เมื่อได้เห็นฤทธิ์ยาเป็ที่ประจักษ์แล้ว จุนห่าวและหานรุ่ยก็พาจุนตงและจุนหนานไปเมืองซวงหวากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากที่ดื่มยาเพิ่มพลังปราณไปเป็จำนวนมาก ในค่ำคืนก่อนที่จุนห่าวและหานรุ่ยจะออกเดินทาง ทั้งสองคนเลื่อนขั้นได้พร้อมกัน หานรุ่ยเลื่อนระดับขั้นเป็ลมปราณขั้นที่ห้า เพราะเป็การเริ่มต้นนับใหม่ จึงไม่มีอุปสรรคอะไรมาขว้างกั้น เมื่อพลังิญญาสมบูรณ์ ก็จะสามารถเลื่อนขั้นขึ้นไปได้เอง ส่วนจุนห่าว คือ รากวิญญาฮุ่นตุ้น จากแนวทางการบำเพ็ญเพียรที่ดีเยี่ยมของเขา จึงไม่มีอุปสรรคใด ๆ มาขวางกั้นเช่นเดียวกัน ทำให้เขาเข้าสู่ระดับขั้นที่หกอย่างราบรื่น เพราะพลังปราณที่เพิ่มขึ้น จึงสร้างความมั่นใจให้ทั้งสองคนได้มาก พวกเขาคิดว่า ต่อให้ต้องต่อสู้กับเซ่าเจี้ยนหลิ่นในยามนี้ ก็มีความเป็ไปได้ที่จะชนะ
ทั้งสองคนไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ จึงรีบเร่งไปที่เมืองซวงหวา พอถึงด้านนอกเมือง ครอบครัวจุนห่าวต้องต่อแถวรอเข้าเมือง คนต่างถิ่นจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านประตู จุนห่าวลองถามดูได้ความมาว่า ราคาต่อหนึ่งคน เท่ากับ 10 ตำลึงเงิน ซึ่ง 10 ตำลึงเงินนี้ สำหรับจุนห่าวแล้วไม่ได้แพงเท่าไร ทว่าสำหรับสามัญชนก็ถือว่า ราคาสูง เพราะฉะนั้นคนที่จะเข้าเมืองซวงหวาได้ จึงเป็นักพรตและนักรบเสียส่วนใหญ่ อีกส่วนหนึ่งก็คือคนรับใช้ของนักพรตและนักรบที่ติดตามมาด้วย
เมื่อถึงคราวของครอบครัวจุนห่าว จุนห่าวจ่ายเงินไปทั้งหมด 40 ตำลึงเงิน และเข้าเมืองได้อย่างราบรื่น หลังจากเข้าเมืองแล้ว จุนห่าวหาโรงเตี๊ยมและให้คนขับรถม้าจากไป นี่เป็ครั้งแรกที่จุนตงและจุนหนานได้เข้าเมือง พอเด็กทั้งสองคนได้เห็นอะไรเข้าหน่อย ก็พากันตื่นเต้น เพราะรู้สึกแปลกใหม่ หลังจากที่จุนห่าวหาโรงเตี๊ยมได้แล้ว เขาก็เตรียมตัวพาเด็ก ๆ กับหานรุ่ยไปร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซวงหวา พวกเขาเพิ่งจะเข้าเมืองซวงหวามา จึงไม่ค่อยรู้จักอะไรเท่าไหร่นัก จุนห่าวจำเป็ต้องสอบถามจากคนแถวนั้น ซึ่งร้านอาหารนี้เป็สถานที่ที่ได้รับการแนะนำมามากที่สุด
ทั้งสี่คนกำลังเดินอยู่บนถนน มีร้านค้ามากมายตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของถนน และมีสินค้าวางขายอยู่มากมายตระการตาเต็มไปหมด จุนตงและจุนหนานมองดูจนตาลาย เมื่อครั้งที่จุนห่าวและหานรุ่ยพาลูกทั้งสองไปเมืองอวี้หวาในครั้งแรกนั้น น่าเสียดายที่พวกเขายังจำไม่ได้ นี่จึงเป็ถือครั้งแรกที่พวกเขาเข้าเมืองมาั้แ่จำความได้
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ผู้คนที่นี่เยอะเสียจริง แถมยังมีของขายเต็มไปหมดเลย” จุนหนานพูดกับจุนห่าวและหานรุ่ยอย่างตื่นเต้น
จุนห่าวที่อุ้มจุนหนานอยู่ เมื่อมองเห็นท่าทางที่ตื่นเต้นของลูกชาย ก็รู้สึกใจเต้นตึกตักเพราะเอ็นดู และกล่าวกับลูกว่า “ใช่แล้ว ไว้พ่อกับแม่จะพาพวกเ้าไปเมืองที่ใหญ่กว่านี้ ถึงตอนนั้นพวกเ้าจะได้เรียนรู้อีกหลายสิ่ง และพวกเ้าก็จะไม่คิดว่า ที่นี่ใหญ่อีกเลย”
พอจุนตงได้ฟังคำพูดของจุนห่าว ก็พูดกับหานรุ่ยว่า “ท่านแม่ ท่านพ่อพูดจริงหรือ?”
