หลิ่วจิ้งกับเถ้าแก่ร้านแลกเปลี่ยนเงินและใบรับเงินกันเพียงไม่ถึงหนึ่งเค่อเื่โคมไฟก็ตกลงเสร็จเรียบร้อยแล้วอวี้จิ่นมองหลิ่วจิ้งด้วยสายตานับถือเหลือล้น
นางจะรู้ได้อย่างไรว่าในเวลาแค่ไม่ถึงเค่อ หลิ่วจิ้งก็เจรจาซื้อขายสำเร็จแล้วซ้ำยังได้เงินมาเปล่าๆ หนึ่งร้อยตำลึงเงินด้วย
แต่อวี้จิ่นหารู้ไม่ว่าหลิ่วจิ้งต้องใช้ความรักที่ผิดพลาดของนางเืและน้ำตาของนางแลกกับการเรียนรู้เื่เหล่านี้วิธีเจรจาการค้าเช่นนี้นางร่ำเรียนมาจากหยวนเซิ่งชิง แม้เมื่อนางนำมาใช้ ดูเผินๆคล้ายถูกใจคล่องมือนัก แต่ความจริงแล้วหัวใจของหลิ่วจิ้งกำลังหลั่งเืนางอยากลืมอดีตที่ผ่านมาให้หมด แต่ด้วยสถานการณ์ยามนี้ภาพอดีตก็กลับปรากฏขึ้นในความทรงจำของนางอีกครา
“พี่เซิ่งชิง สิ่งใดคือราคาทางแจ้ง สิ่งใดคือราคาทางลับหรือเ้าคะ”หลิ่วจิ้งเอ่ยถามหยวนเซิ่งชิงหลังการเจรจาค้าขายหนหนึ่ง
“เ้าจะเรียนรู้เื่เหล่านี้ไว้ทำสิ่งใด วันหน้ามีพี่ดูแลเ้ารับรองว่าเ้าไม่ต้องห่วงเื่อาภรณ์หรือการกินอยู่เ้าจะต้องวิ่งวุ่นไปทั่วเพื่อเอาตัวรอดที่ใดกัน” ยามนั้นหยวนเซิ่งชิงยังเยาะนางว่าเป็คนเห็นแก่เงินตัวน้อย
แต่คาดไม่ถึงว่าคำล้อเล่นเมื่อครานั้น วันหนึ่งจะกลับกลายเป็คำทำนายอนาคต
“ราคาทางแจ้งก็เอาไว้ให้คนตรวจบัญชีดูราคาทางแจ้งนี้จะต่ำกว่าราคาที่ร้านเสนอฉะนั้นเมื่อมีคนมาตรวจสอบบัญชีก็จะเห็นว่าราคาที่เ้าซื้อสินค้าต่ำว่าราคาที่ร้านบอกกับเ้า ย่อมไม่มาหาความเ้าส่วนราคาทางลับก็คือราคาจริงๆ ซึ่งมีเพียงเ้าและร้านสองฝ่ายที่รู้ ส่วนเงินส่วนต่างก็จะเป็ของเ้า”
ตอนนั้นหลิ่วจิ้งทบทวนคำพูดที่หยวนเซิ่งชิงเอ่ยให้นางฟังในใจอีกครั้งนางกลับไม่รู้เลยว่าตนเองต้องมาน้ำตาอาบน้ำในเวลานี้
“ฮูหยิน เป็อะไรเ้าคะ?” ระหว่างทางที่อวี้จิ่นกำลังประคองหลิ่วจิ้งเดินกลับเรือน อวี้จิ่นไม่รู้ว่าเมื่อครู่หลิ่วจิ้งยังดีๆอยู่ แต่เหตุใดยามนี้กลับร้องไห้เสียแล้ว
หลิ่วจิ้งร้องไห้อยู่พักใหญ่จึงค่อยสูดหายใจเข้าหลายหน เอ่ยเบาๆว่า “ไม่เป็ไร ข้าแค่นึกถึงบางเื่ในอดีต ร้องไห้คราหนึ่งข้าก็จะลืมไปคราหนึ่งไม่ช้าก็เร็วต้องมีวันหนึ่งที่ข้าลืมไปจนหมดสิ้น ไม่ร้องไห้อีกต่อไป”
อวี้จิ่นนิ่งคิดสักพัก พอคาดเดาได้ว่าเื่ที่หลิ่วจิ้งเ็ปใจจะต้องเกี่ยวกับครอบครัวของอีกฝ่ายเป็แน่อวี้จิ่นไม่ได้เห็นสภาพน่าอนาถของครอบครัวหลิ่วจิ้งกับตาแต่เคยได้ยินองค์หญิงเล่าให้ฟังตอนนั้นนางยังคิดว่าคนไม่มีครอบครัวเช่นนางก็มีข้อดีเหมือนกัน เมื่อไม่เคยได้รับความรักมาก่อนย่อมไม่ต้องทุกข์ใจ
อวี้จิ่นสงสารจนลืมเื่ที่สูงที่ต่ำ นางโอบหลิ่วจิ้งเอาไว้แน่นให้อีกฝ่ายซบไหล่ร้องไห้ออกมาเสียให้พอ
