เซวียนหยวนเช่อยื่นนิ้วมือเรียวยาวงดงามนั้นทาบลงบานประตูอย่างจนใจ ขอเพียงเขาออกแรงสักหน่อยก็สามารถผลักประตูบานนั้นเข้าไปได้ แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น
เขาเพียงแต่ อยากอยู่ใกล้นางอีกนิด เข้าใกล้นางอีกนิด...
หลังจากเงียบงันอย่างยาวนาน เสียงฝีเท้าค่อยๆ ดังห่างออกไปจากประตู หัวใจของเฟิ่งเฉี่ยนค่อยๆ ดำดิ่งลงด้วยความเ็ป จิตใจของนางไม่สับสนว้าวุ่นหรือ? ในเมื่อนางปรารถนาให้เขามา และไม่ปรารถนาให้เขามาด้วย...
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าด้านนอกประตูหยุดลง เสียงทุ้มต่ำของเซวียนหยวนเช่อดังผ่านประตูเข้ามา “กำไลหยกขาวหงส์ฟ้าจำเป็ต้องใช้เืหยดหนึ่งจึงจะสามารถเปิดช่องว่างที่กลวงนั้นได้ กลิ่นอายเทพของจิติญญาเทพนั้นมากมายจนไม่อาจประเมินได้ ตอนนี้เ้ายังมีพลังไม่มากนัก จดจำไว้อย่าเพิ่งเข้าไป!”
เฟิ่งเฉี่ยนไม่ได้ตอบเขา ในใจกลับอุ่นซ่าน รับน้ำใจจากเขาเงียบๆ
กระทั่งเสียงฝีเท้าไกลออกไปจากประตูนางจึงค่อยแง้มประตูออกให้เห็นเป็ช่อง มองเงาร่างสูงใหญ่ด้านหลังของเขาเดินห่างออกไป นางค่อยๆ พรูลมหายใจโล่งอกด้วยจิตใจอันว้าวุ่น
ชิงเหอกูกูเห็นนางใจลอยจึงก้าวเข้ามาเกลี้ยกล่อม “เหนียงเหนียง มองออกว่าฝ่าาทรงใส่ใจท่านมาก เหตุใดท่านไม่ทำตามเสียงของหัวใจตนเอง ยอมรับฝ่าาเข้ามาในหัวใจเล่าเพคะ?”
เฟิ่งเฉี่ยนหัวเราะเสียงขื่น “หากเขาเป็เพียงเขา ไม่ใช่ฮ่องเต้ของแผ่นดิน ข้ามีหรือที่จะไม่อยากรักเขาอย่างกล้าหาญ? แต่ข้ากับเขาอย่างไรก็ไม่ใช่คนบนเส้นทางเดียวกัน...”
พูดแล้วนางก็หมุนตัวเข้าไปในห้องบรรทมด้วยท่าทางเศร้าสลด
ชิงเหอกูกูส่ายหน้าเบาๆ นางไม่เข้าใจจริงๆ ฮองเฮากำลังกังวลเื่อันใด? หลายปีมานี้ฮองเฮาปรารถนาที่จะได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้มิใช่หรือ? ตอนนี้ฮ่องเต้กลับใจแล้ว เหตุใดฮองเฮาคอยแต่จะหลบลี้หนีหน้า?
นางมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่า ฮองเฮาเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปราวกับเป็อีกคนหนึ่ง
แต่นางชอบฮองเฮาในตอนนี้มากกว่า เพราะฮองเฮาในตอนนี้มีความมั่นใจกว่าเดิม และมีคุณธรรมจริยธรรมยิ่งกว่าเดิม!
ได้รับคำชี้แนะจากเซวียนหยวนเช่อ เฟิ่งเฉี่ยนนำเืของตัวเองหยดหนึ่งหยดลงบนกำไลหยกขาวหงส์ฟ้า
กลิ่นอายเทพบนตัวกำไลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพิ่มขึ้นจนส่องสว่างเป็สีขาวไปทั้งห้อง จิตใจของเฟิ่งเฉี่ยนถูกพาเข้าไปในพื้นที่เสมือนจริงของกำไลทันที!
พื้นที่เสมือนจริงนี้กว้างใหญ่มาก ไม่มีอะไรทั้งสิ้น มีเพียงกลิ่นอายเทพมหาศาลที่รายล้อมรอบกายนาง กลิ่นอายเทพเหล่านี้พยายามแย่งชิงกันเข้ามาในร่างกายของนาง แค่คิดก็รู้ว่า ทันทีที่นางเริ่มฝึกยุทธ์ วรยุทธ์ของนางจะพัฒนาก้าวะโประหนึ่งหนึ่งวันหนึ่งพันลี้ก็ว่าได้!
มองออกไปไกลๆ สุดอีกด้านหนึ่งของพื้นที่เสมือนจริง ราวกับมีูเาลูกหนึ่งอยู่รางๆ รูปร่างของเหมือนัตัวหนึ่งที่กำลังฟุบหลับอยู่ที่นั่น ช่างมีอำนาจและทรงพลัง!
