ประโยคที่ออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้ดวงตาของฮองเฮาอวี่เหวินเป็ประกาย นางเข้าใจในทันที อย่างที่คิด รอยแย้มสรวลบนมุมปากของฮองเฮาอวี่เหวินก็ยิ่งเข้มขึ้น
ไม่ว่าฉางไทเฮาจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์พิษกู่ในค่ายเสินเช่อหรือไม่ แต่เมื่อได้ยินว่านาง้าจะไปเขตพำนัก ฉางไทเฮาย่อมไม่มีทางนั่งมองอยู่เฉยๆ แน่ อย่างไรเสีย...แคว้นหนานเยวี่ยก็เป็ตระกูลของฉางไทเฮา นางมีความทะเยอทะยานแรงกล้า ย่อมต้องให้แคว้นหนานเยวี่ยมาเป็กำลังสนับสนุนนางแน่
สิ่งที่ข้า้าก็คือฉางไทเฮาไปยังเขตพำนัก เช่นนี้งิ้วสนุกๆ ก็จะยิ่งน่าจับตาดู!
และในเวลานี้ นางน่าจะไปถึงแล้วจริงๆ!
อย่างที่คิด ในยามนี้ที่ประตูหลังของเขตพำนัก บนรถม้า บุรุษชุดขาวะโลงมาอย่างเร่งรีบ และหันกลับไปประคองสตรีในชุดเรียบง่ายลงมาจากรถม้า
ทั้งสองไม่กล้าหยุดรอช้าแม้แต่น้อย พวกเขารีบเร่งเดินเข้าประตู และตรงไปยังเรือนพำนักทางใต้อย่างคุ้นเคย
“อูเสียนอ๋องเล่า?”
ภายในลานทางใต้มีเพียงผู้ติดตามไม่กี่คนเฝ้ารอปรนนิบัติ งานเลี้ยงที่เรือนพำนักครั้งก่อน พวกเขาเคยเจอฉางไทเฮากับหลีอ๋องแล้ว เมื่อเห็นในยามนี้จึงแปลกใจ ยังไม่ทันคารวะ คำถามที่คนตรงข้ามถามมาอย่างเร่งรีบ จึงทำให้ตกตะลึงเล็กน้อย
อูเสียนอ๋อง...
“เช้านี้ยังไม่เห็นอูเสียนอ๋องเลยพ่ะย่ะค่ะ...” หนึ่งในข้าหลวงตอบ
ทันใดนั้นสีพระพักตร์ของฉางไทเฮาพลันดำมืด นางเหลือบมองไปทางห้อง และขยิบตาให้จ้าวเยี่ยน จ้าวเยี่ยนเข้าใจ จึงรีบผลักประตูเข้าไปทันที...
ภายในห้องเต็มไปด้วยความเงียบงัน
สองแม่ลูกเข้าไปในห้อง เหลือบเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียง คนผู้นั้นก็คืออูเสียนอ๋อง
ล่วงมายามนี้แล้ว เหตุใดเขายังนอนหลับได้อยู่อีก!?
เพียงชั่วขณะ ทั้งสองได้กลิ่นความผิดปกติของเื่ราว ในใจจึงยิ่งรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
เมื่อนึกถึงจุดประสงค์ในการมาครานี้ ฉางไทเฮาเหลือบมองคนบนเตียง หยิบกาชาบนโต๊ะด้านข้างขึ้นมาโดยไม่ต้องคิดทบทวนอันใด ก้าวเท้ายาวไปยังหน้าเตียง เล็งศีรษะของอูเสียนอ๋อง ราดน้ำใส่เขาอย่างรวดเร็ว น้ำหกรดใบหน้าของชายหนุ่มอย่างจัง
ทั่วทั้งใบหน้าของบุรุษเปียกปอน ในที่สุดก็ค่อยๆ มีการเคลื่อนไหว
“ใครน่ะ? เ้าโง่ตัวใดหาญกล้ากินหัวใจหมีดีเสือ บังอาจทำใบหน้าเปิ่นหวาง...” อูเสียนอ๋องะโลงจากเตียงอย่างใ กำลังจะพ่นโทสะ ทว่าเห็นบุคคลที่ยืนอยู่หน้าเตียงจึงนิ่งอึ้งไปทันใด “ไทเฮา? ท่านมาอยู่นี่ได้อย่างไร?”
ไม่เพียงแค่นั้น น้ำบนใบหน้าเขาที่ดูสภาพไม่ดีเยี่ยงนี้...
ฉางไทเฮาเหลือบมองเขา นางปลุกอูเสียนอ๋องแล้ว จึงไม่พูดอ้อมค้อมอีก “เขาคนนั้นเล่า?”
