3 เดือนต่อมาิเทียนเยว่ลืมตาขึ้น
เรียกหน้าต่าสถานะออกมาดู
ชื่อ : ิเทียนเยว่
เผ่า : ไร้พันธะ
ระดับ : ฝ่าด่านเคราะห์ ขั้น 9
อายุ : 107/174,560 ปี
ทักษะบ่มเพาะ : เก้านภาสิบสองตะวันจันทรา [ระดับา]
วิชายุทธ : กระบวนหอกพลิกฟ้า
พร์ : นักตัดไม้,มือกระบี่ชั้นสูง,จิตกระบี่า,กายาทองคำพันปี,ิญญาเซียนสถิต,ร้องเพลง
รากิญญา : รากิญญาโลกันตร์,วารีบุษราคัม,วายุทมิฬ,หมื่นปฐี,เทพอัศนี,เสี้ยวรากิญญาหยิน,เสี้ยวรากิญญาหยาง,รากิญญาไร้ลักษณ์,รากิญญาต้นกำเนิด
ของวิเศษ : กระบี่พฤกษา,เบาะเซียนล่องนภา,กำยานสามภพ,ต่างหูปิดฟ้า,รองเท้ายมโลก,กระบี่ผ่าดารา
ความสามารถระบบ : หน้าต่างสถานะ ,อาณาเขตเทพระดับ 1
....
ิเทียนเยว่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหลับตาลงเมื่อสามเดือนก่อนเขายังอยู่ระดับฝ่าด่านเคราะห์ขั้น 6 อยู่เลย ความเร็วขนานี้แม้แต่ถังจื่อที่เคยผ่านมาแล้วยังทำไม่ได้
ปัง! เสียงะเิดังขึ้นร่างของิเทียนเยว่แปลเปลี่ยนไป ทะลวงสู่ระดับมหายานร่างกายพลันเปลี่ยนเป็กายเซียน
หน้าตาดูมีเสน่ห์ขึ้นหลายส่วนดวงชะตาเพิ่มพูน
ิเทียนเยว่กำหมัดหนึ่งครั้ง
แคร๊ก! เพียงแค่กำหมัดในกำมือของิเทียนเยว่รอยแยกมิติเล็กๆพลันปรากฏขึ้น แม้เขาจะไม่รู้ว่าเซียนปฐีแข็งแกร่งเพียงใด...แต่ในปัจจุบันนี้จิตััของเขาครอบคลุมได้ทั่วโลก ไม่รู้สึกถึงตัวตนที่สามารถคุกคามเขาได้เลยแม้แต่คนเดียวนั่นรวมถึงหลินทั่วและถังจื่อด้วย...
"ศิษย์เอ๋ย หากพวกเ้าไม่คุยกันดีๆก็อย่าหาว่าอาจารย์โหดร้ายเลย" ิเทียนเยว่แสดงแววตามุ่งมั่นเป็ครั้งแรกเดินออกจากอาณาเขตเทพพุ่งไปหาถังจื่อทันที
...
ณ พระราชวังโลหิต ถังจื่อที่พำนักอยู่บนบัลลังก์อย่างเช่นปกติเขาพลันลืมตาขึ้นเบิกกว้าง รีบยืนขึ้นแล้วเรียกหอกโลหตคู่ใจออกมาในทันที
เขาััได้ถึงตัวตนที่แข็งแกร่งมากๆกำลังเข้ามาใกล้ กลิ่นอายคุ้นเคยนักแต่เขากลับจำไม่ได้...
เนื่องจากิเทียนเยว่เปลี่ยนเป็เซียนโดยสมบูรณ์ทั้งกายาและิญญาแล้วกลิ่นอายย่อมแตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ปัก ฝ่ามือหนึ่งพลันปรากฏอยู่ที่ไหล่ของถังจื่อ...
