“คุณหนูแต่งตัวเสร็จแล้วเหรอเ้าคะ” อิงอิงเข้ามาแล้วชะงักนิ่ง มองร่างของหยางซิ่วหนิงด้วยความแปลกใจ
“เหตุใดจึงมองข้าเช่นนั้น” คำถามของคุณหนูใหญ่ ทำให้อิงอิงส่ายศีรษะแล้วพูดขึ้น
“เหตุใดเครื่องประดับจึงมีเพียงเท่านี้เ้าคะ นายท่านเป็ถึงเสนาบดีกรมขุนนาง มีหน้ามีตาไม่ต่างจากขุนนางท่านอื่น เครื่องประดับที่คุณหนูใส่ ข้าคิดว่ามันน้อยไปมาก เลือกใหม่ดีหรือไม่” อิงอิงเตรียมห่อผ้าของคุณหนูรองไว้ แล้วเดินตรงไปยังกล่องเครื่องประดับทันที
“ไม่ต้อง!” เสียงของซิ่วหนิงเอ่ยขึ้น
“ทำไมเ้าคะ”
“ข้าพอใจที่จะแต่งตัวเช่นนี้ เรารีบไปกันเถอะ ป่านนี้ท่านแม่โกรธข้าแย่แล้วล่ะ”
“เ้าค่ะ”
ภายในงานที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ รวมเหล่าขุนนางขั้นหนึ่งขั้นสอง และเสนาบดีกรมต่าง ๆ มาพบกันโดยพร้อมเพรียง ใต้เท้าหยางและภรรยาเดินเข้าไปในงาน พร้อมสายตาของซิ่วหนิงสัดส่ายมองเหตุการณ์ทุกอย่างเงียบ ๆ
“ในอดีต ข้าต้องเดินทางมาพร้อมกับชินอ๋องและน้องรอง แต่ตอนนี้ ข้าเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ได้แล้วส่วนหนึ่ง ถึงแม้ข้าจะมากับท่านพ่อท่านแม่ แต่ก็ไม่มีอะไรบ่งบอก ว่าซุนเยว่เจวียจะไม่ลงมือกับน้องรอง” นางขบคิดทุกอย่างอย่างเงียบ ๆ ก่อนทุกคนในที่นั้นจะน้อมกายลงเคารพ เมื่อร่างของชินอ๋องกับพระชายาเดินเข้ามา
“ถวายพระพรชินอ๋อง ถวายพระพรพระชายา” เสียงกล่าวขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ก่อนซิ่วหนิงจะหันไปยังร่างของชายสูงศักดิ์ ใบหน้าและกิริยางดงามราวกับหลุดมาจากรูปปั้น ทว่าเป็รูปปั้นที่อาบไปด้วยยาพิษ หากเป็เมื่อก่อนนางจะรีบแสดงตัวเพื่อให้เขาสนใจ แต่บัดนี้นางจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เป็ที่สนใจของเขา หญิงสาวค่อย ๆ ก้าวเท้าหลบหลังบิดาช้า ๆ หากแต่หลบได้เพียงไม่นาน เสียงเรียกของซิ่วหนานก็เอ่ยขึ้น
“พี่ใหญ่ก็มาด้วย เหตุใดจึงหลบหลังท่านพ่อ” หยางซิ่วหนิงชะงักนิ่ง หลับตาลงเพื่อสงบความหวาดหวั่น แล้วค่อย ๆ ก้าวเท้าออกมาจากหลังของบิดาช้า ๆ
“ไม่ได้หลบเพคะ” นางปฏิเสธด้วยท่าทางแน่นิ่ง ก่อนจะก้มหน้าลงไม่สบตาชินอ๋อง
พระชายาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นการแต่งตัวของพี่สาวดูแปลกไป ปกตินางชอบแต่งตัวให้เป็ที่สนใจของผู้คน ทว่าวันนี้กลับแต่งตัวอย่างธรรมดาไม่หวือหวาเหมือนที่ผ่านมา ซิ่วหนานดึงปิ่นบนศีรษะนางหนึ่งอัน แล้วยื่นให้พี่สาวพร้อมรอยยิ้ม
“ข้าว่าเครื่องประดับของท่านพี่ดูน้อยเกินไป ปิ่นนี้จะทำให้ท่านพี่ดูสง่าขึ้น” ซิ่วหนิงมองปิ่นงดงามที่พระชายามอบให้ ก่อนจะส่ายศีรษะ
“ไม่เป็ไร พระชายาเก็บไว้เถิดเพคะ”
“ซิ่วหนิง เ้าก็รับไปเถอะ พระชายาอุตส่าห์มอบให้ทั้งที” หยางฮูหยินเอ่ยเตือนไม่ให้เสียมารยาท
