เก่อเจี้ยนอยากทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ทันทีที่เซี่ยเสี่ยวหลานออกคำสั่ง เขาก็ลงมือโดยไม่คำนึงถึงมนุษยธรรม
ด้วยแรงหมัดที่สามารถต่อยเนื้อหมูผ่านหนังวัวให้เละได้ การจะหักมือนั้นไม่จำเป็ต้องพึ่งพาเครื่องมือเลยสักนิด แต่เก่อเจี้ยนนึกได้ว่าคนพวกนั้นใช้วิธีเหยียบ เขาจึงยกเท้าขึ้นบ้าง หนึ่งเท้าสำหรับหนึ่งราย กระทืบจนมือของทั้งสี่คนหัก! ในปากมีของยัดเอาไว้ เสียงกรีดร้องอันน่าสังเวชจึงถูกอุดกั้น ตอนแรกหายใจรวยริน ในเวลานี้กลับเ็ปเสียจนสติกลับคืนมา
เซี่ยเสี่ยวหลานเห็นใจแม้แต่น้อย เก่อเจี้ยนยกเก้าอี้ให้เธอหนึ่งตัว เธอจึงนั่งอยู่ในบริเวณใต้เงาร่ม
นี่คือสิ่งที่เรียกว่า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน แต่มันยังไม่พอ!
เธอไม่รู้จักคนพวกนี้เลยสักคนเดียว ไร้ซึ่งความเกลียดชังและคับแค้น เหตุใดพวกเขาถึงอยู่ร่วมโลกกับเธอดีๆ ไม่ได้ ต้องเป็เพราะถูกบงการแน่นอน
หลังจากหักมือของคนทั้งสี่ หนึ่งรายที่เหลือน่าจะรู้ซึ้งแล้วว่าอะไรคือหวาดกลัว สี่คนนั้นนอนขดตัวไปมาบนพื้นด้วยความเ็ป เก่อเจี้ยนหิ้วคนที่สภาพดีมา อีกฝ่ายใกลัวจนตัวเหลวกลายเป็เลน คนพวกนี้ไม่ใช่คนดีอะไรอยู่แล้ว ทำตามคำสั่งเพราะรับประโยชน์จากผู้อื่นมา ยามท้าต่อยท้าตีะโโห่ร้อง ยามคะนองจองหองเสียงดังฟังชัด พอเจอะคนที่เหนือกว่าพวกเขาเองก็ขี้ขลาดตาขาว!
สมญานามคือขอแค่จ่ายเงินพอ ไม่มีเื่ใดที่ทำไม่สำเร็จ
นั่นเป็เพราะไม่เคยเจอคนเหี้ยมที่เอาชนะห้าคนด้วยตัวคนเดียวได้ ส่วนหญิงสาววัยรุ่นอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานผู้นี้ ที่สั่งหักมือคนโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย ถือเป็ความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรงต่อเหล่าอันธพาลเช่นกัน
“พอแล้ว ลองถามพวกเขาดู”
เก่อเจี้ยนกระชากหัวอีกฝ่ายขึ้นมา “ถ้าไม่ตอบให้ดี คนที่จะโดนหักมือคนต่อไปก็คือแก คนอื่นมือหักแค่ข้างเดียว แกจะหักทั้งสองข้าง ใครใช้ให้แกหักหาญน้ำใจของคุณผู้หญิงเซี่ยล่ะ!”
ว่าแล้วก็ดึงของที่อุดอยู่ในปากออกมา อีกฝ่ายหอบหายใจเฮือกใหญ่
“น้ำ ฉันขอดื่มน้ำ...”
