เมืองจูเซียน
ศิษย์ลัทธิมารสำนักเซียนโรมรันพันตูกันอย่างดุเดือดในสวนบ้านตระกูลเนี่ย
คมดาบประกายกระบี่แปลบปลาบสะท้อนทั่วทิศ
รังสีกระบี่พุ่งออกมั่วซั่วทั้งแนวตั้งแนวนอน อานุภาพกระบี่โถมท่วมฟ้า
ตัวตึกตระกูลเนี่ยถล่มเหลือแต่ซากจากการต่อสู้
บรรดาผู้ฝึกตนที่แอบดูอยู่ไกลๆ
ได้แต่กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“ประมุขหวังช่างน่าทึ่งจริงๆ
เข้าสู่สำนักเซียนไม่ทันไรก็เลื่องลือฟูเฟื่อง
แม้แต่ศิษย์ดวงธาตุทองคำของสำนักเซียนยังสั่งได้ตามใจ! ร้ายกาจ ร้ายกาจ!”
“ใช่แล้ว
ข้าล่ะอิจฉาประมุขหวังจริงๆ สามารถก้าวข้ามความน่าอับอายของพวกเาาวเมืองจูเซียน
เข้าร่วมประชันกับยอดฝีมือดวงธาตุทองคำ!”
“ใช่
นั่นเหมือนจะเป็จางเสินซวี! ไหนมันบอกว่าจางเสินซวีเป็เื่โกหก? แล้วมันจะมีพลังชั้นดวงธาตุทองคำได้ยังไง?”
ในที่สุดก็มีคนจดจำจางเสินซวีได้แจ่มชัด
จึงเริ่มตั้งคำถามต่อหวังเค่อขึ้นมา
ทว่า “ผู้ช่วย”
ของหวังเค่อในฝูงชนคือคลื่นใต้น้ำที่คอยติดตามหวังเค่อมานานปี
คลายปมปัญหาเล็กน้อยแค่นี้ ยากเย็นตรงไหน?
“ผิดแล้ว
นั่นเป็จางเสินซวีตัวจริง
เนี่ยเทียนป้ามันไปหาพวกต้มตุ๋นมาหลอกลวงพวกเราเมื่อครั้งก่อน
ดังนั้นย่อมต้องปลอมแปลงโฉมเหมือนตัวจริงอยู่แล้ว! เนี่ยเทียนป้า ไอ้จอมลวงโลก
ถึงกับไปหาคนหน้าตาเหมือนกันมาั้แ่แรก? หาที่ตาย!”
“เนี่ยเทียนป้าถึงกับจงใจปลอมแปลงคนของพรรคอีกาทองคำ
หานักต้มตุ๋นที่หน้าตาเหมือนกันมาด้วย สมควรตายนัก!”
………
………
……
……
…
…
หลังรับฟัง “บท” ของผู้ช่วยหวังเค่อ
ความคิดอ่านของบรรดาผู้นำตระกูลในเมืองจูเซียนก็ถูกเบี่ยงเบนไป
“เสินซวีผู้นี้ดูละม้ายคล้ายตัวปลอมที่เนี่ยเทียนป้าจัดแจงมา
แต่หากเ้าสังเกตดูดีๆ จะเห็นข้อแตกต่าง!”
“ใช่ๆ ดูแนวกรามของมันสิ!”
“ตาก็โตกว่าด้วย!”
………
………
……
……
…
…
ครานี้ “ผู้ช่วย”
ของหวังเค่อไม่ต้องแนะแนวทางแล้ว
ทุกผู้คนพลันมองเห็นข้อแตกต่างขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ
เช่นนี้
ข้อกังขาต่อหวังเค่อล้วนเป็อันคลี่คลาย
เหลือเพียงเนี่ยเทียนป้าไอ้จอมหลอกลวงอยู่ท่ามกลางสายตาดูแคลนของทุกผู้คน
ณ ใจกลางการต่อสู้ เนี่ยเทียนป้า
หวังเค่อ องค์หญิงโยวเยว่ และจูเยี่ยนยืนประจันหน้ากัน
หวังเค่อควบคุมกระบี่บินที่กำลังงัดง้างกับกระบี่บินของเนี่ยเทียนป้าอย่างหืดขึ้นคอ
มีเนี่ยเทียนป้าคนเดียวที่ทราบว่าจางเสินซวีไม่ได้มาช่วยหวังเค่อ
แต่มาฆ่าหวังเค่อต่างหาก! ส่วนพวกมารนั่นก็มาหาเื่หวังเค่อเหมือนกัน
ตามหลักเหตุผล หวังเค่อสมควรตายหองไปนานแล้ว ทำไม ทำไมกลายเป็แบบนี้ไปได้?
