อิงฉีนั่งลงตรงข้ามถังชิงหรู ดื่มน้ำชากลั้วคอ ก่อนเอ่ยปากพลางหลุบสายตา "จางหลินบอกข้าแล้ว"
"เ้าลองย้อนนึกให้ดี เมื่อปีก่อนเคยไปล่วงเกินผู้ใดเข้าหรือไม่ และคนผู้นั้นยังรู้วิชาแพทย์อีกด้วย" ถังชิงหรูไม่กล้าประวิงเวลา จึงเอ่ยถามเข้าประเด็นโดยตรง
ผู้ใหญ่เ่าั้อาจยังพอทนได้อีกสักพัก แต่เด็กๆ อ่อนแอเกินไป เกรงว่าคงฝืนได้ไม่นาน
อิงฉีดื่มน้ำชา พยายามปรับสภาพจิตใจให้สงบ และใคร่ครวญอย่างถ้วนถี่ หลังเรียบเรียงถ้อยคำได้แล้วถึงกล่าวออกมาว่า "ครึ่งปีก่อน ข้าเคยมีคนรัก เขาไม่ใช่ชาวเผ่าอิงกู ตอนนั้นเขาติดตามกองคาราวานของพ่อค้าวาณิชมาทำการค้ากับเผ่าอิงกูของเรา เนื่องจากทุกปีเผ่าอิงกูจะขายผ้าและโคแพะจำนวนมากออกไป ครั้งหนึ่งก็ยุ่งไปเป็เดือนหรืออาจนานกว่านั้น ด้วยเหตุนี้พวกเราถึงเริ่มสนิทสนมคุ้นเคยกัน ต่อมาก็พัฒนากลายเป็ความรัก แต่เขาไม่ใช่คนเผ่าอิงกู ดังนั้นมารดาข้าและทุกคนในเผ่าจึงไม่เห็นด้วยที่พวกเราจะรักกัน"
"เ้าสงสัยว่าจะเป็ฝีมือเขา?" ถังชิงหรูนิ่งคิด "มีสิ่งใดเป็หลักฐานไหมล่ะ"
"เขาเคยบอกว่าศิษย์พี่ของเขาเป็ปรมาจารย์ด้านพิษ เพียงแต่พิษของเขายังไม่มีใครสามารถแก้ได้ ตอนนั้นความสัมพันธ์ของพวกเรายังดีอยู่ มีอะไรเขาก็บอกข้าหมด" อิงฉีคลึงหน้าผาก เอ่ยด้วยความรู้สึกขมขื่น "ข้าไม่คิดว่าเขาจะโกรธแค้นข้าถึงขนาดวางยาพิษก่อนจากไป แต่หากเป็เขาทำจริงๆ คนที่สมควรตายก็คือข้าเพียงคนเดียว ไฉนทุกคนในเผ่าถึงต้องมาพลอยรับเคราะห์ไปด้วย แม้กระทั่งลูกเล็กเด็กแดงที่เพิ่งเกิดก็ยังไม่ละเว้น ข้าไม่อยากเชื่อว่าคนที่ตนเองเคยรักจะโเี้อำมหิตได้ถึงเพียงนี้"
"คนผู้นั้นตอนนี้อยู่ที่ไหน เ้าพอจะสามารถตามหาเขาได้หรือไม่" ถังชิงหรูถามเสียงเรียบ
"ข้าไม่รู้" อิงฉีสั่นศีรษะ "แต่ข้ารู้ว่าศิษย์พี่ของเขาอยู่ในเมืองชิ่ง เขาเคยบอกว่าเขามาเพื่อมาตามหาศิษย์พี่ของตนเอง"
"ที่แท้ก็เป็เช่นนี้" ถังชิงหรูรำพึงเสียงเบา "เช่นนั้นก็คงต้องกลับไปเมืองชิ่งค้นหาปรมาจารย์พิษผู้นั้น หลังจากพบแล้วถึงจะรู้องค์ประกอบของยากถอนพิษ"
"แต่ว่า... ชาวเผ่าของข้าจะอดทนได้ถึงยามนั้นหรือ" อิงฉีกุมมือถังชิงหรู "ชิงหรู ชะตาของทุกคนในเผ่าของเราคงต้องพึ่งพาเ้าแล้ว"
"ข้าสามารถกำจัดพิษในร่างกายของพวกเขาบางส่วน พอช่วยบรรเทาความทรมานได้บ้าง แต่ถ้าอยากกำจัดพิษที่เหลือทั้งหมด ก็ต้องตามหาคนผู้นั้นให้พบ ทักษะการใช้พิษของเขาสูงส่งยิ่ง ข้าศึกษาอยู่นานถึงพบว่าองค์ประกอบของมันมีมากกว่าห้าสิบชนิด ปริมาณของพิษแต่ละชนิดก็แตกต่างกัน หาก้าถอนพิษ ก็ต้องใช้สมุนไพรกำจัดพิษในปริมาณที่เหมาะสมกับพิษแต่ละชนิด ทุกสิ่งเหล่านี้มีเพียงผู้ที่สร้างมันขึ้นมาเท่านั้นถึงจะทำได้"
หากสามารถปลดล็อกระบบได้อย่างสมบูรณ์นางก็ทำได้เหมือนกัน เพียงแต่การขับเคลื่อนระบบต้องใช้จิตพิสัยจรรยาแพทย์จำนวนมหาศาล ตอนนี้นางยังขัดสนยิ่ง อาจล้มละลายได้ทุกเมื่อ ไม่มีทางที่จะสแกนองค์ประกอบขั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์
อิงฉีพาถังชิงหรูไปช่วยฝังเข็มถอนพิษให้คนในเผ่าเ่าั้ นางปล่อยโลหิตพิษของพวกเขาออกมาส่วนหนึ่ง แม้ว่าหลังจากนั้นสีหน้าของพวกเขาจะดีขึ้นมาบ้าง แต่เวลายิ่งนานไป หากพิษยังไม่ถูกขับออกมาให้หมด พิษที่คงอยู่ก็สามารถแพร่กระจายต่อไปได้อีก ตอนนี้นางทำได้เพียงแค่ถ่วงเวลามิให้พิษกำเริบเท่านั้น
ตอนขามาพวกเขาใช้รถม้า แต่ขากลับจำเป็ต้องขี่ม้า จางหลินต้องรั้งอยู่ช่วยอิงฉีดูแลคนในเผ่า เนื่องจากคนที่เหลือต่างล้มหมอนหนอนเสื่อกันหมด หากเกิดเหตุร้ายอันใด แม้แต่คนช่วยสักคนก็ไม่มี ยามถังชิงหรูกับเฉินิกลับไปถึงเมืองชิ่ง นางหาได้กลับไปที่บ้านของตนเอง แต่ตามเฉินิไปที่จวนชิ่งอ๋อง
พ่อบ้านหลินเห็นทั้งสองสมัครสมานกลมเกลียวกันดี ใบหน้าก็ผุดรอยยิ้มด้วยความดีใจ ถังชิงหรูเป็สตรีเพียงคนเดียวที่เฉินิสามารถถูกเนื้อต้องตัวได้ ขอแค่นางยินยอม เฉินิสามารถแต่งนางเข้ามาเป็ชายารอง ต่อไปก็จะได้แตกกิ่งก้านสาขามีทายาทสืบสกุล
"ท่านพ่อบ้านลองไปสอบถามให้รู้ความ ในเมืองชิ่งของเรามีปรมาจารย์ด้านพิษบ้างหรือเปล่า" เฉินิกล่าวกับพ่อบ้านหลิน
"ปรมาจารย์ด้านพิษ?" พ่อบ้านท่าทางลังเล "ท่านอ๋อง ท่านถูกพิษหรือขอรับ? แม่นางถัง...."
