“ต่ำทราม! ไปให้พ้น! ”
กูเฟยเยี่ยนด่าทอด้วยความโกรธ ทว่าไป๋หลี่ิชวนกลับยิ้มแย้มบางเบา เขาใช้มือข้างหนึ่งกดไปที่ศีรษะของนาง มืออีกข้างหนึ่งช่วยนางปัดกลีบดอกท้อออกจากใบหน้า การกระทำนี้ยังคงความสง่างามอย่างเนือยๆ
กูเฟยเยี่ยนไม่ขยับเขยื้อนและจ้องมองไปที่เขาด้วยความเ็า
ไป๋หลี่ิชวนชื่นชมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยวาจาด้วยความยิ้มแย้ม “แพทย์หญิงตัวน้อย มีคนเคยพูดหรือไม่ว่าท่าทางโกรธของเ้าดูดีกว่าตอนยิ้มเสียอีก? ”
ภายในใจของกูเฟยเยี่ยนมีแผนร้ายจึงไม่้าสร้างความบาดหมางกับชายคนนี้ชั่วคราว นางถามด้วยความเ็า “เ้าเป็ใครกันแน่? ”
นางลอบคิดว่านักฆ่าที่เคยดักซุ่มอยู่ภายในจิ้งหวางฝู่ก่อนหน้านี้น่าจะเป็หมอนี่ หมอนี่ดักซุ่มมานานแต่ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ เหตุใดเมื่อคืนวานนี้จึงปรากฏตัวออกมาจี้ชิงนาง? มีความเป็ไปได้แปดถึงเก้าส่วนจากสิบส่วนว่าทางด้านของหุบเขาเสินหนงนั้นจับกุมหัวขโมยได้แล้ว อีกทั้งทางด้านของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็ค้นพบถ้ำจิ้งจอกและลงไม้ลงมือบีบบังคับจนหมอนี่เกิดความใจร้อนแล้ว
ชายคนนี้ดูเหมือนจะไม่ยึดติดกับจรรยาบรรณและไม่คิดอะไรเกินเลยกับนาง แต่ในความเป็จริงแล้วคือจับตัวนางมาเป็ตัวประกันใช่หรือไม่? นางต้องอดทนไม่ทำให้เขาโกรธเพื่อสร้างปัญหาให้ตนเอง รอให้พิษออกฤทธิ์แล้วค่อยจัดการกับเขา!
สำหรับคำถามของกูเฟยเยี่ยน ไป๋หลี่ิชวนฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแล้วถามกลับไป “แพทย์หญิงตัวน้อย เ้าชื่อกูเฟยเยี่ยน? ”
“กูเฟยเยี่ยน กูเฟยเยี่ยน…”
เขาพึมพำสองสามคำพลางเอ่ยขึ้นมาด้วยความจริงจัง “ชื่อนี้เศร้าวังเวงไม่เหมาะกับเ้าเลย วันข้างหน้าข้าเรียกเ้าว่าเสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ดีหรือไม่? ”
กูเฟยเยี่ยนกรอกตามองบน เหม่อมองไปบนฟากฟ้าโดยไม่พูดไม่จา นางพบว่ากลีบดอกท้อลอยลงมาปะทะเข้ากับใบหน้าจึงหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว ไม่ช้ากลีบบุปผาก็ร่วงโรยลงมาเต็มใบหน้าเล็กและบดบังดวงตาของนาง
นางกำลังจะปัดออก ทว่าไป๋หลี่ิชวนกดไปที่ข้อมือของนางพลางเอ่ยออกมาอย่างรวดเร็ว “อย่าขยับ! ให้ข้ามองดีๆ ”
กูเฟยเยี่ยนไม่ทราบว่าในเสี้ยววินาทีที่กลีบดอกไม้โรยราลงมาบนใบหน้า ไป๋หลี่ิชวนถึงกับมองด้วยความตะลึงงัน
หญิงสาวกำลังจะลืมตาขึ้นมาทว่าจู่ๆ ไป๋หลี่ิชวนก็โน้มศีรษะเข้ามาใกล้แล้วเป่าไปเบาๆ จนกลีบดอกไม้ปลิวออกไปทั้งหมด และทันทีที่นางลืมตาขึ้นมาก็สบตาเข้ากับดวงตาเรียวงามของเขา ร่างบางเห็นว่าภายในดวงตาของชายหนุ่มล้วนเป็เงาของตัวนางเอง ภายในดวงตาปรากฏถึงรอยยิ้มบางเบาสองถึงสามส่วนและความเอาจริงเอาจังอีกเจ็ดถึงแปดส่วน
