แต่ก็เป็โชคร้ายที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไรนัก เพราะแค่การที่นางได้บ้านและร้านชั้นยอดนี้มาก็มากเกินกว่าที่นางจะหวังอะไรมากกว่านี้แล้ว
เมื่อหลินฟู่อินปรับสภาพจิตใจให้กลายเป็บวกได้แล้ว นางจึงมองย่าซ่งลงกลอนประตู ก่อนจะเดินกลับไปยังบ้านของหมอหลี่ด้วยกัน
“อ้าว แม่นางหลินมิใช่หรือนั่น?”
เมื่อทั้งสองมาถึงโรงหมอของหมอหลี่ พวกนางก็ถูกบุรุษผิวขาวร่างท้วมหยุดเอาไว้
หลินฟู่อินขมวดคิ้วเล็กน้อย มีคนในเมืองไม่มากที่รู้จักนาง… นางเงยหน้าขึ้นมอง แล้วจึงเห็นว่าคนที่ทักคือเ้าของภัตตาคารเยว่เค่อ ผู้ดูแลฮวานั่นเอง
แค่ได้ยินเสียงของเขา หลินฟู่อินก็รู้สึกเหนื่อยอ่อนขึ้นมา
“หลังๆ มานี้ภัตตาคารเป็ยังไงบ้างเ้าคะ?” แม้ใจจะไม่อยาก แต่นางก็ปั้นยิ้มและทักทายเขาไป
ผู้ดูแลส่ายหน้าหนักๆ แล้วเอ่ยออกมา “ไม่ไหว ไม่ไหว ไม่ไหวเลยท่าน! ทั้งข้ายังกลัวว่ามันจะเลวร้ายลงไปอีก เพราะข้าหาแม่นางหลินไม่เจอ!”
ย่าซ่งไม่รู้ว่าหลินฟู่อินรู้จักกับผู้ดูแลฮวาด้วย เมื่อเห็นว่าเขามีกระดาษน้ำมันถุงใหญ่อยู่ในมือสองถุง ก็รู้ได้ว่าเขาเพิ่งกลับมาจากร้านยา และนางรู้ว่านายท่านและนายหญิงของนางต่างก็ให้ความสำคัญกับหลินฟู่อินเป็อย่างมาก ดังนั้นแล้วนางจึงไม่อยากให้หลินฟู่อินมาคุยกับเ้าของกิจการอื่นในที่แจ้งเช่นนี้มากนัก
อย่างไรเสียหลินฟู่อินเองก็ยังเป็เด็กสาว และผู้คนต่างก็ชอบเื่นินทา
นอกจากนี้ ตัวนางเองก็ชอบหลินฟู่อินมาก นางจึงทักทายผู้ดูแล “ท่านผู้ดูแลฮวา หลี่ฮูหยินของข้ากำชับว่าให้ข้าพาแม่นางหลินไปพบเพื่อปรึกษาธุระสำคัญ หากผู้ดูแลมีธุระอันใด เข้ามาปรึกษากันในโรงหมอได้หรือไม่เ้าคะ?”
ผู้ดูแลฮวาหรี่ตาลง เขาคาดไม่ถึงว่าหลินฟู่อินจะมีความสัมพันธ์กับตระกูลหลี่ แม้แต่ย่าซ่งที่ออกไปจัดการธุระต่างๆ ให้หลี่ฮูหยินอยู่เสมอยังออกตัวแทนนาง… เขาจึงหันหน้ามาหาย่าซ่งเพื่อกล่าว “ความคิดดียิ่ง ต้องขอรบกวนท่านย่าแล้ว”
ย่าซ่งกล่าว “มิเป็ปัญหา” แล้วจึงนำทางโดยมีหลินฟู่อินและผู้ดูแลฮวาตามไปด้วย
เมื่อมาถึงห้องรับรองของตระกูลหลี่ หลี่ฮูหยินที่รออยู่ก็เห็นว่าหลินฟู่อินและผู้ดูแลฮวาต่างก็ตามกันเข้ามาในห้องทั้งคู่ นางมีสีหน้าประหลาดใจ แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น
จากนั้นจึงสั่งให้จัดชุดชามาให้ทั้งสอง เชิญนั่ง แล้วจึงถามผู้ดูแลฮวาว่ามีธุระอันใด
ผู้ดูแลฮวาคลี่ยิ้มมองหลินฟู่อินแล้วกล่าว “หลี่ฮูหยิน ตัวข้านั้นกำลังตามหาแม่นางหลินอยู่ แต่นางไม่ได้ให้ช่องทางติดต่อไว้แก่ข้า หากไม่ได้บังเอิญพบนางเข้าวันนี้แล้ว ข้าก็คงมิอาจรู้ได้ว่าจะพบนางได้เมื่อใดอีก!”
