ภาพความหวานชื่นบนริมทะเลสาบช่างบาดตาของไป๋หว่านหนิงยิ่งนัก
ราวกับถูกคมมีดที่เปื้อนไปด้วยผงพริกแทงลึกเข้ามาในหัวใจ ความเ็ปแสนสาหัสทำให้นางแทบขาดอากาศหายใจ
“เ้าจะไปไหน?”
ฮั่วเยี่ยนไหวพบว่าสตรีร่างเล็กในอ้อมแขนเดินไปทางริมทะเลสาบอย่างกะทันหัน จึงคว้ามือของนางไว้โดยไม่รู้ตัว
ไป๋เซี่ยเหอดิ้นเล็กน้อย คิดจะสะบัดมือของฮั่วเยี่ยนไหวทิ้ง “น้ำในทะเลสาบหนาวเกินไป นางทนได้ไม่นานหรอก”
“เ้าไม่ถูกกับนางไม่ใช่หรือ?”
ไป๋เซี่ยเหอกล่าว “ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเล็กคิดน้อย ท่านก็รู้”
จริงอยู่ที่นางไม่ถูกกับไป๋หว่านหนิง ทว่าชีวิตน้อยๆ ในครรภ์เป็ผู้บริสุทธิ์
นางไม่มีทางยืนดูไป๋หว่านหนิงทำให้อีกชีวิตหนึ่งสูญสิ้นไปทั้งอย่างนี้ได้
พันธนาการที่มือคลายออก
ไป๋เซี่ยเหอเตรียมจะะโลงทะเลสาบ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงที่มืดมนและเย็นเยียบดังขึ้น
“ข้าตั้งครรภ์แล้วเ้าค่ะ”
ความเ็ปที่ท้องน้อยไม่อาจเพิกเฉยได้
ไป๋หว่านหนิงกลัวว่าก้อนเนื้ออันล้ำค่าในครรภ์จะเป็อันตราย แม้จะรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ทว่าจำต้องะโบอกความลับนี้ออกไป
“เ้าว่าอะไรนะ?”
ฮั่วิเชินสับสนไปชั่วขณะ
“ไท่จื่อ ข้าตั้งครรภ์ลูกของท่านเ้าค่ะ”
ไป๋หว่านหนิงหน้าซีด นางรู้ดีว่าการเปิดเผยความลับนี้ต่อหน้าสาธารณชนจะส่งผลเสียต่อนาง
ทว่านางไม่มีวิธีอื่นแล้ว
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเด็กคนนี้ควรนำพาเกียรติยศและความมั่งคั่งมาให้ ทว่าเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับนางกลับเป็การถูกเหยียดหยามและคำครหา
นางตั้งครรภ์ก่อนแต่ง
แม้ว่านางจะเป็ไท่จื่อเฟยในอนาคต ก็หนีไม่พ้นการถูกผู้คนครหา
สีหน้าของไป๋หว่านหนิงเศร้าสร้อย รู้สึกเจ็บที่ท้องน้อยกับหัวใจ เมื่อผสมรวมกันแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะทนไม่ไหว หนังตาค่อยๆ ปิดลง ก่อนจะเป็ลมหงายหลังไป
นางอยู่ในทะเลสาบ หากเป็ลมไปต้องจมน้ำตายแน่นอน
หนึ่งศพสองชีวิต
เสียงครหาและเสียงผู้คนสนทนากันค่อยๆ ดังขึ้น ความยินดีที่ได้เป็พ่อคนในคราแรกเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
ฮั่วิเชินสะบัดมือหลิวอวิ๋นตั่วทิ้ง ก่อนจะถลึงตาใส่นางอย่างโเี้ ก็แค่โคมดอกไม้ดวงหนึ่ง มอบให้ไป๋หว่านหนิงแล้วจะเป็อย่างไร? ตอนนี้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่หาทางลงไม่ได้
หลิวอวิ๋นตั่วเองก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เบ้าตาแดงก่ำ น้ำตาคลอหน่วย นางเอ่ยเสียงเบาอย่างน้อยอกน้อยใจ “หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ หม่อมฉันเองก็คิดไม่ถึงว่าพี่ไป๋จะตั้งครรภ์ก่อนแต่ง หากรู้ย่อมต้องมอบโคมดอกไม้ให้นางเพคะ”
ตอนนี้ฮั่วิเชินเองก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
เขาถอดเสื้อคลุมบนร่าง ก่อนจะะโลงไปในทะเลสาบ แล้วดึงตัวไป๋หว่านหนิงขึ้นมา
ร่างของนางเบาหวิว เนื้อตัวเย็นเยียบ ใบหน้าซีดเซียว สองตาปิดสนิทดูเหมือนไร้ซึ่งพลังชีวิต
เมื่อะโขึ้นฝั่งด้วยวิชาตัวเบา เขาก็ตำหนิหลิวอวิ๋นตั่วที่กำลังเหม่อลอยทันที “ยังไม่รีบนำเสื้อคลุมมาคลุมร่างไท่จื่อเฟยอีก!”
ฮั่วิเชินโมโหเสียจนกัดฟัน วันนี้มีผู้คนมากมาย เกรงว่าอีกไม่นานข่าวนี้ก็จะแพร่ไปถึงในวัง หากเสด็จพ่อรู้เื่ที่เกิดขึ้นในคืนนี้...
ล้วนเป็สตรีสองนางที่สมควรตาย
ทว่าตอนนี้ไป๋หว่านหนิงสลบไป กอปรกับตั้งครรภ์ เขาจึงไม่อาจทำอะไรนางได้
เขาจึงหันไปเอ่ยกับหลิวอวิ๋นตั่วที่ยืนอยู่ข้างๆ “กลับจวนแล้วให้ไปรับโทษโบยสิบห้าไม้ กักบริเวณหนึ่งเดือน ไม่อนุญาตให้ออกจากเรือนของตนเองแม้เพียงครึ่งก้าว จงปิดประตูทบทวนความผิดเสีย!”
หลิวอวิ๋นตั่วกัดริมฝีปากล่าง สีหน้าเต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจจนถึงขีดสุด หยดน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลริน ทว่าน้ำเสียงยังคงเข็มแข้ง หลังยังคงยืดตรงเพื่อรักษาเศษเสี้ยวสุดท้ายของศักดิ์ศรีเอาไว้ “เพคะ”
เมื่อไป๋เซี่ยเหอกลับถึงจวน ทั้งจวนสกุลไป๋ก็กำลังตกอยู่ในความโกลาหล
เนื่องจากยามที่ฮั่วิเชินอุ้มไป๋หว่านหนิงกลับมา หมอหลวงที่ติดตามมาด้วยก็ตรวจชีพจรให้ ก่อนจะยืนยันว่านางตั้งครรภ์
จวนสกุลไป๋ที่ได้ยินข่าวก็เกิดความอลหม่านทันที
มีคนยินดีย่อมมีคนกังวล!
ไป๋เหล่าฮูหยินมีเื่อยากจะถามอยู่เต็มท้อง ทว่าเมื่อเผชิญกับใบหน้าดำทะมึนของฮั่วิเชินก็ไม่กล้าพูดมาก
ส่วนไป๋หว่านหนิงก็สลบอยู่บนเตียง
ณ เรือนสุ่ยฉิง
เมื่อไป๋เซี่ยเหอเดินเข้าไปในเรือน ฝูเอ๋อร์ก็โผล่ออกมาพร้อมกับพวงแก้มแดงเรื่อ
“คุณหนูกลับมาแล้ว”
ไป๋เซี่ยเหอเหลือบมองดวงตาแวววาวของฝูเอ๋อร์ คาดว่านางคงสนุกสนานกับการเฉลิมฉลองเทศกาลในคืนนี้
“อิ๋งเฟิงไม่ได้รังแกเ้าใช่หรือไม่?”
คุณหนูรู้หมดทุกอย่างเลยเชียว
พวงแก้มของฝูเอ๋อร์แดงยิ่งขึ้น ทว่าก็ไม่อาจไม่วางมาด “คนโง่ตัวใหญ่อย่างอิ๋งเฟิงจะรังแกบ่าวได้อย่างไรเ้าคะ?”
“คุณหนู ข้างนอกวุ่นวายนัก เกิดเื่อะไรขึ้นหรือไม่เ้าคะ?”
ไป๋เซี่ยเหอชำเลืองมองด้านนอก
นี่ก็ดึกแล้วชัดๆ ทว่าทั่วทั้งจวนสกุลไป๋ยังคงจุดไฟสว่างโร่
“ไม่เกี่ยวกับพวกเรา ไม่ต้องไปสนใจ เข้านอนเร็วหน่อยเถิด”
ยังไม่แน่ว่าพรุ่งนี้ต้องรับมือกับสิ่งใดบ้าง
ไป๋เซี่ยเหอนอนลงบนเตียง นางยื่นมือขวามาตรงหน้า กลิ่นสะระแหน่เจือจางบนมือโชยเข้าจมูก
...