ท่ามกลางเดือนกรกฎาคม พวกเขาตากแดดเป็เวลาหลายชั่วโมง ความรู้สึกกระหายน้ำช่างทรมานเหลือจะทน
เก่อเจี้ยนบีบคอของเขา “ตอบคำถามของคุณผู้หญิงเซี่ยมาตามความจริงเสีย”
คอแห้งผากราวกับมีไฟกำลังลุกไหม้ วิงเวียนศีรษะดวงตาพร่าลายจากการตากแดด มือของเหล่าพวกพ้องที่โดนหักบิดเบี้ยวเป็มุมพิสดาร บ่งบอกว่ามันหักแล้วจริงๆ
วิสัยทัศน์ของนักเลงพร่ามัวแล้ว แม้พยายามหรี่ตามองก็เห็นเซี่ยเสี่ยวหลานซึ่งนั่งอยู่ตรงนั้นได้ไม่ชัดเจนอยู่ดี
ช่างเป็เด็กสาวที่สะสวยมากคนหนึ่ง แต่เธอเหี้ยมโหดเสียเหลือเกิน ความน่ารังเกียจที่สุดก็คือคนที่จ้างพวกเขามาบอกว่าเป็เพียงนักเรียนหญิงมัธยมปลายธรรมดา ไม่มีภูมิหลังหรือผู้หนุนหลัง พอเกิดเื่ก็ต้องจำใจยอมรับเคราะห์กรรมไว้เอง!
เงินจำนวน 1000 หยวน ทุกคนจะได้ส่วนแบ่ง 200 หยวน แค่สร้าง 'อุบัติเหตุทางถนน' และลงมือโดยอาศัยความโกลาหล
นี่คือวิธีการของพวกอันธพาลชั้นต่ำ เมื่อก่อนก็เคยใช้มาไม่ใช่น้อย วางแผนมาอย่างดี กลับคาดไม่ถึงว่าเด็กสาวมัธยมปลายคนนี้... ไม่ใช่คนที่จะยอมกลืนความขมขื่นไว้กับตนเองโดนสิ้นเชิง!
“ใช่... มีคนจ่ายเงินให้พวกเราสั่งสอนเธอ...ถ้าหักมือสำเร็จจะจ่ายให้พวกเรา 1000 หยวน และเพิ่มเงินให้อีกเมื่อพิการตลอดชีวิต”
1000 หยวน!
การควบรวมกิจการครั้งสุดท้ายที่เซี่ยเสี่ยวหลานทำสำเร็จก่อนเกิดใหม่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านหยวน และเธอใช้มือขวาในการลงชื่อบนสัญญา
หลังจากเกิดใหม่ พอเปลี่ยนร่างกายแล้ว มือขวาของเธอเซี่ยเสี่ยวหลานก็ไร้ค่าหรือ?
ในชีวิตที่แล้ว เธอทำงานให้บริษัท
สำหรับชีวิตนี้ เธอเชื่อว่าจะสามารถทำสัญญาธุรกิจที่มีมูลค่า 100 ล้านหยวนหรือมากกว่านั้นเพื่อตัวของเธอเองได้! ในขณะที่คนพวกนี้เกือบทำลายมือขวาของเธอเพื่อเงินแค่ 1000 หยวน
เซี่ยเสี่ยวหลานแสยะยิ้ม “คนที่ให้เงินจ้างวานพวกแกทำงาน พาตัวออกมาได้ไหม?”
เมื่อนักเลงมองเห็นแขนที่เข้าเฝือกของเธอ เขาก็พยักหน้าตอบรับด้วยความรู้สึกที่ยากลำบาก
ทำไมถึงเก็บเขาไว้ แน่นอนว่าจะตามหาคนที่จ้างพวกเขาก่อเื่ หลังจากตามตัวพบ พวกเขาก็คงไม่มีจุดจบอันดีเหมือนกัน แต่ถ้าไม่หาในตอนนี้ จะไม่มีจุดจบอันดีในทันที รู้ทั้งรู้ว่าเป็การดื่มยาพิษเพื่อดับกระหาย [1] ก็ไม่มีหนทาง ตอนนี้เขาแค่วิงวอนให้ได้ดื่มน้ำสักอึกเท่านั้น!