ถังชิงหรูถลึงตาใส่เฉินิก่อนเอ่ยว่า "แค่พูดยังพูดไม่รู้เื่ มิน่าเล่าถึงถูกเข้าใจผิด เื่มันเป็อย่างนี้ พวกเราเพิ่งไปเผ่าอิงกูกันมา แต่ที่นั่นดันเกิดเื่ ทุกคนในเผ่าถูกวางยาพิษจนล้มระนาว ตามที่ข้าวินิจฉัยได้ พิษชนิดนี้เป็พิษออกฤทธิ์ช้า และถูกวางไว้ั้แ่เมื่อครึ่งปีก่อน ข้าถามหัวหน้าเผ่าคนใหม่ดูแล้ว นางบอกว่าเคยล่วงเกินคนผู้หนึ่ง คนผู้นั้นมีศิษย์พี่ที่ชำนาญด้านพิษ ทั้งยังอยู่ในเมืองชิ่ง"
"บ่าวอยู่เมืองชิ่งมานาน ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีปรมาจารย์พิษ" พ่อบ้านหลินเอ่ยอย่างงุนงง "บ่าวคิดว่า แม้ว่าคนผู้นี้จะมีอยู่ แต่ก็คงมิให้ใครรู้ ปรกติคนประเภทนี้จะไม่ชอบสุงสิงกับใคร มักปลีกวิเวกใช้ชีวิตอยู่ในที่ไกลห่างจากผู้คน หากไม่ยอมออกมาปรากฏตัว ก็จะไม่มีใครรู้ที่อยู่ของเขา
"พ่อบ้านกล่าวมาไม่ผิด คนประเภทนี้มักตามหาตัวยาก" เฉินิมุ่นคิ้วขมวด "แต่คนของเผ่าอิงกูรอนานขนาดนั้นไม่ได้ ตอนนี้จะทำอย่างไรกันดี"
"เมื่อตามตัวยากนัก ก็ให้เขามาหาพวกเราเองเลยสิ" ถังชิงหรูหัวเราะเบาๆ "ยอดฝีมือในแขนงวิชาเหล่านี้ต่างมีความทะนงตนกันทั้งนั้น พวกเขามั่นใจในพิษที่ตนเองคิดค้นขึ้น หากข้าปล่อยข่าวออกไปว่ามีหมอเทวดาซึ่งเพิ่งมาคนหนึ่ง... ไม่เพียงแต่สามารถรักษาโรคให้คน ยังสามารถถอนพิษประหลาดได้ทุกอย่างในใต้หล้า ท่านว่าเขาจะออกมาหรือไม่"
"หากเ้าปล่อยข่าวออกไปแบบนี้ ต่อให้เขามา เ้าก็อาจมีอันตราย ลองใคร่ครวญให้ดีๆ ว่าจะปล่อยข่าวออกไปเยี่ยงนี้จริงหรือ" แววตาล้ำลึกของเฉินิอาบย้อมไปด้วยความวิตกกังวล แต่ถึงกระนั้นใจเขาก็ยังรู้สึกยกย่องนับถือสตรีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ถึงกับยอมเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือผู้คน
นางเป็คนดีขนาดนี้เชียวหรือ? มิน่าเล่าพระเชษฐาถึงบอกว่านางพิเศษมาก ให้ตนเองปฏิบัติต่อนางอย่างดี
ประชาชนเมืองชิ่งยังคงร่ำลือถึงหมอเทวดาในตำนาน ตอนนี้นางขึ้นชื่อว่าเป็หมอที่จิตใจประเสริฐและมีเมตตา ถังชิงหรูมอบหมายหน้าที่การปล่อยข่าวลือให้แก่เฉินิ ก่อนกลับไปทำหน้าที่หมอเทวดาของตนเองต่อไป รอให้เหยื่อมาติดกับ
ในโรงหมอสุขสราญ ถังชิงหรูออกเทียบยาให้กับแม่เฒ่าที่อยู่ตรงหน้า พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ท่านกินยานี้เพียงไม่กี่เทียบก็ไม่มีปัญหาแล้ว ต่อไปถ้าเป็อันใด ก็ไม่ต้องมาอีก"
"ท่านหมอเทวดา..." แม่เฒ่าจับมือของถังชิงหรูไว้ พลางจ้องมองนางด้วยความซาบซึ้งใจ "ขอบคุณท่านหมอมาก... ขอบคุณท่านหมอมากเ้าค่ะ"
"ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้" ถังชิงหรูดึงมือออกมาจากแม่เฒ่า พลางหันไปกล่าวกับหวนเอ๋อร์ "ยาของท่านป้าผู้นี้มิต้องคิดเงิน ไปหยิบสมุนไพรอย่างดีที่สุดให้นาง"
"เ้าค่ะ" หวนเอ๋อร์รีบเข้าไปประคองแม่เฒ่า ก่อนพานางไปหยิบโอสถ
คนไข้ที่อยู่ด้านหลังกระซิบกระซาบคุยกัน เมื่อเอ่ยถึงถังชิงหรูทุกคนต่างชื่นชมมิขาดปาก อย่างไรเสียไม่ว่าจะในอดีตหรือต่อไปในภายภาคหน้า การจะได้พบกับหมอที่มีพร้อมทั้งความสามารถสูงส่ง และกอปรไปด้วยจิตใจอันประเสริฐสักคนก็ยากยิ่งนัก พวกเขาโชคดีที่มีโอกาสได้พบกับพระโพธิสัตว์เดินดินเช่นนี้
"หยูกยาที่จ่ายออกไปในแต่ละวันคงมีไม่น้อย แต่เขาไม่รับเงินของพวกเราเลย หากเป็เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ โรงหมอแห่งนี้จะอยู่ได้หรือ" มีคนเอ่ยขึ้นมาอย่างวิตกกังวล
"เื่นี้ก็พูดยาก แม้ท่านหมอจะรับเงินจากคนชั้นสูงและคหบดีเ่าั้ แต่กลับไม่รับเงินจากชาวบ้านตาดำๆ อย่างพวกเราแม้แต่แดงเดียว เมื่อก่อนยังแค่ไม่เก็บค่ารักษา เดี๋ยวนี้แม้แต่ค่าสมุนไพรก็เริ่มไม่รับแล้ว หากเป็เช่นนี้ต่อไป โรงหมอสุขสราญก็คงจะรับภาระไม่ไหวสักวัน พี่น้องทุกคน ท่านหมอเป็ผู้คนใจบุญสุนทาน พวกเราต้องรู้จักสำนึกบุญคุณ เพื่อให้ท่านหมอสามารถเปิดโรงหมอต่อไปได้ หากบ้านของผู้ใดพอมีเงินเหลืออยู่บ้าง ก็อย่าเอารัดเอาเปรียบ" มีคนผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น "ต่อให้ไม่มีเงินเหลือ ส่งไข่ไก่หรือผักสดมาให้บ้างก็ยังดี"
ถังชิงหรูได้ยินชาวบ้านเ่าั้สนทนากัน ก็มิได้ใส่ใจนัก ตอนนี้นางมีชิ่งอ๋องเป็ลูกค้ารายใหญ่ ย่อมไม่ขาดแคลนเงินทอง แต่การที่พวกเขามีความคิดอ่านเช่นนี้ ก็ทำให้นางรู้สึกดีใจ อย่างไรเสียนางก็ทำความดีได้ แต่ก็มิอาจยอมรับหากผู้อื่นคิดว่าการทำความดีของนางคือสิ่งที่สมควรตามเหตุผล หรือไม่รู้สำนึกบุญคุณทั้งที่ตนเองได้รับผลประโยชน์
"คนต่อไป..." จิ่นเอ๋อร์เตรียมอุปกรณ์การแพทย์ทั้งหมดวางไว้ด้านข้างให้ถังชิงหรู อุปกรณ์บางอย่างจำเป็ต้องสะอาดอยู่เสมอ ดังนั้นนางกับหวนเอ๋อร์ล้วนต้องช่วยเป็ลูกมือจัดการให้ ถังชิงหรูเงยหน้าขึ้น ก็เห็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งเข้านั่งอยู่ตรงหน้า
เขาสวมอาภรณ์ตัวยาวงามหรูสีน้ำเงินปักลายไผ่ แลดูเปี่ยมไปด้วยสง่าราศี มาถึงก็ไม่พูดไม่จาสักคำ คิ้วกระบี่คมเข้มแสดงถึงอำนาจโดยปราศจากโทสะ ดวงเนตรเรียบเฉยและเ็าประดุจน้ำบ่อลึกยามเหมันต์ ชวนให้มองไม่ออกว่าซ่อนเร้นสิ่งใดอยู่ภายใน เพียงแต่ใบหน้าค่อนข้างขาวซีด เห็นชัดว่าสุขภาพไม่แข็งแรงนัก
เขายื่นมือออกมาให้ถังชิงหรู หลังจากจับชีพจร หัวคิ้วของนางก็ขมวดเข้าหากัน นางมองบุรุษตรงหน้า สีหน้าเผยความรู้สึกยุ่งยากใจ "คุณชายต้องพิษ"