“หรือนี่ก็คือ จิติญญาเทพ?”
เฟิ่งเฉี่ยนถอนใจเบาๆ นาทีนี้เท่ากับว่านางมีูเาล้ำค่าเป็จิติญญาเทพดวงหนึ่ง สมบัติที่ประมาณค่ามิได้ แต่นางไม่รู้ว่าจะใช้มันอย่างไร
นางบังเกิดความรู้สึกอยากฝึกยุทธ์ขึ้นมา ขอเพียงนางฝึกวรยุทธ์ นางจึงจะสามารถใช้จิติญญาเทพนี้ได้ และนำมันมาใช้ประโยชน์ได้อย่างที่้า
ขณะเดียวกันนางก็คิดถึงประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของพื้นที่เสมือนจริงนี้ หากนางทำอาหารที่นี่ก็จะไม่ดึงดูดพวกสัตว์ป่ามากระมัง?
ดีเหลือเกิน! เมื่อเป็เช่นนี้ ย่อมแก้ปัญหาความยุ่งยากของนางได้อย่างไร้ร่องรอย!
ขณะที่เฟิ่งเฉี่ยนกำลังพุ่งสมาธิอยู่กับการศึกษาพื้นที่เสมือนจริง เซวียนหยวนเช่อได้กลับมาถึงห้องทรงพระอักษร เขานั่งอยู่ที่นั่นทว่าจิตใจกลับล่องลอยออกไปไกล ลั่วหยิ่งเห็นแล้วอดพูดขึ้นอย่างใส่ใจไม่ได้ว่า “ทูลฝ่าา เหนียงเหนียงไม่ยอมพบหน้าพระองค์ สาเหตุมากกว่าครึ่งเป็เพราะนางยังไม่รู้ความจริงเื่แต่งตั้งพระชายา นางเข้าใจพระองค์ผิด ขอเพียงพระองค์บอกกับเหนียงเหนียงว่าที่พระองค์ต้องแต่งตั้งพระชายา ที่จริงแล้วเพราะ...”
ไม่รอให้เขาพูดจบ เซวียนหยวนเช่อตัดบท “ฮองเฮาเป็คนฉลาดเฉลียว นางไม่มีทางคิดไม่ถึงเื่นี้ ที่เจิ้นกังวลก็คือต่อให้นางรู้ความจริงแล้ว นางก็ยังคงไม่ยอมพบเจิ้น...”
เพราะเหตุใดพ่ะย่ะค่ะ?” ลั่วหยิ่งไม่เข้าใจ
เซวียนหยวนเช่อถอนใจเบาๆ ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเอง
ลั่วหยิ่งมองอยู่ครู่หนึ่ง “แต่ฝ่าาไม่ต้องวิตกมากเกินไปหรอกพ่ะย่ะค่ะ! จากตัวอย่างของบิดามารดากระหม่อม การมีปากเสียงกันระหว่างสามีและภรรยาเป็เื่ปกติ ไม่ได้แปลกอันใด! มิใช่มีคำกล่าวประโยคหนึ่งหรือพ่ะย่ะค่ะ? ทะเลาะกันที่หัวเตียงคืนดีกันที่ปลายเตียง!”
เซวียนหยวนเช่อถามอย่างไม่ตั้งใจ “หลังจากบิดามารดาของเ้าทะเลาะกัน มักจะคลี่คลายปัญหาอย่างไร?”
“ง่ายมากพ่ะย่ะค่ะ มีสามข้อ!” ลั่วหยิ่งชูนิ้วมือขึ้นมาสามนิ้วแล้วพูดอย่างเป็การเป็งาน “ข้อแรก ง่ายดายที่สุดและรุนแรงที่สุด ทำโทษให้คุกเข่าบนลูกคิด...”
เหลือบไปเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของฮ่องเต้แล้วเขารีบเปลี่ยนคำพูดทันที “แค่ก แน่นอนว่าข้อนี้ไม่เหมาะสมกับพระองค์!”
เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดอีก “ยังมีข้อที่สอง ซื้อๆๆ...”
“ข้อนี้ใช้ได้ผลมากกับมารดาของกระหม่อม ขอเพียงเป็เวลาที่นางมีโทสะ บิดาของกระหม่อมก็จะซื้อของดีให้นางใช้ให้นางสวม นางก็จะไม่โมโหทันที” ลั่วหยิ่งทำเสียงเล็กเสียงน้อย
เซวียนหยวนเช่อเลิกคิ้ว ราวกับกำลังใคร่ครวญ
ลั่วหยิ่งสังเกตสีหน้าท่าทางแล้วพูดอีก “หากข้อนี้แล้วยังไม่ได้ผล นั่นก็เหลือข้อที่สามแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เซวียนหยวนเช่อเลิกคิ้วอีกครั้ง
ลั่วหยิ่งเลิกคิ้วสูง “ข้อที่สามนั้นเป็ท่าไม้ตายพ่ะย่ะค่ะ! ไม่ว่าจะเป็สตรีที่เอาใจยากเพียงใด รับรองว่าเอาอยู่พ่ะย่ะค่ะ!”