“เลิกสู้กันได้แล้ว!
คนที่พวกเ้าอยากฆ่าอยู่นี่ อยู่ตรงนี้! อย่าปล่อยให้ตาอยู่ชุบมือเปิบสิ!”
เนี่ยเทียนป้าสะกดอาการาเ็แหกปากะโขึ้นฟ้า
ทว่า
ธรรมะอธรรมเดิมทีไม่เ้าตายก็เป็ข้าสิ้น วันนี้ยิ่งสุมไฟไปกองใหญ่
ไหนเลยจะหันกลับมาจับมือสงบศึกอย่างที่เนี่ยเทียนป้าหวังไว้? ล้อกันเล่นหรือเปล่า
เนี่ยเทียนป้าเ้าเป็ตัวอะไร? พวกเราไม่รู้จักเ้า!
เนี่ยเทียนป้าคำรามต่อ
ทว่ากลับไม่มีผลอันใด สีหน้าของมันกลายเป็มืดทะมื่น
กระบี่บินยันกันอย่างสูสี
กระบี่ของมันกำลังจะหัก ยิ่งมายิ่งคืบใกล้มันเข้าไปทุกที
ตนเองก็ไม่มีความกล้าะเิกระบี่บินทิ้ง ทันทีที่มันถอนกระบี่ออก
ย่อมถูกกระบี่ของหวังเค่อผ่าตัวขาดสะพายแล่ง!
“หวังเค่อ เอาอย่างงี้ดีกว่า
เลิกสู้กันก่อนดีมั้ย? พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนดีกว่านะ?”
เนี่ยเทียนป้ามองหวังเค่อด้วยแววตาคาดหวัง
หวังเค่อครุ่นคิดชั่วครู่
ขณะกำลังจะตอบตกลง ทว่าจูเยี่ยนทางด้านข้างไม่ยอมรับ
“ไม่ได้
เ้าคือเนี่ยเทียนป้าสินะ? เ้ารั้งมันไว้ ข้าจะฆ่ามันเอง!”
จู่เยี่ยนะโใส่เนี่ยเทียนป้า
“เ้า?” เนี่ยเทียนป้ามองจูเยี่ยนอย่างแปลกใจ
“ข้าอยู่ที่นี่
เ้าอย่าฝันเลย!” องค์หญิงโยวเยว่ยืนบังหวังเค่อไว้
หวังเค่อกลับแค่นเสียงเย็น “จูเยี่ยน
เ้าคันอีกแล้วรึไง?”
“เ้ายังไม่รู้จักเป็หรือตายสินะ?”
จูเยี่ยนกระชับแส้เดินเข้ามา
“องค์หญิงโยวเยว่ ท่านถอยไป
ไม่ต้องห่วง จูเยี่ยนผู้นี้ยังมีพลังฝีมือในชั้นปุถุชน
ยังไม่บรรลุเซียนเทียนด้วยซ้ำ! มันทำอะไรข้าไม่ได้หรอก
ทลายปราณคุ้มกายของข้ายังไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องสนใจมัน!” หวังเค่ออธิบาย
“อ้าว?” องค์หญิงโยวเยว่คาดไม่ถึง
สีหน้าจูเยี่ยนแดงก่ำทันใด
ครั้งก่อนตอนอยู่ในวัง มีเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยคุมเชิงอยู่ด้านข้าง ดังนั้นมันไม่กล้าใช้พลังออกไป
เราราชันบรรลุถึงขั้นเซียนเทียนสูงสุดเชียวนะ กำจัดพวกเ้ามิใช่ง่ายดายดุจหยอกเล่น? เ้าคิดว่าข้าเป็ไก่อ่อนจริงๆ
น่ะหรือ?