แม้ไม่รู้จักชื่อของคนคนนี้ แต่จำลักษณะท่าทางของนายจ้างได้
พอเซี่ยเสี่ยวหลานได้ฟังการบรรยายรูปลักษณ์แล้ว เธอรู้สึกคุ้นเคย แต่ใช่หรือไม่นั้นต้องรอเจอตัวจริงก่อนถึงจะรู้
นักเลงบอกว่าตกลงจ่ายเงินส่วนที่เหลือหลังทำภารกิจสำเร็จสิ้น โดยนัดพบกันที่ตรอกหลังโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในฝั่งใต้ของเมืองมณฑล ตรงนั้นในตอนกลางคืนไม่ปรากฏให้เห็นแม้กระทั่งเงาของผีสางด้วยซ้ำ เหมาะกับทำสิ่งที่น่าละอายแก่ใจพอดิบพอดี เงียบเชียบเปลี่ยวร้างมาก
และเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสำเร็จ เวลานัดพบจึงไม่แน่นอน ทว่าเมื่อทำสำเร็จแล้วจะผูกผ้าสีแดงไว้บนเสาไฟฟ้าในตรอก พอเห็นแถบผ้าแดงนี้ ก็รู้ทันทีว่ามีนัดกันตอนสามทุ่ม
แผนการเหล่านี้ถูกวางไว้อย่างแยบยลทีเดียว
ส่งคนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในตอนนี้ ขอให้ตำรวจคอยเฝ้าตรงนั้น ถึงเวลาใครมาตามนัด คนนั้นก็คือผู้บงการหลังม่าน
ดูเหมือนว่าลงโทษอีกฝ่ายได้แล้วรึ?
ไฟโทสะในหัวใจของเซี่ยเสี่ยวหลานยังคงแผดเผาอย่างรุนแรง เธอไม่พอใจกับวิธีการแบบนี้อีกต่อไปแล้ว เธอแค่กระดูกร้าว แม้ส่งผลกระทบต่อการเขียนหนังสือ แต่โดยรวมแล้วถือเป็อาการาเ็เล็กน้อย บางทีโทษทัณฑ์ของอีกฝ่ายอาจไม่หนักหนา
ขังคุกสองปีก็ปล่อยออกมา เสี่ยวหลานยังคงโกรธไม่เสื่อมคลาย!
เธอไม่ยินยอมกลั้นไว้กับตนเอง เช่นนั้นก็ต้องระบายความอัดอั้นนี้ออกมา เลี่ยงไม่ให้ตนรู้สึกเป็ทุกข์จากการฝืนทน
“แกยังไม่ได้พูดความจริง ฉันไม่เชื่อว่าพวกแกจะรับเงินแค่ครึ่งเดียวโดยไม่สืบเสาะรายละเอียดของนายจ้าง ถ้าเชิดหนีหลังจบงาน พวกแกจะไปตามหาเ้าตัวที่ไหน?”
นักเลงอึกอัก ผ่านไปนานสองนานก็ยังปั้นเหตุผลที่เข้าท่าไม่ได้
นักเรียนหญิงคนนี้ไม่เพียงแต่ใจเหี้ยม เธอหลอกยากอีกด้วย!
คนจ้างวานกลัวว่าพวกนักเลงหัวไม้รับเงินแล้วจะไม่ทำงาน ดังนั้นจึงจ่ายครึ่งเดียว
คนรับเงินกลัวว่าจะไม่ได้เงินอีกครึ่งหลังปฏิบัติภารกิจสำเร็จ ต่างฝ่ายต่างไม่เชื่อใจกัน เซี่ยฉางเจิงหลงนึกว่าตนจัดการได้มิดชิดเรียบร้อย กะอีแค่ถ่อจากเขตเหนือมาจ้างวานคนถึงเขตใต้ก็ไร้ร่องรอยแล้วหรือ? พวกนักเลงไม่ได้โง่ ถ้าไม่สืบค้นภูมิหลังของเซี่ยฉางเจิงก่อน ใครจะรู้ว่าพวกเขาต้องต่อกรกับคนประเภทใด?
เซี่ยฉางเจิงเป็เ้าของแผงลอยเล็กๆ ในเขตเหนือของเมือง แผงลอยนี้ถูกตั้งมาเพียงสองเดือน ไม่มีทางจะสหายหายไปในชั่วพริบตา นี่คือเหตุผลที่พวกนักเลงเต็มใจรับ ‘ข้อเสนอ’ นี้
และคนที่จะกินแหนงแคลงใจกับพ่อค้าแม่ขายแผงเร่ก็ไม่มีทางเป็บุตรสาวของบุคคลสำคัญ พวกเขาถึงกล้าลงมือ!
