“องค์หญิง...เป็ท่านนี่เอง!”
โจวจื่อเฉิงเงยหน้าขึ้นก็เห็นสตรีผู้หนึ่ง เขาวางสมุดบัญชีลงพร้อมรอยยิ้ม
เป็องค์หญิงฮุ่ยเจินกับสาวใช้ของนางนามซุ่ยเหลียน
องค์หญิงฮุ่ยเจินตกหลุมรักโจวจื่อเฉิง ทว่าฮ่องเต้ไม่ยินยอมให้ทั้งสองแต่งงานกัน ประการแรกเขามีภรรยาเอกอยู่แล้ว ประการที่สอง สกุลโจวมิได้มีฐานะร่ำรวยอะไร
โจวจื่อเฉิงหล่อเหลาเสียจนองค์หญิงฮุ่ยเจินตกหลุมรักั้แ่แรกพบ แต่ฮ่องเต้ดูแคลนเขา ไม่ยินยอมให้เขาแต่งกับนาง กระทั่งยามที่หรงชีเยว่ ภรรยาเอกของโจวจื่อเฉิงถูกขโมยสังหารตายไปแล้ว ฮ่องเต้ก็ไม่ทรงเปลี่ยนพระทัย
“จื่อเฉิง ข้ามีข่าวดีให้เ้า!” ฮุ่ยเจินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม โจวจื่อเฉิงประคองนางนั่งลง ทั้งคู่ลอบคบหากันมาเนิ่นนานเสียจนไม่สนใจกฎเกณฑ์ระหว่างชายหญิง
ซุ่ยเหลียนก้มหน้าลง มิกล้ามองคนทั้งสอง
“ข่าวดีอะไรหรือ? องค์หญิงฮุ่ยเจิน ข้าผิดเอง ข้ามิอาจทำให้ฮ่องเต้ทรงเปลี่ยนพระทัยได้ ทำให้วัยเยาว์ของท่านเสียเปล่าแล้ว…” ชายหนุ่มดึงมือนุ่มนิ่มของนางขึ้นมากระชับแน่นด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
เมื่อััได้ถึงความอ่อนโยนของเขา ฮุ่ยเจินก็หัวเราะ “ท่านไม่ได้ออกไปนอกบ้านสักพักแล้วไม่ใช่หรือ? ทราบหรือไม่ว่าฮวาชีเยว่้ารับบุตรบุญธรรม? ท่านส่งเด็กใบ้คนนั้นไปคฤหาสน์สกุลฮวาดีกว่า หากเขาถูกรับไปเลี้ยง เช่นนี้ท่านก็ได้เป็ญาติกับสกุลฮวาแล้ว บางทีฮ่องเต้อาจทรงยินยอมให้เราแต่งงาน!”
ดวงตาของโจวจื่อเฉิงเปล่งประกาย แต่ทันใดนั้นก็คิดอะไรได้ สีหน้าพลันครึ้มลง
หลังจากหรงชีเยว่ตาย เทียนซีบุตรชายก็ถูกองค์หญิงฮุ่ยเจินวางยา เด็กกลายเป็ใบ้ทำให้มีชีวิตเลวร้ายนัก
หากคนอื่นเห็นเด็ก ย่อมต้องคิดว่าเขารังแกลูกตนเอง
ที่สำคัญ โจวจื่อเฉิง้าให้เทียนซีอยู่ เด็กนั่นเป็ลูกของบุคคลลึกลับกับหรงชีเยว่ ตราบใดที่เด็กนั่นยังอยู่ คนคนนั้นย่อมต้องกลับมาในสักวันเป็แน่
สิ่งที่บุรุษเกลียดที่สุดคือการถูกสวมหมวกเขียว ในชีวิตนี้เขาปรารถนาเพียงสองประการ ประการแรกคือแต่งกับองค์หญิงฮุ่ยเจิน และอีกประการคือสับบุรุษที่แย่งชิงความบริสุทธิ์ของหรงชีเยว่ให้เป็ชิ้นๆ!
“เ้าไม่อยากให้เทียนซีไปหรือ? ฮึ่ม โจวจื่อเฉิง ข้าคิดอยู่แล้ว! ” เห็นสีหน้าไม่แน่ใจของโจวจื่อเฉิง ฮุ่ยเจินก็สะบัดมือเขาออกอย่างโมโห
โจวจื่อเฉิงยิ้มขอโทษขอโพย “องค์หญิง ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าย่อมต้องยินดีส่งเด็กนั่นออกไป”
“ดูเ้าเถอะ! เรียกข้าว่าฮุ่ยเจิน อย่าเรียกข้าองค์หญิง ที่ส่วนตัวเช่นนี้ย่อมเป็กันเองได้” องค์หญิงฮุ่ยเจินหัวเราะ เห็นโจวจื่อเฉิงแก้ตัวเช่นนี้ นางอดมิได้ให้รู้สึกหวานล้ำ
“ได้! ข้าจะทำดังเ้าว่า! ข้าเพียงแต่้าเก็บเขาเอาไว้ รอชายชู้ผู้นั้น”
“จื่อเฉิง หากเราซื้อตัวสาวใช้ไว้สักคนหนึ่ง แม้ถูกรับเลี้ยงไปแล้วก็ยังสามารถทราบข่าวเขาได้ เราจะได้ทราบว่าเป็ใครที่ตามหาตัวเ้าเด็กนั่น”
โจวจื่อเฉิงตีหัวตนเอง “ข้านี่โง่เสียจริง! มิได้คิดถึงเื่นั้นมาก่อนเลย ได้ ข้าจะให้แม่นมนำตัวเขาไปลงทะเบียนร่วมคัดตัว”
องค์หญิงฮุ่ยเจินพยักหน้ารับอย่างพอใจ บุรุษในดวงใจของนางไม่จำเป็ต้องมีความสามารถ เพียงแค่หล่อเหลา คิดถึงผู้อื่น และเชื่อฟัง บุรุษดังเช่นโจวจื่อเฉิง
องค์หญิงฮุ่ยเจินเติบโตในวังหลวง นางหยิ่งผยองไม่ฟังใคร คุณชายชั้นสูงทั้งหลายไม่ชอบนาง ทว่าโจวจื่อเฉิงกลับคลั่งไคล้ในตัวนาง
ฮุ่ยเจินรู้สึกว่าตนได้รับความเคารพและความรักจากโจวจื่อเฉิง จึงไม่ลังเลที่จะสังหารหรงชีเยว่เพื่อให้ได้ตัวเขา
นางเป็องค์หญิงของอาณาจักร อยากแต่งกับใครก็สมควรได้แต่งกับคนนั้น แต่การหาผู้ที่ปฏิบัติต่อนางอย่างจริงใจช่างยากเย็นนัก
โจวจื่อเฉิงสั่งการพ่อบ้านให้กลับบ้าน พ่อบ้านสั่งแม่นมให้นำตัวเทียนซีไปลงทะเบียนคัดตัว แน่นอนว่านางย่อมต้องปิดบังรอยแผลบนร่างกายเขา หากได้รับเลือกย่อมต้องหาข้ออ้างปิดบังความจริง
สามารถอ้างได้ว่าเป็สาวใช้นิสัยเลวรังแกเขา
โจวจื่อเฉิงสวดภาวนาขอให้ฮวาชีเยว่เลือกบุตรของตน หากเป็เช่นนั้นพวกเขาจะได้กลายเป็ญาติกัน แล้วการคว้าตัวองค์หญิงมาจะได้ง่ายขึ้นอีกมาก