เสียงเขาช่างทุ้มเหลือเกิน ดึงดูดยั่วยวนจน…หูสองข้างแทบท้องลูกแฝด
คันยุบยิบจากหูเข้าไปถึงหัวใจ จากนั้นแผ่ซ่านเต็มทรวงอก
ชายฉกรรจ์จูบนางอย่างอ่อนโยน ละเมียดละไมแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน
หลินหวั่นชิวอดยกมือโอบรอบคอเขาไม่ได้ จูบตอบอย่างกระตือรือร้น
ชายฉกรรจ์ของนาง
นางชอบเหลือเกิน
ผ่านไปเนิ่นนาน ริมฝีปากทั้งคู่ผละออกจากกันเล็กน้อย น้ำลายบนปากเชื่อมต่อกันก่อนที่จะแยกออก
หน้าผากแนบชิด…ดวงตาอยู่ใกล้จนมองเห็นตัวเองในดวงตาอีกฝ่าย
“เจียงหงหย่วน ข้าชอบท่าน”
นางยิ้มบางๆ
เจียงหงหย่วนผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นตัวสั่นด้วยความดีใจ
“ข้าชอบท่าน” ความเก้งก้างและตื่นเต้นของเจียงหงหย่วนทำให้หลินหวั่นชิวยิ่งชอบใจ นางยิ้มกว้างกว่าเดิม “ข้ามีท่านคนเดียวก็พอแล้ว ท่านห้ามไปจากข้า ห้ามทิ้งข้า…”
เมื่อก่อนนี้นางอยากอยู่อย่างผ่าเผย คิดว่าตัวเองสามารถมีความรักได้อย่างมีเหตุผลเป็แน่
หากวันใดหมดรักก็แค่แยกทางกัน สะบัดแขนเสื้อกว้าง ไม่พรากไปแม้ม่านเมฆสักผืน
แต่ตอนนี้นางเพิ่งเข้าใจ ว่าคนที่มีความรักได้อย่างมีเหตุผลได้คือคนที่ไม่เคยมอบความรักต่างหาก
ทันทีที่หวั่นไหว ทันทีที่จมดิ่ง หนึ่งก้าวคือขึ้น์ หนึ่งก้าวคือลงนรก
รักถูกคนก็ขึ้น์
รักผิดคนก็ลงนรก
ชายฉกรรจ์ไม่พูดกระไร เอาแต่กัดปากหลินหวั่นชิวอีกรอบ…
จูบรอบแรกเป็สายลมฤดูใบไม้ผลิและฝนโปรย แต่รอบนี้เป็พายุโหมกระหน่ำ
ความรู้สึกรุนแรงถูกเขาเปลี่ยนเป็การกระทำ อยากกลืนนางลงท้องให้รู้แล้วรู้รอด
ภรรยาตัวน้อย…จะเอาชีวิตเขาชัดๆ
แต่เขายินดีมอบให้
จ๊วบๆ…
“เจ็บ” ใบหน้าหลินหวั่นชิวแนบกับหน้าอกเขา ปากโดนกัดจนบวมเจ็บ เอวก็โดนโอบแน่นจนเจ็บเช่นกัน
เจียงหงหย่วนคลายลงเล็กน้อย หลินหวั่นชิวซบตัวเข้ากับร่างเขาโดยไม่กล้าขยับเขยื้อน
นางกลัวถลำลึกจนตัวเองเดือดร้อนไปด้วย
ตอนนี้ นางเริ่มเสียใจที่ตัวเองไม่ควบคุมอารมณ์
ทำเหมือนไม่รู้ว่าชายฉกรรจ์ผู้นี้แหย่ไม่ได้
“ข้าไม่เป็ไร หากเป็เมื่อครั้งเยาว์วัยข้าคงใฝ่ฝันถึงบ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ต้องผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า…ข้าก็เข้าใจนานแล้วว่าตัวเองไม่ใช่ลูกสาวสำหรับบ้านหลิน อื้ม…สำหรับพวกเขาแล้ว ข้าไม่ต่างกระไรกับวัวกับม้า หรืออาจมีค่าไม่น้อยกว่าสัตว์พวกนั้นด้วยซ้ำ หย่วนเกอ ตอนนี้ข้าไม่สนใจพวกเขาแล้ว พวกเขาเป็คนแปลกหน้า ไม่ว่าจะทำกระไรก็ทำให้ข้าเสียใจไม่ได้” แม่นางน้อยที่สนใจคนนั้นได้ตายไปแล้ว
แม่นางน้อยคนนั้นยอมอดทนทำงาน ทั้งหมดก็เพื่อให้ท่านพ่อท่านแม่หันมามองตัวเองบ้าง
หรือไม่ก็พูดกับนางดีๆ สักคำ
น่าเสียดาย กระทั่งนางตายแล้วก็ยังได้รับแค่ความหวังร้ายจากทุกคนในบ้านหลิน
ได้ยินหลินหวั่นชิวพูดเื่พวกนี้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เจียงหงหย่วนรู้ว่านางไม่สนใจ ทว่าในใจกลับปวดแปล๊บๆ