กูเฟยเยี่ยนตกตะลึงเล็กน้อยและใกับความจริงจังของเขา เดิมทีนางคิดว่าหมอนี่เ้าชู้เป็นิสัยและไร้จิตสำนึก เขาไม่มีทางมีความจริงจังต่อผู้อื่น
ไป๋หลี่ิชวนจริงจังจริงๆ เขาตั้งอกตั้งใจพินิจพิจารณาสัดส่วนบนใบหน้าของกูเฟยเยี่ยนโดยที่ไล่ลงไปั้แ่คิ้ว สายตาค่อยๆ เลื่อนลง และท้ายที่สุดก็หยุดอยู่ที่ริมฝีปากของนาง
เขามองไปเรื่อยๆ ริมฝีปากก็ค่อยๆ เขยิบเข้าใกล้ราวกับ้าจุมพิตนาง
กูเฟยเยี่ยนใมากจึงดิ้นแรงด้วยสีหน้าขาวซีด ทันใดนั้นไป๋หลี่ิชวนก็หัวเราะออกมาเสียงดังที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้้าจุมพิตนางจริงๆ แต่เป็เพียงแกล้งนางเล่นเท่านั้น
เขาเว้นระยะห่างเล็กน้อยทว่าไม่ได้ปล่อยนางไป “นังหนู ตกลงกันแล้วนะ ในวันข้างหน้าข้าจะเรียกเ้าว่าเสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์”
กูเฟยเยี่ยนอกสั่นขวัญแขวน นางต้องใช้เวลาสักครู่หนึ่งถึงจะทำให้ใจที่เต้นถี่รัวสงบลงได้
นางแทบอยากจะตอบเขาไปว่า “ไม่มีวันข้างหน้าแล้ว หลังจากที่ผ่านค่ำคืนนี้ไปจะไม่ได้พบกันอีกตลอดกาล” ทว่าสุดท้ายก็ทนเอาไว้ ร่างบางยิ้มกลับไปเล็กน้อย โดยที่ใบหน้ายิ้มแย้มแต่จิตใจไม่ยิ้มแย้ม “แล้วข้าเรียกเ้าว่าอะไร? ”
“นายท่าน”
ไป๋หลี่ิชวนตอบกลับอย่างเป็ธรรมชาติ กูเฟยเยี่ยนจึงมองไปด้านข้างราวกับตนเองไม่ได้ถาม
“เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์…”
ดูเหมือนว่าไป๋หลี่ิชวนจะชื่นชอบชื่อนี้มาก เขายกมือเล็กของนางขึ้นมาพิจารณาพลางกล่าวด้วยความรังเกียจ “จวินจิ่วเฉินเลี้ยงดูเ้าอย่างไรกัน? เลี้ยงได้ผอมมาก! ”
เขาพูดแล้วมองไปบนใบหน้าของนาง “ร่างเล็กของเ้าหากมีเนื้อหนังมากกว่านี้จะต้องเป็หญิงงามแน่ๆ ”
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนอยากจะหยั่งเชิงเขา แต่เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วก็ไม่ทราบว่าจะพูดคุยเื่นี้ต่อไปได้อย่างไร
ทว่าไป๋หลี่ิชวนกลับเปลี่ยนเื่ได้อย่างรวดเร็ว “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ เ้าเรียนรู้ทักษะยาสมุนไพรกับทักษะยาพิษมาจากที่ใดกัน? ”
กูเฟยเยี่ยนแอบดีใจแล้วโต้ถามกลับไปทันที “เ้าล่ะ? เรียนมาจากที่ใดกัน? ”
“แน่นอนว่าอาจารย์สอนข้า ทำไม เ้าก็มีอาจารย์หรือ? ”
ไป๋หลี่ิชวนกล่าวเหมือนกับล้อเล่นจนทำให้ยากที่จะทราบได้ว่านี่คือความจริงหรือความเท็จ กูเฟยเยี่ยนทำได้เพียงประจบประแจงต่อเขา “แน่นอนว่าต้องมีอาจารย์สอน เป็ไปได้หรือว่ามีคนเกิดมาก็เป็เลย? ”
ไป๋หลี่ิชวนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และถามต่อ “อาจารย์ของเ้าเทียบได้กับหัวหน้าาุโแห่งหุบเขาเสินหนง? ”
กูเฟยเยี่ยนจงใจยิ้มแต่ไม่พูดไม่จา
ทว่าไป๋หลี่ิชวนกลับยิ้มแย้มงามกว่านาง เขาดึงมือของนางไปแตะลงบนไหล่ของตนเองพลางเอ่ยอย่างน่าสงสาร “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ เ้าััมาที่าแของข้าดู ข้าถูกนักฆ่าที่ปล้นสะดมยาคนนั้นทำร้าย เขาร้อนใจที่จะมาช่วยเ้ามากกว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสียอีก เ้าบอกข้ามาหน่อยว่าเขาเป็ใครกัน? ”
เขาถามแล้วก็เสริมอีกว่า “หึๆ ความเร็วในการไล่ตามคนของเขาเร็วกว่าจวินจิ่วเฉินมาก! หากไม่ใช่เพราะข้ามีชะตากรรมใหญ่โต เ้าคงจะไม่ได้พบข้าแล้ว”
กูเฟยเยี่ยนประหลาดใจมากเหลือเกิน ก่อนหน้านี้นางคิดว่าความจริงของคดีนี้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ดังนั้นนายก้อนน้ำแข็งเหม็นคงจะไม่เข้ามายุ่งอีก แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะยังคงจ้องมองและนึกไม่ถึงเลยว่าจะมาช่วยนางในทันที
จิ้งจอกใหญ่หลายใจตัวนี้มีความชำนาญในการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา อีกทั้งยังมีทักษะทางด้านพิษ นายก้อนน้ำแข็งเหม็นไม่เป็อะไรใช่หรือไม่?
ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนเกิดความร้อนใจนางก็โพล่งออกมาโดยไม่ทันได้คาดคิด “เ้าทำอะไรเขา? ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมานางก็เสียใจภายหลังทันที
มุมปากของไป๋หลี่ิชวนยกขึ้นแสดงความไตร่ตรองพลางทอดถอนหายใจ “ดูท่าว่าเ้าไม่เพียงแค่รู้จักชายคนนั้น แต่ความสัมพันธ์ยังไม่แย่อีกด้วย เขาคือคนของราชวงศ์จวินหรือ? ”
กูเฟยเยี่ยนไม่พูดอะไรออกมาแล้ว นางหันหน้าออกไปมองทางอื่น
นางสลบไสลไปหนึ่งคืน เื่ราวมากมายล้วนไม่ชัดเจน นางไม่สามารถพูดคุยกับหมอนี่ได้อีก หากพูดคุยต่อไปนอกจากนางจะไม่สามารถล่อให้เขาพูดออกมาได้แล้ว แต่ตัวนางเองจะตกลงไปในกับดักของเขาอีกด้วย
“ฮ่าๆ ไม่พูดก็ไม่พูด ข้าก็ไม่ชอบฝืนใจหญิงสาวอยู่แล้ว”
ไป๋หลี่ิชวนเล่นเส้นผมของกูเฟยเยี่ยนราวกับไม่สนใจไยดี ทว่าจู่ๆ ก็โยนคำถามมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ ข้อความในเมืองจิ้นหยางมีความจริงเพียงใดกัน? จวินจิ่วเฉิน…ลิ้มลองเ้าแล้วจริงหรือ? ”
กูเฟยเยี่ยนหันกลับมาอย่างรวดเร็วและเบิกตากว้างด้วยความคิดไม่ถึง
หญิงสาวทนหมอนี่ที่มีแต่คำพูดลามกอนาจารไม่ไหวแล้ว เผลอครู่เดียวนางก็เงยหน้าขึ้นมาเพื่อจะกระแทกลงไปบนใบหน้าเขาอย่างรุนแรง!
