของอนันทิตา ทำให้อนันทิตาใจสั่นรัว ตัวของอนันทิตาสั่นระริกด้วยความรู้สึกดี จนเวราถอนปากออกจากเธอ แววตาจ้องมองเธอด้วยสายตาเ็า บอกกับเธอว่า
“ผู้หญิงแบบเธอร้ายกาจกว่าที่เราคิด ขนาดจูบกันเธอยังตอบสนองอย่างชำนาญ คงจูบกับเมย์จนเก่งเลยสินะ แล้วอย่างอื่นละ เก่งด้วยหรือปล่าว ถึงทำให้เมย์ติดใจเธอจนต้องกลับไปหาเธอ เราขอลองบ้างละกัน ว่าเธอจะเก่งขนาดไหน จะทำให้เราติดใจเธอเหมือนเมย์ติดใจมั้ย”
ไม่ทันที่เวราจะได้ทำอะไรอนันทิตาต่อ ฝ่ามือของเธอก็ตบไปที่แก้มของเวรา
“หยุดพูดจา ดูถูกกันแบบนี้สักที คนที่จูบพี่ลึกซึ้งขนาดนี้คนแรกก็คือเธอนั่นแหละ คนที่ร้ายกาจกับพี่ก็คือเธอ แล้วพี่บอก พี่อธิบายอะไรไปเธอก็ไม่ยอมฟังให้จบ ยังไม่ยอมเชื่อกันอีก เธอเห็นพี่เป็ผู้หญิงที่ยอมใครง่ายๆ อย่างนั้นหรือเวย์ เธอมันโคตรแย่กว่าที่พี่คิดซะอีก ดูถูกพี่มากเกินไปแล้ว พี่ไม่รู้หรอกนะว่าเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง แต่เธอก็ไม่มีสิทธิจะมาดูถูกหรือทำกับพี่แบบนี้ เพราะถึงยังไงตอนนี้ฐานะของเราก็คือพี่น้องกันอยู่ดี ถึงเธอจะไม่ยอมรับมันก็ตาม แต่ในสายตาของพี่ เธอก็ยังคงเป็น้องสาวอยู่ดี”
อนันทิตาลุกขึ้น ไม่สนใจเลยว่าคนที่นั่งทับเธออยู่จะเป็ยังไง เมื่ออนันทิตาลุกขึ้น เวราที่ตั้งหลักก่อนแล้ว ก็รีบคว้ามือเธอไว้แล้วบอกกลับไป
“เราเข้าใจคนอย่างเธอถูกมาตลอดต่างหาก คนที่ทำให้เราเป็คนแบบนี้ก็คือเธอนั่นแหละ อย่าคิดว่าจะใช้คำว่าพี่น้องมากลบเกลื่อนสิ่งที่เธอทำไว้กับเรา มันไม่ได้ผลหรอก คนที่เป็พี่น้องกัน ไม่คิดจะทำให้น้องตัวเองเ็ปหรอก”
อนันทิตาสะบัดมือเวราออก ไม่หันกลับมามองเพราะตอนนี้น้ำตาเธอกำลังไหลอาบแก้มแค่ไม่มีเสียงร่ำไห้ออกมาเท่านั้น
“เธอแน่ใจแล้วใช่มั้ย ว่าพี่คือคนผิด ถ้าคิดแบบนั้นเราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก สักวันเธอคงเข้าใจเองว่าตัวเธอนั่นแหละที่คิดผิดพอถึงวันนั้น เธอก็อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกันเวรา”
อนันทิตาเดินเข้าห้องไป ทิ้งเวราให้คิดในสิ่งที่อนันทิตาอธิบาย แต่สิ่งที่เธอเห็นหลักฐานที่เธอมีมันก็ชัดเจนในตัวมันอยู่แล้วว่า อนันทิตาแย่งเมธานันไปจากเธอ เวราจึงเลือกที่จะเชื่อแบบที่เธอเชื่อมาตลอด
