ตอนกลางคืน หลังจากกิจกรรมอันร้อนแรงผ่านไปแล้วหลินเยว่จึงกอดฉินเหยาเหยาเข้ามาในอ้อมกอดของตน เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ตอนนี้ก็สบายใจได้แล้วใช่ไหมล่ะ?”
“อืม”
ฉินเหยาเหยานอนซุกอยู่บนหน้าอกของหลินเยว่เธอกำลังฟังเสียงหัวใจเต้นอย่างเป็จังหวะของเขาจึงได้แต่ตอบ “อืม” เบาๆเธอไม่รู้เหมือนกันว่าเป็เพราะเหตุใดที่เสียงหัวใจเต้นของหลินเยว่จึงทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยเช่นนี้ราวกับว่าถึงแม้ว่าแผ่นฟ้าจะถล่มลงมา แต่ไม่ว่าอย่างไรผู้ชายที่กำลังกอดเธออยู่ก็ต้องช่วยค้ำเอาไว้อย่างแน่นอนเธอไม่จำเป็ต้องกังวลกับเื่ใดๆ เลยความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยเช่นนี้ทำให้เธอมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
“อืม นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ขึ้นเขาไปเป็เพื่อนเราหน่อยนะเราจะไปวัดลัทธิเต๋าที่ตั้งอยู่บนเขาน่ะ”
หลินเยว่อุ้มร่างอ่อนปวกเปียกของฉินเหยาเหยามาวางไว้เบื้องหน้าของตนเองแล้วกอดเธอไว้พร้อมกับหลับตาลงอย่างช้าๆ
“ค่ะ”
ฉินเหยาเหยารู้สึกว่าตนเองเพลียมากเธอยังไม่ทันได้ถามหลินเยว่ว่าทำไมถึงต้องขึ้นเขาเพื่อไปวัดแห่งนั้น เธอได้แต่ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหาท่านอนที่สบายแล้วค่อยๆหลับใหลตามไป
เช้าวันถัดมากว่าที่หลินเยว่และฉินเหยาเหยาจะตื่นขึ้นมาบิดามารดาของหลินเยว่ก็ได้เตรียมอาหารเช้าไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ระหว่างรับประทานอาหารเช้าหลินเยว่พบว่าบิดาของตนเองมีสีหน้ากังวลดูเหมือนว่าเขากำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่บางอย่างอยู่ หลินเยว่จึงถามขึ้นมา “พ่อ่นี้บ้านเรามีเื่อะไรหรือเปล่า? ผมว่าสีหน้าพ่อดูไม่ค่อยดีเลย”
“ไม่ใช่เื่ของบ้านเราแต่เป็เื่ของหมู่บ้านน่ะ”
คุณพ่อของหลินเยว่รู้สึกว่าหลินเยว่ไม่ใช่เด็กน้อยอีกแล้วดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็ต้องปิดบังเื่ต่างๆ กับหลินเยว่
“เื่ของหมู่บ้าน?” หลินเยว่อึ้งไปชั่วขณะแล้วถามต่อ “เป็เื่อะไรหรอ?”
