หนิงเทียนเปลี่ยนเป้าหมายโดยเริ่มด้วยการโจมตีขวดหยกดำ ผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนกันทุกประการ ขวดหยกดำสูงครึ่งชุ่นทว่ากลับหนักราวเขาไท่ซาน
“มดแดงคิดเขย่าต้นไม้ใหญ่[1]หรือ? ช่างน่าขันยิ่งนัก”
ทันใดนั้นเสียงเหยียดหยามก็ดังขึ้น ทำให้หนิงเทียนใ
“เสียงใคร?” หนิงเทียนถอยกลับอย่างรุนแรงก่อนจะมองไปรอบๆ แล้วพบว่าเปลวเพลิงสีดำกำลังก่อร่างเป็ชายชุดดำ ใบหน้าอันเคร่งขรึมของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
ในเวลาเดียวกัน เปลวเพลิงสีเขียวก็กลายเป็ชายชุดเขียวผู้หล่อเหลาและสง่างาม เขามองหนิงเทียนอย่างเ็า แม้เขาจะไม่พูดอะไร ทว่าในสายตาก็มีแววดูถูกเล็กน้อยเช่นกัน
สีหน้าของหนิงเทียนเปลี่ยนไปทันทีพร้อมความรู้สึกถึงวิกฤตที่เกิดขึ้นในใจ
กลิ่นอายของชายสองคนนี้ที่มาจากเปลวเพลิงช่างน่าสะพรึงกลัว ขอบเขตของพวกเขาอยู่เหนือหนิงเทียนมาก รัศมีบนร่างของทั้งสองคือดีและชั่วซึ่งตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
“ท่านทั้งสองเป็ใคร?”
“เฮยเย่า”
“ชิงเยี่ยน!”
ชายชุดดำมีรอยยิ้มที่ชั่วร้ายบนใบหน้า ในขณะที่ชายชุดเขียวมีความเข้มงวดและหยิ่งผยอง พวกเขาล้วนไม่ใส่ใจหนิงเทียนแม้แต่น้อย
หนิงเทียนค่อนข้างไม่พอใจก่อนจะให้ความสนใจสถานการณ์ในห้องโถงใหญ่ นอกจากชายสองคนและขวดหยกดำและขาวแล้ว ยังมีป้ายคำสั่งซึ่งส่องแสงสลับกันระหว่างสีเขียวและสีดำแขวนอยู่บนผนังตรงข้ามกับประตูห้องโถง
หนิงเทียนมองป้ายคำสั่งที่เขียนด้วยอักษรโบราณความว่า “จองจำ ณ ที่แห่งนี้ชั่วกัปชั่วกัลป์” ซึ่งปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา
“ท่านทั้งสองเป็เทพหรือ?” หนิงเทียนเหลือบมองพวกเขา โดยให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของทั้งสอง
ชายชุดเขียวสูดลมด้วยท่าทางภาคภูมิใจ ส่วนชายชุดดำยิ้มอย่างน่าสยดสยองแล้วพูดล่อใจว่า “เ้าอยากกราบเทพเป็อาจารย์และเรียนรู้วิชาขั้นสูงสุดหรือไม่?”
หนิงเทียนดีใจมากและโพล่งออกมา “อยากสิ ไม่ทราบว่าท่านเทพทั้งสองมีวิชายอดเยี่ยมแบบใดบ้าง? ท่านช่วยบอกอะไรบางอย่างให้ข้าได้หรือไม่?”
ชายชุดเขียวจ้องชายชุดดำด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมากราวกับกำลังตำหนิอีกฝ่าย แต่ชายชุดดำกลับกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เราคือเทพแห่งไฟ เชี่ยวชาญเื่การใช้ไฟและสามารถแยกแสงแห่งจิติญญาได้”
หนิงเทียนถามอย่างสงสัย “แยกหรือ? มันทรงพลังหรือไม่? ข้าไม่เคยได้ยินเื่นี้มาก่อนเลย”
ชายชุดเขียวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ขณะที่ชายชุดดำเริ่มบ่น “เมื่อครู่ไม่เห็นหรือ? เขาสามารถชำระดวงิญญาให้บริสุทธิ์ได้ ขณะที่ข้าสามารถเปลี่ยนดวงิญญาให้กลายเป็ความชั่วร้ายได้”
หนิงเทียนพูดอย่างลังเลว่า “การเรียนรู้ทักษะที่ยอดเยี่ยมนี้มีประโยชน์อะไร? ข้าไม่ได้จัดการกับดวงิญญาตลอดทั้งวัน ยังมีวิธีอื่นที่ทรงพลังกว่านี้หรือไม่?”