เมื่อถึงในห้องทำงาน อนันทิตาที่ลงมาก่อนก็นั่งทำงานตามปกติ เวราจึงตามมาทีหลัง ทั้งสองต่างคนต่างทำงานเพราะเอกสารมากมายที่กองอยู่บนโต๊ะทำงานมันก็ทำให้ทั้งสองคนหัวหมุนพอที่จะไม่ทะเลาะกัน อนันทิตาเห็นคนเป็น้อง คิ้วแทบจะชนกันก็ถามว่า
“สงสัยอะไรตรงไหนหรือปล่าว ถามพี่ได้นะ เมื่อคืนนั่งศึกษางานเองพอเข้าใจบ้างมั้ย”
“พอเข้าใจอยู่ แต่ที่สงสัยคือตัวเลขในบัญชีของทางไร่ทับตะวันมากกว่า ทำไมยอดมันถึงไม่คงที่ละ ทั้งๆ ที่เราก็หมักไวน์เองได้ไม่ต้องส่งให้ใคร”
“ถ้าเื่นั้นเดียวพี่อธิบายให้ฟังก็ได้”
อนันทิตาลุกขึ้นมา เดินไปที่โต๊ะทำงานของเวรา เอาเอกสารที่อยู่ที่เธอให้เวราดูแล้วค่อยๆ อธิบายทีละขั้นตอนว่าทำไมยอดถึงไม่คงที่และมันไม่ได้ส่งผลต่อบริษัท หรือส่งผลต่อยอดขาย เพียงแค่เธอปรับปรุงให้มันดีขึ้น ตามคำแนะนำของผุ้เชี่ยวชาญแนะนำมาก็เท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ก็เป็เพื่อนสนิทของอนันทิตาเอง และอนันทิตาก็ไว้ใจมากพอที่จะให้ดูแลทั้งบริษัททางเชียงใหม่ แต่ให้ดูแลโรงงานกับไร้ทับตะวัน โดยที่มีอนันทิตาเป็เ้าของ ส่วนเพื่อนของเธอก็รวมหุ้นด้วยในบริษัททางเชียงใหม่ 30 เปอร์เซ็น เพราะถ้าให้เป็เพียงลูกจ้าง คนที่มีความรู้ขนาดเป็ผู้เชียวชาญได้ คงไปเปิดบริษัทเป็ของตัวเองดีกว่า
เมื่ออนันทิตาอธิบายเสร็จ เธอก็กำลังจะเดินกลับไป เวราก็ขว้ามือเธอไว้จนอนันทิตาเสียหลัก เซไปนั่งบนตักเวรา เธอจะลุกขึ้นแต่เวรากลับฉวยโอกาสนี้กอดเอวเธอไว้แน่นและบอกว่า
“จะรีบไปไหน ยังไม่หมด อธิบายตรงนี้ให้ฟังหน่อย เราไม่ค่อยเข้าใจั้แ่มะคืนละ”
“งั้นก็ปล่อยพี่ก่อน นั่งอยู่แบบนี้ พี่อธิบายไม่สะดวก แล้วเดียวมีคนเข้ามาเห็นมันจะดูไม่ดี”
“ไม่ปล่อย ถ้าเธออธิบายไม่จบก็นั่งอยู่แบบนี้แหละ เราไม่ว่า ตัวเธอเบาจะตาย เรารับไหว”
แววตาของเวราร้ายกาจมากทำให้อนันทิตา เสียวสันหลังวาบและคิดว่า
“จะโดนแกล้งอะไรอีกนี่ แววตาหน้ากลัวมาก แถมยังนั่งบนตักยัยตัวแสบขี้แกล้งแบบนี้อีก โอ้ย...จะบ้าตาย นี่มันไม่ใช่เวราคนเดิมแล้วจริงๆ สินะ แววตาเหมือนหมาจิ้งจอกไม่มีผิดเลย จะโดนนางงับตอนไหนนี่”