“เ้ารับไปเถอะ ปิ่นพวกนี้ที่ตำหนักของข้ายังมีอีกมากมาย ให้เ้าเพียงอันเดียว ก็คงไม่เป็อะไร” เสียงของชินอ๋องพูดขึ้น ทำให้ซิ่วหนิงหันไปสบตาเขา ทว่าภาพในอดีตที่แสนน่ากลัวของเขาฉายวนมาให้นางรู้สึกหวาดหวั่น อีกทั้งสายตาเ็าจับจ้องมองนางไม่วาง ทำให้ซิ่วหนิงจำใจรับปิ่นปักผมมา
“เท่านี้ก็งามขึ้นมากแล้ว” พระชายามองปิ่นบนศีรษะพี่สาวแล้วเอ่ยชม ก่อนทุกคนจะพากันเดินเข้างาน ขณะที่สองเท้าของหยางซิ่วหนิงก้าวไปนั้น นางทบทวนเื่ราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาช้า ๆ
“ั้แ่เล็ก เ้าโดนข้ารังแกเ้าสารพัด แย่งเสื้อผ้า แย่งอาหาร แย่งของที่เ้าอยากได้ทุกอย่าง เมื่อไม่พอใจข้าก็ใช้วาจาด่าทอ กดขี่ข่มเหงเ้าทุกทาง เหตุใด..เ้าจึงยังดีกับข้าอยู่อีก” นางมองร่างของพระชายาด้วยสายตาสั่นไหว แล้วเกิดความรู้สึกผิดขึ้นในใจ
ภายในงานจวนสกุลซุนจัดอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งอาหาร และสุราถูกยกมาต้อนรับ เหล่าขุนนางกรมต่าง ๆ นั่งพูดคุยกันพร้อมเสียงหัวเราะ ไม่นานนักทุกคนในที่นั้นก็พร้อมใจกันลุกขึ้นยืน เมื่อฮองเฮาเสด็จมาเยือน
“ฮองเฮามาแล้วเพคะ” พระชายากระซิบกับชินอ๋อง ก่อนชายสูงศักดิ์จะพยักหน้า แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“นางมาคนเดียว หมายความว่า นางเกลี้ยกล่อมฮ่องเต้ไม่สำเร็จ”
“เช่นนี้หมายความว่า ฮ่องเต้ยังไม่เอนเอียงเกินไปนัก” พระชายาเข้าใจสถานการณ์เป็อย่างดี
ท่ามกลางสายตาของซิ่วหนิงที่แอบมองชินอ๋องพร้อมความคิด
“ต่อไปภายหน้าเขาจะเป็ฏ ่ชิงตำแหน่งฮ่องเต้ยึดเอาอำนาจทั้งหมดมาเป็ของตนเอง ข้าเคยหลงรักเขาจนยอมเป็เครื่องมือให้เขาหลอกใช้งาน ครั้งนี้จะไม่มีวันกลับไปเป็เหมือนเดิมอีก แล้วซิ่วหนานล่ะ หากอยู่กับชินอ๋องผู้นี้ต่อไป จุดจบนางจะเป็เช่นไรกันแน่” ก่อนมือของมารดาจะเอื้อมมาสะกิด
“เ้ามองชินอ๋องไม่ละสายตาเช่นนั้น เสียมารยาทรู้หรือไม่” เมื่อได้ยินคำเตือนจากมารดา นางจึงได้สติกลับมาแล้วหันไปยังฮองเฮาที่ยืนอยู่กลางพิธี
“วันนี้ข้ามาร่วมงานของสกุลซุน ทุกคนคงรู้ว่าข้าเกิดและเติบโตจากสกุลซุน จนมีโอกาสได้เข้าไปรับใช้ใกล้ชิดฮ่องเต้ วันนี้เป็งานที่สกุลซุนจัดขึ้นในทุกปี ข้าจึงเป็ตัวแทนฮ่องเต้มาร่วมงานด้วย หวังว่าทุกคนจะพอใจกับการต้อนรับของสกุลซุน” หยางซิ่วหนิงมองทุกอย่างเงียบ ๆ วันนี้ในอดีตนางทำตัวเป็จุดสนใจของทุกคน นำไปสู่หายนะที่จะเกิดขึ้นภายหน้า หากแต่เวลานี้นางพยายามเก็บปากให้มากที่สุด ไม่้าให้ชินอ๋องสนใจมากนัก เพราะภัยจะมาสู่ตัว
“ขอเชิญทุกท่านสังสรรค์กินดื่มกันให้เต็มที่ เื่งานราชการนั้นให้พักไว้สักสองสามชั่วยาม ใต้เท้าซุนมู่โหยวจะเป็ผู้ดูแลทุกคนให้มีความสุข ฯลฯ” คำกล่าวของฮองเฮายังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ ก่อนจะจบสิ้นลงหลังจากนั้นไม่นานนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้