เยี่ยจื่ออวิ๋นหงุดหงิดใจยิ่งนัก นางหยิบเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักรที่เนี่ยหลีมอบให้ขึ้นมา คุณค่าของเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักรนี้ย่อมไม่อาจประเมินค่าได้อย่างแน่นอน เหตุใดเนี่ยหลีจึงยินดีมอบของล้ำค่าปานนี้ให้แก่นาง ?
ทั้งโกรธทั้งขอบคุณ สองอารมณ์ผสมผสานอยู่ภายในใจ เป็เหตุให้นางไม่อาจสงบใจได้
ผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดเยี่ยจื่ออวิ๋นจึงกดข่มความโกรธเคืองในใจและเริ่มตั้งสมาธิจดจ่อกับการฝึกเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักร ภายในใจเริ่มค่อยๆ สงบลง อาณาเขติญญาของนางคล้ายเกิดชั้นน้ำแข็งบางๆ จับตัว พลังงานใสสะอาดจำนวนหนึ่งเริ่มเคลื่อนไปภายในร่างกาย
ผิวของเยี่ยจื่ออวิ๋นแปรเปลี่ยนเป็ใสกระจ่างราวกับผิวอันสุกใสของหยก งดงามขึ้นกว่าที่เคย ดูราวกับเทพธิดาที่ลอยลงมาจากสรวง์
พลังิญญามีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งเจือปนถูกขับออกมาจากร่างกายของเยี่ยจื่ออวิ๋น ร่างกายเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ทันใดก็บังเกิดแสงสว่างเจิดจ้าสีฟ้าะเิตัวออกมา ดูราวกับดอกบัวสีฟ้าขนาดใหญ่ดอกหนึ่ง
เยี่ยจื่ออวิ๋นพลันลืมตาขึ้นด้วยท่าทางตะลึง ั์ตางดงามราวกับอัญมณี อานุภาพของเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักรสูงกว่าที่นางคาดคิดไว้มาก นางเกือบก้าวถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว และหลังจากฝึกเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักร นางก็สามารถทะลวงผ่านด่านและก้าวขั้นเป็นักสู้ระดับทองแดงหนึ่งดาว
เยี่ยจื่ออวิ๋นรู้สึกถึงเหงื่อที่เหนียวเหนอะหนะจึงไม่สบายตัวเป็พิเศษ นางให้สาวใช้เตรียมน้ำอาบ
กลีบดอกไม้ในถังน้ำส่งกลิ่นหอม เยี่ยจื่ออวิ๋นค่อยๆ ปลดเสื้อผ้าชุดไหมของตนออก เผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มและผิวพรรณอันงดงามใสกระจ่างราวกับความสุกใสของหยก หลังจากได้ฝึกเคล็ดวิชาหงส์น้ำแข็งเก้าวัฏจักร เยี่ยจื่ออวิ๋นยิ่งดูงดงามมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น แม้นางยังไม่เป็ผู้ใหญ่เต็มตัว ทว่าเรือนร่างขณะนี้ก็นับว่าไม่เลว
ข้อเท้างดงามค่อยๆ จุ่มลงไปในอ่างกลีบดอกไม้ เมื่อรู้สึกถึงคราบเหงื่อไคลที่ถูกน้ำอุ่นร้อนชำระล้างกับกลิ่นหอมของมวลดอกไม้ที่อบอวลรอบกาย อารมณ์ของเยี่ยจื่ออวิ๋นจึงอดที่จะสดชื่นขึ้นราวกับได้โบยบินมิได้ ปลายนิ้วงดงามราวหยกค่อยๆ ลูบไล้ไปตามผิวนุ่มลื่น เห็นรอยปานแดงรูปผีเสื้อบนทรวงอกด้านซ้ายมือ หัวใจก็พลันสั่นรัวขึ้นมาอีกครั้ง
รอยปานแดงรูปผีเสื้อนี้ติดตัวนางมาั้แ่เกิด นางแตะปานแดงเบาๆ แม้ยังมิใช่สตรีเต็มตัว ทว่ายอดอกชูชันคู่น้อยก็ชวนหลงใหลยิ่งนัก
เนี่ยหลีเคยเห็นปานของนางมาก่อนอย่างนั้นหรือ?