“หวังเค่อ
เ้าคิดว่าครั้งที่แล้วข้าสู้เ้าไม่ได้จริงๆ เรอะ?” จูเยี่ยนชี้แส้ไปทางหวังเค่อพลางกล่าวเย้ยหยัน
ตอนนี้เอง
หวังเค่อใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้บังคับกระบี่บินคว้าจับออก เพียงหมุนควงฝ่ามือ
แส้ยาวในมือจูเยี่ยนก็ตกไปอยู่ในมือของหวังเค่อแล้ว
“เอ๋?” จูเยี่ยนจ้องมองมือเปล่าไร้แส้ของตนด้วยความตะลึง
ข้าแค่เผลอไปแป๊บเดียว
แส้ไปไหนเสียแล้ว?
“ดูๆ ฝีมือระดับนี้
ยังคิดจะมาทำร้ายข้า? คนประเภทนี้เป็พวกฝันกลางวัน!
องค์หญิง ท่านวางใจเถอะ เอาละ พลังของท่านถูกผนึกไว้
ท่านไปนั่งรออย่างสบายใจตรงมุมโน้นเถอะ
เดี๋ยวจะถูกลูกหลงของข้ากับเนี่ยเทียนป้าเอาได้!” หวังเค่อปลอบ
“อือ! ข้าใแทบแย่
คิดว่าจูเยี่ยนนี่จะพอมีฝีมืออยู่บ้าง ที่แท้ก็แค่ทำท่าทางข่มขู่ไปงั้นเอง!”
องค์หญิงโยวเยว่ปรายตามองจูเยี่ยน ก่อนจะเดินไปหลบมุมที่ปลอดภัย
จูเยี่ยน “...!”
“จูเยี่ยน ไอ้ไร้น้ำยา
ยังมายืนอยู่ทำบ้าอะไร! เสียเวลาข้าจริงๆ!” เนี่ยเทียนป้าปรายตามองเหยียดหยาม
“หวังเค่อ
เมื่อครู่ข้าเสนอไปแล้ว พวกเราเลิกสู้กันเถอะ!”
เนี่ยเทียนป้าส่งสายตาหาหวังเค่ออีกครา
หวังเค่อยังไม่ทันตอบคำ
จูเยี่ยนก็สอดปากขึ้นมา
“ไม่ต้องไปเจรจากับมัน
เนี่ยเทียนป้า เมื่อครู่ข้าแค่เผลอเรอไปหน่อยเท่านั้น ข้าไม่ได้จับแส้ไว้ให้ดีๆ
มันถึงแย่งไปได้ง่ายๆ ข้าคิดจะฆ่ามันง่ายเหมือนปอกกล้วย!” จูเยี่ยนเอ่ย
เนี่ยเทียนป้าที่อยู่ไม่ห่างเท่าไรตะลึงงัน
พร้อมหันมามองจูเยี่ยนอย่างเหลือเชื่อ
“จูเยี่ยน เ้าไสหัวไปทางอื่นไป!
หรือคิดว่าข้าไม่กล้าโบยเ้า?” หวังเค่อตวาดเสียงเย็น
เพี๊ยะ!
แส้บนฝ่ามือสะบัดฟาดบนร่างจูเยี่ยน
ข้าถูกโบยแล้ว?
จูเยี่ยนรู้สึกได้ถึงสายตาหยามหยันจากทุกผู้คน
ช่างอัปยศอดสูสุดแสน
“อ๊ากกกกกกกกกกกก!”
พร้อมกับเสียงคำรามลั่น
ไอพลังกลุ่มใหญ่ทะลักออกมาจากร่างจูเยี่ยน อิฐหินดินทรายโดยรอบสั่นสะท้าน
ไอมารปกคลุมทั่วร่างมาร
“ปราณทรงพลังนัก? หรือว่ามันจะพูดจริง?” เนี่ยเทียนป้าที่ไม่ห่างออกไปเท่าใดเริ่มหวั่นไหว
“ไอมาร? จูเยี่ยน เ้าไม่้าต้าชิงแล้ว? เ้าเข้าร่วมลัทธิมารแล้ว?”