บังเอิญนัก หลังจากหั่วอี้กลับมาที่จวน เขาก็รู้สึกผิดต่อหลิ่วจิ้งชายหนุ่มสะกดกลั้นอารมณ์ไปทานอาหารเย็นกับฮูหยินผู้เฒ่า และอยู่สนทนากับฮูหยินผู้เฒ่าอีกครู่หนึ่งเพื่อทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าเบิกบานใจจนถึงเวลาที่ฮูหยินผู้เฒ่าเตรียมเข้านอน หั่วอี้จึงจากมา
ฮูหยินผู้เฒ่าเป็สุขใจหนักหนา ยิ้มกว้างไม่หุบ เห็นทีว่าที่นางยังไม่ไปจัดการองค์หญิงนับเป็เื่ที่ถูกต้องแล้วเมื่อเป็ดังนี้อย่างน้อยหั่วอี้ก็ยังมีแก่ใจอยู่เป็เพื่อนนางมากขึ้นยามนี้อยู่ใน่สดใหม่รสชาติแปลกใหม่ ไม่แน่ว่าผ่านไปสักระยะ มิต้องให้ถึงมือนางอี้เอ๋อร์ของนางก็จะเบื่อหน่ายองค์หญิงไปเองก็เป็ได้
ฮูหยินผู้เฒ่าตัดสินใจว่าขอเพียงระยะนี้องค์หญิงไม่ก่อเื่นอกรีตนอกรอยนางก็จะลืมตาข้างหนึ่งหลับตาข้างหนึ่งปล่อยผ่านไป
ความจริงก็คือหั่วอี้เกรงว่าตอนเขากลับไปที่เรือนหลักแล้วหลิ่วจิ้งจะยังไม่กลับมาจึงอดทนอยู่เป็เพื่อนฮูหยินผู้เฒ่าอีกสักพักแต่ตอนที่เขากลับมาเห็นว่าค่ำมืดมากแล้ว ไม่ว่าอย่างไรองค์หญิงก็ควรกลับมาได้แล้วนี่
เมื่อหั่วอี้ยังไม่เห็นหลิ่วจิ้งกลับมา เขาก็พลันอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันใดไม่มีแก่ใจไปสนเื่อื่นอีก คิดเพียงอยากพบหลิ่วจิ้งให้เร็วๆ เมื่อความรู้สึกนี้ประดังเข้ามาเขาจึงออกไปนอกจวน เดินไปข้างหน้าตามทางที่กลับมายังจวนแม่ทัพ
เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะพบกับหลิ่วจิ้งหรือไม่ เส้นทางที่กลับมาจวนซ้ายมือเป็เส้นทางไปยังชานเมือง ส่วนขวามือเป็ทางไปในเมือง ดีที่เขาเลี้ยวขวาไปตามถนนเดินไปพลางดูไปพลาง หวังจะพบร่องรอยของหลิ่วจิ้งบ้าง
ไม่นานนักก็เป็ดั่งใจหวัง นอกจากเขาจะเห็นนางแล้วก็ยังได้ยินเสียงหลิ่วจิ้งสะอื้นไห้ดังลั่นด้วย
หั่วอี้เดินไปตามเสียงร่ำไห้ของหลิ่วจิ้งอวี้จิ่นกำลังปลอบหลิ่วจิ้งอยู่ พวกนางสองคนจึงไม่มีใครสังเกตเห็นว่าหั่วอี้กำลังเดินเข้ามาใกล้ทุกที
“ฮูหยิน ท่านแม่ทัพแค่กำลังโกรธหนักคงไม่ได้คิดจะสังหารท่านจากใจจริงหรอกเ้าค่ะ ท่านลองคิดดูสิเ้าคะ ก่อนหน้านั้นท่านแม่ทัพก็ดีต่อท่านนักว่ากันแต่เื่ที่ท่านหมดสติไปหลายครั้งท่านแม่ทัพล้วนร้อนใจคอยเฝ้าท่านอยู่ตลอดเวลาไม่หลับไม่นอนเชียวนะเ้าคะ”
อวี้จิ่นปลอบไปปลอบมา เื่ในแคว้นต้าเว่ยไม่เหมาะมาเอ่ยในทางแจ้งนางจึงปลอบไปโดยคร่าวๆ จนเอ่ยมาถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันเมื่อคิดถึงเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนางจึงเอ่ยปลอบขึ้นมา หนำซ้ำหั่วอี้ยังได้ยินเข้าพอดีอีก
หั่วอี้รู้สึกผิดเมื่อมาพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้หลงนึกว่าเหตุที่มืดค่ำป่านนี้แต่หลิ่วจิ้งยังไม่กลับจวน ก็เพราะกลัวว่ากลับไปแล้วจะถูกเขาตำหนิเอา