“ก็เื่การดึงดูดเงินลงทุนจากนักลงทุนน่ะสิูเาหลังหมู่บ้านของพวกเราสวยไม่เลวเลย แล้วก็ถือว่าเป็ส่วนหนึ่งของหมู่บ้านพวกเราด้วยเมื่อสองสามวันก่อนมีนักธุรกิจกลุ่มหนึ่งสนใจพื้นที่ตรงนั้น พวกเขาคิดจะทำเป็โครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อเป็แหล่งท่องเที่ยวเมื่อวานพ่อขึ้นไปบนเขาเป็เพื่อนพวกเขา วิวบนูเาสวยมากเลยล่ะแล้วยังมีกลิ่นอายความเป็ป่า มีความเป็ธรรมชาติสูงมากอีกด้วย จึงสอดคล้องกับเงื่อนไขในการบุกเบิกพัฒนาของพวกเขา”
“แต่ว่าเส้นทางมาที่หมู่บ้านของพวกเราไม่มีความพร้อมเลยจริงๆแค่เดินเข้าออกตามปกติก็ยังลำบากแล้วเลย หากเป็เวลาฝนตกก็ยิ่งเข้าออกไม่ได้เข้าไปใหญ่กลุ่มนักธุรกิจเ่าั้พูดไว้แล้วว่า หากหมู่บ้านพวกเราหรือทางอำเภอสามารถสร้างถนนตัดผ่านมาถึงหมู่บ้านพวกเราโดยตรงพวกเขายินดีที่จะลงทุนสร้างเป็แหล่งท่องเที่ยว แต่ว่าการสร้างถนนไม่ใช่เื่ที่จะทำกันได้ง่ายๆหมู่บ้านพวกเราร้องขอไปหลายครั้งแล้ว พ่อกับอดีตผู้ใหญ่บ้านวิ่งรอกจนขาแทบหลุดแต่เบื้องบนก็ยังคงไม่อนุมัติเงินสำหรับการสร้างถนนลงมาสักทีได้แต่บอกว่าให้พวกเรารอไปก่อน แต่การรอครั้งนี้กลับรอกันมาเป็สิบกว่าปีนายอำเภอเปลี่ยนกันมาหลายสมัยแล้ว แต่ถนนก็ยังเป็ถนนเส้นเดิม เื่นี้น่ะมันยากจริงๆ!”
ขณะที่พูด คุณพ่อของหลินเยว่ก็ถอนหายใจหนักๆหลายครั้ง
ทั้งๆ ที่เื่นี้เป็ประโยชน์ต่อประเทศชาติและเป็ประโยชน์ต่อประชาชนแต่ทว่าเบื้องบนกลับยังไม่ยินยอมที่จะอนุมัติเงินก้อนนี้สักที
“ลูกดูสิ หลายปีมานี้หมู่บ้านของพวกเราถึงได้มีลูกที่จบชั้นมหาวิทยาลัยเพียงคนเดียวเด็กจำนวนมากเรียนจบชั้นประถมก็เลิกเรียนแล้วก็ออกมาหางานทำกันหมดแล้ว หากเป็แบบนี้ต่อไปพวกเราในหมู่บ้านรุ่นแล้วรุ่นเล่าก็คงต้องยากจนต่อไป......”
เมื่อคุณพ่อของหลินเยว่ได้พูด เขาก็ร่ายยาวออกมาและในที่สุดเขาก็ได้หาใครสักคนที่ได้ระบายความทุกข์ในใจที่เก็บไว้มานานหลายปี หากเป็เวลาปกติเขาไม่สามารถพูดเื่นี้กับลูกบ้านได้เลยเพราะถึงเขาพูดออกมา พวกลูกบ้านก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน และเขาก็ยิ่งไม่สามารถพูดกับคุณแม่ของหลินเยว่เพราะแม่บ้านที่ดูแลบ้านอย่างเดียวก็ย่อมไม่เข้าใจกับเื่พวกนี้เลย
ดังนั้นการกลับมาบ้านในครั้งนี้ของหลินเยว่ก็เป็โอกาสอันดีที่ทำให้คุณพ่อของหลินเยว่ได้ระบายความในใจ
หลินเยว่ััถึงความทุกข์ในใจของบิดาของตนเองความยากจนของคนในหมู่บ้านที่มีมานานหลายปีนี้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลาสั้นๆภาระการสร้างความกินดีอยู่ดีนั้นจึงตกเป็ของบิดาของตนเองทั้งหมดถึงแม้ว่าเขาคิดอยากจะพัฒนา แต่ทว่าเขาก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของหมู่บ้านในตอนนี้ได้เลย
หลินเยว่มองเลยไปยังยอดเขาสูงที่ตั้งอยู่ไกลออกไปตอนเด็กๆ เขามักจะไปปีนเขาเสมอ ดังนั้นเขาย่อมรู้ดีว่าธรรมชาติของที่นั่นสวยงามขนาดไหนคนที่เคยไปยังสถานที่แห่งนั้นย่อมไม่มีทางลืมทิวทัศน์ของที่นั่นได้เลย
ไข่มุกคลุกกองฝุ่น... ทั้งๆ ที่เป็สถานที่ที่สวยงามอย่างแท้จริง!
หลินเยว่กวาดตามองหมู่บ้านที่เขาเติบโตขึ้นมาเขามองสภาพบ้านของข้างบ้านที่แสนทรุดโทรม ในใจของเขาเริ่มเกิดความคิดบางอย่างออกมาหากสุดท้ายแล้วความคิดนี้สามารถบรรลุได้จนถึงเป้าหมายสุดท้าย และเขาก็เป็ส่วนหนึ่งที่ได้พยายามจนถึงที่สุดยิ่งคิดก็ยิ่งน่าสนใจ หลินเยว่จึงหลุดปากถามออกมา “พ่อหากสร้างถนนจากตัวอำเภอมาถึงที่นี่ต้องใช้เงินเท่าไรหรอ?”
“ประมาณ 10 ล้านหยวนได้”
คุณพ่อของหลินเยว่กำลังพูดอย่างออกรสเมื่อเขาถูกหลินเยว่พูดขัดจังหวะ เขาจึงตอบออกมาอย่างไม่ได้คิดอะไร
หลินเยว่แอบคำนวณอยู่ในใจจากหมู่บ้านไปถึงอำเภอชางมีระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร หากสร้างถนนที่มีความกว้าง 10 เมตรต้องใช้เงินประมาณ 10 ล้าน.หยวน.. เขาจึงถามต่อ “แล้วพวกนักธุรกิจเ่าั้เตรียมจะลงทุนเป็เงินเท่าไรหรอ?”
“30 ล้านหยวนพวกเขาคิดจะสร้างรีสอร์ตบนูเา ตั้งใจจะทำเป็สถานที่สำหรับคนมีเงินมาพักผ่อนลูกถามเื่นี้ไปทำไมล่ะ?”
ในที่สุดคุณพ่อของหลินเยว่ก็เริ่มรู้สึกว่าคำถามของหลินเยว่มีความผิดปกติเพราะไม่ได้มีเหตุมีผลที่ควรจะถามสิ่งเหล่านี้เลย
“ผมอยากจะลงทุน”
ในที่สุดหลินเยว่ก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เขาจึงพูดในสิ่งที่คุณพ่อของหลินเยว่รู้สึกตกตะลึงเป็ที่สุด
“อะไรนะ???”
“ลูกพูดอะไรนะ???”
คุณพ่อของหลินเยว่แทบจะกระเด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้เลยทีเดียว
นี่เป็สิ่งที่เหลือเชื่อจริงๆลูกชายที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยมา 3 ปีกลับคิดอยากจะลงทุนหรือว่าลูกชายของเขาจะเสียสติไปแล้วหรือเปล่า?
“ผมบอกว่าผมอยากจะลงทุนไม่ได้แค่ลงทุนในการสร้างถนน แต่้าลงทุนทำรีสอร์ตด้วย”
หลินเยว่พูดออกมาอีกครั้งอย่างหนักแน่น
คุณพ่อของหลินเยว่มองหลินเยว่ด้วยสายตาแปลกประหลาดเขาจดจ้องอยู่สักพักจึงถามขึ้นมา “เสี่ยวเยว่ ลูกคงไม่ได้พูดเพ้อเจ้ออยู่ใช่ไหม”
เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยมา 3 ปีถึงจะหาเงินเก่งขนาดไหนก็คงไม่สามารถหาเงินได้เยอะขนาดนี้หรอกนะหากบอกว่าหลินเยว่มีเงินหลายหมื่นหยวน คุณพ่อของหลินเยว่ยังรู้สึกเชื่ออยู่บ้างเพราะเมื่อสองเดือนก่อนหลินเยว่ก็ได้โอนเงินมาให้ที่บ้านหลายหมื่นหยวนแต่หากบอกว่าลูกชายของตนเองมีเงินหลายสิบล้านหยวน ให้ตายคุณพ่อของหลินเยว่ก็ไม่เชื่อหรอก!