“พูดมาฟังดู!” เซวียนหยวนเช่อรู้สึกสนใจ
ลั่วหยิ่งพลันรู้สึกกระอักกระอ่วนใจขึ้นมาเสียเฉยๆ “แค่กๆ...เื่นี้เป็เื่ที่กระหม่อมได้ยินบิดาเล่าให้ฟังยามที่เขาเมาสุราพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ทรงทราบดีคนเราเมื่อสุราเข้าปากแล้ว พูดอะไรก็ไม่อยู่กับร่องกับรอย...แต่กระหม่อมคิดว่า คำพูดไม่อยู่กับร่องกับรอยทว่ากลับดูมีเหตุผลพ่ะย่ะค่ะ...”
ราวกับเซวียนหยวนเช่อกำลังจะสิ้นความอดทนแล้ว เขาตวัดสายตาคมปลาบมาปราดหนึ่ง ลั่วหยิ่งรีบแสดงท่าทีเป็การเป็งาน
“เอาเป็ว่า คำพูดประโยคเดียวพ่ะย่ะค่ะ...” ลั่วหยิ่งพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “กอดนางเอาไว้ แล้วจุมพิตนางแรงๆ พ่ะย่ะค่ะ!”
ดวงตาเ็าของเซวียนหยวนเช่อไหววูบ ใบหน้าคมสันของเขาขึ้นริ้วสีแดงเล็กน้อย แต่ยังคงโยนคำพูดออกมาสองคำ “ป่าเถื่อน!”
ลั่วหยิ่งหางตากระตุก ป่าเถื่อนอันใด ทั้งๆ ที่นี่เป็ท่าไม้ตาย!
ครืนน! ครืนนน!
ทันใดนั้นบังเกิดเสียงฟ้าร้องดังขึ้นเป็พักๆ
ซ่าๆๆๆ ซ่าๆๆๆ!
ที่ตามมาหลังจากเสียงฟ้าร้องแล้วก็คือฝนที่เทลงจากท้องฟ้า
ลมนอกหน้าต่างพัดแรงอย่างบ้าคลั่ง ลั่วหยิ่งรีบก้าวไปปิดหน้าต่าง ปากยังคงบ่นกระปอดกระแปด “น่าแปลก อากาศดีอยู่แท้ๆ ไฉนจึงฝนตกกะทันหัน?”
เซวียนหยวนเช่อตวัดสายตามองไปนอกหน้าต่างแล้วพูดเสียงหนัก “ฤดูกาลเช่นนี้เกิดฟ้าร้องฝนตกหนัก มิใช่ลางที่ดีนัก ปีนี้การเก็บเกี่ยวของชาวบ้านน่าจะลำบากแล้ว...”
ลั่วหยิ่งมองเขาด้วยสายตาเทิดทูนบูชา “ฝ่าาทรงเห็นอกเห็นใจชาวบ้านที่ลำบาก เป็วาสนาของราษฎร แต่ดินฟ้าอากาศนั้นเป็เื่ที่กำหนดไม่ได้ มิใช่เื่ที่คนจะควบคุม ฝ่าาอย่าได้กังวลมากเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”
เขาหยุดครุ่หนึ่งแล้วพูดขึ้นมาราวกับนึกอะไรขึ้นได้เมื่อหัวเราะขึ้นมาเบาๆ “พุดถึงฟ้าร้อง กระหม่อมนึกถึงเื่หนึ่งขึ้นมาได้ น่าสนใจอยู่เหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ...”
เซวียนหยวนเช่อพูดเรียบๆ “พูดมาฟัง”
ลั่วหยิ่งเห็นฝ่าามีสีหน้าสนอกสนใจอย่างหาได้ยาก ดวงตาของเขาเป็ประกายแล้วทำเสียงเล็กเสียงน้อย “ฝ่าา พระองค์ทรงทราบหรือไม่ว่ามารดาของกระหม่อมนั้นเป็คุณหนูของครอบครัวชนชั้นสูงที่มาจากตี้ตู เมื่อครั้งยังสาวถือได้หน้าตางดงาม อีกทั้งเป็สาวงามที่มีชื่อเสียงในตี้ตู นับั้แ่วันที่นางปักปิ่น มีคุณชายจากครอบครัวชนชั้นสูงนับไม่ถ้วนมาทาบทามคู่ครอง ธรณีประตูที่บ้านแทบจะสึกพ่ะย่ะค่ะ แต่มารดาของกระหม่อมไม่ยอมเลือกใครทั้งสิ้น แต่ดันมาเลือกบิดาของกระหม่อมที่มีชาติกำเนิดจากครอบครัวทหารและยังเป็คนหยาบกระด้าง พระองค์ทราบหรือไม่ว่า นี่เป็เพราะอะไร?”
คิ้วคมเลิกขึ้น ดวงตาดำขลับของเซวียนหยวนเช่อเป็ประกายด้วยความสนใจอย่างไร้ขอบเขต
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้