เมื่อเห็นท่าทางลังเลของหนิงเทียน ชายชุดเขียวก็มีสีหน้าน่าเกลียดอย่างทันที เขาถูกดูิ่เสียแล้ว
“หน้าด้านจริงๆ” ชายชุดดำด่าทอ เขาอยากทุบตีหนิงเทียนให้ตายจริงๆ
“พวกท่านรู้วิชาล้ำเลิศบ้างหรือไม่? เหล่าเทพคงไม่อ่อนแอขนาดนั้นใช่ไหม?” หนิงเทียนเม้มริมฝีปาก ทว่ามันยังกลิ่นของการดูถูกอยู่บ้าง
ชายชุดเขียวโกรธมากจนแทบบ้า ดวงตาที่ลุกเป็ไฟเผยให้เห็นคมแหลม
ชายชุดดำแสยะยิ้มชั่วร้าย “ขอบเขตไม่สูงแต่วาจาไม่เล็ก รู้หรือไม่ว่าการแยกของเรานั้นเกินความคาดหมายเพียงใด?”
หนิงเทียนส่ายหัว “ข้ามองไม่ออกหรอก หากข้ามีขอบเขตเทียบเท่าพวกท่าน ข้าคงจะเก่งกว่าพวกท่านแน่”
“อวดดี” ในที่สุดชายชุดเขียวที่นิ่งเงียบก็พูดออกมาเขารู้สึกไม่พอใจหนิงเทียนเป็อย่างมาก
“ไม่เชื่อหรือ? เช่นนั้นเราลองมาทดสอบด้วยระดับเดียวกันเป็อย่างไร?” หนิงเทียนยั่วยุ เขาเชิดหน้าขึ้น ทั้งยังยืดอกจนสูง
ชายชุดดำพูดอย่างเคร่งขรึม “มองข้ามเราเช่นนี้ ไม่กลัวว่าเราจะฆ่าเ้าโดยตรงหรือ?”
หนิงเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่ว่าเทพทุกองค์มีความภาคภูมิใจมากหรอกหรือ? เช่นนั้นจะใชกำลังไม่รังแกผู้ด้อยกว่าได้อย่างไร?”
ชายชุดเขียวพูดอย่างเ็า “เ้ายังไม่มีคุณสมบัติที่จะสู้กับเรา”
“อย่างน้อยข้าก็ได้ปลดข้อจำกัดที่นี่แล้ว ไม่แน่ว่าพวกท่านอาจสามารถทำให้อยู่ในขอบเขตเดียวกับข้าได้”
ชายชุดดำและชายชุดเขียวมองหน้ากันแล้วพูดว่า “เ้าอยากสู้ในขอบเขตเดียวกับเราจริงหรือ?”
“ถ้ากลัวแพ้จะสู้ทางวาจาก็ได้นะ”
ชายชุดเขียวแสยะยิ้มอย่างโมโหแล้วพูดว่า “เราต้องกลัวเ้าหรือ?”
ชายชุดดำพูดอย่างเหยียดหยาม “สู้ทางวาจา? ด้วยระดับนี้ เ้าจะยังสู้ทางวาจาได้อย่างไร?”
หนิงเทียนยิ้ม “ข้ากลัวว่าท่านจะแพ้อย่างน่าเกลียดเกินไปและโกรธเมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจึงอยากแข็งด้วยอะไรที่สง่างาม ว่าอย่างไร พวกท่านกล้าหรือไม่?”
ชายชุดเขียวรังเกียจที่จะสนใจเขา ขณะที่ชายชุดดำยิ้มเ้าเล่ห์แล้วพูดว่า “ได้ ข้าจะเล่นกับเ้า แล้วจะสู้ทางวาจาอย่างไร?”
“ง่ายๆ ข้าใช้รูปแบบทางจิติญญาเพื่อสร้างทักษะ หากท่านสามารถมองผ่านความลึกลับและถถอดรหัสการเปลี่ยนแปลงได้ก็ถือว่าข้าแพ้ ในทางกลับกัน พวกท่านสามารถใช้วิธีที่คล้ายกันเพื่อทดสอบข้าได้ มาเปรียบเทียบความรู้ สายตา และสมองของเรากันดีกว่า”
ชายชุดดำยิ้ม “น่าสนใจ มาเถอะ ให้ข้าดูว่าเ้าสามารถทำอะไรได้บ้าง?”
