เยว่เฟิงเกอยิ้มมองไปยังชายที่เล่นสกปรก “ตานี้ข้าชนะแล้ว” พูดจบก็รวบเงินของทุกคนบนโต๊ะมาไว้ตรงหน้าตน
นี่เป็ครั้งแรกที่จินว่านหลี่ได้เห็นคนพนันชนะเ้ามือคนนี้ เพราะทุกครั้งที่เขามาเล่นพนันที่นี่ ต่อให้ชนะก็ชนะแค่กับคนอื่นๆ เงินที่ได้มาก็ไม่มาก
อย่างไรก็ตาม เ้ามือคนนี้มักจะวางเดิมพันสูงลิ่ว พอทุกคนเห็นเงินมาก แน่นอนย่อมปรารถนาให้เป็ของตน จึงพากันมาลงเดิมพันกับอีกฝ่าย
คิดจะใช้เงินน้อยชิงเอาเงินจำนวนมากที่สุดมาให้ได้
แต่พวกเขาชนะได้แค่ไม่กี่ตา จากนั้นก็พ่ายแพ้ไปจนหมดตัว
วันนี้จินว่านหลี่นับว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว ที่แท้คุณชายที่ซื้อตัวเขาคนนี้เป็ผู้มีวิชาสูงส่ง
เยว่เฟิงเกอไม่สนใจสายตาโดยรอบ นางยังคงลงเดิมพันที่ห้าร้อยตำลึง ส่วนเงินที่เหลือยัดเข้าไปในอกเสื้อทั้งหมด
“มาๆๆ เล่นต่อสิ” เยว่เฟิงเกอเรียกให้ทุกคนลงเดิมพันอีกครั้ง
คนอื่นๆ ก็แค่อึ้งไปเล็กน้อยแล้วก็กลับไปครึกครื้นอย่างก่อนหน้าได้อย่างรวดเร็วด้วยไม่มีใครอยากเก็บมาใส่ใจ อย่างไรเสีย การมาเล่นที่นี่จะแพ้ก็เป็เื่ธรรมดา
หากใครที่แพ้ไม่เป็ ก็สมควรเลิกเล่นแต่เนิ่นๆ
ชายขี้โกงขมวดคิ้วมุ่นอยู่ตลอด ก่อนหน้านี้ที่เขาลงเดิมพันสองร้อยตำลึงนั้นก็เพื่อใช้ลูกไม้เดิมๆ เป็เหยื่อล่อหลอกให้ทุกคนมาร่วมวง แต่วันนี้ไม่รู้เพราะเหตุใด คนอื่นๆ ลงเดิมพันกันไม่มาก แต่เ้าคนหน้าใหม่นี่กลับลงทีเดียวห้าร้อยตำลึง
เดิมชายขี้โกงยังคิดว่าครั้งนี้ตนต้องชนะแน่ๆ มิคาดทั้งๆ ที่โกงไพ่แล้ว แต่ไพ่กลับไปอยู่ในมืออีกฝ่ายได้
กระนั้นครั้งนี้เขาก็ยังเลือกลงเดิมพันด้วยเงินสองร้อยตำลึงเช่นเดิม เขาไม่เชื่อหรอกว่าอีกฝ่ายชนะเขาได้ครั้งหนึ่ง แล้วยังจะชนะเขาได้อีกเป็ครั้งที่สอง?
ส่วนคนอื่นๆ ยังคงลงเศษเงินแค่ไม่กี่สิบตำลึงเช่นเดิม และยังคงเป็ชายขี้โกงคนเดิมที่แจกไพ่
เมื่อเขาแจกมาถึงตรงหน้าเยว่เฟิงเกอก็เงยขึ้นหน้ามองนางไปทีหนึ่ง
เยว่เฟิงเกอยิ้มยักคิ้วให้เขาด้วยท่าทางอวดดีเต็มที่
เมื่อชายขี้โกงแจกไพ่เสร็จก็เล่นตุกติกอีกครั้ง สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่มือของเยว่เฟิงเกอตลอด อยากดูว่านางจะเล่นลูกไม้อะไรได้
เพียงแต่ดูอยู่นานก็ไม่เห็นเยว่เฟิงเกอมีความเคลื่อนไหวใด
เมื่อทุกคนหงายไพ่ออกมาก็พบว่าเป็เยว่เฟิงเกอที่ชนะอีกครั้ง
ครั้งนี้ชายขี้โกงเริ่มนั่งไม่ติดแล้ว เมื่อครู่เขาจ้องมือเยว่เฟิงเกอตาไม่กะพริบ เพราะกลัวว่านางเองก็จะทำเช่นเดียวกับเขาที่เล่นไม่ซื่อ
เพียงแต่เขาไม่เห็นว่ามือของเยว่เฟิงเกอจะมีการเคลื่อนไหวอะไรสักนิด ทว่า ครั้นหงายไพ่ในมือขึ้นมากลับกลายเป็ว่าไพ่ที่ควรอยู่ในมือเขาไปอยู่ในมือเยว่เฟิงเกอเสียได้
นี่มันเื่อะไรกัน หรือว่าอีกฝ่ายจะมีวิชาสับเปลี่ยนของในชั่วพริบตา?
ชายขี้โกงเริ่มหัวใจเต้นไม่เป็จังหวะ
เขาคิดว่า หากเล่นอีกตาแล้วอีกฝ่ายยังชนะอยู่อีก ปัญหาต้องอยู่ที่เ้าคนมาใหม่ผู้นี้อย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นเขาคงต้องไปหาเถ้าแก่โรงพนันแล้ว
เยว่เฟิงเกอยิ้ม เก็บเงินคนเ่าั้ยัดใส่อกเสื้อ
จินว่านหลี่เห็นแล้วยังถึงขั้นปากอ้าตาค้าง เขาคิดไม่ถึงว่าคุณชายคนนี้ไม่เพียงเอาชนะเ้ามือได้ แต่ยังชนะติดกันสองตาอีกด้วย
เขามองเสื้อกระสอบซอมซ่อบนร่างตน อดกล่าวเสียงเบากับเยว่เฟิงเกอไม่ได้ “คุณชายท่านช่วยแบ่งเศษเงินให้ข้าบ้างได้หรือไม่ขอรับ ข้าจะนำไปซื้ออาภรณ์มาสวมใส่ เพราะหากจะให้ข้าสวมกระสอบนี่ไปตลอด ก็คงไม่ได้นะขอรับ”
เยว่เฟิงเกอไม่ได้หันศีรษะกลับไป หยิบเศษเงินก้อนหนึ่งออกมาจากอกเสื้อแล้วโยนไปด้านหลัง
จินว่านหลี่เห็นว่าเงินถูกโยนมาก็รีบร้อนรับไว้ทันที
เขาหัวเราะฮิฮะกับเยว่เฟิงเกอ หลังจากกล่าวขอบคุณแล้วก็เร่งฝีเท้าออกไปจากโรงพนันว่านจิน ไปหาซื้ออาภรณ์ใหม่มาสวมใส่
การพนันครั้งที่สามเริ่มขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ยามที่เยว่เฟิงเกอลงเงินพนันห้าร้อยตำลึง นางตั้งใจลงไปที่ข้างต่ำ
ด้วยเหตุนี้ ในครั้งนี้คนอื่นๆ จึงเลือกลงตามเยว่เฟิงเกอบ้าง นำเงินไปวางเดิมพันไว้ข้างต่ำ ขณะที่ชายขี้โกงนำเงินหนึ่งร้อยตำลึงไปวางไว้ที่ข้างสูง
เขาไม่กล้าวางเดิมพันด้วยเงินที่สูงกว่านี้แล้ว หากเขาชนะ เขาจะได้รวบเงินของคนพวกนั้นมาทั้งหมด แต่หากยังแพ้อีก อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุนมากเกินไปนัก
ครั้งนี้ไม่ใช่การเล่นไพ่แล้ว ชายขี้โกงยกกระบอกทอยลูกเต๋าขึ้นมาเขาอยากจะดูว่าคุณชายที่มาใหม่ผู้นี้ ที่แท้แล้วจะมีความสามารถแค่ไหน
สำหรับพนันไพ่ ลูกไม้ของชายขี้โกงยังไม่นับว่าสูงส่งอะไรมาก เพราะการจะเล่นตุกติกกับไพ่ยังแสดงให้ผู้อื่นจับสังเกตได้ง่ายกว่าและชัดเกินไป แต่การเขย่ากระบอกลูกเต๋านั้นต่างออกไป ลูกเต๋าอยู่ในกระบอกไม้ไผ่ ไม่ว่าใครก็มองไม่เห็นว่าด้านในเป็อย่างไร
เขาสามารถนับและควบคุมจำนวนของตัวเลขที่จะออกมาให้เป็ไปตามความ้าของตนได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น
เมื่อชายคนนั้นเริ่มเขย่ากระบอกลูกเต๋า หูของเยว่เฟิงเกอก็กระดิกตาม