แสงอรุณสาดส่องลงบนผืนดิน มันทะลุผ่านใบไม้ และสาดไปบนพื้นราวกับภูตอันร่าเริง
ไป๋เซี่ยเหอที่นอนหลับเต็มอิ่มทั้งคืนลุกจากเตียงมาบิดี้เี โดยมีฝูเอ๋อร์หวีผม ล้างหน้า และสวมเสื้อผ้าให้
กระโปรงยาวสีอ่อนดูอ่อนช้อยงดงาม ลูกปัดดอกไม้อันวิจิตรสองสามเม็ดประดับอยู่บนมวยผมสูง
คิ้วและตาราวกับภาพวาด ดูสะอาดสะอ้านและงดงาม ราวกับหยดน้ำแวววาวเม็ดหนึ่งบนดอกไม้ยามรุ่งอรุณ
“คุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่ตื่นหรือยังเ้าคะ?”
เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา เสียงนั้นดังแว่วเข้าหูของทั้งสองคนที่อยู่ในเรือน
“เอะอะโวยวายด้วยเื่อันใด? ไม่เห็นคุณหนูใหญ่อยู่ในสายตาหรือ?”
หลายวันมานี้ ฝูเอ๋อร์ค่อยๆ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่ได้ยอมคนเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
บางคราก็แผ่พลังบางอย่างออกมา สามารถมองเห็นเงาของไป๋เซี่ยเหอในตัวนางได้เล็กน้อย
สาวใช้ตัวน้อยที่โผล่ศีรษะเข้ามาถูกฝูเอ๋อร์ดุเช่นนี้ก็ใจนหน้าซีดทันที รีบคุกเข่าลงบนพื้นหินสีคราม
“ขออภัยเ้าค่ะ บ่าวไม่ได้ตั้งใจนะเ้าคะ”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเป็เช่นนี้ ฝูเอ๋อร์ก็ใ นางรีบหมุนกายเข้าไปเรียกไป๋เซี่ยเหอออกมาทันที
“มีเื่อันใด?”
ไป๋เซี่ยเหอยืนพิงกรอบประตู ในความสง่างามนั้นแฝงด้วยความเอ้อระเหยเล็กน้อย รับกับั์ตาดอกท้ออันแวววาวในยามรุ่งอรุณคู่นั้น แม้ว่าจะเป็สตรีก็อดไม่ได้ที่จะใจลอยเมื่อเห็นความงดงามเช่นนี้
คุณหนูใหญ่ช่างงดงามจริงๆ
“เรียนคุณหนูใหญ่ ไป๋เหล่าฮูหยินให้ท่านไปที่เรือนหนิงซือเ้าค่ะ”
เรือนหนิงซือคือเรือนของไป๋หว่านหนิง
“เหตุใดถึงให้คุณหนูใหญ่ไปหาคุณหนูรองแต่เช้า? คุณหนูใหญ่ของเรายังไม่ได้กินข้าวเช้า กินเสร็จแล้วค่อยไป!”
ไป๋หว่านหนิงจะตายหรืออยู่ ฝูเอ๋อร์ไม่ได้สนใจ สายตาและหัวใจของนางมีเพียงคุณหนูเท่านั้น
สาวใช้ตัวน้อยแทบจะร้องไห้ออกมา ไป๋เหล่าฮูหยินกำชับนางว่านี่เป็เื่เร่งด่วนอย่างยิ่ง
“เกิดเื่อันใด? เ้าพูดมาก่อน”
แม้ว่าไป๋เซี่ยเหอจะพอเข้าใจอยู่คร่าวๆ ทว่าหากทราบรายละเอียดย่อมดีกว่า
สาวใช้ตัวน้อยผงกศีรษะอย่างขลาดกลัว จำนนต่อพลังอันกดดันผู้คนที่แผ่ออกมาจากร่างของไป๋เซี่ยเหอ
“มีคนจากในวังมาเยือนแต่เช้า บอกว่าคุณหนูรองตั้งครรภ์ก่อนแต่ง ทำให้ชื่อเสียงเสื่อมเสีย แต่เด็กในครรภ์เป็ลูกของไท่จื่อ จึงให้ลงโทษสถานเบา ลดขั้นเป็เช่อเฟยเ้าค่ะ”
------------------------