หลินฟู่อินคลี่ยิ้มเงียบๆ โดยมิกล่าวสิ่งใด
ผู้ดูแลฮวากำลังกล่าวความเท็จ หากเขาอยากพบนางจริงๆ เขาย่อมตามหาตัวนางได้ไม่ยากแน่
หลี่ฮูหยินเองก็รู้ว่าที่พูดมานั่นมิใช่จากใจจริง นางจึงจิบชาอึกหนึ่งแล้วถามต่อ “กิจการของผู้ดูแลฮวาดูจะเติบโตเป็อย่างมาก แต่ปัญหาร้อนในก็ยังแก้ไม่หายใช่หรือไม่?”
ผู้ดูแลฮวายิ้มแห้งๆ ทันที “ขอบคุณน้ำใจของหลี่ฮูหยิน แต่กิจการข้าไม่ได้ดีไปกว่าแต่ก่อนนัก แม้ตอนนี้ข้าจะยังเหนือกว่าภัตตาคารหลิวจี้อยู่ แต่ฝั่งนั้นก็เริ่มเติบโตขึ้นแล้ว”
จากนั้นเขาจึงหันมามองหลินฟู่อิน
เห็นเช่นนี้หลี่ฮูหยินจึงนึกสงสัย แล้วถามต่อด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “ที่ภัตตาคารหลิวจี้มีอะไรเกิดขึ้นหรือ?”
“อะไรน่ะหรือ ก็เพียงว่าทางฝั่งนั้นซื้อไข่เยี่ยวม้าและไข่ดอกสนไปมากกว่าพวกข้าเท่านั้นเอง ภัตตาคารของพวกข้าขายหมดไปนานแล้ว แต่เมื่อ้าเพิ่มกลับหาตัวแม่นางหลินไม่พบเสียอย่างนั้น!” ผู้ดูแลฮวากล่าวด้วยสีหน้าหมดแรง
หลินฟู่อินและหลี่ฮูหยินรู้ดีว่าคำพูดนี้มันไร้มูลเพียงใด
สีหน้าของหลี่ฮูหยินดูไม่ดีนักเมื่อเห็นผู้ดูแลฮวายังคงพยายามหลอกลวงผู้คนต่อหน้านางอยู่
“ผู้ดูแลฮวา หากข้าจำไม่ผิด เป็สามีของข้าใช่หรือไม่ที่บอกท่านว่าแม่นางหลินทำไข่เยี่ยวม้าและไข่ดอกสนได้?” ั์ตาของหลี่ฮูหยินเป็ประกายขึ้นมา แล้วจึงกล่าวเรียบๆ ผู้ดูแลฮวาสะอึกนิ่งไป สายตาเผยให้เห็นแววของความอับอาย แต่เขาก็แก้หมากได้อย่างรวดเร็ว โดยการวางถ้วยชาลงแล้วตบหน้าผากดังฉาด “จริงด้วย ข้าลนลานมากจนลืมไปเสียอย่างนั้น หลายวันนี้สูญเปล่าเสียแล้ว!”
หลี่ฮูหยินคลี่ยิ้ม หลินฟู่อินเองก็หรี่ตาลงแล้วจิบชาไปโดยมิกล่าวสิ่งใด
เมื่อเห็นว่าหลินฟู่อินยังเงียบอยู่ ผู้ดูแลฮวาจึงมองหลินฟู่อินแล้วกล่าวว่า “แม่นางหลิน ไข่เยี่ยวม้าและไข่ดอกสนที่ท่านทำเป็ของดียิ่งนัก! แต่ข้าไม่แน่ใจนักว่าท่านยังจำได้หรือไม่ ว่าเราตกลงจำนวนไข่ที่ท่านต้องส่งมาภัตตาคารพวกข้าไว้ที่เท่าไร?”
หลินฟู่อินคลี่ยิ้มบาง นางจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่านางเคยให้สัญญากับผู้ดูแลฮวาไว้เช่นนั้น นางเคยบอกเพียงว่านางต้องดูอีกที
นี่เป็วิธีทำธุรกิจของเขา ในตอนนั้นเขาไม่กล้าพอที่จะซื้อไข่เยี่ยวม้าและไข่ดอกสนที่เหลือของนางเหมือนภัตตาคารหลิวจี้ ทั้งยังไม่ได้เจรจากับนางไว้ว่าให้ส่งของให้เขาก่อน ดังนั้นแล้วจะมาขอเอาตอนนี้ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
สิ่งที่เรียกว่าโอกาส ในบางครั้งเมื่อพลาดแล้วย่อมพลาดเลย และจะไม่มีใครหยุดรอคนที่พลาดด้วย
“ผู้ดูแลฮวา ข้าจำได้ว่าตอนนั้นข้าบอกท่านไว้ว่าต้องดูสถานการณ์อีกทีถึงจะบอกอะไรได้นะเ้าคะ และตอนนี้ไข่เยี่ยวม้าและไข่ดอกสนชุดใหม่ของข้าก็มีเ้าของแล้ว น่าเสียดายจริงๆ เ้าค่ะ” หลินฟู่อินกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่สายตานั้นจริงจัง เป็การส่งสัญญาณว่านางตกลงกับเ้าอื่นไว้แล้ว และไม่คิดจะเล่นตลกกับผู้ดูแล
ผู้ดูแลฮวาได้ยินเช่นนั้นก็นั่งไม่ติดขึ้นมาทันที แล้วจึงทำสีหน้าประหลาดใจ “แม่นางหลิน ตอนแรกเราคุยกันไว้แล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงมาเปลี่ยนใจเอากลางคันเช่นนี้? ไม่รู้หรือว่าการทำธุรกิจมันสำคัญที่ความซื่อสัตย์และจริงใจ ท่านกล้าทำเช่นนี้ได้ยังไง?”