เยี่ยจื่ออวิ๋นรู้สึกหัวใจสั่นระรัว หากเนี่ยหลีเคยเห็นมาก่อนจริง นั่นมิใช่หมายความว่านางถูกเนี่ยหลีแอบถ้ำมองอยู่หรือ?
ชั่วขณะนั้นเอง เสียงลมดังขึ้นด้านนอกห้อง
“นั่นใคร? ใครแอบดูอยู่?” เยี่ยจื่ออวิ๋นรีบยกสองมือขึ้นกอดอก ใบหน้าของนางแดงระเรื่อด้วยความอาย เนี่ยหลีเ้าคนชั่วช้า!
“คุณหนู ข้าเอง!” สาวใช้ผู้หนึ่งโผล่ออกมาจากหลังม่าน
ที่แท้เป็สาวใช้เสี่ยวเตี๋ย เยี่ยจื่ออวิ๋นแอบผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก สองแก้มของนางร้อนผะผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย เนี่ยหลียังก้าวไม่ถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวด้วยซ้ำ เขาจะสามารถฝ่าด่านเวรยามอันแ่าของจวนเ้าเมืองเข้ามาได้อย่างไร? นางคงหวาดระแวงมากเกินไปเอง! แล้วเนี่ยหลีเห็นปานแดงของนางได้อย่างไร?
ค่ำคืนอันเงียบสงบ
วันที่สอง ร้านหอสมบัติลับ
ที่นี่เป็ร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีสินค้าจำพวกชุดเกราะ อาวุธต่างๆ และม้วนยันต์วางขายโดยเฉพาะ ตัวร้านตั้งอยู่ห่างจากโรงเรียนเซิ่งหลันไม่กี่ร้อยหมี่
“เถ้าแก่ ข้าอยากได้ชุดเกราะนู่เยี่ยนสีทองแดงกับดาบนู่เหยียน!” เนี่ยหลีพูดพร้อมกับชี้ไปยังชุดเกราะและดาบสีทองแดงนั้น
“ชุดเกราะนู่เยี่ยนสีทองแดงชุดนี้มีสี่ส่วน ได้แก่เสื้อเกราะ ถุงมือยาว สนับแข้งและรองเท้า ราคาทั้งหมดห้าแสนเหรียญจิตอสูร เหล่านี้เป็ชุดระดับทองแดงชั้นยอด ทำขึ้นจากเกล็ดของสัตว์อสูรนู่เยี่ยน สัตว์อสูรระดับทองแดงตัวอื่นๆ ไม่อาจทำลายเกราะชุดนี้ได้ กระทั่งสัตว์อสูรระดับเงินก็ยังต้องเปลืองแรงมากมายจึงจะสามารถทำลายมันได้ คุณชายท่านนี้ ท่าน้าซื้อจริงหรือ?” เถ้าแก่ร้านมองๆ เนี่ยหลีและถาม
“แน่นอน คิดว่าข้าพูดเล่นกับท่านหรือ?” เนี่ยหลีโยนถุงใบหนึ่งให้และพูดว่า “ในนี้มีแผ่นผลึกอสูรหมื่นเหรียญจิตอสูรอยู่เจ็ดสิบแผ่น”
“โอ้ ข้าจะรีบไปห่อของให้คุณชายเดี๋ยวนี้!” เถ้าแก่พลันเลิกคิ้วยิ้มจนตาหยี
“ข้ายัง้าเกราะชุดนี้กับยันต์พวกนั้นด้วย ข้า้าทั้งหมดนี้ ห่อให้ข้าด้วย และนี่ และนี่...” หลังจากขายหญ้าจื่อหลันออกไป จำนวนเงินในมือของเนี่ยหลีถือว่าน่าตะลึงยิ่งนัก ดังนั้นการซื้อของพวกนี้จึงไม่ถือเป็ปัญหาแต่อย่างใด
