เห็น ‘ตาแก่’ ยังคงยืนทำตาปริบๆ อยู่บนสะพานฝั่งตรงข้ามอย่างไม่กลัวตาย ซุนเฟยกัดฟันกรอด ดัดไม้ดัดมือดังกรอบแกรบ เสียงโห่ร้องยินดีของพวกชาวบ้านและทหารที่อยู่ข้างๆ ก็พลันหยุดลง พลางใช้สายตาแปลกๆ มองมาที่ซุนเฟย
ก่อนหน้านี้เบสท์ได้ขนทรัพย์สมบัติจำนวนมากออกจากเมืองแซมบอร์ด ทุกคนต่างเดาว่าหัวหน้ามหาดเล็กคนนี้ได้ขนทรัพย์สมบัติในคลังหลวงและทอดทิ้งบุตรสาวกับบุตรเขยปัญญาอ่อนแล้วหนีไป ไม่มีใครคิดว่าเขาจะกลับมาตอนนี้ ดังนั้นจึงได้แต่ทำหน้าทำตาแปลกๆ
แต่ซุนเฟยดันเข้าใจผิด
คู่หมั้นของาาหนุ่มผู้แสนงามสง่าคนนี้ถูกใครก็ไม่รู้มาพูดจาหยอกล้อต่อหน้าต่อตา อีกทั้งเมื่อครู่ก็เพิ่งจะเฉลิมฉลองชัยชนะอันยิ่งใหญ่ทั่วทั้งเมือง มีที่ให้คนนอกมาแทรกแซงได้ที่ไหน? จิตใต้สำนึกของซุนเฟยคิดว่าที่สายตาของคนรอบข้างแปลกๆ เป็เพราะแบบนี้...
หวือ!
ทันใดนั้นซุนเฟยก็เปิดใช้ทักษะ ‘ะโ’ ของคนเถื่อนราวกับพยัคฆ์ติดปีก ลอยข้ามสะพานที่แตกหัดไปยังอีกฝั่งหนึ่งของสะพาน ซุนเฟยไม่พูดไม่จา กระชากเสื้อของพ่อตาตัวเองในอนาคตแล้วยก ‘ตาแก่’ ขึ้นมา เตรียมที่จะสั่งสอน ‘คนบ้า’ ที่ไร้มารยาทคนนี้สักเล็กน้อย...
แต่ตอนนี้เอง แองเจล่าพลันะโขึ้นมาด้วยเสียงสั่นๆ ว่า “ท่านพ่อ ท่าน...ท่านกลับมาแล้วจริงๆ ด้วย!”
เอ๊ะ....ท่านพ่อ?
ซุนเฟยชะงักเหมือนฟ้าผ่าขึ้นมาในใจ พลันทำสีหน้าแปลกๆ ขึ้นมา “เวรเอ๊ย หรือว่าตาแก่นี่...ความจริงแล้วเป็พ่อของแองเจล่า?” ความคิดนี้แล่นขึ้นมา ซุนเฟยพลันเหงื่อแตกพลั่ก ไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองก็ได้ยินเสียงอุทานของตาแก่ในมือ “ที่แท้เป็ท่าน อเล็กซานเดอร์ ท่านกลับมาเป็คนปกติแล้ว...แต่ว่า ท่านคิดจะทำอะไร ข้าเป็พระสัสสุระของท่านนะ รีบวางข้าลงเดี๋ยวนี้เลย...”