ทำเอาเขาใสำแดงพลังวิเศษโจมตีในทันที แต่ภาพต่อมากลับทำให้เขาใยิ่งกว่าเพราะหอกของเขาไม่อาจทิ่มทะลุร่างของอีกฝ่ายได้ เมื่อสังเกตดูดีๆเขาก็พบว่าอีกฝ่ายคือิเทียนเยว่แววตาของเขาจึงเริ่มแสดงความกังวลออกมา...
"หลายปีมานี้เหตุใดจึงผูกความแค้นกับน้องชายเ้าได้เล่า" ิเทียนเยว่กล่าวอย่างสงบพลางใช้นิ้วดันปลายหอกออกไปเบาๆ ด้วยกายาทองคำรวมถึงพลังในร่างของเขาตบะของถังจื่อในตอนนี้ไม่อาจสร้างรอยขีดข่วนได้เลย
ต้องทราบก่อนว่าถังจื่อในตอนนี้มีพลังระดับเดียวกับเซียนปฐีทั้งยังมีสารพัดวิชาเทพติดอยู่กับตัว
แต่จนใจนักรากิญญาานั้นทรงพลังยิ่งทำเอาคุณสมบัติของรากิญญาเทพสองอันของเขาดูเล็กจ้อยไปเลย....
"ข้าไม่มีทางเลือกขอรับ" ถังจื่อดึงหอกกลับมาขมวดคิ้วพลันกล่าวพร้อมถอยหลังไปเล็กน้อย
"...เ้าสำอะไรกับเขากันเหตุใดบ่วงกรรมถึงได้ขาดสะบั้นยับเยิ่นเช่นนี้" ิเทียนเยว่หลับตากล่าวแม้จะรู้สึกได้ว่าิฝานยังมีชีวิตอยู่แต่บ่วงกรรมที่ผู้ไว้กับเขาเบาบางยิ่งไม่ต่างจากไร้ตัวตนเลย...
"ไม่ใช่ข้าขอรับ ท่านอาจจะไมรู้แต่เ้าเด็กนั้นไปทำสัญญากับสิ่งอัปมงคลตนหนึ่งเข้า ทั้งยังเป็ตัวตนระบสูงนัก" ถังจื่อเก็บหอกเข้าไปในแขนเสื้อกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
"...เ้ารู้วิธีจัดการหรือไม่"ิเทียนเยว่เงียบไปสักพักก่อนจะกล่าวขึ้น
"ในชาติก่อนเคยเจอร่างหลักของมันอยู่ครั้งหนึ่งขอรับ แต่ต้องขอกล่าวตามตรงว่าหมดหนทางยิ่ง น้องชายผู้นี้ต่อข้าอยากปลดปล่อยเขาจากความทุกข์ทรมานนี้ก็ทำไม่ได้ขอรับ เขาผสานร่างเข้ากับ จิตะอัปมงคลนั่นแล้ว ตัวไม่มีวันตาย" ถังจื่อส่ายหัวพร้อมกล่าว
"เช่นนั้นเหตุเกิดขึ้นมาจากสิ่งใด เหตุใดเขาถึงได้ตามพัวพันเ้า แล้วเหตุใดเ้าถึงต้องไปทำลายล้างสำนักของน้องๆเ้าด้วย" ิเทียนเยว่ซักถาม
"...สำนักจิตพฤกษาเป็สำนักของอริยะเทพองค์หนึ่งขอรับ หากปล่อยไว้สุดท้ายโลกก็จะถูกแดนเทพกลืนกินสาบสูญไปตลอดกาล" ถังจื่อเงียบไปสักพักแต่สุดท้ายเขาสะบัดมือเบาๆส้รางม่านป้องกันเสียงและยอมกล่าวออกมาแต่โดยดี
"...แน่ใจหรือ" ิเทียนเยว่ได้ฟังก็ครุ่นคิดสักพักก่อนจะกล่าวถามอีกครั้ง
"มั่นใจขอรับข้าเคยฆ่าฟันกับคนผู้นั้นมานับล้านปี ไม่มีทางลืมได้" ถังจื่อผยักหน้าอย่างมั่นใจ
ส่วนิเทียนเยว่เมื่อได้ยินคำว่านับล้านปีก็ใเล็กน้อยแต่ก็เก็บอาการไว้อยู่...