ไม่แน่ใจว่าเนี่ยหลีเป็คุณชายน้อยของบ้านเศรษฐีหลังไหน ความกรุณาของเนี่ยหลีที่ใช้จ่ายอย่างมันมือทำให้ยอดขายในวันนี้วันเดียวก็สูงกว่ายอดขายของหลายเดือนรวมกันแล้ว เถ้าแก่ร้านยิ้มกว้างจนฟันแทบร่วงออกมาแล้ว
เนี่ยหลียังซื้อแหวนมิติสำหรับเก็บของที่มีความจุราวๆ ห้าหกตารางหมี่วงหนึ่งและเก็บของเหล่านี้ลงไปในแหวนมิติ ส่วนชุดเกราะนู่เยี่ยน เนี่ยหลีสวมใส่ไว้ทันที เกราะนู่เยี่ยนชุดนี้เบาบางยิ่งนัก พอสวมเสื้อทับลงไปก็ปิดจนมองไม่เห็น
“วันนี้ต้องไปที่ห้องเรียนสักหน่อย คืนเงินให้เซียวหนิงเอ๋อร์!” เนี่ยหลีครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงสาวก้าวเดินไปทางโรงเรียน
ขณะเดินไปถึงบริเวณมุมหนึ่งของโรงเรียนเซิ่งหลัน มีคนหลายคนปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเนี่ยหลี
“เ้าสารเลว ในที่สุดข้าก็จับเ้าได้แล้ว!” เสิ่นเยวี่ยยิ้มอย่างเ็าจ้องมองเนี่ยหลี ด้านหลังยังมีผู้ติดตามอยู่อีกหกคนกำลังจ้องมองเนี่ยหลี ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่ประสงค์ดี
เนี่ยหลีรู้อยู่นานแล้วว่าพวกเสิ่นเยวี่ยแอบติดตามเขามา เขาจงใจเดินไกลออกมาเพื่อรอให้เสิ่นเยวี่ยและพวกเข้ามาขวางทาง มุมปากของเขาหยิบยกขึ้นเป็รอยยิ้มเล็กน้อย ถัดจากนี้ไปดูซิว่าข้าจะเล่นพวกเ้าให้ถึงตายได้อย่างไร
“พวกเ้าคิดจะทำสิ่งใด?” เนี่ยหลีแกล้งทำเป็กลัว
“เ้าสารเลว ในที่สุดก็รู้จักกลัวแล้วหรือ? ข้าเห็นเ้าขัดหูขัดตามานานแล้ว วันนี้เ้ารนหาที่ตายเอง! ตีมันไม่ต้องปราณี!” เสิ่นเยวี่ยพูดด้วยเสียงดุร้าย
หกคนด้านหลังเสิ่นเยวี่ยรีบพุ่งตัวเข้ามา ดูราวกับเสือโมโหหิวตัวหนึ่ง กระโจนเข้าใส่เนี่ยหลีอย่างเต็มแรง
“ตีมัน! ตีมันไม่ต้องปราณี จนกว่ามันจะลุกขึ้นมาไม่ไหว!” ใบหน้าของเสิ่นเยวี่ยเผยความโหดร้ายและรอยยิ้มสนุกสนาน
“พวกเ้าอย่าเข้ามา ข้าจะสู้นะ!” เนี่ยหลีทางหนึ่งหลบหลีก ทางหนึ่งก็ร้องะโ “ฆ่าคนแล้ว ตระกูลเสินเซิ่งคิดฆ่าคน!” โอกาสดีเช่นนี้ เนี่ยหลีย่อมไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไป ก่อนอื่นต้องสาดโคลนใส่ตระกูลเสินเซิ่งให้มากเสียก่อน
เนี่ยหลีใช้เคล็ดวิชาลับอย่างหนึ่ง เสียงของเขาดังสนั่นราวสายฟ้า ทำให้ผู้คนปวดแก้วหู
“ให้ตายเถอะ ปิดปากเ้านั่นเสีย! เร็วเข้า ปิดปากมัน!” ได้ยินเนี่ยหลีะโ ใบหน้าของเสิ่นเยวี่ยบิดเบี้ยวแล้ว ให้ตายเถอะ เสียงะโของเนี่ยหลีได้ยินไปทั่วโรงเรียนแล้ว ยังแย่เสียยิ่งกว่าเสียงเชือดหมูเสียอีก!