เขา?
เพียงถ้อยคำเดียว อูเสียนอ๋องก็รู้ทันทีว่า ‘เขา’ ที่ฉางไทเฮากล่าวหมายถึงผู้ใด เมื่อมองดูสีหน้าจริงจังบูดบึ้งของฉางไทเฮา จึงรู้ว่านางเดินทางมาอย่างเร่งรีบ มาถึงก็ถามหาองค์ฮ่องเต้ เื่นี้คงไม่ธรรมดาแน่
พริบตาต่อมา อูเสียนอ๋องจึงจริงจังขึ้นทันใด เขาไม่สนใจน้ำที่เปรอะเลอะทั่วใบหน้าและร่างกาย กล่าวตอบทันทีว่า “ข้าจะพาท่านไป”
ครั้นเอ่ยจบก็ก้าวฝีเท้าเดินนำหน้าออกไปนอกห้อง ฉางไทเฮาและจ้าวเยี่ยนตามหลังอย่างใกล้ชิด พวกเขาสองสามคนเดินผ่านระเบียงทางเดินในลานบ้าน ในไม่ช้าก็มาถึงนอกห้อง
“ฮ่อง...นี่คือห้องของเขา” หน้าประตู อูเสียนอ๋องหลุดคำว่า ‘ฮ่อง’ ออกมา แต่ตระหนักได้อย่างรวดเร็ว จึงหุบปากลงทันใด
ฉางไทเฮาเหลือบมองประตูที่ปิดสนิทบานนั้น นางผลักประตูเข้าไป ห้องดูเรียบง่ายและมีขนาดเล็ก เพียงปรายตาก็สามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว ยามที่ปรายตามองกลับไม่มีผู้ใดอยู่
"เขาเล่า?" สีพระพักตร์ของฉางไทเฮาพลันยิ่งแปรเปลี่ยน อูเสียนอ๋องเองก็ประหลาดใจ สีหน้าตื่นตระหนกขึ้นมาไม่น้อย “ปกติเขาแทบไม่เคยออกจากห้อง เขาควรจะอยู่ แต่...”
แต่กลับไม่มีร่างเขาอยู่ในห้องนี้
จ้าวเยี่ยนเฝ้ามองท่าทีตอบสนองของคนทั้งสองตลอดทางเดิน ในใจรับรู้ว่า ‘เขา’ คนนั้นที่พวกเขาพูดถึง ต้องมีตำแหน่งและฐานะไม่ต่ำต้อย ถึงกระทั่งที่แม้แต่อูเสียนอ๋องยังเคารพเขาคนนั้น เขารู้ถึงยศศักดิ์ของอูเสียนอ๋องในแคว้นหนานเยวี่ย บุคคลที่ทำให้เขาเคารพได้ นอกจากคนที่ครองตำแหน่งนั้นยังจะเป็ผู้ใดได้อีกเล่า?
เป็เขาจริงงั้นหรือ?
การคาดเดาพลันผุดเข้ามาในห้อง แม้แต่ในสายตาของจ้าวเยี่ยนยังดูเหลือเชื่อ ทว่านี่ก็อธิบายได้ว่า เหตุใดเสด็จแม่ถึงกังวลเื่นี้มาก!
"แท้ที่จริงมันเกิดอันใดขึ้น?" อูเสียนอ๋องจ้องมองฉางไทเฮา ถามซักไซ้
ฉางไทเฮาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เกิดอันใดขึ้นกันแน่?
มิรู้เพราะเหตุใด ่เวลานี้ในใจของนางก็ยิ่งค่อนข้างมั่นใจ หากค่ายเสินเช่อมีพิษกู่จริง เื่นี้จะต้องไม่พ้นเกี่ยวข้องกับเขาแน่!
"เลอะเลือน ช่างเลอะเลือนเสียจริง!"
ฉางไทเฮาพึมพำ ครั้นเอ่ยจบก็ได้ยินเสียงร้องลั่นของสตรี เสียงะโที่ดังเข้าหูของผู้คน ร่างกายคนทั้งสามในห้องอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน ฉางไทเฮากับอูเสียนอ๋องต่างเป็คนที่มีประสบการณ์เื่มนุษย์ พวกเขาเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งถึงบางอย่างในเสียงร้องะโนั้น นั่นเป็เสียงร้องะโของหญิงสาว เห็นได้ชัดว่า...เห็นได้ชัดว่ามันเป็เสียงร้องในการร่วมรักระหว่างสามีภรรยา หรือจะมี...