หั่วอี้ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เ็ปใจราวถูกมีดจ้วงแทงแต่คนทะนงตนเช่นเขา ทำเื่เช่นการไปขอโทษกับหลิ่วจิ้งได้ที่ใดกัน
ครั้งโจรป่าบุกจู่โจมสายตาแห่งความมั่นใจในตนเองและสุขุมเยือกเย็นยามนางมองมาที่เขาทำให้เขาประทับใจครานั้นนางมิได้ร้องไห้ แต่เวลานี้กลับกำลังร้องไห้อย่างเ็ปอยู่ในมุมมืดนอกจวนดวงใจนางคงเป็ทุกข์เหลือคณานับ
ทางหนึ่งฮูหยินใหญ่ก็วางแผนร้ายกาจกับนาง อีกทางหนึ่งตนเองซึ่งเป็คนที่ควรเป็แรงหนุนให้นางมากที่สุดคืนวานกลับเชื่อคำของจ้าวไฉ่เอ๋อร์ฝ่ายเดียว จนเกือบพลั้งมือสังหารนางเสียแล้วหั่วอี้เอาหลังพิงอยู่ที่หลังต้นไม้ใหญ่อย่างไร้เรี่ยวแรงเงี่ยหูฟังเสียงหลิ่วจิ้งร่ำไห้ แต่จะให้เข้าไปบอกกับหลิ่วจิ้งว่าเป็ความผิดของเขา เขาก็ทำไม่ได้ทำได้เพียงแอบอยู่ในมุมมืดเป็เพื่อนนางเท่านั้น
หลังจากร้องไห้ออกมาก็ทำให้หลิ่วจิ้งสบายใจขึ้นมาก
“ขอบใจเ้าอวี้จิ่น หากคืนนี้ไม่มีเ้า ข้าก็ไม่รู้ว่าเมื่อใดจึงจะทุเลาลงได้”
เมื่อร้องไห้จนพอแล้ว หลิ่วจิ้งค่อยกลับไปพร้อมอวี้จิ่นหั่วอี้แอบตามพวกนางอยู่ข้างหลังห่างออกไปไม่ใกล้ไม่ไกลนักจนกระทั่งเห็นหลิ่วจิ้งก้าวเข้าจวนแม่ทัพไปเขาเห็นดังนั้นก็รู้สึกดีใจอย่างประหลาด รู้สึกเหมือนองค์หญิงกลับบ้านมาแล้วราวกับกลับมายังบ้านที่เป็ของเขา และองค์หญิงก็เป็ของเขาด้วย
หั่วอี้รู้ว่าองค์หญิงจะต้องอ่อนล้าเมื่อกลับถึงเรือนหลักก็คงไม่้าเห็นเขา ชายหนุ่มรู้ว่าควรทำเช่นใด ว่าแล้วก็ะโขึ้นไปหาต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งแล้วเอนกายนอนอยู่บนนั้น
เขาอยากให้เวลาและระยะห่างกับองค์หญิงสักเล็กน้อยให้นางได้อาบน้ำเข้านอนอย่างสบายใจแล้วเขาค่อยกลับไป นี่เป็การดูแลเอาใจใส่ที่สุดที่เขาสามารถทำให้องค์หญิงได้ในยามนี้
หลิ่วจิ้งและอวี้จิ่นกลับมาถึงเรือนหลังหลังจากเหลียวซ้ายแลขวาแล้วเห็นว่าหั่วอี้ยังไม่กลับจวนก็รู้สึกสบายใจวันนี้นางเหน็ดเหนื่อยนัก ไม่อยากเห็นหน้าดำทะมึนของหั่วอี้อีก
นางไม่รู้ว่าหลังจากผ่านไปวันหนึ่งเพลิงโทสะของหั่วอี้จะลดทอนลงบ้างหรือยิ่งหนักหนากว่าเดิมแต่ไม่ว่าจะเป็อย่างใด นางล้วนไม่้าจะพบเขาในเวลาเช่นนี้เมื่อไม่อยากให้เกิดเื่ก็หลบหน้าเสียเป็ดี
ไม่บ่อยครั้ง ซ้ำยังเป็ครั้งแรกที่หั่วอี้เดาใจสตรีได้ถูกต้องเขาไม่กลับเข้าจวนในทันทีให้เวลาและระยะห่างก่อตัวเป็พื้นฐานให้ความสัมพันธ์ของเขากับหลิ่วจิ้งกลับมาเป็ดังเดิมในวันข้างหน้าหลังจากหั่วอี้ได้เรียนรู้กลยุทธ์นี้แล้วจึงคิดว่าวันหน้าจะนำแผนการนี้ไปใช้รับมือกับศัตรูยามสองฝ่ายงัดกลเม็ดทุกอย่างมาเผชิญหน้ากันจนหมด ก็จะต้องถอยออกมาเสียก่อนไว้โจมตีให้หนักกว่าเดิมในวันที่ได้เปรียบ
_____________________________