หนิงเทียนขยับมือและเท้าพร้อมเอ่ยเตือน “จงดูให้ดี ข้าจะเริ่มแล้ว”
ด้วยการใช้ยุทธศาสตร์ครอง์ หนิงเทียนสื่อสารกับแผนที่จิติญญาในร่างกายของตนแล้วเปิดใช้แผนภาพเถาวัลย์ั ควบแน่นรูปแบบจิติญญาด้วยพลังจิติญญา และสร้างเป็แส้เถาวัลย์ัขึ้นมาต่อหน้าเฮยเย่าและชิงเยี่ยน
หนิงเทียนมีท่าทีจริงจัง นี่เป็กลอุบาย แส้เถาวัลย์ัผสมผสานแก่นแท้ของหยวนซิวและเส้นทางเต๋าพฤกษา โดยมีเต๋าพฤกษาเป็รากฐาน ก่อนมันจะถูกต่อกิ่งด้วยอาวุธิญญาทั้งเก้าของหยวนซิว นั่นเป็เื่ใหญ่ที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์สำคัญในอดีต ซึ่งเพียงพอที่จะสั่นะเืจิติญญา
ภายใต้การควบคุมของหนิงเทียน รูปแบบทางจิติญญาค่อยๆ ก้าวหน้าจากตื้นไปสู่ลึก และซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
ในตอนแรกชายชุดดำไม่ได้สนใจมากนัก แต่หลังจากผ่านหนึ่งก้านธูป สีหน้าขี้เล่นของเขาก็หายไป
ครึ่งชั่วยามต่อมา ประกายแสงแปลกๆ ก็แวบขึ้นมาในดวงตาของเฮยเย่า เขาเริ่มใช้สมาธิมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
ชายชุดเขียวที่อยู่ด้านข้างก็ถูกดึงดูดเช่นกัน เงาของแส้เถาวัลย์ัค่อยๆ เป็รูปเป็ร่าง จากนั้นต้นแบบของอาวุธิญญาทั้งเก้าก็ปรากฏขึ้น
หนิงเทียนมีเหงื่อหลั่งเต็มดวงหน้า ด้วยสภาพจิตใจปัจจุบันเขาทำได้เพียงสร้างตัวอ่อนให้สมบูรณ์ และไม่มีกำลังพอที่จะสลักรายละเอียด
“เป็อย่างไร? มองเห็นมากเพียงใด? ดวงตาของท่านสดใสยิ่งนัก ท่านใช้ความแข็งแกร่งไปถึงระดับใดหรือ?” ทันใดนั้นหนิงเทียนก็พูดขึ้น ซึ่งทำให้ทั้งชายชุดเขียวและชายชุดดำต่างใ
“ข้าไม่เห็นว่าเ้ามีความสามารถใดเลย น่าเสียดายที่ขอบเขตยังต่ำเกินไป” ชิงเยี่ยนพึมพำ ต้องยอมรับว่าแส้เถาวัลย์ัของหนิงเทียนลึกลับมากจริงๆ
“ขอบเขตของข้าต่ำนั่นเพราะข้ายังเด็ก ข้าชนะรอบแรกแล้ว คราวนี้ถึงถึงตาท่านที่จะแสดงความสามารถแล้ว ใครจะเป็คนลงมือหรือ?”
เฮยเย่าพูดว่า “ใครบอกว่าเ้าชนะ? เ้าแทบไม่เก่งเลย ตอนนี้ให้ข้าแสดงให้เห็นเองว่าข้ามีความสามารถอะไรบ้าง!”
“อย่าลืมปราบปรามขอบเขตเล่า ไม่เช่นนั้นท่านจะพ่ายแพ้”
เฮยเย่าตะคอก “ข้าจะรังแกเ้าหรือ? คิดมากเกินไปแล้ว!”
“เป็การดีกว่าที่จะยุติธรรม ชนะด้วยการโกงย่อมเป็เื่ไร้เกียรติ” หนิงเทียนยิ้มเยาะ ซึ่งทำให้เฮยเย่าไม่พอใจอย่างมาก
“จงดูให้ดีนะเ้าเด็กน้อย” ชายชุดดำกางมือออก เส้นจิติญญาสีดำปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ พวกมันเกี่ยวพันกัน จากนั้นก็เริ่มพัฒนาจนก่อตัวเป็กระแสน้ำวน ภายในมีหม้อต้มสีดำที่ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของหนิงเทียนเปรียบเสมือนคบเพลิง ทักษะเก้าเนตร์รวมกับดวงตาจิติญญาและกายเต๋าิญญาศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้เขาสามารถมองเห็นทุกการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้หนิงเทียนยังจำลองทักษะของเฮยเย่าไว้ในใจ ซึ่งมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รุนแรงต่อจิติญญาที่ต้นไม่สังเวยิญญาโบราณสอนเขาเอาไว้ วิชาแปลงิญญาััได้ถึงกลิ่นอายของทักษะที่คล้ายกัน และมันความกระตือรือร้นอย่างมาก
ชายชุดเขียวเหลือบมองสองสามครั้งแล้วหันกลับมามองเขาราวกับดูถูกเหยียดหยาม
เฮยเย่ามองหนิงเทียนแล้วพูดอย่างยั่วยุ “เ้าหนู เ้าเข้าใจหรือ?”