“ผมไม่ได้พูดเพ้อเจ้อ ผมคิดจะลงทุนสร้างถนนแล้วก็สร้างรีสอร์ตด้วย”
หลินเยว่พูดอย่างหนักแน่นขึ้นอีกครั้ง
“แม่... เสี่ยวเยว่บ้าไปแล้ว!!!”
คุณพ่อของหลินเยว่มองหลินเยว่อย่างอึ้งๆอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นจึงรีบลุกขึ้นพร้ะโกนเข้าไปยังภายในห้อง
หลินเยว่มองบิดาของตนเองด้วยสายตาจนใจหากก่อนหน้านี้มีคนบอกเขาว่าหลังจากจบมา 3 ปีเขาก็สามารถมีเงิน50 ล้านหยวนแล้วให้ตายเขาก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่ทว่า ตอนนี้เขามีเงินเก็บ 50 ล้านหยวนจริงๆ อีกทั้งยังสามารถหาเงินได้มากกว่านี้ตลอดเวลา
“คุณจะร้องะโโวยวายทำไม เสี่ยวเยว่จะบ้าได้ยังไงกันล่ะ”
คุณแม่ของหลินเยว่เดินออกมาจากในห้อง เธอถลึงตาแรงๆใส่คุณพ่อของหลินเยว่ เป็พ่อแท้ๆ แต่กลับพูดจาสาปแช่งลูกชายของตัวเอง!
“ลูกบ้าไปแล้วจริงๆ นะลูกบอกว่าเขาจะลงทุนสร้างถนนกับรีสอร์ต! เขามีเงินเยอะขนาดนั้นที่ไหนล่ะ?”
เมื่อคุณแม่ของหลินเยว่ได้ยินเช่นนี้เธอจึงหันไปมองหลินเยว่ด้วยสายตาตกตะลึง
ลงทุนสร้างถนนกับรีสอร์ต?
นี่เป็สิ่งที่คนบ้านนอกคนหนึ่งไม่กล้าแม้แต่จะคิดหรือฝันออกมาเลย
นี่เป็คำพูดที่ออกมาจากลูกชายที่เธอเช็ดก้นมาั้แ่เล็กๆจนกระทั่งเติบโตขึ้นมาจริงๆ หรือ?
เมื่อเห็นสายตาสงสัยของมารดาและความไม่เชื่อมั่นจากบิดาหลินเยว่จึงได้แต่ลุกขึ้นยืนและฝืนยิ้มพร้อมพูดขึ้น “พ่อ แม่ ผมไม่ได้เป็บ้านะแล้วตอนนี้ผมก็มีเงินอยู่ไม่น้อย ก็เลยคิดว่าควรจะทำอะไรบางอย่างให้กับหมู่บ้านของเราแห่งนี้ผมคิดดีแล้ว รอให้ถนนถูกสร้างจนเสร็จ รีสอร์ตถูกสร้างขึ้นมา รอจนรีสอร์ตสามารถทำเงินได้แล้วผมก็จะใช้เงินก้อนนี้เอามาทำอย่างอื่นต่อ”
แน่นอน... หลินเยว่รู้ดีว่าการสร้างรีสอร์ตไม่สามารถสร้างเสร็จในระยะเวลาสั้นๆและก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว หากคิดจะใช้กำไรที่ได้จากรีสอร์ตเพื่อต่อยอดให้บรรลุเป้าหมายที่เขาตั้งไว้คงไม่สามารถสำเร็จได้ในระยะเวลาสั้นๆแต่รีสอร์ตแห่งนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในหมู่บ้านซึ่งการกระทำแบบนี้ก็ถือว่าเป็การทำประโยชน์ให้กับคนในหมู่บ้านของเขาในขณะเดียวกันก็เป็การวางแผนสำหรับอนาคตของตัวเขาเองอีกด้วย
“เสี่ยวเยว่ ลูกไม่เป็อะไรจริงๆ ใช่ไหม?”
คุณแม่ของหลินเยว่อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นแตะหน้าผากของหลินเยว่เธอพบว่าหลินเยว่ไม่ได้ตัวร้อนเลยสักนิด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้