อนันทิตาเห็นท่าว่าเวราคงไม่ปล่อยเธอไปแน่ๆ จึงรีบอธิบายตรงส่วนที่เวราไม่เข้าใจให้เธอฟังอย่างรวดเร็วเพื่อที่เธอจะได้หลุดจากการพันธนาการณ์ของยัยตัวแสบนี้สักที
ตอนนี้เวรา ที่มีอนันทิตานั่งบนตัก เธอก็ได้กลิ่นกายของอนันทิตาอันหอมยั่วยวนใจเธอให้สั่นไหวมาก จนตอนนี้เวราไม่มีสติที่จะฟังอนันทิตาอธิบายอีกแล้ว จมูกของเวราเริ่มจะอยู่ไม่เป็สุขมันค่อยๆ สูดดมคนบนตักอย่างหลงใหลในกลิ่นกาย จนตอนนี้มันลามไปถึงคอขาวนวล ไม่ใช่ว่าอนันทิตาไม่รู้สึกนะ เธอรู้ตัวตลอดและพยายามจะลุกหนี เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ฟังที่เธออธิบายแล้ว เพราะตอนนี้มือของเวรามันเลื่อนไปอยู่ที่หน้าท้องพยายามเอามือสอดเข้าไปในเสื้อแต่อนันทิตาไม่ยอม เอามือของเธอจับมือเวราไว้พร้อมกับจะลุกขึ้นแต่ถูกมืออีกข้างของเวรารัดเอวเธอแน่นกดสะโพกเธอเอาไว้จนเธอเจ็บ อนันทิตาพยายามเรียกให้เวราได้สติ แต่ดูเหมือนไม่ได้ผล ตอนนี้จากสูดดม กลายเป็การจูบใบหูของเธอแทน ทำให้อนันทิตา เสียวไปถึงท้องน้อย เธอเอามือทั้งสองข้างจะผลักดันเวราให้หยุดแกล้งเธอแบบนั้น แต่มันกลับทำให้อีกฝ่ายฉวยโอกาสนั้นแทรกมือเข้าไป เคล้าคลึงอกอวบอิ่มของเธอได้โดยง่าย
อนันทิตาโมโหตัวเองนักที่เสียท่าอีกจนได้ เธอต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวกับน้องสาวตัวร้ายของเธอมากจริงๆ ด้วยความโมโห บวกกับอารมณ์ที่กำลังจะถูกเวราปลุกมันขึ้นมามากไปกว่านี้ เธอจึงกอดคอของเวรากัดเวราเข้าที่ไหล่เธออย่างแรงจนเป็รอยฟัน ทำให้เวราได้สติ แต่มือของเธอก็ยังไม่เอาออกจากหน้าอกของอนันทิตา
“เอามือออกสักที เลิกแกล้งกันได้แล้ว นี่มันเวลางานนะ ไหนบอกจะทำงาน ไม่เอามาปนกันไง”
เมื่อเวราได้ยินแบบนั้นเธอก็ปล่อยมือออกจากการพันธนาการที่มีต่ออนันทิตาโดยเร็ว เพราะตัวเธอเองก็กลัวว่าจะทำให้เสียงานจริงๆ
เมื่ออนันทิตาเป็อิสระจากน้องสาวเธอที่เชื่อฟังกันง่ายๆ เพราะเื่งาน เธอก็ใจชื้นขึ้นมา ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างนั่งทำงานของตัวเอง พอเกิบเที่ยงก็พากันออกไปพบลูกค้า อนันทิตาก็ค่อยๆ สอนงานให้เวราอย่างละเอียด ก่อนที่จะพากันกลับมาประชุมต่อใน่บ่าย เื่ขยายโรงเก็บไวน์เพิ่มอีกแห่ง เพราะยอดการสั่งซื้อมากขึ้น การเข้าประชุมครั้งนี้ มีแต่ผู้ถือหุ้น เวราจึงต้องเป็ตัวแทนของพ่อเธอเข้าประชุมในตำแหน่งผู้ถือหุ้น แทนตำแหน่งเด็กฝึกงาน