ซุนเฟยได้ยินดังนั้นก็แทบหน้ามืด
เขารู้สึกว่าไม่อาจทนรับเหตุการณ์นี้ไว้ได้ เวรเอ๊ย นี่มันเื่อะไรกัน? คาดไม่ถึงว่าคนที่กำลังหึงใส่จะเป็พ่อตา นี่เหมือนกับตำนานเทพเ้ากรีกในโลกเก่า มันเป็เื่ที่น่าเศร้าที่ชายผู้โชคร้ายได้แม่ตัวเองเป็เมีย...จะทำอย่างไรดี
ไม่ต้องรนรานไป เหตุการณ์ทุกอย่างเขาจะต้องผ่านมันไปให้ได้
คิดได้ดังนี้ ซุนเฟยก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา เขารีบเปลี่ยนท่าทีกระชากเสื้อตรงอกอย่างรุนแรงเป็โอบกอดอย่างสนิทสนมในเสี้ยววินาที แขนทั้งสองข้างกอดรัดเบสท์อย่างแแ่ ใบหน้าเผยรอยยิ้มที่ตนเองคิดว่าดูดีใจที่สุดและประหลาดใจที่สุด ซุนเฟยยิ้มพลางพูดว่า “โอ้ ท่านอาเบสท์ที่รัก ข้าคิดถึงท่านแทบตาย”
“โอ้ ใช่เหรอ? ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าท่านอยากให้ข้าตายกันนะ?” เบสท์หอบหายใจเล็กน้อยขณะที่ถูกซุนเฟยกอด
“ฮ่าๆๆ ท่านเข้าใจผิดเอง ท่านเขาใจผิดไปเองจริงๆ...อืม ข้าพาท่านข้ามฝั่งไปดีกว่า” ซุนเฟยพาพ่อตาในอนาคตที่อยู่ใต้วงแขน ข้ามสะพานที่แตกหักฝั่งใต้ไปยังฝั่งเหนือโดยใช้ทักษะ ‘ะโ’ ของคนเถื่อน
ตาแก่ที่ยังหล่อเหลางามสง่าพลันใกลัว เขาหรี่ตาเล็กน้อย ในขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศ เขาเห็นใต้เท้าตัวเองมีเมฆและไอหมอกน้ำจากแม่น้ำจูลี่ หูของเขาได้ยินเสียงลมกรรโชก เขาใกลัวจนอ้าปากค้าง ตอนนี้เขาเพิ่งตระหนักได้ว่า เมื่อครู่อเล็กซานเดอร์เพิ่งพาเขาะโข้ามสะพานยาวถึงสิบหกสิบเจ็ดเมตรที่พังทลาย...นี่มันเป็พลังอะไร? เกรงว่าไม่น่าจะต่ำกว่าพลังสองดาวใช่หรือเปล่า? ั้แ่เมื่อไรกันที่อเล็กซานเดอร์มีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้?
ในใจของเบสท์พลันเต็มไปด้วยความสงสัย
เขารู้สึกว่าใน่เวลาที่เขาจากไป บางทีอาจจะพลาดเื่ที่น่าทึ่งอะไรไปด้วย
ตุบ!
ทั้งสองคนก็ข้ามมาถึงฝั่งเหนือของสะพาน แองเจล่าถลาเข้าไปในอ้อมกอดเบสท์อย่างดีใจ “ท่านพ่อ...ข้ารู้ว่าท่านจะต้องกลับมาแน่ๆ”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าสมบัติล้ำค่าที่สุดในชีวิตพ่อยังอยู่ที่นี่” ในขณะที่เบสท์พูด ใบหน้าของเขาก็เผยความอ่อนโยนในฐานะที่บิดาออกมา พลางจูบเบาๆ ที่หน้าผากของบุตรสาว
แต่เพียร์ซ ทหาร และเหล่าชาวบ้านคนอื่นๆ กลับร้องฮึออกมาอย่างเหยียดหยาม