"เห้อ...เช่นนั้นน้องชายเ้าอยู่ไหนเล่าข้าหาเขาไม่เจอเลย" ิเทียนเยว่ถอนหายใจกล่าว
"ข้าผนึกเขาไว้ที่ยมโลกขอรับน่าจะทนได้สักสิบปี" ถังจื่อกล่าวด้วยแววตาท้อใจ
"สังขารมนุษย์สามารถเข้าสู่ยมโลกได้หรือ" ิเทียนเยว่เลิกคิ้วถาม
"สังขารเขากลายเป็สิ่งเลื่อนลอยไปตั่งแต่เขาทำสัญญากับสิ่งนั้นแล้วขอรับ ถึงได้หลุดรอดจากผนึกาได้นับครั้งไม่ถ้วนเช่นนี้" ถังจื่อส่ายหัวตอบอย่างเด็ดขาด
"แล้วไป...หวังว่าเ้าจะไม่พาโลกนี้สู่การล่มสลายเล่า" ิเทียนเยว่กล่าวพร้อมหันหลังเตรียมตัวจากไป
...เมื่อเห็นิเทียนเยว่กำลังจะจากไปถังจื่อก็แสดงอาการอึกอักเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจกล่าวขึ้น
"ท่านอยู่เที่ยวเล่นที่นี่สักพักไม่ดีหรือขอรับ" ถังจื่อกล่าวด้วยรอยยิ้มแห้งๆ ผ่านมานานถึงเพียงนี้เขาไม่อาจลบตัวตนของถังจื่อที่เป็ขอทานคนนั้นได้จริงๆ...
ิเทียนเยว่ได้ยิ้นก็พลันยกยิ้มขึ้นมาเดินเข้าไปเอามือขยี้หัวถัวจื่อพร้อมกล่าวพร้อมหัวเราะ
"เ้าเด็กนี้รู้จักอ้อนด้วยรึ"
ถังจื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแห้งๆ ตอนนี้ทั้งสองมิใช่ ประมุขมารและเทพเซียนแล้วเป็เพียงสองพ่อลูกที่กลับมาพบหน้ากันเท่านั้น..
...
ิเทียนเยว่เดินทอดน่องเล่นอยู่ในอาณาเขตของถังจื่อได้สามวันแล้ว ไปไหนมาไหนล้วนมีแต่คนค้อมคำนับ เป็ความรู้สึกที่ดียิ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหลงระเริงแต่อย่างใด
เมื่อมาถึงระดับมหายานมุมมองของเขาต่อโลกนี้เปลี่ยนไปมากนัก...ทุกสิ่งอย่างดูเล็กจ้อยไปหมด แม้แต่ตัวตนระดับมหายานเหมือนกันเขายังรู้สึกว่าเล็กจ้อยยิ่ง...เขาสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ด้วยนิ้วเดียวเื่นี้ไม่เกินจริงเลย
เอาเขาจริงแล้วที่ิเทียนเยว่รั้งอยู่นอกจากเพราะถังจื่อขอแล้วเป็เพราะเขาอยากได้ประสบการณ์การต่อสู้เสียหน่อย เขาไม่เคยได้สู้จริงเลยเมื่อวันนั้นที่ลงมือสังหารก็ทำในพริบตามิได้ออกแรงอันใด...