ในโรงพนันที่เอะอะมะเทิ่ง นางกลับได้ยินอย่างชัดเจนว่าลูกเต๋าในกระบอกกำลังถูกใช้เป็เครื่องมือในการเล่นสกปรก
เยว่เฟิงเกอยืนอยู่หน้าโต๊ะพนันด้วยท่าทีเกียจคร้าน เห็นอีกฝ่ายคว่ำกระบอกลงบนโต๊ะ
เยว่เฟิงเกอหรี่ตามองชายขี้โกง และได้เห็นว่าในสายตาเขามีแววได้ใจวาบผ่านอย่างชัดเจน
ดูท่าคนคงจะมั่นอกมั่นใจเป็อย่างมาก ครั้งนี้หากเขาชนะ เงินห้าร้อยตำลึงของเยว่เฟิงเกอย่อมต้องเป็ของเขาแล้ว
เพียงแต่เยว่เฟิงเกอจะยอมทำการค้าที่ขาดทุน? มือนางเคาะลงบนโต๊ะเบาๆ ไม่มีใครทันสังเกตเห็นการกระทำของนาง แม้แต่ชายขี้โกงคนนั้นก็ยังไม่ล่วงรู้
แม้ยามนี้สีหน้าของเยว่เฟิงเกอจะยังคงไร้ความรู้สึกใด แต่ในใจกลับหัวเราะที่อีกฝ่ายมั่นอกมั่นใจเกินไป ดูถูกศัตรูเยี่ยงนางเกินไป
เมื่อชายขี้โกงเปิดกระบอกไม้ไผ่ที่ครอบลูกเต๋าออก เดิมทีเขายังมั่นใจอยู่ว่าจะต้องออกมาเป็ห้าจุดทั้งสามลูกแน่ แต่ที่จริงแล้วกลับเป็ลูกเต๋าหนึ่งจุดทั้งสามลูก เป็จำนวนที่ต่ำที่สุดไปได้
ครั้งนี้ชายขี้โกงใแล้วจริงๆ ศีรษะเขามีเหงื่อผุดพราย
นี่มันเื่อะไรกัน เมื่อครู่นี้เขาแอบสับเปลี่ยนให้ลูกเต๋าด้านในมีห้าจุดตามที่เขา้าแล้วชัดๆ แต่เหตุใดพอเปิดออกมากลับเป็หนึ่งจุดทั้งหมด?
ชายขี้โกงเงยหน้ามองเยว่เฟิงเกออย่างกะทันหัน
“เ้าโกง” ชายขี้โกงเริ่มฟ้องร้องคนอื่นก่อนตะคอกใส่เยว่เฟิงเกอ
มุมปากเยว่เฟิงเกอกระตุกน้อยๆ เขาช่างเก่งเื่แว้งกัดจริงๆ
ทั้งๆ ที่เป็เขาที่โกงคนอื่นมาโดยตลอด ยามนี้นางเพียงเปิดโปงเขาด้วยวิธีเดียวกัน นางเพียง้าให้เห็นว่าดาบนั้นคืนสนองอย่างไรก็เท่านั้น
เยว่เฟิงเกอยิ้มบางๆ กล่าวว่า “ตาข้างไหนของเ้าเห็นว่าข้าโกง? ”
คนอื่นๆ มองเยว่เฟิงเกอ ก่อนจะสลับมองชายขี้โกงคนนั้น
ในบรรดาพวกเขาไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่ามีคนโกง
พวกเขาไม่มีความสามารถมากพอจะมองออกว่ามีใครเล่นแง่เล่นลูกไม้อะไรหรือไม่
ชายขี้โกงชี้ลูกเต๋าบนโต๊ะ “ลูกเต๋าเหล่านี้ก็คือหลักฐาน”
เยว่เฟิงเกอหัวเราะงอหงายเพราะคำพูดของอีกฝ่าย นางส่งเสียงหัวเราะต่ำๆ “เช่นนั้นเ้าลองว่ามา ลูกเต๋าเหล่านี้จะเป็หลักฐานอย่างไร พวกมันพูดเองไม่ได้นะ”
ชายขี้โกงแอบคิดในใจ หากเขาพูดออกไปว่าตนสามารถควบคุมจำนวนสูงต่ำของลูกเต๋าได้ เช่นนั้นทุกคนย่อมต้องคิดว่าคนที่โกงก็คือเขา
แต่ตอนนี้เขาพูดออกไปแล้วว่าอีกฝ่ายโกง แล้วเขาจะโกหกอย่างไรต่อไปดี?