ตูม ตูม ตูม!
หมัดของพวกเสิ่นเยวี่ยตกใส่ร่างกายของเนี่ยหลีราวกับหยดน้ำฝน ผู้ติดตามเหล่านี้ สามคนเป็นักสู้ระดับทองแดงหนึ่งดาว ที่เหลืออีกสามคนเป็นักสู้ระดับทองแดงสองดาว พูดตามเหตุผล แค่ไม่กี่หมัดของพวกมันก็ควรจะล้มเนี่ยหลีลงได้แล้ว ทว่าหลังจากที่เนี่ยหลีรับไปหลายหมัดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสียงร้องะโของเขายังคงดังลั่น สะท้อนก้องไปตามหมู่ตึกของโรงเรียน
“ฆ่าคน! ตระกูลเสินเซิ่งคิดจะฆ่าคน!”
น้ำเสียงทรงพลังทะลุทะลวงออกไป หมู่ตึกห้องเรียนสั่นะเืจนแทบพังทลายลงมา เพียงไม่นาน นักเรียนทั่วทั้งโรงเรียนเซิ่งหลันก็พากันตื่นตระหนก หลายคนยื่นหัวออกไปนอกหน้าต่าง ้าดูว่าเกิดอะไรขึ้น
พวกเขาชำเลืองมองคราวเดียวก็เห็นคนหกคนกำลังล้อมรอบเนี่ยหลีเอาไว้ ที่ยืนอยู่ด้านหลังคนนั้นก็คือคนของตระกูลเสินเซิ่ง เ้าเสิ่นเยวี่ย
“นั่นมิใช่เนี่ยหลีหรอกหรือ?”
“ข้าได้ยินมาว่าเนี่ยหลีขัดแย้งกับตระกูลเสินเซิ่ง!”
“ข้าได้ยินมาว่าเพราะเนี่ยหลีเปิดโปงเื่ยันต์ะเิเพลิงสีแดง ดังนั้นตระกูลเสินเซิ่งจึงส่งคนมาฆ่าเนี่ยหลี!”
“ตระกูลเสินเซิ่งช่างโเี้เกินไปแล้ว กล้ามาฆ่านักเรียนถึงในโรงเรียนเซิ่งหลันเลยหรือ!”
“เร็วเข้า รีบไปรายงานท่านอาจารย์ใหญ่!
พวกนักเรียนเริ่มพูดคุยกัน หลายคนที่เคยไม่ชอบเนี่ยหลีก็ยังอดเห็นใจมิได้ รวมถึงนักเรียนจากครอบครัวชนชั้นสูงอีกหลายคน ทุกคนล้วนไม่พอใจกับวิธีการของเสิ่นเยวี่ย ที่นี่คือโรงเรียนเซิ่งหลัน ตระกูลเสินเซิ่งกลับกล้ามาฆ่าคนในนี้เชียวหรือ? มิใช่จะไร้ขื่อไร้แปเกินไปหน่อยแล้วหรือ?
เนี่ยหลีจ้องมองเสิ่นเยวี่ยตรงหน้า มุมปากขยับยกขึ้น คิดจะเล่นงานเขา เสิ่นเยวี่ยยังอ่อนหัดเกินไป!
