หลิ่วหว่านหรงมองอวิ๋นซี ถามด้วยความสงสัย “เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่า หลังจากที่พี่หญิงอวิ๋นรู้ว่าท่านอาเล็กของข้าจะแต่งงานถึงได้ดูตื่นเต้นนักเล่าเพคะ”
อวิ๋นซีรีบตอบ “จะไม่ให้ดีใจได้หรือ? ข้าและท่านอาเล็กของเ้านับว่าเป็สหายกัน ยามนี้อายุเขาก็ปาเข้าไปสี่สิบแล้ว ในที่สุดคนก็จะได้เป็พ่อคนเสียที ไม่ว่าเป็ใครก็ล้วนต้องดีใจแทนเขาเป็แน่”
หว่านหรงพยักหน้า “ก็จริง ทว่า ตอนนี้พวกเรายังเป็กังวลว่าท่านอาเล็กจะหนีงานแต่งงาน ท่านย่าบอกข้าว่า เขาเป็คนสารเลว เื่เช่นนี้คนเยี่ยงเขาต้องกล้าทำแน่ จึงได้จับคนขังไว้จนถึงตอนนี้”
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินถึงตรงนี้ก็เหงื่อตกทันที เหตุใดจู่ๆ นางถึงได้รู้สึกว่าหลิ่วเซิงน่าสงสารกันนะ นี่จะเรียกว่าเป็การบังคับแต่งงานหรือไม่? หากเป็คนอื่นก็ช่างเถอะ แต่เขาถูกบิดามารดาของตนบังคับให้แต่งภรรยา
“ท่านย่าเ้าพูดไม่ผิดสักนิด ท่านอาเล็กของเ้าผู้นั้นเป็คนสารเลวจริงๆ เ้าลองคิดดูเถิด คนไปหลับนอนกับแม่นางดอกเบญจมาศมาแล้วแท้ๆ แต่พอร่วมหอห้องเสร็จก็หายตัวไป จนตอนนี้ผู้อื่นพาลูกชายมาหาถึงจวน ทว่า ตัวเขากลับยังไม่สำนึกผิด ไม่รู้สึกขอบคุณ เขาช่างเป็บุรุษที่ควรโดนลงโทษสักทีจริงๆ ดังนั้น หากท่านย่าเ้าจะบอกว่าเขาเป็เ้าสารเลวก็ไม่ผิดเลยสักนิด”
หว่านหรงมองท่าทีมีอารมณ์ร่วมของนาง มุมปากกระตุกน้อยๆ “พี่หญิงอวิ๋น ท่านไม่ได้บอกว่าเป็สหายสนิทกับท่านอาเล็กหรอกหรือ ตอนนี้กลับมีท่าทีเช่นนี้ จะดีจริงๆ หรือเพคะ? ”
อวิ๋นซีแค่นเสียงเ็า “มีอันใดไม่ดีกัน ข้าจะบอกเ้าให้นะ ไว้วันหลังข้าจะไปเดินเล่นที่จวนเ้าสักรอบ จากนั้นก็ไปเยี่ยมท่านอาเล็กของเ้าสักหน่อย” นางจะถือโอกาสไปบอกเขาด้วยว่า อีกไม่นานนักหรอก นางก็อาจจะได้มีน้องชายตัวน้อยๆ แล้ว ดังนั้น เขาก็อย่าได้เอาแต่คะนึงหาในตัวภรรยาของผู้อื่นอีกเลย แล้วหันไปตระกองกอดภรรยาตน ใช้ชีวิตร่วมกันกับอีกฝ่ายให้มีความสุข
ในตอนนี้เอง เพ่ยเอ๋อร์ก็เดินเข้ามา “ทูลพระชายา มีแขกสูงศักดิ์มาขอพบพระองค์เพคะ”
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินคำว่าแขกสูงศักดิ์ ในใจก็สงสัยนัก “เป็ผู้ใด? ”
เพ่ยเอ๋อร์พูดไปประโยคหนึ่งข้างหูอวิ๋นซี อวิ๋นซีพยักหน้า “นำคนเข้ามาเถอะ ตอนนี้ด้านนอกหนาวเพียงนั้น อย่าให้คนมาจวนอ๋องเราแล้วกลับไปเกิดล้มป่วย มิเช่นนั้นประเดี๋ยวผู้คนจะลือกันไปอีกว่า จวนอ๋องของเปิ่นเฟยเป็ถ้ำเสือสระั [1] ”
“ประโยคนี้ของอาซีพูดรุนแรงเกินไปแล้ว”
น้ำเสียงเยือกเย็นไพเราะสายหนึ่งดังลอดเข้ามา เมื่ออวิ๋นซีได้ยินก็มองออกไป และได้เห็นอวิ๋นไห่ในอาภรณ์สีเขียวเดินเข้ามาอย่างช้าๆ นางมองเขาไปทีหนึ่ง จากนั้นก็ละสายตาลงบนร่างของหลิ่วหว่านหรงที่อยู่ข้างกาย
นางเห็นเพียงว่ายามที่หว่านหรงเห็นผู้มาเยือนใหม่ ทั้งร่างคนกลับดูสงบนิ่งเป็อย่างยิ่ง อวิ๋นซีรู้สึกประหลาดใจนัก ่นี้เด็กคนนี้ไปเจออะไรมากันแน่ถึงได้สงบเพียงนี้ ไม่ใช่ว่าคนชอบเ้าอวิ๋นไห่ผู้นี้มากหรือ ตอนนี้ท่าทีที่มองอวิ๋นไห่ก็ราวกับกำลังมองคนแปลกหน้า
ถึงแม้ในใจจะมีความสงสัย แต่อวิ๋นซีก็รู้ดีว่า ตนไม่ควรพูดอะไร นางถึงได้ถามบุรุษที่เพิ่งมาถึงด้วยท่าทีสงบนิ่ง “ท่านมาทำอันใด? ” แม้ในทางสายเื คนจะมีศักดิ์เป็ท่านน้า แต่เพราะมารดายังไม่ได้ยอมรับญาติฝั่งนั้น ตัวนางจึงยังไม่อยากให้เขาได้ใจด้วยการเรียกขานว่าท่านน้า
อวิ๋นไห่มองอวิ๋นซี สายตาเหลือบเห็นหว่านหรงที่นั่งอยู่ข้างกายนางไปทีหนึ่ง เขายิ้มราบเรียบ กล่าวตอบ “หรือว่าตัวข้าจะมาเยี่ยมเ้าที่นี่ไม่ได้”
อวิ๋นซีถึงกับกลอกตา “มีเื่อะไรก็ว่ามา หากไม่มีก็ไสหัวไปเสีย” อวิ๋นไห่เป็คนท้องดำ ทั้งยังดำไปถึงหัวจิตหัวใจ อย่างไรเสีย การจะรับมือกับคนเช่นนี้ วิธีที่ดีที่สุดก็มีแต่ต้องตรงไปตรงมา...ไม่มีอะไรก็ไสหัวไปเสีย
อวิ๋นไห่ทำเพียงยิ้มๆ นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม อวิ๋นซีเห็นท่าทีเขาเช่นนี้ก็ไม่คิดพูดกับเขาต่อ และหันไปไต่ถามหว่านหรงที่นั่งอยู่ข้างกายแทน “เื่งานมงคลของเ้าและฮ่าวฟาน...”