“แค่เพียง่เริ่มต้น ไม่มีอะไรที่ข้าไม่เข้าใจ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเฮยเย่าก็ตกตะลึง เด็กคนนี้รู้ได้อย่างไรว่านี่คือ่เริ่มแรก? เขาเข้าใจได้จริงหรือ?
เฮยเย่าปฏิเสธที่จะยอมรับและเพิ่มความเร็วขึ้น กระแสน้ำวนสีดำบนฝ่ามือซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ หม้อต้มสีดำที่อยู่ข้างในค่อยๆ ชัดเจนขึ้น โดยทุกจุดและทุกการเปลี่ยนแปลงยังคงสะท้อนออกมา
ดวงตาของหนิงเทียนเป็ประกาย ทักษะเก้าเนตร์ถูกรวมเข้ากับดวงตาจิติญญาก่อนจะก่อตัวอย่างลึกลับแล้วปรากฏขึ้นในม่านตาของเขา ซึ่งสามารถจับภาพการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำวนและหม้อต้มสีดำได้อย่างชัดเจน
“ก็ไม่เท่าใดนี่ การเปลี่ยนแปลงยังน้อยเกินไป” หนิงเทียนมองอยู่นาน ทันใดนั้นก็เริ่มเยาะเย้ย
เฮยเย่าพูดด้วยความโกรธ “เ้าหนู หยุดเสแสร้งได้แล้ว! เ้าไม่เข้าใจด้วยซ้ำ ยังบอกว่าข้าไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักอีก!”
หนิงเทียนเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “การเปลี่ยนแปลงระดับกลางแยกแสงิญญาได้เพียงห้าระดับไม่ใช่หรือ? ยังมีอะไรที่ข้าไม่เข้าใจอีกหรือ?”
ชิงเยี่ยนและเฮยเย่าต่างแสดงความประหลาดใจ เด็กคนนี้อยู่ในขอบเขตจิตหยั่งลึก เขามีสายตาดีขนาดนั้นจริงหรือ?
เฮยเย่ายังไม่เชื่อ ทักษะแยกแสงิญญายังคงพัฒนาต่อไป ระดับหก เจ็ด และแปดซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
หนิงเทียนขมวดคิ้วและพูดว่า “มันยากขึ้นนิดหน่อย แต่มันก็แค่ปานกลาง”
“ไอ้หนู หยุดคุยโวได้แล้ว ข้าไม่เชื่อว่าเ้าจะเข้าใจมันได้จริงๆ” เฮยเย่ามีสีหน้าเ็า เขาเป็เทพ เขาจะถูกมนุษย์ธรรมดาดูิ่ได้อย่างไร?
“ก็มันเป็ระดับเก้าของทักษะแยกแสงิญญา ทว่าดูเหมือนว่ามันจะยังไม่ละเอียดเพียงพอ” คิ้วของหนิงเทียนขมวดแน่น ร่างกายของเขาเปล่งประกาย เขาใช้ทักษะม่านตาจนถึงขีดจำกัดแล้ว และแทบจะไม่สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงในระดับที่เก้าของทักษะแยกแสงิญญาได้ชัดเจน
“ไม่ละเอียดหรือ? นั่นเป็เพราะเ้าไม่เข้าใจมันเลย!” เฮยเย่าโกรธมากจนสาปแช่ง และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาแก่นแท้ของทักษะแยกแสงิญญาระดับเก้า ซึ่งมันกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิชาแปลงิญญาของหนิงเทียน
หลังจากนั้นไม่นาน เฮยเย่าก็ใช้ทักษะแยกแสงิญญาอย่างสมบูรณ์ ทันทีที่เขาเปิดปากหนิงเทียนก็พูดเสียงดัง “ท่านแพ้แล้ว!”
เฮยเย่าพูดด้วยความประหลาดใจ “เ้าเข้าใจหรือ?”