หวังเค่อจ้องมองด้วยความตะลึง
“มาร? เฮอะ
ก็แค่วันนี้เท่านั้น หลังจากวันนี้ จะมีใครรู้ได้อีก? หวังเค่อ
เ้ารังแกคนเกินไปแล้ว! วันนี้แหละวันตายของเ้า!”
จูเยี่ยนะโอย่างบ้าคลั่ง
“หวังเค่อ ระวัง!”
องค์หญิงโยวเยว่อุทาน
เนื่องเพราะจูเยี่ยนปลดปล่อยไอมารท่วมฟ้า
ท่ามกลางความบ้าคลั่ง กำปั้นที่อัดแน่นด้วยไอมารสุดคณานับของมันพุ่งเข้าใส่ท้องน้อยของหวังเค่อสุดแรงเกิด
พลังอันรุนแรงของกำปั้นนี้
แม้แต่องค์หญิงโยวเยว่ยังต้องตื่นตระหนก
เนี่ยเทียนป้าที่ห่างออกไปไม่ไกลเองก็ก็เนื้อเต้นขึ้นมา
หวังเค่อยังไม่ทันมีเวลาได้ขยับ กำปั้นก็เข้าถึงตัวแล้ว
ตูมมมมม!
เสียงหนักทึบประดุจดั่งวัตถุร่วงหล่นจากตึกสิบชั้น
เนี่ยเทียนป้าที่เฝ้ามองกรีดร้องออกมาด้วยยินดี ยอดเยี่ยม หมัดรุนแรงปานนั้น
ไม่ต้องพูดถึงหวังเค่อ แม้แต่ข้ายังรับไว้ไม่ไหว หวังเค่อใช่ตายโหงแล้วหรือไม่?
จูเยี่ยนเองก็เฝ้ารอวันชกสังหารหวังเค่อด้วยกำปั้นเดียวมานาน
ความอับอายอดสูทั้งหมดของมันในที่สุดก็ถูกชำระล้างแล้ว?
แต่ แต่…!
หวังเค่อกลับไม่ขยับ? ไม่ถอยไปแม้แต่คืบเดียว?
นี่เป็ไปไม่ได้? หวังเค่อมิใช่อยู่ชั้นเซียนเทียนหรอกหรือ?
จูเยี่ยนเงยหน้าขึ้นมองหวังเค่อ
หวังเค่อกำลังมองมาที่มันเช่นกัน เ้าทำอะไร จั๊กจี๋ข้าเล่นเรอะ?
หวังเค่อฝึกปรือเคล็ดวิชามหาสุริยันมิดับสูญ
สัจปราณขุ่นของมันมีฤทธิ์กลืนกินพลังภายนอกทั้งมวล
กำปั้นทรงพลังของจูเยี่ยนถูกสัจปราณขุ่นดูดกลืนจนหมดสิ้น
ส่วนพลังปราณของหวังเค่อก็แข็งแกร่งขึ้นอีกเล็กน้อย ทั้งยังไม่เจ็บเลยสักนิด!
ไม่เจ็บแม้แต่น้อย!
ไม่ว่าจูเยี่ยนจะแข็งแกร่งปานไหน
ไหนเลยจะแข็งแกร่งไปกว่ามู่หรงลวี่กวง? ตอนที่มู่หรงลวี่กวงชกใส่หวังเค่อก็ไม่เจ็บ เช่นนั้น
กำปั้นของจูเยี่ยนจะทำร้ายหวังเค่อได้ยังไง?