“พวกเขาต่างหากที่เป็สัตว์ไม่แยกแยะถูกผิด” เจียงหงหย่วนพูด “เ้าเป็สุดที่รัก”
เขาก้มลงจูบผมนางเบาๆ น้ำเสียงลึกทุ้มกว่าเดิม
หลินหวั่นชิวยิ้ม นางประคองหน้าเจียงหงหย่วน มองเขาอย่างจริงจัง มองเข้าไปในดวงตาดำขลับดุจเหวลึก
นางคิดกับตัวเองว่าหากเขาเป็นรกโลกันตร์ เช่นนั้นนางจะะโลงไปแบบไม่ลังเล
“ข้ารู้ ไม่ว่าผู้อื่นจะมองข้าอย่างไร ข้าก็เป็สุดที่รักสำหรับท่าน เป็สุดที่รักของท่านเพียงผู้เดียว” หลินหวั่นชิวไม่เคยคิดมาก่อนว่า วันหนึ่งตัวเองจะพูดคำว่ารักได้ลื่นไหลเช่นนี้
อาจเพราะรักลึกซึ้ง อย่างอื่นจึงเป็ไปเองตามธรรมชาติ
ไม่สิ ไม่ใช่เช่นนั้น นางอยากบอกให้เจียงหงหย่วนรู้ถึงหัวใจตัวเอง อยากพูดถ้อยคำหวานที่สุดในโลกให้กับเขา
นางไม่น่าจะแค่ชอบเขา แต่น่าจะรักไปแล้ว
“ภรรยาจ๋า…” ริมฝีปากเจียงหงหย่วนขยับเบาๆ เสียงมีแรงดึงดูดลากหางเสียงยาวเข้ามาในหูหลินหวั่นชิว
จากนั้นตรงหน้านางก็มืดลง ริมฝีปากอ่อนนุ่มของชายฉกรรจ์จรดลงมาจูบที่ตานางเหมือนยังไม่พอ
“เ้าเป็สุดที่รักของข้า…ของข้าผู้เดียว” เจียงหงหย่วนพึมพำคำพูดของหลินหวั่นชิวซ้ำ อยากให้เวลาหยุดเดิน ไม่ต้องดำเนินตลอดกาล
“หวั่นชิว…” ในตอนนี้เองที่เสียงดังลั่นของป้าสองจ้าวดังขึ้นกลางลานบ้านอีกครั้ง
“พี่สะใภ้…” ได้ มีเสียงหวางกุ้ยเซียงเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
หลินหวั่นชิวปิดปากยิ้มเมื่อเห็นชายฉกรรจ์ทำหน้าบึ้งทันที นางผลักเขา “พอแล้ว กลางวันแสกๆ รีบไปทำงาน”
ชายฉกรรจ์ถอยหลังอย่างไม่เต็มใจ หลินหวั่นชิวเดินลอดใต้แขนเขาไปจัดทรงผมเสื้อผ้าหน้ากระจก
ปากบวมนิดหน่อย…ทำอย่างไรดี?
นางคิดไปคิดมา ตัดสินใจหยิบผ้าปิดปากจากในตู้มาใส่
จำไว้ว่าห้ามแหย่ชายฉกรรจ์ตอนกลางวันอีก
ปากบวมจนเอาลงไปต้มแล้วหั่นเป็กับแกล้มได้เลย!
นางเปิดประตูออกไป พาป้าสองจ้าวกับหวางกุ้ยเซียงไปที่ห้องโถง ป้าฝูหรงช่วยยกน้ำชามาให้
ป้าสองจ้าวคงรีบวิ่งมาที่นี่ ตอนนี้ลำคอจึงร้อนผะผ่าว ยกชาดื่มติดต่อกันสองถ้วย
“มีกระไรหรือเ้าคะ?” หลินหวั่นชิวถาม
“พ่อเ้ากำลังพาสตรีคนนั้นมาที่นี่ พวกข้ารีบวิ่งนำมาก่อน” ป้าสองจ้าวใช้มือเช็ดคราบน้ำที่มุมปาก
“ท่านแม่กับพี่สะใภ้ข้ากำลังตามพวกเขาอยู่” หวางกุ้ยเซียงดื่มชาเช่นกัน แต่นางเป็สตรีสาว ไม่ได้เปิดเผยแบบป้าสองจ้าว
อย่างไรก็ต้องรักษาความสุภาพไว้บ้าง
ป้าสองจ้าวหอบหายใจพูดว่า “ข้าอยากเห็นนักว่าพวกเขาจะมาทำกระไร หวั่นชิว เ้าไม่ต้องกลัวนะ มีกระไรก็ไม่ต้องสนใจ มอบให้ข้าจัดการเอง เ้าจะโดนมองว่าอกตัญญูไม่ได้ เ้ากับเจียงเหล่าต้ามีอนาคต วันหน้าลูกพวกเ้าต้องมีอนาคตสดใสเช่นกัน จะมาเดือดร้อนเพราะชื่อเสียงไม่ดีไม่ได้”
หลินหวั่นชิว “…”
นางอยากให้ลูกตัวเองมีอนาคตมากกว่า!
ลูก?
นั่นมันกระไรกันน่ะ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้