อนันทิตาจึงถือโอกาสนี้แนะนำเวราให้ผู้ถือหุ้นรายเล็กได้รู้จัก ในตำแหน่งของ CEO อีกคนของบริษัทนี้ เพราะหุ้นในมือของทั้ง 2 เท่ากันคือ 40% แต่จริงๆ มันไม่ใช่ บริษัทนี้เป็ของครอบครัวอนันทิตามาแต่แรก ทางเธอต่างหากที่มีหุ้นถึง60% แต่เธอไม่อยากอธิบายอะไรกับผู้ใหญ่เหล่านี้มากมาย เลยบอกว่าเท่ากันซะจะได้จบๆ เวรามองตาอนันทิตาก็เข้าใจ ถึงไม่พูดอะไร CEO ก็ได้ อยากให้เธอเป็ร่วมกัน เธอก็จะช่วยละกัน แค่เื่งาน
หลังจากจบประชุม ก็ดูเหมือนคนเป็พี่จะเหนื่อยมาก แต่อนันทิตายังเคลียร์งานไม่เสร็จ จึงเดินตรงกลับไปที่ห้องทำงานเพื่อทำงานต่อ เวรามองดูนาฬิกาก็เห็นว่า 2 ทุ่มเข้าไปแล้ว จึงเดินตามไปเห็นอนันทิตานั่งที่โต๊ะทำงานเธอ ค่อยๆ เปิดอ่านเพื่อเซ็นอนุมัติ เวราเห็นแบบนั้นก็เดินไปที่โต๊ะ แล้วหยิบเอกสารมาครึ่งหนึ่งกลับไปนั่งที่โต๊ะไม่พูดอะไรอนันทิตาถามแบบงงๆ ว่า
“เธอจะทำอะไร เอามาคืนเลย พี่จะรีบทำให้เสร็จ ส่วนเธอนะ พักได้แล้วเป็แค่เด็กฝึกงานนี่หมดเวลางานเธอแล้ว กลับขึ้นไปนอนข้างบนเถอะ เดียวเสร็จตรงนี้แล้วจะพาไปส่งที่บ้าน”
อนันทิตาก้มหน้าทำงานต่อ เวราก็เดินเข้ามา แล้วหมุนเก้าอี้อนันทิตาให้หันมาทางเธอที่ก้มหน้าลงไปมองตาเธอบอกว่า
“ไหนเมื่อกี้บอกในห้องประชุมว่าเราเป็CEO เหมือนกัน แต่ทำไมตอนนี้ถึงโดนลดตำแหน่งแล้วละ ไม่ต้องห่วง เราไม่เหนื่อย เราบอกแล้วเดียวเรา จะช่วยเอง ถ้าอันไหนเราเห็นว่าok เดียวจะส่งไปให้เซ็นเองแหละ เธอก็พักสายตาได้แล้ว เราอ่านไม่นานหรอก แปปเดียวก็เสร็จจะได้รีบกลับบ้านกัน เราอยากนอนกับเธอจะแย่ละ”
เวราพูดทิ้งท้ายแบบนั้นทำให้อนันทิตาแทบจะไม่อยากพาเวรากลับบ้านเลย อยากนอนกับเธอ มันหมายความว่าอะไรนะ ไม่ดีแน่ ถ้าเธอไม่หาทางหลบออกจากบ้าน คืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือปล่าวนี่