“ไม่! ท่านใช้พลังเหนือขอบเขตจิตหยั่งลึกและละเมิดกฎ ดังนั้นท่านจึงแพ้”
คำพูดของหนิงเทียนทำให้เฮยเย่าพูดไม่ออก เขาอยากจะปฏิเสธ แต่ชิงเยี่ยนที่อยู่ด้านข้างพูดว่า “เ้าแพ้แล้ว”
เฮยเย่าโกรธมากจนเป่าเคราและจ้องมองด้วยความไม่เชื่อและพูดว่า “เ้าอดกลั้นได้หรือ? เ้าลองสิ!”
ชิงเยี่ยนพูดอย่างภาคภูมิใจ “เ้าคิดว่าข้าจะเป็เหมือนเ้าแล้วพ่ายแพ้หรือ?”
จากนั้นเขาก็หันหน้าไปทางหนิงเทียนแล้วเอ่ยเสียงดังว่า “มาแข่งกัน!”
หนิงเทียนกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ข้าพร้อมเสมอ เชิญท่านก่อนเลย”
ชิงเยี่ยนยิ้มอย่างเ็า ฝ่ามือทั้งสองประกบเข้าหากัน รูรูปแบบจิติญญานับไม่ถ้วนเกี่ยวพันกันอย่างรวดเร็ว ดังดวงตะวันอันร้อนแรงที่มีเตาิญญาอยู่ข้างใน ซึ่งมีพลังแห่งการชำระล้าง
หนิงเทียนมุ่งความสนใจไปที่มัน โดยผสมผสานเส้นทางเต๋าพฤกษา เส้นทางแห่งจิติญญา และเส้นทางิญญาเข้าด้วยกัน จากนั้นจึงวิเคราะห์และประเมินผลในเวลาเดียวกัน “ดีกว่าครั้งก่อน มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและมากขึ้น น่าเสียดายที่มันไม่รบกวนข้าเลย”
เฮยเย่าหัวเราะเยาะ ส่วนชิงเยี่ยนไม่มีความสุข เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้หยิ่งเกินไป
อันที่จริงหนิงเทียนฟังดูเหมือนหยิ่ง แต่ในใจเขารู้สึกประหม่าเล็กน้อย เขาใช้วิธียั่วยุแม่ทัพและแอบเรียนรู้วิธีการทำให้บริสุทธิ์ของชิงเยี่ยน
บนแผนที่จิติญญาเนตรเพลิงในร่างกายของหนิงเทียนมีเครื่องหมายทางจิติญญาควบแน่นอยู่ในเปลวเพลิง
ทักษะแยกแสงิญญาอันชั่วร้ายของเฮยเย่า กระแสน้ำวนที่ชั่วร้าย หม้อต้มสีดำชั่วร้ายนั้นถูกหนิงเทียนแยกแยะจนสมบูรณ์แล้ว พวกมันควบแน่นเป็หม้อจต้มสีดำและรวมเข้ากับเปลวเพลิงบนแผนที่ิญญาเนตรเพลิง
ขณะนี้ทักษะกลั่นบริสุทธิ์ กระแสน้ำวนบริสุทธิ์ เตาหลอมิญญาที่บริสุทธิ์ของชิงเยี่ยนก็ควบแน่นและรวมเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วในเปลวเพลิงไม่ต่างกัน
หนึ่งชั่วยามต่อมา ชิงเยี่ยนเสร็จสิ้นการวิวัฒนาการของทักษะกลั่นบริสุทธิ์ เขาจึงพูดอย่างเ็าว่า “เ้าเข้าใจไหม?”
หนิงเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่สำคัญว่าจะเข้าใจหรือไม่ สิ่งที่สำคัญคือข้าชนะ และท่านยังใช้ความแข็งแกร่งที่อยู่นอกขอบเขตจิตหยั่งลึกด้วยเช่นกัน”
ชิงเยี่ยนพึมพำ “เ้าคิดว่าเราจะยอมรับว่าเ้าชนะหรือ?”
“พูดแบบนี้ ท่านกำลังพยายามโกงหรือ?”
เฮยเย่ากล่าว “ทำลายป้ายคำสั่งบนกำแพงนั้นเสียก่อนสิ แล้วเราจะปล่อยเ้าไป”
---------------------------------------
[1] มดแดงคิดเขย่าต้นไม้ใหญ่ (蚍蜉撼树) หมายถึง คนไม่เจียมตัว หรือคนที่มีความสามารถน้อยนิด แต่กลับคิดทำการใหญ่ ไปต่อกรกับผู้ที่เหนือกว่าตน