ไป๋หลี่ิชวนหลบออกทันที กูเฟยเยี่ยนจึงฉวยโอกาสนี้ผลักเขาออกแรงๆ พลันกลิ้งตัวไปด้านข้าง ก่อนจะลุกขึ้นวิ่งออกไปโดยเร็ว
ทว่าไป๋หลี่ิชวนไม่ได้ไล่ตามออกไป เขายกมือทั้งสองข้างมาหนุนศีรษะ นอนหงายภายใต้ร่มไม้ที่เต็มไปด้วยกลีบดอกท้อ
ชายหนุ่มมองไปที่กลีบบุปผาที่ปลิวร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย ค่อยๆ หลับตาลง กลีบบุปผาร่วงโรยลงมาบนใบหน้าที่มีอารมณ์หลากหลายของเขาและค่อยๆ ปกคลุมไปทั่วใบหน้าของเขา ซึ่งเผยให้เห็นเพียงแค่ริมฝีปากของเขาที่เผยรอยยิ้มจางๆ
เห็นได้ชัดว่าเขาเจตนาปล่อยให้กูเฟยเยี่ยนหลบหนีไป
ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เป็เพราะเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาตื่นเต้นโกรธแค้นของนางเมื่อสักครู่นี้ อารมณ์ของเขาก็ดีมาก กูเฟยเยี่ยนไม่ได้หันหลังไปมองจึงไม่ทราบว่าไป๋หลี่ิชวนไม่ได้ตามมา นางวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเคือง วิ่งไปเรื่อยๆ ก็แทบหายใจไม่ทันจึงต้องหยุดวิ่งลง
ใบหน้าของนางแดงก่ำไปจนถึงใบหู ์ทราบดีว่าเป็เพราะความเขินอาย โกรธเคือง หรือว่าเหนื่อยกันแน่ อีกทั้งหัวใจของนางก็ไม่อาจทราบได้ว่าเป็เพราะโกรธ เหนื่อย หรือตื่นเต้น เพราะจนกระทั่งบัดนี้แล้วก็ยังคงเต้นถี่รัว
ผ่านไประยะเวลาหนึ่งอารมณ์ของนางก็สงบลง
นางถอนหายใจออกมา เมื่อเห็นว่าไป๋หลี่ิชวนไม่ได้ตามมาจึงไม่รอช้าที่จะหลบหนีเข้าไปในทุ่งบุปผาที่ลึกกว่าเดิม ยังมีระยะเวลาอีกสักพักกว่าจะมืด นางยังซ่อนได้ก็ซ่อนไปก่อน รอให้ถึง่เวลากลางคืนนางจะจัดการเขาแน่นอน!
กูเฟยเยี่ยนหลบไปด้วยสำรวจสถานการณ์ภายในหุบเขาไปด้วย ไป๋หลี่ิชวนไม่ได้มาหานางอีกเลยจนถึง่เวลาที่ฟ้ามืดลงแล้ว…