เวราเห็นสีหน้าของพี่สาวคนสวยก็ยิ้มมุมปากอย่างพอใจที่ได้แกล้งปั่นหัว เพราะคำพูดที่กำกวมของเธอปั่นหัวอนันทิตาจนทำงานต่อไม่ถูก เวราคิดถูกจริงๆ ว่าไม่นาน นี่แค่ไม่ถึง 5 นาที อนันทิตาก็สติแตกแล้ว เธอคิดได้อยู่วิธีเดียวคือ รีบพาน้องสาวตัวแสบกลับไปส่งที่บ้านให้อยู่กับแม่ ส่วนเธอจะหนีกลับมานอนที่บริษัทจะได้ไม่ต้องมานอนด้วยกันดีที่สุด เอาแบบนี้แหละ
“ปะ กลับบ้าน พี่เหนื่อยละอยากพัก พรุ่งนี้ค่อยรีบมาทำต่อไม่มีนัดอะไรด้วย พวกงานเอกสารพรุ่งนี้ก็น่าจะเคลียร์หมด”
พวกเธอช่วยกันจัดวางแฟ้มเอกสารจนเรียบร้อยเป็ระเบียบ ก่อนจะพากันปิดไฟและเดินออกไปที่รถ
ภายในรถ เวราแกล้งแหย่อนันทิตาอีกเพื่อความสะใจของเธอ
“ทำไมรีบขับรถ อยากกลับไปนอนกอดกับเราขนาดนั้นเลยหรือ”
อนันทิตาถึงกับเบรกรถกะทันหันแล้วหันมาตอบ
“จะบ้าหรือ ใครจะอยากไปนอนกอดกับเธอ พี่เหนื่อยอยากรีบกลับไปนอนพักต่างหาก เอาลงจากรถ ได้แล้วถึงละ”
ที่จริงแล้วมันถึงคอนโดแล้วต่างหากอนันทิตาถึงเบรกรถ แต่ใคำพูดของน้องสาวที่แกล้งเธอ จึงเหยียบเบรกแรงไปหน่อย จนอีกคน หัวไปโขกเข้าอย่างแรง
“เจ็บนะ.....” เวราเอามือกุมหน้าผากตัวเองเพราะเจ็บมากจริงๆ
อนันทิตาก็ใมากกว่าเดิม เพราะเวราไม่คาดเข็มขัดและเธอก็เบรกแรงจริงๆ จนหัวเวราไปกระแทกอย่างแรงจนหางคิวของเวราแตกมีเืไหลไปถึงแก้ม อนันทิตารีบลงจากรถ ไปเปิดประตูข้างคนขับเอามือของเธอห้ามเืไว้
“พี่ขอโทษ ก็เธอมาแกล้งพี่ทำไมเห็นมั้ยละ หัวแตกเลยไปคะพี่พาเธอขึ้นห้องเอง”
อนันทิตาค่อยๆ พยุงเวราให้ลุกขึ้น พากันเดินไปที่ห้องนอน เธอพาเวราไปนั่งปลายเตียงแล้วทำแผลก็เห็นว่าอีกคนคงปวดหัวมากเพราะแรงกระแทก พอทำแผลเสร็จเธอด้วยความเป็ห่วงเลยบอกว่า
“รีบไปอาบน้ำแล้วมากินยาซะจะได้นอนพัก”
เวราซึ่งตอนนี้ กำลังปวดหัวมากจริงๆ ก็ยอมเชื่อฟังง่ายๆ ทำตามที่พี่สาวคนสวยบอก พอกลับออกมา ก็เห็นแก้วยากับน้ำวางอยู่ เธอจึงหยิบขึ้นมากิน สักพักเธอก็ล้มตัวลงนอน อนันทิตาที่ไปอาบน้ำห้องแม่กลับมาเห็นเวราหลับไปแล้วก็เดินไปข้างๆ เอามือแตะหน้าผากดูก็เปรยออกมาว่า
“คิดไว้แล้วเชียว ตัวรุมๆ จริงด้วย ก็ดีจะได้ไม่แผลงฤทธิคิดเอาเราทำเมียอีก หวังว่าพอเธอตื่นขึ้นมาจะไม่แทนคุณพี่ด้วยวิธีแปลกๆ อีกนะเวรา”
อนันทิตาเดินไปล้มตัวลงนอนเช่นกันด้วยความเหนื่อย.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้