จูเยี่ยนแข็งค้าง
เนี่ยเทียนป้าและองค์หญิงโยวเยว่ทางด้านข้างเองก็ตาโต
“จูเยี่ยนทำอะไร? หวังเค่อ เ้ารู้หรือไม่?” องค์หญิงโยวเยว่ถามด้วยความพิศวง
สีหน้าเนี่ยเทียนป้ากลายเป็อัปลักษณ์
“จูเยี่ยน? ไอ้สวะเอ๊ย
แค่ปราณคุ้มกายของมันก็ไม่มีปัญญาทลายด้วยซ้ำ ข้ารู้ว่ามันมีพลังแค่เซียนเทียน
มันยืนทื่อให้ตีขนาดนี้ เ้ายังไม่มีปัญญาตีเข้า? ขยับยังไม่ขยับสักนิ้ว?
เ้าโกหกข้า?”
จูเยี่ยน “...!”
หวังเค่อไม่ะเืแม้แต่น้อย? ข้าคือเซียนเทียนสูงสุดนะ
หมัดเมื่อครู่ข้าทุ่มสุดพลังด้วย เพราะอะไรกัน?
“หลอนไปแล้ว
ทั้งหมดล้วนเป็ภาพหลอน มา ข้าไม่เชื่อหรอก ข้าไม่เชื่อ!
เอากำปั้นมารทมิฬของข้าไปกิน!”
ตูม!
นี่เรียกว่าเสียงฟ้าลั่นดันไม่มีฝน
สภาวะหนักหน่วงน่าเกรงขาม เสียงคำรามลั่นสนั่นหู แต่หวังเค่อยังคงไม่ะเืสักนิด?
“เ้ามาเล่นปาหี่อะไร?
เอาจริงเอาจังหน่อยซี่” องค์หญิงโยวเยว่แย้มยิ้มโล่งใจ
ปาหี่น้องสาวเ้าสิ!
ใครมีเวลามาเล่นตลกกับเ้ากัน?
ข้าไม่เอาจริง? ตระกูลเ้าทั้งตระกูลสิไม่เอาจริง!
จูเยี่ยนสีหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์
“ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ!”
จูเยี่ยนรู้สึกอับอายเหลือจะกล่าว
ตูม ตูม ตูมมมมมมมมมมมมมม!
“เลิกต่อยได้แล้ว พอแล้ว!”
หวังเค่อพลันเอ่ยห้ามเสียงร้อนรน
“หือ? ได้ผลแล้ว?
หวังเค่อทนไม่ไหวแล้วสินะ? จูเยี่ยน สู้ๆ เร็ว
สู้ต่อ ถึงพลังฝีมือเ้าต่ำต้อย แต่กำปั้นน้อยรวมกันย่อมใหญ่ขึ้น ในที่สุด
หวังเค่อก็ต้านไม่ไหวแล้ว!” เนี่ยเทียนป้าสองตาสาดประกายวาววับ
ตูม ตูม ตูม!
ข้ายังต้องให้เ้าบอกหรือ? จูเยี่ยนระดมสรรพกำลังั้แ่ครั้งดูดนมมารดาออกมากระหน่ำกำปั้นทั่วร่างหวังเค่อ
ั้แ่หัวจรดเท้า ทั้งซ้ายขวาหน้าหลัง ด้วยระดับความเร็วถึงขีดสุด
รวดเร็วจนหวังเต่อยังมองตามไม่ทัน อย่างไรเสีย
หวังเค่อก็ยังคงประมือกับเนี่ยเทียนป้าอยู่ ไหนเลยจะรับมือการรบกวนจากจูเยี่ยนได้?
ทางหนึ่งได้แค่พยายามห้ามไม่ให้มันต่อยตีตนเองอย่างหวาดวิตก
ทางหนึ่งทนรับกำปั้นที่กระหน่ำดั่งสายฟ้าประกายแสงของจูเยี่ยน
จากที่ตาเห็น
จูเยี่ยนรีดเค้นพลังปฐมของตนออกมาจนสุดล้า ทุ่มใส่ลงบนร่างของหวังเค่อ
สีหน้าหวังเค่อในที่สุดก็ปรากฏแววหวาดตระหนกออกมา
“หวังเค่อ อย่าขู่ข้านะ
เ้าเป็อะไร? เจ็บตรงไหน?” องค์หญิงโยวเยว่ยืนขึ้นด้วยความแตกตื่น
“ไม่ใช่แค่เจ็บ
แต่มันต้องตายด้วย! ตาย !” จูเยี่ยนะโ
ส่งกำปั้นที่รวบรวมขุมกำลังทุกหยาดหยดบนร่างของมันออกไป
ตูมมมมมมมมมมมมมม!
เสียงทึบดังขึ้นจากร่างของหวังเค่อ
จากนั้น กลุ่มพลังปราณขุมหนึ่งผุดออกมาจากร่าง ปัดเป่าฝุ่นคลีคละคลุ้งออกไป
“หวังเค่อ เ้าทะลวงด่านแล้ว?”
องค์หญิงโยวเยว่ตะลึงงันกับที่
นี่มันอะไร? เมื่อกี้หวังเค่อมิใช่ท่าทางหวาดหวั่นยิ่งหรอกหรือ?
แล้วไหงกลายเป็ทะลวงด่านไปได้? ที่แท้จูเยี่ยนถ่ายทอดพลังฝีมือให้มัน?
จูเยี่ยนทิ้งร่างลงกับพื้น
มือกุมศิลาิญญาหอบหายใจฟืดฟาดฟื้นฟูพลังที่สูญเสียไปพลางเบิ่งตากว้าง
มองดูหวังเค่อที่ทะลวงด่านอย่างเหนือความคาดหมาย นี่มันเื่บัดซบอะไรกัน?
“จูเยี่ยน? เ้าไม่ได้จะฆ่ามัน แต่กลับช่วยมันงั้นหรือ?” เนี่ยเทียนป้าอุทาน
“เปล่า ข้าเปล่า!”
จูเยี่ยนตวาดสวนตาแดงก่ำ
พลังฝีมือที่เพิ่มขึ้นของหวังเค่อ
แน่นอนย่อมไปเพิ่มพลังของกระบี่บินด้วย
ตูมมมมมมมมมมมมมม!
พร้อมเสียงดังลั่น
กระบี่บินพุ่งเข้าใส่เนี่ยเทียนป้าอีกครั้ง ขณะเดียวกันพลังกระบี่ของหวังเค่อเองก็ยกระดับขึ้น
กระบี่บินของเนี่ยเทียนป้าพลันบังเกิดรอยแตกร้าวลามเลีย คล้ายสามารถแตกหักลงได้ทุกเมื่อ
แรงกระแทกของกระบี่บินส่งผลกระทบต่อเนี่ยเทียนป้า
พริบตานั้นอาการาเ็ของมันยิ่งทรุดหนักลง!
“อั่ก! ยังจะกล้าบอกว่าไม่ได้ช่วยมันอีก?”
เนี่ยเทียนป้ากระอักเื ตาจ้องจูเยี่ยนด้วยอาฆาต
“ข้าไม่ได้ช่วยมัน!
ถ้าไม่เชื่อก็ถามมันดูสิ!!” จูเยี่ยนะโลั่นด้วยความเศร้าโศก
พลังปราณทะลักเข้าสู่ร่าง
สัจปราณขุ่นเพิ่มพูน ส่งให้หวังเค่อทะลวงสู่ขั้นสามของระดับเซียนเทียน!
แต่หวังเค่อไม่ยินดีแม้แต่น้อย
เนื่องเพราะตอนนี้สัจปราณขุ่นของมันกลายเป็สีดำทองแล้ว ดำทอง!
หวังเค่อยามนี้ััออกถึงความเดือดคลั่งของสัจปราณขุ่นอย่างชัดเจน
ตนคล้ายสามารถลุกไหม้ได้ทุกเมื่อ
หรือนี่จะเป็ขั้นแรกของเพลิงผลาญกายาฌาปนกิจตนเองของมัน?
“จูเยี่ยน ไอ้ตัวบัดซบ
ใครใช้ให้เ้ามาช่วยข้าทะลวงด่าน?” หวังเค่อตวาดด่าทอ
จูเยี่ยน “...!”
นี่ มั่วแล้วล่ะมั้ง? ที่สำคัญ ข้าไปช่วยเ้าทะลวงด่านตอนไหน!
ทำไมกลายเป็แบบนี้ไปได้?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้