ขณะถูกคนทั้งหกห้อมล้อม เนี่ยหลีอาศัยท่าทางอันรวดเร็วเคลื่อนไหว หมัดของผู้ติดตามเสิ่นเยวี่ยจึงตกใส่ชุดเกราะนู่เยี่ยนของเนี่ยหลีเสียทั้งหมด ไม่เพียงไม่อาจทำอันตรายเนี่ยหลีได้ แต่ทุกคนยังาเ็เพราะแรงสะท้อนจากการจู่โจมของตนอีกด้วย ทำให้มือของพวกเขาชาด้านไปหมด กระดูกก็รู้สึกราวกับใกล้จะแตกร้าว
เนี่ยหลีทางหนึ่งหลบหลีก อีกทางหนึ่งแอบใช้หมัดเท้าจู่โจมใส่พวกเสิ่นเยวี่ย ตีจนพวกมันปากบูดปากเบี้ยวด้วยความเ็ป หากพูดตามเหตุผล ด้วยพลังของเนี่ยหลีในขณะนี้ เขาไม่น่าจะสามารถสร้างความเสียหายให้แก่นักสู้ระดับทองแดงหนึ่งดาวสองดาวพวกนี้ได้ แต่หมัดของเนี่ยหลีค่อนข้างประหลาดนัก หมัดเบาๆ ของเขายังสร้างความเ็ปได้มากกว่าถูกตีหัวด้วยไม้สักท่อนเสียอีก
“ให้ตายเถอะ เ้าพวกปัญญาอ่อน! พวกเ้าไม่ได้กินข้าวมาหรืออย่างไร?” เสิ่นเยวี่ยร้องลั่น และต่อหน้าสายตาของบรรดานักเรียนนับไม่ถ้วน เสิ่นเยวี่ยรู้สึกว่าตนเสียหน้ายิ่งนัก ผ่านไปตั้งนาน พวกเขาทั้งหกคนก็ยังไม่อาจทำให้เนี่ยหลีล้มลงได้ ทว่าเนี่ยหลีกลับยิ่งะโร้องเสียงดังลั่น
เนี่ยหลีะโขอความช่วยเหลืออย่างเดียวยังพอว่า แต่มันกลับะโบอกว่าตระกูลเสินเซิ่งคิดจะฆ่าคน ไม่ต่างกับการสาดน้ำเน่าใส่ตระกูลเสินเซิ่ง ประโยคง่ายๆ ก็ตราหน้าว่าพวกเขาเป็อาชญากร
เสิ่นเยวี่ยแทบบ้าแล้ว เวลานี้เขาถอยไม่ได้
“ตีมัน กระทืบมันเร็วเข้า!” เสิ่นเยวี่ยะโเสียงดัง
ผู้ติดตามของเสิ่นเยวี่ยคร่ำครวญไม่หยุด พวกมันพยายามเต็มที่แล้ว แต่ไม่ว่าพวกมันจะโจมตีเนี่ยหลีอย่างไร เนี่ยหลีกลับะโโลดเต้นไปทั่ว กลับเป็พวกมันที่ถูกเนี่ยหลีถูกตีจนกระดูกแทบแหลก หมัดของเนี่ยหลีดูเหมือนจะเบา แต่กลับเต็มไปด้วยกำลัง ต่อยตีจนพวกมันเนื้อตัวเขียวช้ำไปหมดแล้ว
“พวกเ้าทำอะไรกัน?” เสียงอันไพเราะร้องขึ้นอย่างดัง เงาร่างอ้อนแอ้นร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามา ที่แท้เป็เซียวหนิงเอ๋อร์
เซียวหนิงเอ๋อร์ยืนปกป้องอยู่ตรงหน้าเนี่ยหลี นางชำเลืองมองเสิ่นเยวี่ยและพวก ร่างของนางทอแสงเจิดจ้า เป็นักสู้ระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว ในมือกุมดาบสั้นสีฟ้าเล่มหนึ่ง เตรียมพร้อมลงมือทุกเวลา
“เสิ่นเยวี่ย เ้าทำเกินไปแล้ว” เสียงไพเราะน่าฟังอีกหนึ่งเสียงก็ดังขึ้น เงาร่างงดงามระหงร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านข้าง เป็เยี่ยจื่ออวิ๋น นางชำเลืองมองเสิ่นเยวี่ย “เสิ่นเยวี่ย ข้านึกไม่ถึงว่าเ้าจะเป็คนเช่นนี้!”
“เนี่ยหลี เ้าไม่เป็อะไรนะ?” เซียวหนิงเอ๋อร์และเยี่ยจื่ออวิ๋นแทบจะหันไปเอ่ยถามเนี่ยหลีพร้อมกัน
เห็นเยี่ยจื่ออวิ๋นเป็ห่วงเป็ใยเนี่ยหลี ใบหน้าของเซียวหนิงเอ๋อร์แข็งทื่อเหมือนผีดิบ นางจึงหันหน้าไปทางอื่น
เยี่ยจื่ออวิ๋นก็รู้สึกเคอะเขินเล็กน้อย หันศีรษะไปทางเสิ่นเยวี่ย
“จื่ออวิ๋น เ้าเข้าใจผิดแล้ว เื่ราวมิได้เป็อย่างที่เ้าคิดเลย!” เสิ่นเยวี่ยยากจะเอ่ยปาก เห็นแววเย้ยหยันบางตาบนใบหน้าของเนี่ยหลี เขาพลันเข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น ที่แท้เขาถูกเนี่ยหลีหลอกเอาแล้ว! เสิ่นเยวี่ยชี้หน้าเนี่ยหลีและพูดว่า “เป็เ้าสารเลวนี่ เขาจงใจหลอกพวกข้ามาที่นี่ เป็ฝีมือเ้านี่ทั้งหมด!”
“เสิ่นเยวี่ย เ้าคิดจะหลอกใครรึ?” เซียวหนิงเอ๋อร์ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ “ข้ออ้างของเ้า มิใช่จะปัญญาอ่อนเกินไปแล้วหรือ?”
ในเวลานี้ ใบหน้าของเนี่ยหลีเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา กล่าวอย่างโมโหกับเสิ่นเยวี่ยว่า “ข้ายอมรับว่าข้าล่วงเกินตระกูลเสินเซิ่งของเ้า แต่พวกเ้าไม่มากไปหน่อยหรือ กลับคิดจะมาฆ่าคนถึงในโรงเรียนเลยรึ? เ้าคิดว่าโรงเรียนเซิ่งหลันเป็สถานที่อะไรกัน? แม้ครอบครัวของข้าไม่อาจเทียบกับครอบครัวของเ้าได้ แต่ก็ไม่ใช่จะยอมให้เ้ามาข่มเหงข้าได้ง่ายๆ ข้าอยากจะเห็นนัก ตระกูลเสินเซิ่งของเ้าจะเผด็จการต่อไปได้อีกแค่ไหน! ข้า เนี่ยหลี ยอมหักไม่ยอมงอ เว้นแต่จะฆ่าข้า คิดอยากให้ข้ายอมจำนนกับคนชั่วช้าเช่นเ้า ข้าไม่มีทางยอมเด็ดขาด!”
คำพูดของเนี่ยหลีแทบทำให้เสิ่นเยวี่ยโกรธจนกระอักเืแล้ว
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี ไม่ว่าจะเป็เซียวหนิงเอ๋อร์หรือเยี่ยจื่ออวิ๋นก็อดหันไปมองเนี่ยหลีอย่างยอมรับมิได้ ในใจของเซียวหนิงเอ๋อร์เต็มไปด้วยความนับถือเนี่ยหลี
“ข้าก็ไม่ควรยอมจำนนแก่ตระกูลเสินเซิ่งเช่นกัน!” เซียวหนิงเอ๋อร์แอบคิดว่านางเกลียดตระกูลเสินเซิ่งเป็ที่สุด! ในสายตาของนาง ตระกูลเสินเซิ่งเลวทรามต่ำช้าไม่เปลี่ยน แค่การบังคับให้นางแต่งงานกับเสิ่นเฟยก็เป็ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนแล้ว!
---------------------------------------
หมี่ (米) หมายถึงเมตร
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้