“พี่ไฮว่พี่จะเข้าคัดเลือกแข่งวิชาการเหรอ” มู่หรงเวยเวยพูดกับกัวไฮว่เสียงเบา
“ข่งเสวียนทำให้เธอได้ที่หนึ่งในการแข่งต่อสู้ได้ฉันเลยทำได้แค่พาเธอไปที่หนึ่งให้ได้ แบบนี้ถึงจะพิสูจน์ได้ว่าเธอไม่ได้เลือกผิดคน” กัวไฮว่พูดเสียงเบา
“พี่คือเ้าสี่สี่ตัวอันตราย?” มู่หรงเวยเวยถามขึ้นอย่างสบายๆ
“ถ้าจะพูดถึงสี่ปรมาจารย์แห่งเมืองอู่เฉิง หลี่เย่า เจี่ยหยวน หวังเซิงกัวไฮว่นั่นล่ะก็ กัวไฮว่นั่นก็คือฉันเองแหละ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“พี่ไฮว่ยกเลิกการเข้าร่วมเถอะ ฉันกลัวว่าฉันจะลบความรู้สึกดีๆ ที่ฉันเพิ่งมีให้พี่ตอนแข่งคัดเลือกวิชาการน่ะ” มู่หรงเวยเวยพูดอย่างสบายๆ “ฉันตกหลุมรักพี่แน่ฉันรู้ว่าพี่มีวิธีก็เหมือนกับที่พี่มีเหล้าดีแบบนั้นไง”
“เวยเวยฉันจะพาเธอไปสู่ที่หนึ่งการแข่งขันวิชาการเองเธอคอยดูเถอะ” ระหว่างที่พูดนั้นคุณครูหลินซวงก็เดินเข้ามาในห้องเรียน
“วันนี้ครูขอพูดอะไรกับทุกคนหน่อย ทุกคนน่าจะรู้แล้วนะในเว็บบอร์ดพูดถึงกันแล้ว” หลินซวงมองกัวไฮว่แวบหนึ่งแล้วพูดยิ้มๆ
“มองผมอีก มองผมอีกผมจีบครูแน่” เฉียนตัวตัวท่าทางเหมือนสุภาพบุรุษทั่วไปแต่กลับแอบคิดกับตัวเองในใจ
“พรุ่งนี้เก้าโมงที่หอประชุมโรงเรียน ทุกๆ เทอมจะมีการจัดงานประมูลครั้งหนึ่งทุกคนอย่ามาสายนะ” หลินซวงพูดยิ้มๆ “ห้องเรามีของประมูลทั้งหมดแปดชิ้นหวังว่านักเรียนทุกคนจะประมูลมาได้นะในเมื่อเป็การประมูลเงินที่ได้ทั้งหมดจะนำไปช่วยเหลือในการก่อสร้างโรงเรียนประถมรอบๆเมืองอู่เฉิง” หลินซวงพูดพลางพาสายตาไปตกอยู่บนร่างของกัวไฮว่
“เด็กบ้าเวลานี้เธอควรจะออกตัวสิ” เมื่อใช้วิชาอ่านจิตความคิดของหลินซวงก็ปรากฏขึ้นในสมองของกัวไฮว่ทันที
“คุณครูหลินครับ ผมมีของจะประมูลไม่ทราบว่าจะร่วมประมูลได้ไหมครับ” กัวไฮว่พูดพลางนำน้ำเต้าที่หน้าตาดูดีออกมา
“ไม่ทราบว่าในน้ำเต้าของเธอคือยาอะไรเหรอ” หลินซวงถามยิ้มๆ
“เป็เหล้าที่ผมดองเองนายท่านเริ่นเซวียนเช่อที่ร้านอาหารเคยกินก็บอกว่ารสชาติไม่เลวเลยไม่ทราบว่าจะเอามาประมูลขายครั้งนี้ได้ไหมครับ” กัวไฮ่พูดยิ้มๆ
“พี่ไฮว่เหล้าในน้ำเต้านั่นของพี่น่ะเหรอ อย่าขายเลยผมซื้อ ผมซื้อเองแสนนึงแสนนึงพอไหม ไม่สิต้องล้านนึง ล้านนึงเอาน้ำเต้านั่นมาให้ผมครูหลินครับครูดูสิว่าได้ไหม” จู่ๆ เฉียนตัวตัวก็ลุกขึ้นมาพูดขึ้นด้วยเสียงดัง
“ให้ตายร่วมกันเล่นละครหรือเปล่าเนี่ย” นักเรียนชายสองสามคนที่นั่งอยู่แถวหลังพูดขึ้นเสียงดัง“ล้านนึง เฉียนตัวตัวนายนี่มันอัจฉริยะจริงๆ”
“คนโง่มันไม่รู้หรอกว่าตัวเองโง่ช่างเถอะรอให้ถึงเวลาประมูลแล้วแย่งเอามาเองแล้วกันหวังว่านายท่านเริ่นจะไม่ให้ราคาสูงเกินไปนะ” เฉียนตัวตัวส่ายศีรษะนั่งบนที่นั่งขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่น้ำเต้าอันนั้น
“ถ้าศาสตราจารย์เริ่นบอกว่าเหล้านี้ดี ครูสามารถติดต่อสมาคมให้ตรวจสอบได้ถ้าหากเป็จริงก็สามารถเพิ่มในของที่จะประมูลได้”
“งั้นก็รบกวนด้วยนะครับครูหลิน” กัวไฮว่พูดจบก็มองมู่หรงเวยเวยแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ“เลิกเรียนแล้วไปกินข้าวด้วยกันเถอะ ฉันเอาของเล่นสนุกๆ มาอยากให้พวกเธอได้ดูน่ะ”
สองคาบต่อมาเป็วิชาภาษาอังกฤษที่ทำให้กัวไฮว่นอนเต็มอิ่มฝันหวานและคาบประวัติศาสตร์ฉื่ออวี้ไฉไม่ได้บรรยายเื่ประวัติศาสตร์ราชวงศ์ถังแล้วก็ปล่อยตามใจเขาเถอะ
“น้องสี่เป็ไงดูท่าชีวิตในโรงเรียนแกไม่เลวเลยนะไม่เห็นจะโทรมาหาพวกพี่บ้างเลยฮ่าๆ” เสียงอาฆาตมาดแค้นของเจี่ยหยวนดังขึ้นที่ปลายสาย
“สบายน่ะสบาย แต่ว่าไม่มีพี่ๆ อยู่ข้างๆ ไม่เป็ตัวของตัวเองซะเลยรอให้ปิดเทอมเดือนนี้พวกเราไปดื่มด้วยกันนะ จริงสิพี่ใหญ่พี่สาม่นี้เป็ไงบ้าง” กัวไฮว่เอ่ยถามขึ้นยิ้มๆ
“พี่เย่าสองวันนี้ไปต่างประเทศเื่นี้แกก็รู้นี่จะพูดไม่ได้ส่วนเ้าสามก็เลื่อนตำแหน่งแต่ว่าโชคดีที่มีเหล้าของแกจริงสิเ้าสี่ยังมีเหล้าอีกหรือเปล่าครั้งนี้พี่ไม่ได้จะเอาไปฟรีๆ นะร้อยล้านให้พี่แค่ขวดเล็กๆ ก็ได้ในเมื่อธุรกิจมีคนที่จัดการด้วยยากก็ต้องดูแลเขาดีๆ หน่อย” เจี่ยหยวนพูดยิ้มๆ
“พี่สองแล้วถ้าพี่เอาเหล้าที่ผมให้พี่ไปให้คนอื่นล่ะ”กัวไฮว่นิ่งชะงักก่อนที่ในใจจะพลันปรากฏคำถามที่แสนจะผิดหวัง
“จะเป็ไปได้ไงฉันไม่โง่หรอกเหล้านั่นฉันไม่ให้แม้กระทั่งนายท่านบ้านฉันตัวฉันเองยังต้องละเลียดชิมเลย” เจี่ยหยวนพูดจบก็พลันรู้สึกในใจว่าตัวเขาเองก็ยังมีแต่ยังไปขอจากเ้าสี่อีกเ้าสี่จะโกรธไหมนะ
“พี่สองผมบอกพี่ตามตรงนะ เหล้าน่ะผมมีให้พี่ดื่มก็ได้ให้พี่ใหญ่กับพี่สามดื่มก็ได้ แต่ถ้าคนอื่นอยากดื่มงั้นก็ต้องดูที่ใจพี่แล้วแหละถ้าพี่กล้าเอาเหล้าที่ผมให้ไปให้คนอื่นกิน งั้นผมจะไม่นับพี่เป็พี่แล้วยังจะพูดเื่เงินกับผมอีกเหรอ เหล้านี่พี่ใช้เงินซื้อได้ด้วยเหรอ” พูดจบไม่ทันรอให้เจี่ยหยวนพูดจากัวไฮว่ก็ตัดสายโทรศัพท์ไป
“ให้ตายกล้าตัดสายฉันเหรอฉันต้องไปบอกพี่ใหญ่แล้วแหละเด็กนี่มันกินยาผิดไปหรือไง” เจี่ยหยวนพูดพลางต่อสายโทรหาหลี่เย่า
“เ้าสามแกบอกว่าเ้าสี่กินยาผิด แต่ฉันว่าแกนั่นแหละกินยาผิด” เมื่อหลี่เย่าได้ฟังที่เจี่ยหยวนพูดจบก็พูดขึ้นอย่างตรงๆ “พี่น้อง พี่น้องคืออะไรเจี่ยหยวนถ้าแกจัดการเื่นี้ไม่เรียบร้อยฉันว่าพวกเราสามคนต้องขีดเส้นแบ่งกันแล้วแหละ”
“ไม่ ไม่ ไม่พี่ใหญ่ผมผิดไปแล้วพรุ่งนี้ผมจะไปที่ฟู่จงที่นั่นมีกิจกรรมประมูลของ ผมจะไปขอโทษเ้าสี่ต่อหน้าเองพวกพี่อย่าทำแบบนี้กับผมได้ไหม” เสียงอาฆาตของเจี่ยหยวนดังขึ้นที่ปลายสาย
“งานประมูลของโรงเรียนฟู่จง? สงสัยฉันก็ต้องไปซะแล้ว”หลี่เย่าวางโทรศัพท์แล้วยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากรอให้งานประมูลจบก่อนค่อยไปอเมริกา ยังไงซะหลายวันนี้ก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรอยู่แล้ว
“เ้าสามแกกินเหล้าหมดแล้วหรือยัง” เจี่ยหยวนต่อสายโทรหาหวังเซิงถามขึ้นยิ้มๆ
“พี่สองกินหมดแล้ว เหล้าอร่อยสุดๆ ไปเลย ตอนนี้ผมยังไม่หายแฮ้งค์เลยผมกินจนหมด” เมื่อหวังเซิงเห็นสายเจี่ยหยวนโทรเข้ามาคนไร้เื่ร้อนใจไม่ถ่อไปวัด[1]แบบพี่สองโทรมาหาตัวเองเวลานี้คงไม่ใช่เื่ดีแน่
“เ้าสามหลอกพี่เหรอวางใจเถอะพี่ยังมีเหล้าอีกต่อให้ไม่มีแล้วคงไม่มาเอาที่แกหรอก” เจี่ยหยวนเป็ใครเป็นักธุรกิจแนวหน้า ลูกไม้ตื้นๆ ของหวังเซิงจึงถูกเขามองออกอย่างรวดเร็ว
“แหะๆ ดูถูกพี่สองไปหน่อย” หวังเซิงพูดขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำเล็กน้อย“ไม่ทราบว่าพี่สองโทรมามีเื่อะไรเหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอกเมื่อกี้ถูกด่ามาติดกันสองรอบเลยมาเล่าให้แกฟังน่ะ” เจี่ยหยวนพูดยิ้มๆ “เ้าสามแกว่าเหล้าของเ้าสี่นี่เอามาจากไหนเหรอแกไม่นึกเหรอว่าหลังจากที่เ้าสี่ถูกรถชนก็เปลี่ยนไปเยอะเลย”
“จะสนใจทำไมว่าเอามาจากไหนเ้าสี่มีน้ำใจให้พวกเราได้กินจะสนใจอย่างอื่นทำไมกัน” เ้าสามพูดพลางกรอกเหล้าในแก้วคริสตัลลงไปในท้องแล้วความรู้สึกดั่งทะยานเป็เซียนก็พุ่งตรงไปยังสมองอีกครั้ง
“ก็จริงก็จริง แต่ขอฉันบอกอะไรนายอย่างหนึ่งนะเหล้านั่นน่ะอย่าเอาไปให้นายท่านบ้านแกล่ะ ถ้าเ้าสี่รู้เข้ามันจะไม่พอใจ” เจี่ยหยวนพูดเสียงเบาจากนั้นก็เล่าเื่ตัวเองวันนี้ให้หวังเซิงฟัง
“ขอบคุณนะพี่สามเื่นี้ผมรู้แล้วตอนนั้นผมก็บอกนายท่านบ้านผมแล้วว่าเหล้านั่นน่ะเป็ของดีบังเอิญได้มาให้ผู้ใหญ่ในบ้านตอนนี้นะผู้ใหญ่ในบ้านผมอดใจไม่ดื่มไม่ไหวเหมือนกันยังมีอีกนะ…” หวังเซิงพูดยิ้มๆ
[1] อุปมาว่าหากไม่้าบางอย่าคงไม่เดินทางมาหา