หว่านหรงได้ยินมาถึงตรงนี้ก็หน้าแดงก่ำทันที ทั้งยังถึงขนาดเสมองอวิ๋นซีด้วยท่าทีหงุดหงิดแง่งอนเล็กน้อย “พี่หญิงอวิ๋น ท่านพูดไร้สาระอันใด”
“ข้าพูดไร้สาระที่ไหนกัน ดูก็รู้ว่าหลิ่วเก๋อเหล่าชอบฮ่าวฟานมากเพียงไร อีกทั้ง ไม่ใช่ว่าเขาคุยเื่นี้กับอวี๋อ๋องไปแล้วหรอกหรือ” อวิ๋นซีพูดหยอกล้อ “เขินอายอันใดกัน หว่านหรงของข้างดงามเพียงนี้ จิตใจก็ดีปานนี้ ทั้งยังเฉลียวฉลาด รู้มารยาท คนชอบเ้ามีตั้งมากมาย”
หว่านหรงยืนขึ้นทันที รีบพูด “ข้าจะไปดูฉางรุ่ยฉางฮว๋าย และหวานหว่าน ไม่พูดกับพี่หญิงอวิ๋นแล้ว” พูดจบ นางก็รีบร้อนเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทว่า ยามที่เดินผ่านอวิ๋นไห่ไปนั้น นางกลับไม่แม้แต่จะมองหน้าของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
อวิ๋นซีกลับมาให้ความสนใจกับอวิ๋นไห่อีกครั้ง นางถาม “ว่ามาเถอะ มาหาข้ามีเื่อันใด”
อวิ๋นไห่มองไปยังอวิ๋นซี “เื่มารดาเ้าและชายาอวี๋อ๋อง ยามนี้ฝ่าาทรงทราบแล้ว พระองค์ตรัสว่าเื่นี้ถือเป็เื่ดี ทั้งยังพระราชทานสิ่งของมาให้มารดาเ้าและชายาอวี๋อ๋องมากมาย ตอนนี้ทุกสิ่งถูกส่งไปยังจวนโหวแล้ว ข้าคาดว่าหลังงานเฉลิมพระชนมพรรษาของฝ่าาเสร็จสิ้น จวนโหวก็น่าจะจัดงานฉลอง และเชื้อเชิญแเื่มา เพื่อจะได้บอกคนทั่วทั้งเมืองหลวงไปในคราวเดียวว่า ยามนี้คุณหนูทั้งสองของตระกูลอวิ๋นได้กลับมาแล้ว”
อวิ๋นซีกลอกตา “ต้องจัดงานเลี้ยงด้วยหรือ? ”
“แน่นอนอยู่แล้ว วันนี้ที่ข้ามาก็เพื่อบอกเื่นี้แก่เ้าและพี่หญิงรอง เมื่อถึงเวลานั้นพวกเ้าทั้งสองจะได้ไม่ต้องวุ่นวายจนทำอันใดไม่ถูก อีกทั้ง ท่านตาเ้ายังฝากมาบอกอีกว่า ยามนั้นบิดาเ้าเองก็ต้องไปยกน้ำชาให้เขาผู้ชราในฐานะลูกเขยด้วย”
เขาแค่นเสียงเ็า การที่อวิ๋นซานล่อลวงพี่หญิงรองของตนไปได้ง่ายดายเพียงนี้ หากเขารู้เื่นี้เร็วขึ้นอีกสักหน่อย ไม่แน่ว่าเื่ราวทั้งหมดก็อาจไม่เป็เช่นนี้ จริงๆ เลย
……...........................................................................................
เมื่อหว่านหรงไปดูเด็กๆ เสร็จก็ขอตัวลากลับทันที ทว่า ยามที่เดินออกไปนอกจวนอ๋อง และกำลังเตรียมจะขึ้นรถม้าของตระกูลตน นางกลับได้ยินเสียงเยือกเย็นแต่ไพเราะสายหนึ่งดังออกมาจากด้านในของรถม้าคันหนึ่ง “มาตรงนี้”
เสียงนี้...