ชายหนุ่มแสยะยิ้ม กล่าวเสียงเรียบ "แล้วอย่างไรเล่า"
"ในร่างกายของท่านมีพิษร้ายแรงสิบห้าชนิดทั้งยังผสานรวมกันจนกลายเป็พิษตัวใหม่ซึ่งน่ากลัวที่สุด ท่านมีชีวิตมาถึงตอนนี้คงเป็เพราะกินพิษเข้าไปทุกวัน เพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของตนเอง"ถังชิงหรูกล่าวเรียบๆ "เช่นนั้น... ท่านมาหาข้าทำไม ถอนพิษ หรือว่า... ประชันพิษ? ข้าคงมิได้กล่าวผิดกระมัง ท่านปรมาจารย์พิษ"
ชายผู้นั้นรั้งมือกลับ มองหนุ่มน้อยตรงหน้าอย่างพินิจ
ในความเห็นของเขา หมอเทวดาผู้นี้อายุแค่สิบกว่าปี ทั้งยังผอมบางตัวก็เล็กนิดเดียว ดูแล้วไม่มีส่วนไหนโดดเด่นเป็พิเศษ แต่ชื่อเสียงกลับโด่งดังไปทั่วเมือง เป็ที่เลื่อมใสศรัทธาของคนจำนวนมาก ไม่ว่าเขาจะมีพร์แท้จริงหรือเป็พรแสวง ดีโดยเนื้อแท้หรือฝักใฝ่ในลาภยศสรรเสริญ แค่ตนเองมาลองทดสอบดู ก็จะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็คนประเภทไหน
ดูจากเพลานี้ น่าจะมีความสามารถอย่างแท้จริง เพียงแต่การที่นางกล้าอวดอ้างว่าสามารถถอนพิษได้ทุกอย่างในโลกหล้า เป็การยั่วยุโทสะของเขาอย่างแรง ั้แ่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยังไม่เคยมีใครกล้าโอหังขนาดนี้
"เ้าอวดอ้างว่าตนเองสามารถแก้พิษประหลาดได้ทุกอย่างมิใช่หรือ" ชายหนุ่มผู้เป็ปรมาจารย์พิษคว้าข้อมือของถังชิงหรูไว้ พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น "อยากรู้นักว่าเ้าจะมีความสามารถจริงดังว่าหรือเปล่า ตอนนี้เ้าถูกข้าวางยาพิษแล้ว ดูซิว่าจะมีปัญญาแก้พิษให้ตนเองได้หรือไม่"
"หากข้าสามารถแก้ได้ ท่านจะรับปากข้าสักหนึ่งเงื่อนไขได้หรือไม่เล่า" ถังชิงหรูหันไปบอกจิ่นเอ๋อร์กับหวนเอ๋อร์ "วันนี้ไม่ตรวจแล้ว ไปบอกกับคนไข้ทุกท่านว่าพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่"
"เ้าค่ะ" จิ่นเอ๋อร์กับหวนเอ๋อร์รู้สึกตื่นตระหนกั้แ่ชายคนนั้นเริ่มเอ่ยปาก แม้ว่าคนไข้อื่นๆ จะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มองออกว่าบรรยากาศแลดูตึงเครียด
หลังคนไข้ไปกันหมดแล้ว จิ่นเอ๋อร์กับหวนเอ๋อร์ก็กลับมาอยู่ข้างกายถังชิงหรู พวกนางปิดประตูให้สนิท ยามนี้ในห้องจึงมีเพียงพวกเขาสี่คน
หลีซูมองโรงหมอสุขสราญอย่างพินิจ สายตากวาดมองสาวใช้สองคน "ข้ากำลังขาดคนลองยาอยู่พอดี ให้พวกนางอยู่เป็หนูทดลองดีหรือไม่"
"พวกเ้าถอยไปก่อน" ถังชิงหรูกล่าวกับสาวใช้สองคน
"คุณชาย..." จิ่นเอ๋อร์รู้สึกเป็ห่วงที่ถังชิงหรูต้องอยู่กับบุรุษที่น่ากลัวขนาดนี้แบบสองต่อสอง คนผู้นี้ดูเหมือนมิใช่คนดี เกรงว่าจะมีเจตนาร้าย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้