หลินฟู่อินพยายามที่จะคุยด้วยอย่างสุภาพแล้ว แม้ว่านางจะขายไข่เยี่ยวม้าและไข่ดอกสนในรอบนี้ให้ภัตตาคารหลิวจี้เกือบหมดแล้ว แต่นางก็เหลือส่วนหนึ่งไว้ให้ตัวเองด้วย เอาไว้เผื่อขายให้คนอื่น
หากผู้ดูแลฮวาจริงใจกว่านี้ นางก็จะยอมขายให้เขา แต่เมื่อมาใส่ความกันเช่นนี้ นางก็ไม่คิดจะคุยด้วยอีก
หลินฟู่อินไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด หลี่ฮูหยินเองก็เช่นกัน
นางเป็คนใจเย็นและไม่ค่อยว่าร้ายใคร นางรู้ดีว่าผู้ดูแลฮวานั้นไม่ใช่คนที่จะดูถูกได้ แต่นางก็รู้ดีเช่นกันว่าอะไรควรไม่ควร
“ผู้ดูแลฮวา! ท่านคิดจะรังแกผู้เยาว์หรือ!” หลี่ฮูหยินลุกขึ้น ความไม่พอใจฉายชัดบนสีหน้า กล่าวอย่างเ็า “แม่นางหลินบอกไปแล้วไม่ใช่หรือว่ามันขึ้นอยู่กับสถานการณ์? เมื่อมันขึ้นกับสถานการณ์ก็แปลว่านางไม่ได้ให้สัญญาใดๆ กับท่านว่านางจะมีของให้ มายัดเยียดความคิดตนฝ่ายเดียวใส่กันแบบนี้ได้เช่นไร!”
ด้วยคำพูดของหลี่ฮูหยิน ผู้ดูแลฮวาจึงหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที รู้สึกเสียใจขึ้นมาว่าเขาใจร้อนเกินไป
และเขาคิดว่าแบบนี้ภัตตาคารหลิวจี้คงลอยตัว เพราะเขารู้ดีว่าปริมาณที่หลินฟู่อินทำให้ภัตตาคารหลิวจี้คงมากมายแน่ ซึ่งมันไม่ดีกับภัตตาคารเยว่เค่อของเขาเลย
เขาเห็นตอนที่หลินฟู่อินไปเสนอขายให้ภัตตาคารหลิวจี้อยู่ แต่เขาเชื่อมั่นว่านางคงให้ความสำคัญกับภัตตาคารเยว่เค่อของเขามากกว่าแน่นอน เขาจึงซื้อไว้เพียงร้อยชุดเพื่อจองตัวนาง
แต่คิดไม่ถึงว่าหลินฟู่อินผู้นี้จะใจกล้าถึงขนาดที่เมินพวกเขา แล้วไปเข้าข้างภัตตาคารหลิวจี้แทนเสียอย่างนั้น!
ผู้ดูแลฮวาที่พลาดพลั้งไปหลายเื่ใน่หลังๆ มานี้มองหลินฟู่อินอย่างไม่พอใจ แต่ตอนนี้เขาอยู่ในโรงหมอของตระกูลหลี่ และเขารู้จักพื้นเพของตระกูลนี้ดี แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับมิอาจสร้างเส้นสายหรือซื้อใจตระกูลหลี่ได้เลย จนเขารู้สึกว่าคิดผิดที่ตามหลินฟู่อินเข้ามา
“หลี่ฮูหยินโปรดให้อภัย พออายุอานามมากเข้าข้าจึงอยู่ไม่สุขนัก ข้าคงไม่กล่าวสิ่งใดเพิ่มแล้ว!” ผู้ดูแลฮวาเองก็เป็มนุษย์ สีหน้าของเขาเปลี่ยนกลับมาเป็ปกติ ก่อนจะยิ้มให้หลินฟู่อิน “แม่นางหลิน ข้าอยากทำธุรกิจกับท่านมากจริงๆ มีวิธีใดที่จะทำให้ข้ามีโอกาสได้ซื้อไข่เยี่ยวม้าและไข่ดอกสนจากท่านอีกในอนาคตหรือไม่?”