หานรุ่ยพูดกับลูกทั้งสองว่า “จริงสิ ไว้รอให้เสร็จธุระที่นี่ก่อน พวกเราจะไปเมืองที่ใหญ่กว่านี้กัน” หานรุ่ยและจุนห่าวปรึกษากันแล้วว่า หลังจากที่ช่วยจางหนิงออกมาได้ พวกเขาจะออกไปหาประสบการณ์ เพื่อแสวงหาโอกาสเพิ่ม บัดนี้พลังปราณของพวกเขาไม่เหมาะที่จะอยู่ในเมืองที่ห่างไกลเช่นเมืองอวี้หวาอีกต่อไป เพราะพลังิญญาของเมืองอวี้หวาค่อนข้างเบาบาง
“พลังิญญาของที่นี่มีความเข้มข้นกว่าเมืองอวี้หวาอยู่นิดหน่อย” จุนห่าวรู้สึกได้จึงเอ่ยขึ้นมา “ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมนักพรตของที่นี่ส่วนใหญ่ ถึงมีระดับพลังปราณสูงกว่านักพรตที่เมืองอวี้หวา”
หานรุ่ยเกิดในครอบครัวใหญ่ เขามีประสบการณ์มากกว่าจุนห่าวที่เป็ผู้มาเยือนอยู่มาก เพราะฉะนั้นเมื่อหานรุ่ยได้ฟังจุนห่าว เขาจึงกล่าวกับจุนห่าวว่า “ใช่ พลังิญญาของที่นี่มีมากกว่าเมืองอวี้หวา เพราะว่าเมืองนี้อยู่ใกล้กับเส้นเืิญญามากกว่าอย่างไรล่ะ”
“เส้นเืิญญารึ?” จุนห่าวถามอย่างสงสัย เขาไม่รู้จริง ๆ ว่า เส้นเืิญญาหมายถึงอะไร
เมื่อเห็นสายตาที่ดูสงสัยของจุนห่าว หานรุ่ยจึงอธิบายให้จุนห่าวฟังอย่างคร่าว ๆ ว่า “เส้นเืิญญานั้น ก่อตัวขึ้นจากการกันระหว่าง์กับโลก ยิ่งอยู่ใกล้เส้นเืิญญามากเท่าไหร่ พลังิญญาก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้นเท่านั้น ข้าได้ฟังจากท่านปู่มาว่า เมืองหลวงของทั้ง 3 อาณาจักรต่างมีเส้นเืิญญาที่ก่อตัวขึ้นทั้งสิ้น โดยทั้ง 3 เส้นนี้ คือ เส้นเืิญญาที่ใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินชางหลาน นอกจากนี้ยังสามารถผลิต ‘ไข่มุกิญญา’ ภายในเส้นเืิญญาได้ด้วย ไข่มุกิญญาจะมีพลังิญญาอยู่ ซึ่งเหมาะกับการใช้บำเพ็ญเพียรยิ่งนัก ลูกหลานตระกูลใหญ่ในเมืองเย่ว์เซียนจะได้รับการแจกจ่ายไข่มุกิญญานี้ทุกเดือน ที่เมื่อก่อนข้าสามารถบำเพ็ญเพียรได้อย่างรวดเร็ว ก็เพราะไข่มุกิญญานี่แหละ ที่เป็ตัวช่วยสำคัญ”