หลังจากเดินไปรอบๆเมืองอยู่สักพังิเทียนเยวก็กลับไปยังพระราชวังโลหิต ไปนั่งอยู่ข้างๆถังจื่อ
"เป็อย่างไรบ้างของรับเมืองของข้า" ถังจือยิ้มเล็กน้อยดูคล้ายกับถังจื่อเมื่อยามเด็กยิ่ง คล้ายว่าตัวตนทั้งสองเริ่มยอมรับกันและกันได้แล้ว
"อืม หากไม่อคติเื่ธรรมะ อธรรมต้องเรียกว่าสงบยิ่ง" ิเทียนเยว่เท้าคางกล่าว เมืองนี้สงบสุขจริงๆ ไม่มีขอทาน ไม่มีการฉกชิง ไม่มีการสังหาร ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง...ว่าตามตรงแล้วเรียกว่าสงบจนน่ากลัว
"พวกเขาหลายคนก็ออกมาจากสำนักฝ่ายธรรมะขอรับ หากมองไปลึกๆพวกนั้นสกปรกเสียยิ่งกว่าพวกโจรเสียอีก เพียงแต่ชุบตัวด้วยสิ่งที่เรียกว่าความชอบทำ" ถังจื่อมองไปด้านนอกแววตาเผยความแค้นอยู่บางส่วน
ิเทียนเยว่เงียบไปอยู่ด้วยกันมาสามวันิเทียนเยว่ได้ความรู้เพิ่มมาไม่น้อย บนโลกมนุษย์แต่ละแห่งล้วนมีสายเืของเทพเซียนแอบแฝงตัวอยู่ ไม่ว่าจะเป็ราชวงศ์ส์หรือสำนักวิชาต่างๆ ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากโลกเบื่องบน อย่างน้อยพวกสำนักวิชาที่โด่งดังก็ล้วนเป็เชื่อสายของเทพเซียนทั้งหมด
"ข้าคิดจะก่อตั่งสำนักขึ้นมาเ้าคิดเห็นว่ายังไง" ิเทียนเยว่กล่าวถามแววตานุ่มลึกสลับซับซ้อนมองออกยากยิ่งว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
"...อยากล้มล้างอริยะเทพหรือขอรับ" ถังจื่อหรี่ตามองิเทียนเยว่
ิเทียนเยว่ไม่ได้ตอบเพียงแค่ยักไหล่เบาๆเท่านั้น
"...หากอยากให้โลกใบนี้พัฒนาขึ้นสำนักวิชานับว่าจำเป็จริงๆขอรับ หาสำนักของอริยะเทพเป็ใหญ่ดวงชะตาของโลกก็จะถูกโยกย้ายไปยังแดนเทพขอบอริยะผู้นั้นขอรับ" ถังจื่อพยักหน้ากล่าวเชิงว่าเห็นด้วยกับความคิดของิเทียนเยว่
กองกำลังของเขาคลายเป็อาณาจักรซะมากกว่ามีระบบชนชั้น กองทัพและระบบระเบียบเรียบร้อย
"เอาเป็ว่าเื่นี้ฝากเ้าไว้หน่อยก็แล้วกัน สักห้าปีข้าจะกลับมาอีกที" ิเทียนเยว่โยนภาระทั้งหมดให้ถังจื่อแล้วหายตัวไปทันที
ถังจื่อก็ทำได้เพียงพยักหน้าต่อให้อยากเถียงก็เถียงไม่ทันแล้ว เขาทำได้แต่ออกคำสั่งให้คนไปจัดหาทรัพยากรแล้วเริ่มก่อนสร้างสำนักในทันที เื่นี้เองก็มีประโยชน์กับเขาเช่นกันยิ่งโลกใบนี้แข็งแกร่งเขายิ่งแข็งแกร่งด้วย ทั้งยังเปิดโอกาสให้เขาสำเร็จเป็ระดับอริยะเทพด้วย
เซียนปฐี เซียนนภา เซียน์ จักรพรรดิเซียน นี่คือระดับของแดนเซียนแบ่งเป็ต่ำกลางสูง เมื่อขึ้นสู่ระดับเทพเบิกจิติญญาเทพได้จึงถือว่าสำเร็จเป็ระดับเทพ....
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้