ที่พวกเขาเห็นก็คือสุนัขจิ้งจอกเฒ่าเ้าเล่ห์แสนโลภที่ใช้เงินเป็เบี้ย ทั้งยังขโมยทรัพย์สมบัติในคลังหลวงแล้วหนีไป ที่กลับมาเมืองแซมบอร์ดคงอยากจะมาเกาะกินฟรี อย่าได้มองแต่รูปลักษณ์ขุนนางหล่อเหลาสูงศักดิ์ที่สุนัขจิ้งจอกเฒ่านี้มันแสดงออกมา ใน่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้แต่เหล่าทหารรับจ้างที่เดินทางผ่านเมืองแซมบอร์ดต่างก็รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของเขาดี รู้ว่าภายใต้ใบหน้าที่หล่อเหล่าคือคนที่ขี้ขลาดรักตัวกลัวตาย ทั้งยังโลภมากเป็ชีวิต
สายตาเ็าจากคนรอบข้างเบสท์ก็รับรู้ได้
แต่ชายแก่ที่หล่อเหลาคนนี้ก็ไม่ได้มีท่าทางอึดอัดใดๆ แม้แต่น้อย เขาดันบุตรสาวให้ถอยหลังเบาๆ จากนั้นก็จัดเสื้อผ้าบนร่างตัวเองให้เป็ระเบียบไม่ช้าและไม่เร็ว แล้วหันมาพูดกับซุนเฟยด้วยท่าทางสบายๆ ว่า “อเล็กซานเดอร์ ดูเหมือนว่าจะมีเื่ราวที่น่าอัศจรรย์เกิดขึ้นกับท่าน ความจริงแล้วมันก็เป็เื่ที่ดีมากๆ แต่ข้าคิดว่าท่านรีบเสด็จไปเปลี่ยนชุดที่มันสะอาดและเป็ระเบียบเรียบร้อยดีกว่าขอรับ...”พูดถึงตรงนี้ เบสท์ก็มองไปที่ ‘ชุดขนสัตว์อาร์คติก’ ของคนเถื่อนที่ซุนเฟยสวมบนร่าง ชุดนี้มอมแมมเล็กน้อย เขาถอยหลังไปสองก้าวแล้วพูดต่อไปว่า “องค์จักรพรรดิยาชินแห่งราชอาณาจักรเซนิทได้ส่งองค์หญิงนาตาชาเสด็จแทนพร้อมนำพระราชสาส์นแต่งตั้งมาที่นี่ อีกสองสัปดาห์ท่านจะมีพระชนมายุครบสิบแปดพรรษาแล้ว ตามประเพณีของแผ่นดิน ท่านจะได้รับการแต่งตั้งจากจักรพรรดิ และสามารถจัดพิธีาาภิเษกเพื่อสถาปนาเป็าาของเมืองแซมบอร์ด...นี่เป็เื่ที่สำคัญมาก ท่านจำเป็ต้องเตรียมตัวให้ดี”
พูดจบ ตาแก่ผู้หล่อเหลาก็ชี้นิ้วไปที่กลุ่มอัศวินที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
“ไอ้พวกอันธพาลพวกนั้นเป็คนของราชอาณาจักรเซนิทจริงๆ ด้วย...อ่า จริงสิ ท่านอาเบสท์ ที่ท่านพูดเมื่อกี้หมายความว่าอย่างไร? พระราชสาส์นแต่งตั้ง? หรือว่าพวกเขาไม่ได้เดินทางมาเป็กำลังเสริมเมืองแซมบอร์ด?” ซุนเฟยขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่ ในระหว่างที่พวกเขาเดินทางมาก็เพิ่งจะรู้ว่าเมืองแซมบอร์ดมีข้าศึกล้อมเมือง”
ซุนเฟยมองไปที่เหล่าอัศวินม้าที่แสนหยิ่งทระนงฝั่งตรงข้ามแล้วลูบคางพลางหัวเราะ “ที่แท้ก็เป็แบบนี้นี่เอง...ท่านอาเบสท์ ท่านก็เห็น สะพานหินที่สามารถใช้เดินทางเข้ามาที่เมืองแซมบอร์ดมันเสียหายในระหว่างการต่อสู้ ตอนนี้พวกเขาคงไม่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ อีกอย่างทหารของข้าก็ต่อสู้กับข้าศึกติดต่อกันมาหลายวันไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาหลายคืน ตอนนี้ก็คงเพลียมาก เอาแบบนี้ละกัน ให้พวกเขาตั้งค่ายทหารอยู่ฝั่งตรงข้ามรอสักสองสามวัน ข้าจะส่งคนไปซ่อมสะพานหินแล้วค่อยให้พวกเขาเดินทางเข้ามาดีไหม?”
เบสท์ได้ยินดังนั้นก็แทบจะกัดลิ้นตัวเอง “อเล็กซานเดอร์ ท่านมาล้อเล่นอะไรตอนนี้ พวกเขาเป็คณะตัวแทนของราชอาณาจักรเซนิท กระหม่อมขอเสนอให้ท่านส่งคนมาซ่อมสะพานเดี๋ยวนี้เลย ใช้เชือกและไม้กระดานนำมาต่อเป็สะพานขึ้นมา...” พูดถึงตรงนี้ เบสท์ก็กระซิบไปที่ข้างหูของซุนเฟย “พวกเขามาเพื่อทำพิธีาาภิเษกและสวมมงกุฎให้แก่ท่าน ท่านรู้ไหมว่าข้าต้องจ่ายไปมากแค่ไหนถึงจะได้คณะตัวแทนกลุ่มนี้มา?”
“ก็สะพานมันหักจะให้ข้าทำอย่างไร? ถ้าเหล่าอัศวินที่สูงส่งของจักรพรรดิรอไม่ไหว พวกเขาก็ซ่อมสะพานไปกันเองเสียสิ” ซุนเฟยไม่พูดอะไรอีก เขาหันหลัง เดินไปไม่กี่ก้าวก็ะโว่า “คืนนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงฉลองที่พระราชวังเพื่อเป็รางวัลให้แก่เหล่านักรบผู้กล้าหาญของข้า ประชาชนทุกคนไม่ว่าจะเด็ก คนแก่ วัยรุ่นทั้งชายและหญิงสามารถเข้าร่วมได้!”
ประโยคสุดท้ายเขาพูดกับทหารและชาวบ้านที่อยู่รอบๆ ทันใดนั้นคนในฝูงชนก็พลันโห่ร้องอย่างยินดีขึ้นมา รอยยิ้มมีความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกคน
เบสท์ยืนอึ้งและได้แต่ส่ายหัวอย่างจำใจ
แต่เขาก็ไม่พูดอะไรเพื่อโน้มน้าวใจอีกครั้ง
……
……
กลับไปที่เมือง แม้ว่าร่างกายและจิตใจจะเหนื่อยล้า แต่ซุนเฟย้าจัดการปัญหาผลพวงาด้วยตนเองอย่างแข็งขัน แม้ว่าทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้จะถูกเบสท์ขนออกไป แต่ซุนเฟยก็นำสมบัติที่เหลืออยู่ไม่มากนั้นออกมา ด้วยการช่วยเหลือของแองเจล่าและเจ็มม่า แบ่งออกเป็หลายส่วนเพื่อเป็ของรางวัลตอบแทนที่ทหารและชาวบ้านที่เข้าร่วมทำาต่อสู้ปกป้องเมืองแซมบอร์ดครั้งนี้
การทำแบบนี้ทำให้เขาได้รับความซาบซึ้งและขอบคุณของเหล่าทหารและขาวบ้าน
โดยเฉพาะครอบครัวที่กำลังโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของคนที่เรารัก รางวัลของาาเหมือนช่วยเหลือพวกเขาได้ทันเวลา ไม่เพียงเป็เกียรติยศ ยิ่งทำให้พวกเขามีความหวังที่จะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปท่ามกลางความเศร้าและเ็ปต่อการสูญเสียหัวหน้าครอบครัวไป
เวลานี้ ชื่อเสียงและอำนาจของาาอเล็กซานเดอร์ในเมืองแซมบอร์ดพุ่งทะยานขึ้นสูงอย่างไม่คาดคิด คำแรกที่ทุกคนพบกันก็จะะโออกมาเสียงดังว่า “าาจงเจริญ!” าที่แสนโหดร้ายทำให้เมืองบอบช้ำ แต่ตอนนี้กำลังได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็วอย่างยากจะเชื่อ
นอกจากนี้ ซุนเฟยยังเหลือ ‘น้ำยารักษาชีวิตขวดกลาง’ ครึ่งขวด หลังจากที่ผ่านการเจือจางแล้วก็ให้พวกหมอในเมืองนำไปรักษาพวกทหารที่ได้รับาเ็ ยกเว้นคนที่โชคร้ายที่าเ็หนักจนต้องพิการ ทหารที่ได้รับาเ็หนักก็จะได้รับฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น ส่วนทหาราเ็เล็กน้อยก็สามารถกลับบ้านไปหาครอบครัวได้อย่างมีความสุข
าาอเล็กซานเดอร์ได้ประทับอยู่ในใจของพวกเขา เสมือนเป็สัญลักษณ์ตัวแทนพระเ้าที่มีอำนาจไม่สิ้นสุด
สถานการณ์นี้ทำให้คนจำนวนหนึ่งรู้สึกผิดหวังอย่างมาก นั่นคือเลขานุการบาร์เซิลและบุตรชายกิล หลังจากาสิ้นสุด พวกเขากลับไปที่คฤหาสน์ของตัวเองและปิดประตูแ่า ภายในคฤหาสน์เงียบสนิทไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร
พัศดีโอเลเกร์โชคดีที่รอดชีวิตจากการต่อสู้ในตอนกลางวัน เขาเองก็รู้สึกว่า บางทีเมืองแซมบอร์ดจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน เ้าภูตตูดม้าคนนี้ไม่ได้ซ่อนอาการความผิดหวัง อีกทั้งยังปรับเปลี่ยนท่าทางที่ชอบชี้นิ้วสั่งและทำตัวสูงส่งก่อนหน้านี้ไปจนหมด ไม่ว่าจะเป็ใคร แม้แต่คนขอทานริมถนน เขาก็จะฉีกยิ้มมอบไปให้และยังมีท่าทางสุภาพเรียบร้อย ด้วยพลังที่เต็มร้อย เขาจึงยุ่งวุ่นวายกับงานตัวเองและไม่ยอมให้คนอื่นช่วย และเขายังวางแผนที่จะสนับสนุนซุนเฟยอย่างแน่วแน่ พร้อมที่จะติดตามรับใช้ เขาวุ่นวายกับงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจนเหงื่อท่วมตัว ด้านหนึ่งเพื่อประจบซุนเฟย ทั้งยังถือโอกาสแสดงความจงรักภักดี
“รีบมาสิ บนท้องฟ้ามีรุ้งออกมาด้วย!”
ทันใดนั้นก็มีคนชี้ไปบนฟ้าพลางะโออกมาอย่างแปลกใจ พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่า ไม่รู้ั้แ่เมื่อไรที่บนท้องฟ้าสีคราม มีสายรุ้งสีสันงดงามปรากฏขึ้นสายหนึ่ง สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้นก็คือ รอบๆ สายรุ้งนี้ปรากฏหมอกสีแดงบนอากาศ ราวกับท้องฟ้าถูกคนจุดไฟจนเกิดแสงสีแดงมองจากไกลๆ เหมือนตำนานเทพที่มีสะพานอยู่ในมหาสมุทรสีแดง
“โอ้! มหัศจรรย์! พระเ้าผู้ยิ่งใหญ่ทรงคุ้มครององค์าาอเล็กซานเดอร์ของพวกเรา คุ้มครองเมืองแซมบอร์ดของพวกเรา!”
ทั้งๆ ที่ฝนไม่ตกแต่ในอากาศกลับปรากฏสายรุ้งออกมา นี่ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่า ต้นสายปลายเหตุมาจากาาและพระเ้า เวลานี้ทุกคนในเมืองแซมบอร์ดต่างคุกเข่าและอธิษฐานอย่างจริงจัง
ซุนเฟยที่ยืนอยู่ตรงประตูพระราชวังก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย
เขารู้ว่า นี่เป็เพราะการต่อสู้ก่อนหน้านั้น ศพจำนวนมากและยังมีก้อนหินั์ตกลงไปในแม่น้ำจูลี่ทำให้ละอองเืและน้ำกระเด็นขึ้นมา แล้วยังระเหยกลายเป็ไอด้วยแสงอาทิตย์จนทำให้ปรากฏฉากที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้
ตอนนี้าก็ได้เผยให้เห็นฉากที่งดงามที่ยากจะเห็นของมันออกมา
-----------------------