ตอนนี้เองจินว่านหลี่สวมอาภรณ์ตัวใหม่เดินเข้ามา เขาเห็นว่าลูกเต๋าบนโต๊ะมีหนึ่งจุดทั้งหมด จากนั้นก็เห็นว่าทุกคนต่างลงพนันที่จำนวนต่ำทั้งสิ้น เขาอดหัวเราะไม่ได้ “ยินดีกับคุณชายด้วย ท่านชนะอีกตาแล้ว”
ชายขี้โกงเห็นจินว่านหลี่กลับมาแล้วก็รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปโจมตีอีกฝ่ายแทน
“จินว่านหลี่ เงินที่เ้าติดข้าไว้จะคืนเมื่อใด ตอนนี้เ้านายเ้าชนะไปหลายตา ได้เงินไปมากโขแล้ว เ้าก็ควรคืนเงินข้าได้แล้วกระมัง? ”
จินว่านหลี่มองเยว่เฟิงเกอไปทีหนึ่งด้วยสีหน้าลำบากใจ จากนั้นจึงยิ้มแย้มให้ชายขี้โกง กล่าวว่า “พี่ฟาง ท่านพูดอะไรออกมา เป็เ้านายข้าที่ชนะไม่ใช่ข้าชนะเสียหน่อย ตอนนี้ตัวข้าจะไปมีเงินมาคืนท่านที่ไหนกัน ถ้าอย่างไรท่านให้ข้าเล่นอีกสักตาสิ ข้าชนะแล้วจะคืนให้ท่าน”
ชายขี้โกงถลึงตาใส่จินว่านหลี่ กล่าวด้วยความโมโห “หึ มีความสามารถโกงได้ แต่ไม่มีปัญญาหามาคืน ฝากไว้ก่อนเถอะพวกเ้าสองคน”
เมื่อเขาพูดจบก็เดินไปจากโต๊ะพนัน มุ่งหน้าไปยังห้องที่เถ้าแก่เ้าของโรงพนันพักอยู่
เยว่เฟิงเกอยัดเงินทั้งหมดเข้าไปในอกเสื้อ รออีกฝ่ายกลับมา
คนอื่นๆ ที่อยู่ในโต๊ะต่างก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กัน
“ข้าว่าเป็ท่านฟางนั่นแหละที่โกง ไม่เช่นนั้นปกติจะชนะทุกตาได้อย่างไร ตอนนี้พอต้องแพ้ติดๆ กันสามตา คงจะเสียหน้าไม่น้อยถึงได้เริ่มกัดคนอื่น”
“ข้าเองก็คิดว่าเป็ท่านฟางที่โกง ไม่เช่นนั้นเหตุใดเมื่อครู่เขาถึงได้บอกว่าลูกเต๋าพวกนี้เป็หลักฐานเล่า? เ้าดูสิ พอเขาเห็นว่าจินว่านหลี่กลับมา ก็เปลี่ยนเื่พูดทันที เขากำลังกลบเกลื่อนอยู่ชัดๆ ”
“ชู่ ทุกคนเงียบเสียงเถอะ ท่านฟางพาเถ้าแก่มาแล้ว”
ยามนี้ชายที่ถูกเรียกว่าท่านฟางพาเถ้าแก่เ้าของโรงพนันเดินมา
เยว่เฟิงเกอเห็นว่าเื้ัท่านฟางมีชายรูปร่างผอมสูงคนหนึ่งติดตามมาด้วย ทว่า ใบหน้าของชายคนนั้นแอบซ่อนอยู่ในเงามืด จึงเห็นไม่ชัดว่ามีหน้าตาเป็อย่างไร
นางเห็นเพียงว่าท่าทางการเดินของเขาดูองอาจ ทั้งยังแผ่กลิ่นอายน่าหวาดหวั่นออกมาอีกด้วย เยว่เฟิงเกอรู้ ชายคนนี้มีวรยุทธ์สูงส่ง เป็คนที่ไม่ควรไปมีเื่ด้วย
เมื่อเห็นว่าท่านฟางพาชายน่ากลัวคนนั้นมา มือของเยว่เฟิงเกอก็ััไปที่มีดสั้นข้างเอวเบาๆ