หว่านหรงมองไปยังรถม้าอีกคันที่จอดเทียบห่างจากรถม้าของนางไม่ไกล นางขบคิด ก่อนจะก้าวขึ้นไปบนรถม้าของตระกูลตน ทว่า เคลื่อนตัวไปด้านหน้าได้ไม่นาน รถม้าของนางก็ถูกใครบางคนเข้าขวางไว้ในบริเวณที่ไม่ค่อยมีคนผ่านไปผ่านมาเท่าใดนัก
“เ้าจะขึ้นมาดีๆ หรือจะให้ข้าไปหา หลิ่วหว่านหรง คิดดูให้ดีเถิด”
เมื่อหว่านหรงได้ยิน หัวใจดวงน้อยๆ ก็ถึงกับเต้นแรงไม่หยุด และเป็นานนางถึงดึงสติกลับมาได้ จากนั้นก็พูดเรียบๆ ว่า “เชิญคุณชายถอยไป ผู้น้อยจะกลับจวนแล้วเ้าค่ะ”
“หึหึ”
รอจนหว่านหรงสามารถดึงสติกลับมาจากเสียงหัวเราะอันพิลึกพิลั่นนั้น เงาร่างสีเขียวของใครบางคนก็มาปรากฏตัวอยู่ในรถม้าของนางแล้ว อวิ๋นไห่มองหญิงสาวตรงหน้า หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันน้อยๆ “เ้าจะหมั้นหมายกับอวี๋อ๋องซื่อจื่อแล้วหรือ? ”
แม้หว่านหรงจะได้ยินคำถามนั้น แต่นางก็ยังไม่อาจดึงสติตนกลับมาได้ ยิ่งกว่านั้น นางยังถูกคนจับคางไว้แน่นเสียจนอดไม่ได้ให้ต้องจ้องมองเขาด้วยความใ นางทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย และไม่มีเวลาแม้แต่จะสนใจคางที่ถูกบีบจนรู้สึกเจ็บ “ท่าน ปล่อยนะ”
เขารังเกียจนางไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นการที่นางจะหมั้นหมายกับใคร หรือตบแต่งให้ใครก็ไม่เกี่ยวอันใดกับเขา แล้วเขามาที่นี่ทำอะไร หรือว่ายังลบหลู่ตนไม่มากพอ?
อวิ๋นไห่มองหยาดน้ำตาที่ไหลอาบโหนกแก้มของหลิ่วหว่านหรง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกไปทีหนึ่ง จากนั้นก็ปล่อยนาง และจดจ้องนาง ก่อนจะกล่าวว่า “หากเ้ากล้าหมั้นหมายกับอวี๋อ๋องซื่อจื่อนั่น ข้าจะทำให้เ้าเป็แม่ม่ายเสีย”
ฮ่าวฟานที่น่าสงสาร ทั้งๆ ที่คนไม่ได้มีความรู้สึกใดต่อหว่านหรง และไม่ได้ตั้งใจจะตบแต่งกับนาง แต่เ้าหนุ่มน้อยกลับถูกคนหมายหัวเสียอย่างนั้น เพียงเขาเปิดปากพูดก็บอกว่าจะเอาชีวิตคน
หลิ่วหว่านหรงมองบุรุษที่เผด็จการผู้นี้ “ท่านทำเกินไปแล้วนะ ทั้งๆ ที่เป็ท่านเองแท้ๆ ที่ปฏิเสธข้า ทั้งยังเหยียบย่ำความจริงใจของข้าเสียจนจมดิน แต่ตอนนี้กลับมาพูดเช่นนี้ทำอันใด อวิ๋นไห่ ข้าจะบอกท่านให้นะ ข้าไม่ใช่คนที่ท่านคิดจะมารังแกได้ง่ายๆ ไม่ว่าตัวข้านี้จะแต่งให้ใคร นี่ก็เป็เื่ของข้า ไม่เกี่ยวกับท่านเลยสักนิด”
————————————————————————————————
เชิงอรรถ
[1] ถ้ำเสือสระั(龙潭虎穴)เปรียบเทียบว่าเป็สถานที่สุดอันตราย