เป็ใคร?
ผู้ใดเป็คนส่งเสียงนี้?
สตรีที่อาศัยอยู่ในลานทางใต้...
ฉางหงเยียน!
แทบจะทันทีทันใด ทั้งสองมองหน้ากัน และตระหนักอะไรได้ พลันเร่งรีบออกจากห้อง ก้าวไปทางห้องของฉางหงเยียนอย่างเร่งรีบ...
ในห้อง
ความสวยงามของห้อง ในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นฉุนแรงยากจะเพิกเฉย เสื้อผ้าอาภรณ์ของชายหญิงหลุดลุ่ยไปทั่วพื้น
ชายหญิงโอบกอดกันบนเตียง ั์ตางดงามของสตรีดุจเส้นไหม ผิวพรรณขาวผ่องยองใยโดดเด่นสะดุดสายตา
ที่ไหนสักแห่งบนร่างกายถูกบีบเคล้นคลึงจนเปลี่ยนรูปร่าง ทว่าแม้จะเป็เช่นนี้ สีหน้าที่แสดงออกมาบนใบหน้าของสตรียังคงเป็ความเพลิดเพลินและความสุขสุดยอด ยามที่นางโดนบทเรียนรัก นางไม่เคยรู้สึกเยี่ยงนี้มาก่อน ทว่าวันนี้คลื่นแล้วคลื่นเล่าที่ซัดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เอ่อล้นในตัวนาง แทบจะเมามายให้ดำดิ่งอยู่ในโลกแห่งความฝันนี้
การทำงานหนักอย่างเต็มที่ของบุรุษ เสียงกระทบกระแทกกันของร่างกายดังชัดไปทั่วทั้งห้อง
ดวงตาของบุรุษพร่ามัว ดูเหมือนจะควบคุมร่างกายตนเองไม่ได้ ทว่าเขาทำได้เพียงทำตามปรารถนาทางสัญชาตญาณของร่างกาย จนกระทั่งประตูถูกเปิดออก เสียงปังของประตูดังเข้าไปในห้อง แว่วเข้ามาในหูของคนทั้งสอง
และคนที่เปิดประตู……
ฉางไทเฮายืนอยู่ที่ประตู เพียงปรายตาก็มองทะลุเห็นทุกสิ่งในห้อง สตรีบนเตียงคือ ฉางหงเยียน และบุรุษ...ใบหน้านั่นไม่ใช่แค่นางเท่านั้น แม้แต่อูเสียนอ๋องที่ตามเข้ามาติดๆ ยังมีใบหน้าตกตะลึง
ถึงแม้ใบหน้าเดิมจะมีเคราปกคลุมอยู่ก็ตาม ทว่าพวกเขายังคงไม่ยอมรับ
"ฮ่อง..." ฮ่องเต้!
ทำไม?
ฉางหงเยียนเป็สตรีที่ได้รับการคัดเลือกมาเป็พิเศษเพื่อทำหน้าที่ราชทูตมาเยือนเป่ยฉี หน้าที่ของนางคือการได้กลายเป็พระชายามู่ ‘มู่หวังเฟย’ ต่อให้นางจะกลายเป็มู่หวังเฟยไม่ได้ นางก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้อยู่ในแคว้นเป่ยฉี หญิงงามแคว้นหนานเยวี่ยมีมากมาย ฮ่องเต้ทรงมิเคยสนใจนางเลย หากสนใจ คงจะพานางเข้าห้องไปนานแล้ว ไหนเลยจะต้องรอจนยามนี้ ทว่าเหตุใดตอนนี้กลับ...
สถานการณ์ในยามนี้ ทำให้ผู้คนคาดเดาไม่ออกจริงๆ ทั้งยังตื่นตระหนกและยากจะเข้าใจ
อูเสียนอ๋องไม่ได้กลิ่นของดอกเทียนเซียงที่หลงเหลืออยู่ในอากาศเบาบาง กลิ่นหอมนั้นจนถึงตอนนี้ แม้ว่าจะเบาบาง ทว่าฉางไทเฮายังคงได้กลิ่นบางส่วนอย่างคลุมเครือ
ทันใดนั้น สีพระพักตร์ก็ยิ่งไม่น่ามอง
ดอกเทียนเซียง…
นั่นคือสิ่งล่อใจที่สุดสำหรับบุรุษ เป็ดอกไม้ที่อยู่ในหุบเขาเทียนเซียงแคว้นหนานเยวี่ยที่เดียวเท่านั้น และเ้าของของมันคือผู้ใด ย่อมชัดแจ้งอย่างยิ่ง
ฉางหงเยียน!