เก่อเจี้ยนกำลังจะหักมือของคนคนนี้ทิ้ง เซี่ยเสี่ยวหลานยั้งเขา
“เก็บเขาไว้ก่อน ตอนกลางคืนยังมีประโยชน์อยู่!”
ตั้งแผงขายอาหารว่าง นอกจากเซี่ยฉางเจิง ไม่มีใครอื่นอีกแล้ว
เซี่ยเสี่ยวหลานสอบสวนคนร้ายเสร็จแล้วถึงออกไปรับประทานอาหาร เมื่อครู่แม่สามีน้าหวงได้ยินว่าด้านหลังมีเสียงดัง กระทั่งลอบมองยังยาก เซี่ยเสี่ยวหลานคือเด็กสาวที่รู้จักความเหมาะควร คงไม่ฆ่าคนหลังร้านร้านสินะ?
คนพวกนั้นทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานมีสภาพเช่นนี้ สมควรที่จะถูกซ้อมยกใหญ่!
“มามามา หิวแล้วใช่ไหม มากินข้าวเถอะ”
เป็เื่ยากที่จะใช้ตะเกียบคีบบะหมี่ ทว่าสามารถใช้มือซ้ายถือช้อนตักข้าวราด
เซี่ยเสี่ยวหลานเรียกให้เก่อเจี้ยนออกมากินข้าวด้วยกัน เก่อเจี้ยนก้มหน้าก้มตา “คุณผู้หญิงเซี่ย จัดการเื่นี้จบเมื่อไร ผมจะกลับไปหยางเฉิง”
ผู้ว่าจ้างได้รับาเ็ เก่อเจี้ยนไม่มีหน้าจะทำงานเป็ผู้คุ้มกันอีกต่อไป เขาทำให้สำนักตระกูลไป๋ขายขี้หน้า และทรยศความหวังดีของหลี่ต้งเหลียง
งานแบกหามกระสอบอาจเหมาะกับเขามากกว่า
“ไม่ต้องรีบเื่กลับหยางเฉิงหรอก ฉันสอบเกาเข่าเสร็จก็ต้องไปเหมือนกัน เก่อเจี้ยน คราวนี้คนมีเจตนาลงมือกับคนไม่ระวัง ไม่ใช่ความผิดของคุณทั้งหมด แต่คุณต้องโดนหักเงินเดือนนะ คุณยอมรับการลงโทษนี้หรือไม่?”
แค่หักเงินเดือน?
เก่อเจี้ยนเงยหน้า คุณผู้หญิงเซี่ยยังอยากจ้างเขาอยู่อีกหรือ!
เก่อเจี้ยนพยักหน้าสุดแรงโดยไม่ถามด้วยซ้ำว่าจะหักเงินเดือนเท่าไหร่
งานดีๆ แบบนี้ อันที่จริงเขาไม่ได้อยากเสียไป การติดตามข้างกายคุณผู้หญิงเซี่ยทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง กำลังซึบซับอิทธิพลทีละเล็กทีละน้อย
----------------------------------------
ท้องฟ้ามืดมนถนนไร้แสงสว่าง เซี่ยฉางเจิงคลำกำแพงเดินเข้าไปในตรอก
เขายังขบคิดอยู่เลย ถ้าไม่เห็นอาการาเ็ของเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยตาตนเอง เขาจะไม่จ่ายอีก 500 หยวนที่เหลือ... จู่ๆ ก็มีแสงไฟฉายสาดส่องใส่ใบหน้าของเขา มีคนหนึ่งโผล่ออกมา จับเขาทุ่มลงกับพื้น ใช้ท่อนเหล็กขนาดใหญ่โหมฟาดแขนของเขาไม่ยั้ง—เจ็บจนจะตายให้ได้! เซี่ยฉางเจิงรู้สึกว่ากระดูกของตนแหลกละเอียด เนื้อเละเทะ พอภาพตรงหน้าดับลงก็หมดสติไปทันที
เชิงอรรถ
[1]饮鸩止渴 ดื่มยาพิษดับกระหาย หมายถึง หาหนทางแก้ไขปัญหาปัจจุบันให้เร็วที่สุดโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาในภายหลัง