ผ่านค่ำคืนที่แสนมีความสุขของจวนตระกูลจิน พวกเขารู้สึกโล่งอกที่ผ้าทอและผ้าปักของร้าน มีลูกค้าให้ความสนใจอย่างล้นหลาม เพียงเปิดร้านวันแรกก็ขายดีจนผ้าบางผืนเหลือไม่กี่พับ แต่เื่สินค้าที่เหลือน้อย ได้รับการแก้ไขจากบุตรสาวคนเล็กของครอบครัว มู่ถงกับฮูหยินอย่างจือเหมยจึงวางใจ
เพราะซูอันรู้ดีว่าบิดามารดามักจะคิดมากอยู่เสมอ “ท่านพ่อท่านแม่มีข้าอยู่ทั้งคนพวกท่านเลิกคิดมากได้แล้วเ้าค่ะ ไม่ว่าลูกค้าของพวกเราจะสั่งสินค้าจำนวนมากเพียงใด ข้าย่อมมีส่งให้ครบตามจำนวนแน่นอน พวกท่านปักผ้าอย่างมีความสุขเถิดนะเ้าคะ”
“ใช่เ้าค่ะท่านพ่อท่านแม่ จากนี้ไปพวกท่านสองคนก็มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ได้นั่งทำงานปักอย่างสบายใจ ไม่ต้องเร่งรีบจากความกดดันเช่นแต่ก่อนอีก ส่วนเื่ที่ร้านผ้าข้ากับอันเอ๋อร์จะดูแลจัดการเองเ้าค่ะ” เยี่ยนหลิงกล่าวเสริมคำพูดน้องสาวอีกคน
จือเหมยยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ ที่บุตรสาวทั้งสองของนางกับสามี ไม่เคยริษยาต่อกันั้แ่เด็กจนโต ทั้งยังเข้ากันได้เป็ปีเป็ขลุ่ยเสียทุกอย่าง “ท่านพี่ดูสิเ้าคะ ยามนี้บุตรสาวของพวกเราเติบโตขึ้นมาก แต่หลิงเอ๋อร์เลยเวลาออกเรือนมาสองสามปีแล้ว ข้ากลัวว่าจะไม่มีใครมาสู่ขอนางนี่สิเ้าคะ”
มู่ถงคิดเื่การแต่งงานของเยี่ยนหลิงอยู่บ่อยครั้ง ั้แ่อยู่ที่ตระกูลหลิวเพียงแต่ว่า สิ่งที่เขากับฮูหยินต้องพบเจอพร้อมบุตรสาวทั้งสองนั้น เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีก หากบุตรสาวของเขาต้องแต่งไปพบเจอเื่อดสูเช่นเดิมอีก มิสู้เขายอมให้พวกนางเป็สาวเทื้อ ใช้ชีวิตอย่างอิสระไม่ดีกว่าหรือ
“เฮ้อ ฮูหยินเ้าปล่อยวางเื่ออกเรือนนี้ไปเสียเถิด ถึงแม้ไม่มีบุรุษใดมาพึงใจสู่ขอหลิงเอ๋อร์กับอันเอ๋อร์ ข้าก็สามารถเลี้ยงดูพวกนางได้อยู่แล้ว”
เยี่ยนหลิงพยักหน้ารัว ๆ เข้าข้างบิดา “ใช่ ๆ ๆ ท่านแม่ท่านเลิกคิดเป็ห่วงเื่นี้เสียเถิด ถึงจะไม่มีบุรุษใดมารักใคร่เอ็นดูข้าก็ช่าง ขอเพียงได้อยู่กตัญญูดูแลพวกท่านต่อไปย่อมดีที่สุดเ้าค่ะ”
“หึ บุรุษคนใดกล้าคิดอยากได้พี่หญิงไปเป็ฮูหยิน หากได้พี่หญิงไปแล้วละเลยปล่อยให้ถูกคนในตระกูลรังแก ข้าจะตามไปพาพี่หญิงกลับมา และให้หย่ากับบุรุษนิสัยเลวทรามนั่นเองเ้าค่ะ” ซูอันคิดจะทำเช่นที่พูดจริง ๆ หากพี่สาวของนางต้องเป็ทุกข์กับเื่นี้ นางไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้นแน่
ระหว่างที่พ่อแม่ลูกกำลังพูดหยอกล้อกัน เสียงของอวี้เหลียนก็เตือนซูอันขึ้นมาเสียก่อน “คุณหนูรองได้เวลาที่ท่านกับคุณหนูใหญ่ ต้องไปที่ร้านผ้าแล้วขอรับ”
“ข้ารู้แล้ว ท่านพ่อท่านแม่ข้ากับพี่หญิงไปก่อนนะเ้าคะ พวกท่านสองคนจู๋จี๋กันตามสบายนะเ้าคะ อิ อิ” ซูอันมิวายหยอกเย้าบิดามารดาก่อนจะออกจากจวน
จือเหมยเขินอายกับคำพูดของบุตรสาว จึงทำทีเป็ไล่พวกนางสองคนเสียอย่างนั้น “ดูพูดเข้าเ้าลูกคนนี้จะซุกซนมากเกินไปแล้วนะ ไป ๆ ๆ ป่านนี้ที่ร้านลูกค้าคงมารอซื้อผ้ากันแล้วล่ะ”
“ข้ากับอันเอ๋อร์ขอตัวก่อนนะเ้าคะ พวกเราจะรีบกลับมาทานมื้อเย็นกับพวกท่านเ้าค่ะ” เยี่ยนหลิงยิ้มได้มากกว่าเดิม เมื่อครอบครัวผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาได้ นางต้องใช้เวลาขจัดความคิดที่โทษตนเองอยู่นาน ที่ทำให้น้องสาวอย่างซูอันต้องาเ็
รถม้าขนาดกลางที่มีหีบใส่ผ้าทอบางส่วน พร้อมคนติดตามอีกสี่คน ออกจากจวนมุ่งหน้าไปยังร้านผ้าของตระกูล โดยที่พวกนางยังไม่รู้ตัวว่า วันนี้จะได้พบเจอแขกที่อยากทำความรู้จัก จนแทบจะเหมาผ้าในร้านแจกจ่ายผู้คน เพื่อไม่ให้ทั้งสองต้องเหน็ดเหนื่อยกับการขายผ้า
เช้าวันนี้เป็ปรากฏการณ์ที่สร้างความประหลาดใจ จนหยางไท่ิแทบจดบันทึกเอาไว้เป็หลักฐาน ว่าสหายของเขาอย่างฟงเฉิงฮ่าว สามารถตื่นขึ้นมาแต่งตัวั้แ่กลางยามเหม่า ทั้งที่ยามอยู่เมืองหลวงหากไม่ถึงยามเฉิน ไม่มีทางได้เห็นแม้แต่ชายอาภรณ์
“หึ สงสัยเมืองผู่เถียนคงพบกับภัยพิบัติเป็แน่”
ฟงเฉิงฮ่าวยังไม่เข้าใจสิ่งที่สหายของตนพูด “หืม อาิเหตุใดเมืองผู้เถียนต้องพบภัยพิบัติด้วยเล่า ทำไมข้าถึงไม่รู้มาก่อนว่าที่นี่จะเกิดเื่ร้ายแรง ยิ่งกว่าพวกคนร้ายลักพาตัวช่างทอผ้า”
หยางไท่ิวางถ้วยน้ำชาพร้อมส่ายหน้าเบา ๆ แต่ได้ไห่หยวนที่อธิบายให้เ้านายของตนได้ฟังแทน
“เอ่อ คุณชายรองขอรับ ที่คุณชายหยางพูดกับมานั้นความหมายก็คือว่า ปกติท่านไม่เคยตื่นนอนแต่เช้าเช่นวันนี้น่ะขอรับ”
ขวับ! “อาินี่เ้าคิดว่าข้าเป็คนี้เี ชอบนอนตื่นสายเช่นนั้นรึ?”
“หรือไม่จริง?”
ฟงเฉิงฮ่าวกำลังจะโต้กลับสหาย แต่พอคิดให้ดีก็รู้สึกแปลกใจกับตนเองเช่นกัน “นั่นมันก็..จริงอย่างที่เ้าพูด”
“หึ ทำไมเมื่อคืนมีเื่กวนใจจนทำเ้านอนไม่หลับ หรือว่านอนหลับฝันดีจนอยากตื่นมาแต่เช้า เพื่อรอพบเทพธิดาของเ้าล่ะอาฮ่าว” หยางไท่ิยังหยอกล้อสหายอย่างอารมณ์ดี
“เ้ารู้ได้อย่างไรอาิ! ว่าข้าฝันถึงเทพธิดาที่เพิ่งพบเจอเพียงครั้งเดียวน่ะ เอ๋? แต่ดูท่าคงมิใช่เพียงข้าผู้เดียวที่ตื่นเช้ากระมัง เ้าเองก็ออกมานั่งดื่มชาตรงนี้แต่เช้า คงไม่ได้มารอหญิงสาวที่ดูดื้อรั้นผู้นั้นกระมัง”
เมื่อถูกสหายรู้ทันหยางไท่ิจึงไม่ตอบโต้ เขาทำเป็นั่งนิ่ง ๆ ดื่มน้ำชาในมือต่อไป
‘คุณหนูใหญ่ คุณหนูรอง ข้าจะให้พวกเว่ยโฉวอยู่ดูแลพวกท่าน ส่วนข้าจะรีบไปจัดการเื่ซื้อที่ดินให้เสร็จโดยเร็วขอรับ’
‘อืม เ้ารีบไปจัดการเถิด อย่าลืมเื่นายช่างโจวซุ่นด้วย’
‘ขอรับคุณหนูรอง’
‘อันเอ๋อร์เ้าให้อวี้เหลียนไปซื้อที่ดินมีแผนจะทำอันใดเพิ่มงั้นหรือ’
‘เดี๋ยวข้าจะเล่าให้พี่หญิงฟังนะเ้าคะ ตอนนี้พวกเราไปทำงานกันก่อนเถิดเ้าค่ะ’
‘พี่ตามใจอันเอ๋อร์’
‘เว่ยโฉวเ้ากับเป่าโยวและจงชิ่ง ช่วยกันยกหีบผ้าเข้าไปด้านใน หรือจะเรียกหลงจู๊เหวยฉินมาช่วยอีกแรงก็ย่อมได้’
‘รับทราบขอรับคุณหนูรอง’
แต่ขณะที่ฟงเฉิงฮ่าวคิดจะเอาคืนสหายอยู่นั้น เขาพลันได้ยินเสียงสนทนาฝั่งตรงข้ามเสียก่อน เมื่อหันไปมองก็กวักมือเรียกหยางไท่ิทันที “อาิ ๆ ๆ พวกนางมาที่ร้านผ้าแล้ว เ้ารีบมาดูสิเด็กดื้อของเ้ายามนางพูดคุยกับเทพธิดาของข้า ช่างดูสดใสร่าเริงแต่พอหันไปสั่งงานบ่าวไพร่ กลับมีดวงตาและน้ำเสียงที่ทรงพลังเสียอย่างนั้น”
หยางไท่ิย่อมได้ยินการสนทนานั้นเช่นสหาย ในเมื่อเขาก็เป็ผู้มีวรยุทธ์ชั้นเลิศ ระยะห่างเพียงเท่านี้ย่อมได้ยินอย่างชัดเจน และความคิดของเขาก็ไม่ต่างกับสหาย “อืม ข้าถึงบอกว่านางน่าสนใจอย่างไรเล่า”
“แต่ดูแล้วนางจะยังไม่ปักปิ่นนะอาิ นี่ข้าจะมีสหายเป็โคแก่กินหญ้าอ่อนหรือนี่ ฮ่า ๆ ๆ” ฟงเฉิงฮ่าวอดจะขำไม่ได้ เมื่อพูดถึงความห่างของอายุของพวกเขา
“เ้าสิแก่ ข้าเพิ่งอายุครบสิบเก้าปีได้ไม่นาน ไม่ได้รีบร้อนแต่งฮูหยินเข้าจวนในตอนนี้แน่ และดูท่าเด็กดื้อของข้าก็คงไม่คิดเื่นี้เช่นกัน แต่ถ้าอยากรู้พวกเราควรไปหยั่งเชิงดูไม่ดีกว่าหรือ?” หยางไท่ิพูดออกมาประหนึ่งว่าอ่านใจของซูอันได้
หมับ! “สมกับเป็สหายของข้า อาิเ้าช่างรู้ใจข้ายิ่งนัก ไปกันเถิดพวกเราควรทำความรู้จักกับพวกนาง อย่างน้อยก็เป็การเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดี”
“อืม”
ฟงเฉิงฮ่าวและหยางไท่ิที่อยู่ในชุดผ้าไหมราคาแพง การแต่งกายของพวกเขาคล้ายคุณชายชนชั้นสูง ด้านหลังผู้ติดตามอีกสามคน ท่าทางดุดันคอยดูแลไม่ห่าง จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าร้านผ้า หลงจู๊เหวยฉินที่คอยต้อนรับลูกค้าเห็นเข้า จึงเข้าไปต้อนรับอย่างสุภาพเรียบร้อย
“โอ้ คุณชายทั้งสองร้านผ้าหงส์ทอเมฆายินดีต้อนรับ ไม่ทราบว่าพวกท่าน้าผ้าทอแบบใดหรือขอรับ ที่ร้านของเรามีผ้าทอหลายแบบให้ท่านเลือก หรือจะเป็ผ้าปักลวดลายงดงาม สำหรับเป็ของฝากสตรีที่พึงใจ คนในครอบครัวรวมถึงมิตรสหาย ก็มีให้เลือกซื้อมากมายเลยขอรับ”
หยางไท่ิมองผ้าทอที่วางอยู่บนชั้นไม้ แม้แต่บนโต๊ะกลางร้านก็นึกชื่นชมอยู่ในใจ ว่าผ้าทอร้านนี้เป็อย่างที่หลงจู๊กล่าวมา มิได้พูดจาโอ้อวดเกินจริงแม้แต่น้อย
แต่ยังคงเป็ฟงเฉิงฮ่าวที่เรียกสติของหยางไท่ิ “อาิเ้าดูผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกมู่ตานผืนนี้สิ หากท่านแม่กับหลานเอ๋อร์ได้เห็น คงจะชื่นชอบจนซื้อกลับจวนทั้งหมดเป็แน่”
“ฝีมือการทอผ้าและฝีเข็มการปักผ้าไม่ธรรมดา ข้าคิดว่าผ้าปักในร้านนี้ยังเหนือกว่าช่างในกองภูษาเสียอีก หรือเ้าไม่ได้คิดเช่นนั้นอาฮ่าว” เพราะมารดาเป็ถึงพระขนิษฐาของฮ่องเต้ หยางไท่ิย่อมมีโอกาสได้รับชุดจากกองภูษาอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อลูกค้าให้ความสนใจผ้าปัก หลงจู๊เหวยฉินย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ “คุณชายทั้งสองช่างรอบรู้เื่การปักผ้ายิ่งนัก นี่เป็ฝีมือการปักของนายท่านและฮูหยินผู้เป็เ้าของร้านผ้าแห่งนี้ อีกส่วนหนึ่งเป็ของช่างปักผ้าที่ได้รับการฝึกฝนจากนายท่าน จนพัฒนาฝีมือของตนขึ้นมาหลายเท่าเลยนะขอรับ”
หลังจากได้เห็นความงดงามของผ้าปัก หยางไท่ิและฟงเฉิงฮ่าวจึงเห็นพ้องต้องกัน เื่ที่ต้องพบเ้าของร้านโดยเร็ว
หยางไท่ิที่มักเจรจาการค้าบ่อย ๆ หันมาเอ่ยถามหลงจู๊เหวยฉิน แทนการเลือกซื้อผ้าปักตรงหน้า “หลงจู๊ไม่ทราบว่าเ้านายของท่าน อยู่ที่ร้านหรือไม่ ข้ากับสหายมีเื่สำคัญอยากจะพูดคุยด้วยสักเล็กน้อย”
“ไอหยา พวกท่านสองคนช่างโชคดีจริง ๆ วันนี้คุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองนำผ้ามาส่งที่ร้านพอดี หากท่าน้าเจรจาเื่การค้า เช่นนั้นเชิญตามข้าไปที่ห้องทำงานที่ชั้นบนเถิดขอรับ” หลงจู๊เหวยฉินเข้าใจผิดคำพูดของหยางไท่ิไปอีกทาง
“เชิญ..”
ในห้องทำงานซูอันกำลังคิดลายปัก ส่วนเยี่ยนหลิงกำลังฝึกทำบัญชีของร้าน แต่ทั้งสองต้องหยุดมือไว้แค่นั้น เมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก
ก๊อก ๆ ๆ “คุณหนูขอรับ มีลูกค้าสองท่าน้าเจรจาเื่การค้ากับพวกท่านขอรับ ไม่ทราบว่าจะให้เข้าพบหรือไม่ขอรับ”
“เชิญเข้ามาด้านในเถิด รบกวนหลงจู๊เหวยฉินนำน้ำชาและของว่างมาให้ข้าด้วยนะ” ซูอันเอ่ยอนุญาตให้พาลูกค้าเข้ามาพบได้ แต่นางคาดไม่ถึงว่าลูกค้าวันนี้จะหน้าตาหล่อเหลาทั้งยังน่าเกรงขาม
ฟงเฉิงฮ่าวมองไปยังเยี่ยนหลิง ที่วันนี้นางอยู่ในชุดสีเหลืองนวล ทำให้นางดูอ่อนหวานน่าทะนุถนอมมากกว่าเมื่อวาน ส่วนคนถูกมองก็รู้สึกร้อนที่ใบหน้าแปลก ๆ จนไม่รู้ว่าจะเก็บมือไม้เอาไว้ที่ใด
อีกด้านกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะหยางไท่ิกับซูอัน แม้จะชื่นชมลักษณะภายนอกของอีกฝ่ายอยู่ในใจ แต่ยามนี้ทั้งสองกำลังจ้องมองดวงตาของอีกฝ่ายไม่กระพริบ เนื่องจากซูอันรู้สึกได้ว่าลูกค้าทั้งสอง มิได้เป็พ่อค้าที่้าทำการค้ากับนางแน่นอน
เป็ซูอันที่เอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา “พวกท่านเป็ใคร? ข้าคิดว่าที่พวกท่าน้าพบมิได้เกี่ยวกับการค้า ข้าพูดถูกหรือไม่เ้าคะ”
เยี่ยนหลิงได้ยินเสียงของน้องสาวเอ่ยออกมาเช่นนั้น ก็รีบเดินมาอยู่ข้าง ๆ ซูอันด้วยท่าทางกังวลใจทันที “อันเอ๋อร์เ้าว่าพวกเขา้าอันใดจากพวกเรางั้นหรือ”
“พี่หญิงไม่ใเ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจัดการเองนะเ้าคะ”
“ดะ ดะ ได้พี่ให้เ้าตัดสินใจ”
หยางไท่ิยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เมื่อได้อยู่ตรงหน้าของเด็กดื้อ คำพูดและท่าทางของนางช่างเหนือความคาดหมายของเขาเหลือเกิน
“หึ คุณหนูรองจินช่างฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก ในเมื่อคุณหนูพูดอย่างตรงไปตรงมา ข้าย่อมมีคำตอบที่ชัดเจนให้กับท่านแน่ แต่พวกเราควรนั่งลงแล้วมาพูดคุยกันไม่ดีกว่าหรือ”
ซูอันผายมือเป็การเชิญแขกนั่ง “เชิญคุณชายทั้งสองนั่งและบอกจุดประสงค์ของพวกท่านมาเถิด”
หยางไท่ินั่งลงตรงข้ามกับซูอัน แต่เขายังไม่พูดสิ่งใดออกมา ส่วนฟงเฉิงฮ่าวเห็นอาการตื่นใของเยี่ยนหลิง ก็อยากจะพูดกับนางไม่ให้ใ แต่บรรยากาศภายในห้องยามนี้ เป็ตัวบ่งบอกได้อย่างดีว่าเขาควรเงียบ เนื่องจากท่าทางที่จริงจังของสหายรัก และหญิงสาวผู้เป็ที่น่าสนใจของสหายอีกเช่นกัน
